Element King (My Hero Academia-Realm of Tales AU) บทที่ 12 ลูกชายของผมในชั้นเรียนยูเอ
ในที่สุด วันเปิดเทอมก็มาถึงแล้ว ผมได้เข้าไปทำงานในยูเอ ส่วนลูกชายผมมาถึงโรงเรียนตอนหกโมงเช้า และก็มาถึงชั้นปีหนึ่งห้องเอ ภายในห้องมีโต๊ะเรียนที่ถูกจัดเรียงไว้ทั้งหมด 40 ตัว เขาได้นั่งโต๊ะเลขที่ของตัวเอง จากนั้นก็เปิดกระเป๋าดึงสมุดเปล่าเล่มหนึ่งมาเขียนนิยาย และเล่นมายากลไพ่รอเพื่อน ๆ ด้วย แหม ลูกไม้หล่นใกล้ต้นจริง ๆ เลย
ทันใดนั้นเอง...
“อีธาน ทำอะไรอยู่เหรอลูก?”
อีธานที่เพิ่งเสกช่อดอกไม้ออกจากผ้าเช็ดหน้ามาหมาด ๆ ก็สะดุ้งโหยง แล้วหันไปยังประตูห้องด้านหน้า ก็พบกับผมซึ่งยืนอยู่ที่ประตูและมองลูกชายกำลังเล่นมายากลที่ออกไปทางปาหี่ผสมโชว์ห่วยอยู่
“อ้าคือว่า...ผมกำลังเล่นมายากลนิด ๆ หน่อย ๆ น่ะครับพ่อ” อีธานตอบ
“ลูกนี่มาโรงเรียนเร็วกว่าคนอื่นจริง ๆ เลยนะ” ผมพูด “ลูกเล่นมายากลรอเพื่อน ๆ มาห้องเหรอ?”
“ครับพ่อ” อีธานตอบ “ผมเล่นมายากลฆ่าเวลาน่ะครับ แล้วก็...”
“นี่ลูกเขียนนิยายด้วยเหรอ?” ผมถามเมื่อผมได้เห็นสมุดเขียนนิยายของลูกชาย “แหม เหมือนพ่อเปี๊ยบเลยนะ”
“คือ...” ลูกชายละล่ำละลัก “ผมเขียนเองครับ ผมคิดเนื้อเรื่องของผมเองด้วยครับ”
ผมหัวเราะหึ ๆ และยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ที่มุมปาก แล้วบอกทิ้งท้ายลูกชายว่า “โชคดีนะ” ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปในห้องทำงานของผม ปล่อยให้ลูกชายเล่นมายากลแบบปาหี่ผสมโชว์ห่วยต่อไป... ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
เวลาผ่านไป ห้องเรียนปีหนึ่งห้องเอก็เต็มไปด้วยอุปกรณ์สำหรับเล่นมายากลที่อีธานจั่วไพ่ออกมาเสกจนล้นห้อง และเขาก็เล่นมายากลด้วยอุปกรณ์เหล่านี้จนเพลิน และไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาในห้องทีหลังจะรู้สึกยังไง จนกระทั่ง...
“อีธานทำอะไรน่ะ!!!” - เฮนรี่
“ซุเนริคุง นี่มันอะไรเนี่ย!!” - ชิกะอิจิ
สองเสียงแรกที่เข้ามาในห้องเรียน นั่นคือเฮนรี่และชิกะอิจิ พวกเขาเห็นอุปกรณ์เล่นมายากลแล้วตกตะลึงมาก เพราะเด็ก ๆ พวกนี้เคยเห็นผมเล่นมายากลมาก่อน แต่ก็ไม่นึกว่าลูกชายผมจะบ้ามายากลด้วย ซึ่งอีธานสะดุ้งเพราะดันเล่นโชว์ห่วยมากไปหน่อย
“อ้าคือว่า...” อีธานอ้าปากจะอธิบายให้คนอื่น ๆ ฟัง
“นี่นายชอบเล่นมายากลมากขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสียงของเด็กที่อีธานไม่รู้จักดังขึ้น และหนุ่มแว่นที่อายุแก่กว่าชิกะอิจิ อีธาน และเฮนรี่สักหนึ่งปีอย่างอีดะ เท็นยะ ก็เดินฝ่าฝูงนักเรียนมุงเข้ามาหาอีธาน และเป็นคนที่อิซึคุเคยเจอตอนสอบเข้าเรียนนั่นเอง แต่วันนี้เท็นยะมาก่อนอิซึคุเสียอีก
“เอ่อ...” อีธานพูด “มันเพราะฉันมีอัตลักษณ์มายากล ฉันเลยชอบเล่นไง”
“เฮ้ อีดะคุง” ชิกะอิจิเรียกเท็นยะ “นี่ลูกชายของเอเลเมนท์เมจิกเชี่ยนนะ”
“อ้าวเหรอ ฉันเพิ่งจะรู้นะเนี่ย ลีพุงคุง” เท็นยะหันไปบอกชิกะอิจิ
“ไม่เป็นไร นายเพิ่งจะรู้จักฉันครั้งแรก” อีธานบอกเท็นยะ “ฉันชื่อ อีธาน ซุเนริ”
“ฉันชื่อ อีดะ เท็นยะ จบจากโรงเรียนเอกชนโซเบ ยินดีที่ได้รู้จัก” เท็นยะตอบอีธานและทั้งสองก็ได้จับมือเชคแฮนด์กัน
“แล้วนี่ตู้อะไรเนี่ย?” มีคนเข้าห้องมาถามอีธานอีกคน แต่คนนี้ดันมาดูตู้ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากสีน้ำเงินที่ใช้สำหรับกลเลื่อยนาง อีธานหันไปดูก็พบกับคามินาริ เดนกิ เด็กผมเหลืองกำลังยืนชี้ตู้เลื่อยนางให้อีธานดู
“นี่ตู้สำหรับกลเลื่อยนางนะ” อีธานตอบเดนกิ “จะให้ผ่าจริง ๆ เหรอ?”
