บทที่ 14...2/3
จอมขวัญลงจากรถเมล์ด้วยความสดใสสบายใจ วันนี้เธอมาทำงานครึ่งวันเพื่อที่ตอนบ่ายจะพาลลิตาไปหาหมอเพื่อตรวจความพร้อมของร่างกาย ทุกอย่างช่างดีงามไปหมด ข่าวของเธอที่ลงไปเรื่องการเปิดตัวแบรนด์มินธราก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้อ่านออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
ดูเหมือนปรานต์จะกลายเป็นหนุ่มในฝันคนใหม่ตีคู่กับตฤณไปเรียบร้อย หญิงสาวเคลียร์งานในช่วงเช้าเพราะปิดจ๊อบของข่าวเปิดตัวแบรนด์มินธราแล้ว หลังจากผ่าตัดเธอจะได้ทำข่าวภาคธุรกิจเต็มตัวเสียที
“ข่าวของคุณปรานต์ที่พี่จอมเขียนมีคนมาอ่านเป็นแสนแล้ว แถมได้ขึ้นคำการค้นหาเป็นอันดับหนึ่งด้วย ส่วนยอดขายหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ก็ไปได้สวยเลย” มินตราเอ่ยด้วยความตื่นเต้นเพราะไม่ใช่ว่าทุกข่าวจากไทยสารจะมีคนเข้ามาอ่านมากขนาดนี้
จอมขวัญยิ้ม แต่ไม่ได้ดีใจจนเข้าข้างตัวเองเพราะพอจะรู้ว่าทำไมผู้คนถึงสนใจปรานต์มากเพียงชั่วข้ามคืน เมวามีอิทธิพลต่อโซเชียลอย่างที่จอมขวัญคิด แต่ไม่คิดว่าจะมากถึงขนาดนี้
“คนอ่านข่าวเยอะน่ะใช่ แต่สาเหตุที่คุณปรานต์ขึ้นเทรนด์ของการค้นหาเพราะข่าวนี้ด้วย และคลิปนี้”
ปริญดากับมินตราพากันมุงดูคลิปที่จอมขวัญเปิดจากอินสตาแกรมส่วนตัวและบัญชีติ๊กต็อกที่บรรดาแฟนคลับของเมวาพากันเอาไปลง ตอนนี้ชาวโซเชียลพากันจับคู่เมวากับปรานต์กันไปเรียบร้อยแล้ว พอรู้ว่าทั้งสองคนเคยเป็นแฟนวัยเด็กกันมาก่อนก็ยิ่งพากันลุ้นให้กลับมาคบกันใหม่
แต่พอเลื่อนๆ ดูปริญดากลับเจอคลิปที่มีคนลงข้อความไว้ พออ่านแล้วก็อึ้งไปเหมือนกัน
“ไม่น่าเชื่อเลยแฮะ เห็นนิ่งๆ แบบนั้นจะกลายเป็นคาสโนว่าไปได้”
“ข่าวอะไรเหรอ ไหนขอดูหน่อยสิ” จอมขวัญสนใจ มีอะไรที่เธอพลาดไปงั้นหรือ
ปริญดาส่งโทรศัพท์ให้จอมขวัญดูคลิปที่มีแค่ข้อความ แต่คนกลับพากันวิพากษ์วิจารณ์กันไปใหญ่โตแล้ว มินตรามามุงอ่านด้วย
“เรื่องซุบซิบจากพวกใช้แอคหลุม แต่มีนักข่าวสายบันเทิงมาตีฟูนี่นา ทั้งคุณเมวา คุณจารวี คุณนิรชา ต้องมาจากคนวงในแน่ๆ” เมื่อวานผู้หญิงในงานมีแค่คุณเมวากับนิรชา แต่แอคหลุมนี้รู้จักไปถึงคุณจารวีเสียด้วย จอมขวัญอ่านแล้วก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ
“แต่คลิปในงานเมื่อวานก็ชวนให้คิดจริงๆ ว่าคุณปรานต์กับคุณเมวาชักจะยังไงๆ กันอยู่ ไม่งั้นจะมอบดอกไม้ให้กันช่อเบ้อเริ่มจงใจให้นักข่าวถ่ายรูปทำไม” ปริญดาวิจารณ์ไปตามประสานักข่าว
“แต่คลิปนี้ที่เหมือนไปแฮงเอาท์กันไม่มีคุณปรานต์อยู่เลยนะคะ พี่จอม พี่ดาช่วยมินดูหน่อยว่ามีคุณปรานต์ไหม” มินตราเพิ่งกดติดตามอินสตาแกรมของเมวาจึงดูคลิปไปเรื่อยๆ จนมาเห็นสตอรี่ของเมื่อคืน
ปริญดาดูคลิปอย่างสนใจ “ไม่มีจริงๆ ด้วย จอมเห็นเหมือนกันไหม”
จอมขวัญพยักหน้ารู้สึกพอใจอยู่เงียบๆ “ไม่มีคุณปรานต์จริงๆ ค่ะ ที่จอมสนใจคือแอคหลุมที่ชื่อว่า ‘มิสเตอร์แว่น’ มากกว่า ทำไมลงเรื่องพวกนี้ แล้วนักข่าวบันเทิงเอาไปใช้ต่อ”
“จอมอยากจะสืบดูหรือไง” ปริญดาถาม
“อืม จอมจะลองสืบดู”
“ที่แน่ๆ ตอนนี้มีคนกดติดตามไอจีของคุณเมวาเพิ่มอีกเป็นหมื่น” มินตราเห็นแล้วก็ทึ่ง แค่คืนเดียวปรานต์ก็กลายเป็นชายหนุ่มที่สาวๆ อยากทำความรู้จัก ส่วนเมวาก็ยิ่งดังในโซเชียลมากขึ้นไปอีกจากการไปมอบดอกไม้ “พอเป็นข่าวกับหนุ่มๆ ที่กำลังเป็นที่น่าสนใจ ยอดเอ็นเกจยิ่งพุ่ง”
นี่เองสินะวงการบันเทิงที่ปรานต์ถูกลากเข้าไปอย่างตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ จอมขวัญไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อวานเป็นเรื่องบังเอิญหรือเป็นการนัดแนะ แต่ที่เธอรู้แน่ชัดนั่นคือเมื่อคืนปรานต์ไม่ได้ไปหาเมวา แต่ว่าไปทำธุระอื่น คงเป็นเรื่องที่เขารับโทรศัพท์แล้วมีสีหน้ากังวลนั่นเอง หัวใจดวงน้อยมีความสุขอย่างประหลาดจนหญิงสาวถามตัวเองว่าทำไม แต่กลับพบคำตอบที่ทำให้ตัวเองตกใจ นี่เธอกำลังหึงปรานต์กับเมวาจนกลัวว่าทั้งสองคนจะมาพบกันแล้วสานต่อความสัมพันธ์ที่หยุดลงไปงั้นหรือ
เธอชอบปรานต์แล้วใช่ไหม?
