Element King (My Hero Academia-Realm of Tales AU) บทที่ 5 เผชิญหน้ากับดาร์คลอร์ดเป็นครั้งแรก
ในตอนนั้นผมเดตกับอากิโกะ และพวกเราก็ไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าคิยาชิวอร์ดน่ะนะ แต่บังเอิญว่ามันมีใครชนผม ตอนแรกก็นึกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่พอเห็นหน้าตาของคนที่มาชนผม ทั้งมงกุฎสีดำ แววตาแห่งความมืดสีแดงเลือด และเขาสีแดงคู่หนึ่งที่งอกออกมาจากหน้าผาก และผมก็สรุปได้ว่าไอ้หมอนี่เป็นใคร และเขามีเจตนาชนผมซะด้วย
เออ วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าใครมีอัตลักษณ์ราชาแห่งธาตุหรือจอมมาร หรือไม่ก็โดนจอมมารครอบงำน่ะนะ สำหรับคนที่เป็นราชาแห่งธาตุก็จะมีนัยน์ตาสีทองคำ และสวมมงกุฎสีทองไว้บนหัว และเวลาสยายปีกจะมีปีกนกสีทองคำ ส่วนจอมมารนั้นผมขอแยกระหว่างคนที่แค่มีอัตลักษณ์กับคนที่โดนเมฟิสโทเรียสครอบงำดีกว่า คนที่มีอัตลักษณ์ดาร์คลอร์ด ก็จะมีนัยน์ตาสีแดงเลือด สวมมงกุฎสีแดงไว้บนหัว และถ้าจะบินก็จะมีปีกมังกรสีดำออกมาจากหลังด้วย บางครั้งสามารถเปลี่ยนร่างเป็นมวลวิญญาณสีดำได้ด้วยเพื่อใช้ในการสิง แต่กับคนที่โดนลูซิฟิรอสครอบงำ ดวงตาของพวกเขาจะเป็นสีดำ มีเขาสีแดงงอกออกมาจากหน้าผากนั่นเองครับ
ทีนี้ลูซิฟิรอสร่างนี้เป็นชายรูปหล่อ ผมสีน้ำตาล มีรอยแผลเป็นรูปสายฟ้าฟาด ดีนะที่ไม่ได้ใส่แว่นกรอบกลม ไม่งั้นจะเหมือนแฮร์รี่ พอตเตอร์เอามาก ๆ สำหรับการแต่งกาย เขาใส่เสื้อคลุมสีดำล้วน ๆ แถมยังอายุรุ่นคราวเดียวกับผมด้วย ซึ่งผมไม่เคยเห็นเขาในยูเอมาก่อนเลย ใช่ เขาเป็นวิลเลิน เลยเข้ามาในยูเอไม่ได้ไงครับ
“ไง ว่าที่ฮีโร่คนใหม่งั้นเหรอ?” จอมมารหนุ่มถามผม
“ก็ใช่น่ะสิ” ผมตอบ “แล้วนายล่ะ?”
“ฉันคือดาร์คลอร์ด เป้าหมายคือการล้างบางสวรรค์และสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ให้หมดไป” จอมมารหนุ่มตอบ “หลังจากนั้นฉันก็จะปกครองโลก ส่วนนายก็คงจะเป็นผู้มีอัตลักษณ์เอเลเมนท์คิงล่ะสิ”
ผมพยักหน้า
“หึ ได้ข่าวว่าเอเลเมนท์คิงถ่ายทอดอัตลักษณ์ให้กับคนนอกเชื้อสายต้นตำรับ” ลูซิฟิรอสพูด “พวกนั้นก็เป็นได้แค่เอเลเมนท์คิงวอนนาบีเท่านั้นเองแหละ พวกนั้นมันเกิดมาไร้อัตลักษณ์ แต่เอเลเมนท์คิงกลับเลือกพวกมันมาเป็นราชาแห่งธาตุรึ น่าขำสิ้นดี”
อุเหม่! มาดูถูกผมขนาดนี้ผมก็โกรธน่ะสิ! และถ้าเกิดคุณเป็นคนที่ได้อัตลักษณ์เอเลเมนท์คิงมาแล้วโดนเจ้านี่ดูถูกขนาดนี้จะโกรธบ้างไหมล่ะ? ผมสาบานได้เลยว่าที่ผมโกรธนี่ผมกำหมัดอยากจะต่อยหน้าเจ้าจอมมารอยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่ผมก็ทำไม่ได้เลย เพราะเดี๋ยวต่อยไปแล้ววันฟอร์ออลทำงานขึ้นมาจะยุ่งเอา แต่...