“นายมีไพ่เยอะจริง ๆ เลยนะ ขอนับดูก่อน หนึ่ง สอง สาม สี่...” คิริชิมะ เออิจิโระ บอกอีธานแล้วยืนนับไพ่ที่อยู่บนโต๊ะของอีธาน
“เฮ้ย! อย่ามายุ่งกับไพ่ของฉันนะ!” อีธานตะโกนแล้วพุ่งเข้าไปริบไพ่ทั้งหมดออกจากมือเออิจิโระ
“ลูกไม้หล่นใกล้ต้นซะด้วยนะ อ๊บ ๆ” อะสุอิ สึยุ สาวครึ่งกบบอกอีธาน “มีพ่อเป็นนักมายากล นักเขียนนิยาย และราชาแห่งธาตุในคนเดียวกันด้วยแฮะ”
“เออใช่! นี่ไง หนังสือนิยายของเขา!” อะชิโดะ มินะ สาวสีชมพูทั้งตัวร้อง และคว้าสมุดนิยายของอีธานมาอ่านเล่น
“อ้าคือว่า อย่าอ่านนะ!!” อีธานร้องและเข้าไปคว้าเอาสมุดเขียนนิยายของเขาให้ไกลจากมือมินะ
นี่แค่เปิดเทอมวันแรก อีธานก็ได้สร้างชื่อเสียงด้วยการโชว์ห่วยให้เพื่อนดูซะแล้ว เขาทำให้ห้องเรียนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์มายากล นักเรียนที่เหลือมาเยี่ยมชมอุปกรณ์เล่นมายากลที่อีธานเสกมาจากไพ่ทั่วทั้งห้อง และ...
“ใครมาเล่นโชว์ห่วยในห้องนี้วะ!! ข้าวของรกรุงรังเต็มไปหมดแล้วโว้ย!!”
เสียงตะโกนของคัตซึกิมาพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินกระทืบเท้าเข้ามามองอีธานด้วยสายตาที่ไม่พอใจเอาเรื่อง
“นี่ ๆ พวกนายใจเย็น ๆ ก่อนนะ” อีธานพูดกับทุกคน “มาเยอะขนาดนี้ก็ไม่บอก ฉันจะได้เก็บกวาดของทั้งหมดออกไปจากห้องเลย”
“ไม่ต้องหรอก” เสียงที่หนุ่มและเย็นชาดังขึ้น และโทโดโรกิ โชโตะ ลูกชายของเอ็นจิก็เดินมาเกาะบ่าของอีธาน “มายากลของนายน่ะสุดยอดมากเลยนะ” พูดจบเข้าก็ยิ้มและยกนิ้วหัวแม่มือให้อีธาน ตามด้วยเสียงปรบมือของเด็ก ๆ คนอื่น ๆ (ยกเว้นคัตซึกิที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ กับเฮนรี่และชิกะอิจิที่ยืนงงในดงผองเพื่อนที่ทะลักเข้ามาหาอีธาน)
“ข...ขอบคุณมากนะ” อีธานพูดขึ้นมาในทันที
ส่วนจอห์น พอเข้ามาในห้อง เขาก็ชะงักเมื่อได้เห็นอุปกรณ์การเล่นมายากลที่เต็มห้องไปหมด เหล่านักเรียนก็มัวแต่สนใจเครื่องมือเหล่านั้นจนไม่ได้ดูเลยว่าใครจะเข้ามาอีกบ้าง
“นี่มันอะไรกันเนี่ย?” จอห์นถาม “ใครเอาเครื่องไม้เครื่องมือเล่นมายากลมาไว้ในห้องนี้เนี่ย?”
“ฉันเองแหละ ลาร์สันคุง” อีธานสารภาพกับจอห์น
“แล้วนายเอามาได้ยังไง?” จอห์นถาม แต่เมื่อเขาเห็นว่าอีธานชูซองไพ่ให้เขาเห็น ก็เข้าใจแล้วว่าอีธานเอาของพวกนี้มาได้ยังไง
“อ๋อ นายมีพลังเสกของจากไพ่พวกนี้ใช่ไหมล่ะ?” จอห์นถามอีธาน
“ใช่แล้ว” อีธานตอบ
แต่เดนกิ เมื่อรู้แล้วว่าตู้เลื่อยนางทำอะไรได้บ้าง ก็เกิดพฤติกรรมสุดห่ามขึ้นแล้วครับ เขาเรียกเด็กผมสีม่วงที่เตี้ยที่สุดในห้อง มิเนตะ มิโนรุ มาหลังไมค์กันเรื่องเกี่ยวกับตู้เลื่อยนาง แท้จริงแล้วมันเป็นการวางแผนในการเลือกเอาผู้หญิงสวย ๆ ในห้องเอมาเป็นเหยื่อกลเลื่อยนาง ครับ ความห่ามของทั้งสองจึงบังเกิดเป็นคดีแรกเมื่อทั้งคู่ประกาศหาอาสาสมัครสาวแจ่ม ๆ หนึ่งคนมาเป็นเหยื่อในการเล่นกลเลื่อยนาง โชคดีที่อีธานมาห้ามไว้ แต่ก่อนที่เขาจะห้ามได้ทัน สองแสบก็ได้เลือกเอายาโอโยโรสึ โมโมะ มาเป็นอาสาสมัครจนได้ ทำให้อีธาน ชิกะอิจิ เฮนรี่ และจอห์น ต้องแย่งเลื่อยกับเดนกิและมิโนรุ แต่โชคดีครับทันทีที่สองแสบเชิญโมโมะขึ้นมาเธอก็ไม่สบอารมณ์อย่างแรงและหาว่าเสียมารยาท นั่นทำให้อีธานได้โล่งใจและเชิญเธอกลับไปนั่งที่เดิมได้
แต่จริง ๆ แล้ว ผมจะบอกอะไรให้นะ นอกจากที่ผมเล่าไปเมื่อกี๊นี้แล้ว นี่คือรายชื่อของนักเรียนปีหนึ่งห้องเอที่ยังไม่ได้พูดถึงในชื่อ ได้แก่ จิโระ เคียวกะ สาวน้อยที่มีหูยาวเป็นสายหูฟัง, ฮากาคุเระ โทรุ สาวน้อยที่เธอมีอัตลักษณ์ที่ทำให้ล่องหนได้อย่างถาวร ทำให้ทุกคนเห็นเธอได้แค่ชุดที่เธอใส่เท่านั้น, อาโอยามะ ยูงะ หนุ่มหน้าแบ๊วที่สวมเข็มขัดหัวกลมไว้ตลอดเวลา เพราะอัตลักษณ์ของเขานั้นประหลาดมาก นั่นก็คือการปล่อยลำแสงออกจากหน้าท้อง!, โทโคยามิ ฟูมิคาเงะ หนุ่มหัวนกสีม่วงดำ, โคดะ โคจิ เด็กที่หงอตลอดเวลา, เซโระ ฮันตะ, โชจิ เมโซ หนุ่มที่มีแขนเหมือนปีกค้างคาว, โอจิโระ มาชิราโอะ เขามีหางยาวด้วย, ซาโต้ ริคิโดะ หนุ่มกล้ามล้วน ๆ, เซ็นจิโระ คานาโกะ, แซ็ค ไมเคิลส์, อลิซาเบธ มาคิ, ซูบารุ เครก, กอร์ดอน ฟูอากิ, รอย คาวาซาระ, ซาริยะ ชิกะสุเกะ, มาราโกะ แวนซ์, อิชิคานะ ฟูนางะ, ยูโคริ เค็นยะ, ชารอน เบนสไตน์, วินเซ็นต์ คุโรฮิรุ, มอร์แกน เชนสัน, วอร์เรน เดนนิส และเซไน โมโรโฮชิ ซึ่งผมจะเปิดเผยรายละเอียดของแต่ละคนให้ฟังในภายหลัง แต่ที่ผมพูดมาตอนนี้คือแค่เบื้องต้น ตอนนี้มาดูที่คนที่ผมกำลังจะพูดถึงเป็นหลักก่อน
ทันทีที่เอลซ่ามาถึง เธอก็ไม่แปลกใจเลยกับการที่ได้เจอกับศึกชิงเลื่อยระหว่างเดนกิ มิโนรุ และอีธาน เธอยิ้มกริ่มอยู่ที่มุมปาก และมองอีธานราวกับว่าคนรักของเธอได้สร้างชื่อเสียงตั้งแต่ตอนเปิดเทอมแล้วซะด้วย
ส่วนอิซึคุ เขาวิ่งมาหาชั้นปีหนึ่งห้องเอ และพบว่าประตูห้องใหญ่มากซะด้วย
“พวกหัวกะทิไม่กี่คนที่ผ่านการสอบ...” อิซึคุพึมพำ แต่กลับทำให้เขานึกถึงหน้าของคัตซึกิ (คนที่ชอบกลั่นแกล้งเขามาตลอด) กับเท็นยะ (คนที่เจ้าระเบียบและวิจารณ์บุคลิกของอิซึคุ) “ถ้าไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับพวกขาโหดก็ดี” เขาพูด จากนั้นก็เปิดประตู ปรากฏว่า...