“อะฮ้า ฉันสนใจนายอย่างมากเลยนะ” ลูซิฟิรอสพูด “เอาล่ะ มาเป็นพวกเดียวกับฉันซะดี ๆ”
ผมส่ายหน้าปฏิเสธทันที ผมไม่ต้องการโดนครอบงำ แต่เหมือนดาร์คลอร์ดจะไม่ฟังเลย เขาเข้ามาหาผมและเอามือทาบบนอกของผม
“นายจะทำอะไร?” ผมถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงความโกรธแค้นและเลือดเย็นไว้ข้างใน
“เดี๋ยวนายก็จะรู้เอง” จอมมารหนุ่มตอบ
“โอ๊ย!” ผมร้อง เพราะผมรู้สึกเจ็บปวดแปลบที่พลังของลูซิฟิรอสกำลังออกจากมือของเขาเข้าสู่ร่างกายของผม และมันค่อย ๆ กลืนกินร่างกายของผมทีละเล็กทีละน้อย จนในที่สุด ปีกมังกรสีดำก็งอกออกมาจากหลังของผม และเจ้าจอมมารก็ปล่อยมือออกไปแล้ว
“นี่มันอะไรกันเนี่ย?” ผมถาม
“ฉันได้ถ่ายโอนอัตลักษณ์ของฉันเข้ามาอยู่ในร่างกายของนายเรียบร้อยแล้ว และนายก็รู้ดีว่าจิตของฉันเป็นหนึ่งเดียวกับอัตลักษณ์แล้ว ดังนั้น จิตของฉันก็จะอยู่ในร่างของนายเหมือนกัน แม้จะไม่ทำให้นายเป็นพวกเดียวกับฉัน แต่ต่อจากนี้ไป ฉันก็จะรับรู้ทุกความคิดและทุกการกระทำของนาย”
คำตอบของดาร์คลอร์ดทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า จิตของผู้มีอัตลักษณ์ดาร์คลอร์ด ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็จะเป็นหนึ่งเดียวกับอัตลักษณ์เช่นกัน ด้วยวินาทีนั้นผมจึงถามไปว่า “แล้วมันดีแค่ไหนล่ะ ในทางกลับกัน คนที่นายถ่ายโอนอัตลักษณ์ไป พวกเขาก็รับรู้ทุกความคิดและทุกการกระทำของนายเช่นกัน”
“เรื่องนั้นฉันไม่สนอยู่แล้ว” เจ้าแห่งนรกหนุ่มบอก “สักวันนายก็จะได้เห็นสายเลือดสุดท้ายของเอเลเมนท์คิงต้นตำรับนอนจมกองเลือดด้วยน้ำมือของฉันเองแน่นอน” ก่อนที่เจ้าตัวจะหายไป
หลังจากนั้นความเงียบก็ครอบงำ จนกระทั่งอากิโกะพูดขึ้นมาว่า “อลันคุงจะเป็นยังไงบ้างนะ ฉันกลัวจังเลย”
“ฉันเองก็กังวลเหมือนกัน ถ้าเกิดว่ามันมาบุกโรงเรียนอีกรอบ คงจะวุ่นแน่นอน” ผมบอก “แต่ปัญหาคือตอนนี้มันมอบอัตลักษณ์ให้ฉันแล้ว ฉันไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะแผลงฤทธิ์ในร่างกายฉันอีกหรือเปล่านะ”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 527
แสดงความคิดเห็น