“เหนื่อยจังเว้ย” อีธานบอก “ไม่คิดว่าจะมาทะลักเยอะขนาดนี้ จะได้เก็บอุปกรณ์เหล่านี้ออกไป ตอนนี้จากห้องเรียนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์มายากลไปแล้วนะเนี่ย”
“เอาน่า กล้า ๆ หน่อยนะอีธานจ๋า” เอลซ่าหว่านเสน่ห์อีธานอีกแล้วครับท่าน
“เอลซ่า ไม่จำเป็นต้องมา...” อีธานพยายามจะห้ามแฟนสาวแต่เธอกลับเอาปากจุมพิตเขาแน่นอย่างกับตุ๊กแก
“นี่พวกนายนี่ห่ามตั้งแต่เปิดเทอมวันแรกเลยเหรอ?” ชิกะอิจิว่าเดนกิและมิโนรุ “ทั้งที่คนที่พวกนายเลือกไม่ได้เต็มใจจะเล่นด้วยก็ยังจะยัดเยียดให้เธอเล่น นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!”
“เอาเท้าลงจากโต๊ะเดี๋ยวนี้!” เท็นยะว่าคัตซึกิที่ยกเท้าขึ้นโต๊ะ “ไม่คิดเหรอว่ามันเสียมารยาทกับคนทำโต๊ะและพวกรุ่นพี่เขาน่ะ”
“ก็ไม่คิดไงเล่า!” คัตซึกิตอบ “แล้วแกล่ะจบจากที่ไหนมาวะไอ้ลูกกระจ๊อกเอ๊ย!”
“แพ็คคู่เลย...” อิซึคุคิดในใจด้วยความผิดหวังเมื่อเจอคนที่เขาไม่อยากจะเจออยู่ในห้องเดียวกับเขาหมดเลย
“ฉันชื่อ อีดะ เท็นยะ จบจากโรงเรียนเอกชนโซเบ” เท็นยะแนะนำตัว
“โซเบเรอะ?” คัตซึกิว่า “สถาบันของพวกหัวกะทินี่นา ค่อยดูเลอค่าน่ากระทืบขึ้นมาบ้าง”
“จึ๋ย! นี่จะเหยียบเลยอย่างนั้นเหรอ?” เท็นยะร้อง “นิสัยชอบหาเรื่องคนอื่นแบบนี้ แน่ใจแล้วเหรอว่าจะเป็นฮีโร่?”
“เชอะ” คัตซึกิตอบ แต่สุดท้ายเขากับเท็นยะก็หันมาหาอิซึคุที่เพิ่งมาถึง
“อ้าว อิซึคุเองเหรอ?” เฮนรี่ถาม “มาพอดีเลย คือว่าอีธานเขา...”
“อ...อ...อะไรเหรอ?” อิซึคุถามอย่างอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ
“อรุณสวัสดิ์ ฉันชื่อ อีดะ เท็นยะ จบจาก...” เท็นยะเข้าไปแนะนำตัวแก่อิซึคุ แต่...
“ได้ยินแล้วล่ะ!” อิซึคุร้อง “ผ...ผมชื่อมิโดริยะ ยินดีที่ได้รู้จักนะอีดะคุง”
“นายรู้ใช่ไหมว่าการสอบนั้นมีเป้าหมายว่าอะไร” เท็นยะพูด “ฉันไม่รู้เลยสักนิดเดียว ฉันประเมินนายต่ำเกินไป ถึงจะเจ็บใจ แต่ก็ยอมรับว่านายเหนือกว่าฉัน”
“ที่จริงผมก็ไม่รู้เหมือนกัน...” อิซึคุพูด
“อ้า! คนผมเขียวฟู ๆ คนนั้นที่สะดุดขาตัวเองล้มหน้าโรงเรียนนี่นา!” เสียงสาวน้อยจากข้างหลังดังขึ้น อุราระกะ โอชะโกะ ที่เธอกับอิซึคุช่วยชีวิตซึ่งกันและกันตอนช่วงสอบเข้าเรียนที่ผ่านมานั้นตามเขามาด้วย “สรุปว่าก็สอบผ่านเหมือนเหรอ!” เธอร้องจากนั้นก็มองเครื่องมือเล่นมายากลแล้วถามว่า “อุ๊ย ว่าแต่นั่นอุปกรณ์เล่นมายากลเหรอจ๊ะ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” อิซึคุตอบ “ผมมาถึงห้องก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้วอ่ะ” อิซึคุตอบ
“ขอโทษที่ทำให้ทุกคนตกใจนะ” อีธานกล่าวสรุป “ตกลงพวกนายอยากจะดูมายากลของฉันใช่ไหมเนี่ย?”
“ก็ดีเหมือนกัน” เอลซ่าตอบ “ฉันอยากดูมายากลจริง ๆ จัง ๆ ของเธอจังเลยนะ”
“งั้นก็ได้” อีธานพูด จากนั้นเขาก็กระแอมหนึ่งรอบก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะครับท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษจากปีหนึ่งห้องเอทั้งหลาย ได้เวลาแล้วที่กระผม อีธาน ซุเนริ จะแสดงมายากลให้ทุกท่านได้รับชมแล้วครับ”
แน่นอนว่ามันต้องไม่ใช่โชว์ห่วยเหมือนตอนที่เขาเล่นรอเพื่อน ๆ อีกแล้ว มายากลครั้งนี้มีชื่อว่า กลไพ่ฮีโร่ โดยจะมีไพ่โพดำ ไพ่โพแดง ไพ่ดอกจิก และไพ่ข้าวหลามตัด โดยที่ไพ่แต่ละใบจะออกหน้าเครื่องหมายคำถาม ซึ่งจะเป็นไพ่สุ่มหน้าบุกคคลที่จะได้ไพ่ที่ถูกเลือกไป แน่นอนว่าเด็ก ๆ ทั้งสี่สิบคนต้องเลือกสัญลักษณ์ไพ่เป็นของตัวเอง ซึ่งมันเป็นกลไพ่แบบเดียวกันที่ผมเคยแสดงตอนผมเป็นนักเรียนช่วงหนึ่ง แต่รอบนี้อีธานจะเลือกให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยเขาจะเลือกเอาไพ่โพแดงขึ้นมาก่อน และไพ่ที่อีธานเลือกจะเปลี่ยนจากเครื่องหมายคำถามเป็นภาพท่อนบนของอีธานที่อยู่สองด้าน ด้านที่ยืนปกติจะอยู่ครึ่งใบบน ส่วนด้านกลับหัวจะอยู่ครึ่งใบล่าง
“เชิญหยิบได้ตามสบาย” อีธานพูด
จากนั้น นักเรียนคนอื่น ๆ อีกสามสิบเก้าคนก็เลือกเอาไพ่ของตัวเองไปเรื่อย ๆ และไพ่แต่ละใบจะแสดงเป็นหน้าต่าง ๆ ให้เลือก หลายคนเอามาเก็บสะสม แต่จริง ๆ แล้วไพ่ของอีธานจะแสดงเป็นหน้าเด็ก ๆ ในสัญลักษณ์ไพ่ที่เหลืออีกด้วย นั่นหมายความว่าไพ่เหล่านี้จะคัดลอกลักษณะของทุกคนที่อีธานรู้จักมาสร้างเป็นร่างปลอมที่จะมีปานเป็นสัญลักษณ์ไพ่ที่หน้าผากของร่างปลอม เช่นไพ่อีธานโพแดง จะเป็นอีธานที่หน้าผากจะมีปานเป็นสัญลักษณ์ไพ่โพแดง เป็นต้น
แต่เมื่อทุกคนได้ไพ่จนครบแล้ว จู่ ๆ การแสดงดังกล่าวก็ถูกตัดจบลงด้วยเสียงของ...
“พวกเธอเล่นอะไรกันเหรอ ฉันขอดูหน่อยซิ”
ไอซาวะ โชตะ อาจารย์ประจำห้องเอนี่เอง เขาออกจากถุงนอนประจำตัวของเขา และด้วยนิสัยที่เหมือนคนอดหลับอดนอนอยู่แล้ว ตาของเขาจึงมีขอบรอบดวงตาเหมือนหมีแพนด้า และสิ้นเสียงของอาจารย์โชตะปุ๊บ ทุกคนก็กลับไปนั่งที่ตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วเอาไพ่หน้าเพื่อน ๆ ที่ถืออยู่ไปคืนให้อีธาน จากนั้นเขาก็รีบดีดนิ้วเพียงหนึ่งทีเพื่อทำให้เครื่องมือเล่นมายากลหายไปจากห้อง จากนั้นก็กลับไปนั่งที่ของตัวเอง
“เอาล่ะ จากนี้ฉันจะมาเป็นอาจารย์ประจำห้องเอนะ แล้วก็ไปเปลี่ยนเป็นชุดพละได้แล้ว มันอาจจะกระทันหันไปหน่อยนะ” อาจารย์โชตะพูด “แล้วก็ ซุเนริคุง กลที่ครูเห็นเมื่อกี๊มันคือกลอะไรกันเหรอ?”
“กลไพ่ฮีโร่ครับอาจารย์” อีธานตอบ
“สุดยอดจริง ๆ” อาจารย์โชตะบอก “เหมือนกับกลที่พ่อของเธอ เอเลเมนท์เมจิกเชี่ยน เล่นให้ครูดูสมัยที่ครูยังเป็นนักเรียนไม่มีผิด”
“เอ๋ พ่อผมเคยเล่นกลให้อาจารย์ดูด้วยเหรอครับ” อีธานถาม
“ใช่” อาจารย์โชตะตอบ “เอาล่ะ ไปใส่ชุดพละได้แล้วนะ แล้วก็ไปที่ลานวิ่งได้เลย”
ที่ลานวิ่ง นักเรียนห้องเอทั้งสี่สิบคนใส่ชุดพละศึกษาทั้งหมดแล้ว มาเพื่อทดสอบประเมินอัตลักษณ์
“ยูเอมีชื่อเสียงในการไม่เหมือนใคร” อาจารย์โชตะพูด “อาจารย์ที่นี่ก็หาคนเลียนแบบได้ยาก พวกเธอคงจะผ่านการทดสอบสมรรถภาพโดยไม่ใช้อัตลักษณ์มาตั้งแต่ ม.ต้นแล้ว ที่ญี่ปุ่นยังใช้ข้อมูลแบบนั้นในการจัดค่าเฉลี่ยอัตลักษณ์ทั่วไปซึ่งใช้ไม่ได้เลย พวกกระทรวงศึกษาธิการแค่อู้งานเท่านั้น”
“ตอนสอบปฏิบัติลีพุงได้ที่หนึ่งใช่ไหม?” อาจารย์โชตะถามชิกะอิจิ
“ใช่ครับ” ชิกะอิจิตอบ
“ตอนอยู่ ม.ต้นขว้างซอฟต์บอลได้ไกลที่สุดกี่เมตร?” อาจารย์โชตะถาม
“ก็สักสิบห้าเมตรนะครับ” ชิกะอิจิตอบ
“งั้นลองใช้อัตลักษณ์ขว้างซอฟต์บอลดูสิ” อาจารย์โชตะพูด
การทดสอบอัตลักษณ์ครั้งนี้ก็คือ การใช้อัตลักษณ์ของตัวเองทำให้ลูกซอฟต์บอลไปไกลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สำหรับชิกะอิจิ เรื่องนี้หวานหมูอยู่แล้ว เขาแค่เสียบลูกซอฟต์บอลเข้ากับหัวลูกธนู แล้วง้างด้วยธนูที่เอ็นชานท์เพาเวอร์ระดับ 5 จากนั้นก็ดีดไปไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเขาทำได้ 1,799 เมตร
“ก่อนอื่นต้องรู้ลิมิตของตัวเอง” อาจารย์โชตะพูด “นั่นแหละคือบันไดขั้นแรกของการไต่สู่การเป็นฮีโร่ แต่ช่วงเวลาสามปีในการเป็นฮีโร่ ใช่ว่าจะคิดอะไรแบบนั้นแล้วมันจะผ่านได้ง่าย ๆ หรอกนะ ถ้าใครได้แต้มรวมน้อยที่สุดในการทดสอบครบแปดอย่างจะถือว่าไม่มีสมรรถนะในการเป็นฮีโร่ และจะถูกไล่ออกจากโรงเรียน”
เยี่ยม! เดี๋ยวลูกชายผมก็กลัวพอดีนะอาจารย์โชตะ!
“ไม่ยุติธรรมเลย!” อีธานร้อง (ว่าแล้วว่าอีธานต้องกลัว) “ต้องเอาขนาดนี้เลยเหรอครับอาจารย์?”
“ภัยพิบัติกับอุบัติเหตุครั้งใหญ่” อาจารย์โชตะพูด “แล้วก็พวกวิลเลินเห็นแก่ตัว ภัยร้ายที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ญี่ปุ่นเต็มไปด้วยความอยุติธรรมแบบนั้น และคนที่จะกู้วิกฤติได้คือฮีโร่ ถ้าคิดจะเฮฮากับเพื่อนที่แม็คโดนัลด์หลังเลิกเรียนก็เสียใจด้วย เพราะสามปีหลังจากนี้ยูเอจะทำให้พวกเธอได้พบกับอุปสรรคหลากหลายเพื่อไปสู่อีกฟากของขีดจำกัด พลัสอัลตร้ายังไงล่ะ ทุ่มพลังฝ่าไปให้ได้สิ”
และการทดสอบแรกคือการวิ่งห้าสิบเมตรด้วยการใช้อัตลักษณ์ แน่ล่ะว่าชิกะอิจิน่ะเสกน้ำยาสวิฟต์เนสระดับห้ามาดื่มแล้ววิ่งด้วยความเร็วสูงภายในเวลา 3 วินาทีเท่านั้น (เป็นญาติกับแฟลชหรือเปล่าเนี่ย!) ส่วนอีธานใช้เวลาสักเจ็ดวินาทีเท่านั้นเอง
การทดสอบที่สองคือทดสอบแรงบีบข้อมือ อันที่สามคือการกระโดดไกล, สี่ กระโดดสลับข้าง...
ห้า ขว้างลูกบอล ชิกะอิจิเปลี่ยนจากธนูเป็นหน้าไม้ คราวนี้เขายิงไปได้ไกลมากที่สุดคือ 1,955 เมตร แต่ทว่ากลับมีคนทำลายสถิติได้แล้วคือโอชะโกะที่ขว้างไปนอกอวกาศไม่มีสิ้นสุดเลย
ส่วนเฮนรี่ เขาใช้วิญญาณลมพัดเอาลูกซอฟต์บอลออกไปให้ไกลที่สุด แต่ก็ยังไม่สามารถโค่นสถิติของชิกะอิจิได้เลย
พอมาถึงคิวของอิซึคุเท่านั้นแหละ เขากลับถูกอาจารย์โชตะหยุดอัตลักษณ์ และโดนเทศน์อย่างเลยเรื่องความสามารถในการเป็นฮีโร่ เพราะเขาเห็นว่าอิซึคุดันส่งพลังไปที่แขนทั้งท่อน ซึ่งนั่นย่อมไม่เป็นผลดีต่อร่างกายของเขาแน่ ต่อให้มีเอเลเมนท์คิงประคองไว้ก็เถอะ
“ดูท่าว่าการสอบเข้าที่ผ่านมาจะไม่เมคเซนส์ซะแล้วสิ” อาจารย์โชตะพูด “กับการที่เด็กอย่างเธอสอบผ่านเข้ามาได้”
ใช่แล้วครับ อาจารย์โชตะน่ะไม่เคยทำงานออกหน้าเลย และเขาก็ไม่ได้ใจดีเหมือนกับโทชิโนริด้วย
“เท่าที่ดูแล้วยังควบคุมอัตลักษณ์ไม่ได้สินะ คิดจะให้ตัวเองหมดสภาพให้คนอื่นมาช่วยอีกแล้วเหรอ?” อาจารย์โชตะเทศน์อิซึคุ “จะเป็นแบบไหนล่ะ นั่นหมายความว่าเธอจำเป็นต้องพึ่งพาคนรอบข้างให้มาช่วย เมื่อก่อนเคยมีฮีโร่เลือดร้อนที่สร้างตำนานด้วยการช่วยเหลือคนนับพันในภัยพิบัติเพียงครั้งเดียว ต่อให้มีพลังคล้าย ๆ กัน แต่ถ้าเป็นแบบนี้ หลังจากช่วยคนเสร็จก็กลายเป็นแค่ท่อนไม้ทื่อ ๆ ไร้ประโยชน์ มิโดริยะ อิซึคุ พลังแบบนั้นทำให้เธอเป็นฮีโร่ไม่ได้หรอก”
เมื่อเทศน์เสร็จแล้วอาจารย์โชตะก็บอกว่า “ฉันปล่อยอัตลักษณ์ให้แล้ว ให้ขว้างบอลอีกรอบได้นะ”
แล้วจากนั้น อิซึคุก็ใช้วันฟอร์ออลขว้างซอฟต์บอลไปกลางอากาศ ซึ่งรอบนี้เขาส่งพลังไปที่นิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว ทำให้นิ้วของเขาได้รับความเสียหาย แต่ก็ไม่ถึงกับใช้การไม่ได้เพราะคุณก็รู้อยู่แล้วว่าเอเลเมนท์คิงยังประคองสภาพร่างกายอยู่
“ผมยังขยับได้ฮะ” อิซึคุพูดกับอาจารย์โชตะ เขาได้พิสูจน์แล้วว่า พลังที่โหดและยิ่งใหญ่ ไม่ได้ทำให้ตนเองเป็นภาระให้กับคนอื่นเสมอไป อาจารย์โชตะ รวมทั้งผม อลัน และโทชิโนริที่แอบดูอยู่ก็ภูมิใจอย่างมาก โอชะโกะดีใจมากที่อิซึคุไม่เป็นไร ส่วนอีกสี่คน (จอห์น ชิกะอิจิ เฮนรี่ และอีธาน) ยิ้มให้กับอิซึคุ แต่คัตซึกิดันเม้งแตก เพราะว่าเด็กที่ไร้อัตลักษณ์มานานจะมามีอัตลักษณ์ไปได้ยังไงกัน ดังนั้น การปะทะกันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น แต่ผมไหวตัวทัน ใช้ไพ่ตาข่ายคลุมตัวคัตซึกิซะ
หลังจากการทดสอบสมรรถภาพอัตลักษณ์จบลง อาจารย์โชตะจึงประกาศผลคะแนนให้รู้ว่าใครอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งที่หนึ่งนั้นผมไม่แปลกใจเลย นั่นคือชิกะอิจิ แล้วจากนั้นเขาก็เฉลยว่าที่ขู่มาทั้งหมดคือเรื่องโกหก เพื่อที่นักเรียนทุกคนจะได้ขับเคลื่อนประสิทธิภาพของตัวเองให้ดีที่สุด
เอาเถอะ ไม่เป็นไร หลังจากคาบนี้ ผมก็ไปเยี่ยมชั้นปีหนึ่งห้องเอเวลาว่าง เห็นว่าเด็ก ๆ ก็เล่นกันอยู่เหมือนเดิม พอเห็นผมเท่านั้นแหละ ทุกคนนั่งที่กันหมดเลย
“สวัสดีพวกเธอทุกคน” ผมพูด “เอาล่ะ ถึงแม้จะยังไม่ใช่คาบของฉันก็เถอะ พวกเธอก็รู้จักฉันดีอยู่แล้ว เพราะฉันคือหนึ่งในฮีโร่มืออาชีพที่ปราบเหล่าวิลเลินมาแล้วหลายครั้ง และก็ทำงานเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนยูเอด้วย ฉันเขียนหนังสือนิยายที่ชื่อ การเดินทางของชายผู้มีสองอัตลักษณ์ ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากชีวิตวัยเรียนของฉันเอง พวกเธอหลายคนอาจจะรู้จักฉันด้วยชื่อฮีโร่ว่า เอเลเมนท์เมจิกเชี่ยน ฉะนั้น ถือซะว่าเป็นการทำความรู้จักกับพวกเธอทุกคนแล้วกันนะ”
และผมก็ได้ไปพูดคุยและทำความรู้จักกับเด็ก ๆ เหล่านั้นมากขึ้น ส่วนคัตซึกิเหมือนจะไม่เต็มใจคุยกับผมเท่าไรนักเพราะอุปนิสัยของตัวเอง แต่อย่างน้อยเด็ก ๆ ทั้งสี่สิบคนในห้องเอก็เป็นคนที่ดี ผมคิดในใจว่าพวกเขาไม่ธรรมดาเสียจริงแฮะ ชักจะน่าสนใจแล้วสิ น่าจะเป็นฮีโร่ได้ดีมากแน่นอน
หลังจากเลิกเรียน จอห์นมาหาอิซึคุ
“สวัสดี มิโดริยะคุง” จอห์นพูด “เมื่อกี๊นิ้วหักเลยเหรอ?”
“ใช่ ๆ” อิซึคุตอบ “ผมส่งพลังไปที่นิ้ว แม้มันจะยังไม่เสียหายจนใช้การไม่ได้ล่ะก็นะ แต่ก็ยังใช้ได้อยู่ แต่ผมก็เหนื่อยแปลก ๆ ล่ะนะ”
“งั้น...” จอห์นพูด “พอดีว่าหลังจากนั้นฉันเองก็อยากจะไปขอคอร์สฝึกส่วนตัวกับออลไมท์น่ะ”
“ทำไมเหรอ?” อิซึคุถาม
“ใช่แล้ว ฉันอยากจะฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งมากขึ้นบ้าง” จอห์นตอบ “เพราะในเมื่อพวกเราคือผู้สืบทอดวันฟอร์ออลตั้งสองคน ฉันจะต้องฝึกฝนให้ฉันก้าวข้ามตัวเองให้ได้”
“อืม ผมก็เหมือนกัน” อิซึคุตอบ
“มิโดริยะ นิ้วนายหายดีแล้วเหรอ?” เท็นยะทักอิซึคุ
“อืม ต้องขอบคุณรีคัฟเวอรี่เกิร์ลเลย” อิซึคุตอบ
คือต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับว่าคุณชิโยะแม้จะมีความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายคนได้ แต่หลายครั้งเธอมักจะต้องจุมพิตเพื่อรักษาร่างกาย ซึ่งแม้จะเป็นวิธีที่แปลกมากแต่ก็มีแค่ไม่กี่วิธีแล้วล่ะ
แต่แล้วโอชะโกะก็เข้าร่วมวงอีกคนแล้ว
“รู้สึกว่าเธอจะชื่อ อีดะ เท็นยะคุง, จอห์น ลาร์สันคุง แล้วก็มิโดริยะ เดกุคุงใช่ไหม?” โอชะโกะถาม
“เดกุ?” จอห์นหันไปถามอิซึคุแบบงง ๆ
“ตอนทดสอบสมรรถภาพ คนที่ชื่อบาคุโกเขา...” โอชะโกะตอบ (อ๋อ! คุณผู้อ่านจำได้ไหมครับ คัตซึกิจะชอบเรียกอิซึคุว่าเดกุเพื่อบอกว่าเป็นไอ้ขี้แพ้ไร้ประโยชน์คนหนึ่ง แต่ทำไมโอชะโกะถึงจะเรียกอิซึคุแบบนี้เป็นคนที่สอง เดี๋ยวรอฟังเหตุผลของเธอแล้วกันนะครับ) “ว่าเงี้ย”
“คือ ชื่อจริงของผมชื่ออิซึคุ ส่วนเดกุเป็นชื่อที่คัตจังล้อเลียนผมอ่ะ” อิซึคุอธิบาย
“ชื่อล้อเลียนเหรอ?” เท็นยะว่า
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” จอห์นพูด
“งั้นเหรอ โทษทีนะ” โอชะโกะบอก “แต่ว่าเดกุเนี่ยมันพ้องกับคำว่าพยายามเข้าหรอกนะ ฉันชอบมากเลย”
“ง่ายไปแล้ว! ชื่อล้อเลียนไม่ใช่หรือไง!” เท็นยะร้อง
“อย่างกับการปฏิวัติโคเปอร์นิคัสเลย!” อิซึคุพึมพำและซบหน้าตัวเองอย่างเขินอาย
Post-Script : Zack Michaels (The Enforcer) belongs to TalionOfGondor, Kanako Zenjiro belongs to Twinsdrawings/Ilaizhem
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 1150
แสดงความคิดเห็น