จอมขวัญเม้มปากพลางถอนใจเมื่อได้คำตอบที่ทำให้กลัวใจตัวเอง
ทั้งจอมขวัญและลลิตาต้องตรวจร่างกายอย่างละเอียดเหมือนกันเพื่อเป็นข้อมูลให้แพทย์เจ้าของไข้นำไปใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเรื่องการผ่าตัด ซึ่งจอมขวัญคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรในเรื่องสุขภาพของเธอ ส่วนของแม่ พอผลออกมาเธอก็ถอนใจด้วยความโล่งอกเพราะหมอแจ้งว่าแข็งแรงดีและพร้อมหากจะได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับจากจอมขวัญ
ทำให้สิ่งแรกที่กังวลผ่านไปด้วยดีแล้ว รอแค่หมอกำหนดวันผ่าตัดซึ่งน่าจะเป็นสัปดาห์หน้า หญิงสาวเคยเกริ่นเรื่องนี้กับนพดลบ้างแล้ว หากต้องผ่าตัดพักฟื้น เธอคงต้องลางานหลายสัปดาห์ ถ้าได้วันผ่าตัดที่แน่นอนแล้ว เธอจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาเจ้านายอีกครั้ง
“แม่รอจอมตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวจอมมา” จอมขวัญพาลลิตามานั่งรอที่โซฟานุ่มๆ นั่งสบายเพราะเธอยังมีเรื่องต้องจัดการอีกอย่าง
จอมขวัญเดินไปกลับไปที่ห้องของแพทย์เจ้าของไข้อีกครั้ง ลลิตามองตาม ได้แต่สงสัยว่ามีอะไรที่จอมขวัญยังต้องถามจากแพทย์อีกหรือไร หลังจากผ่านไป 5 นาทีจอมขวัญก็เดินกลับมาด้วยสีหน้าสบายใจเพราะได้เอกสารการผ่อนชำระมาแล้ว ทำให้ลลิตาสบายใจไปด้วยแม้ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ลูกสาวผ่อนคลายขึ้นมาก
“กลับกันเถอะค่ะ เย็นมากแล้ว แม่หิวข้าวหรือยัง”
“ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” ลลิตาตอบพลางเข้ามาในลิฟต์ที่จอมขวัญเปิดค้างไว้ ก่อนจะตามเข้ามา
พอออกมาจากลิฟต์สองแม่ลูกกำลังจะเดินไปหน้าโรงพยาบาลเพื่อรอรถแท็กซี่ ชานนก็เดินตรงดิ่งมาหาอย่างกับจงใจไม่ใช่ความบังเอิญ จอมขวัญยิ้มให้เขาพลางมองหาปรานต์ อดคิดไม่ได้ว่าเขามาหาหมอเหมือนกันหรือไงนะ
“คุณปรานต์ส่งผมมารับคุณจอมขวัญกับคุณลลิตาครับ บอกว่าให้ดูแลจนกว่าจะถึงบ้านอย่างปลอดภัยดี” ชานนบอกและยกมือไหว้ลลิตา ก่อนจะหันมาบอกจอมขวัญว่า “แล้วก็เรื่องข่าว คุณปรานต์บอกว่าอย่าไปสนใจครับ อะไรที่เคยบอกคุณจอมขวัญไว้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง”
ลลิตามองจอมขวัญ แต่ไม่ถามว่าที่ปรานต์พูดถึงคืออะไร เมื่อถึงเวลาลูกสาวคงเล่าให้ฟังเอง จอมขวัญพยักหน้ารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องกลัวแม่ถามเรื่องที่ปรานต์ฝากชานนมาบอก พอแม่ไม่ได้ถามอะไร เธอจึงถามชานนแทน
“ทำไมคุณปรานต์ถึงรู้ได้ล่ะคะว่าฉันกับแม่มาโรงพยาบาล”
“พอดีว่าผมก็รับคำสั่งมาอีกทีเหมือนกันครับ” ชานนตอบจงใจเลี่ยง แต่ไม่ได้โกหกก็คุณปรานต์สั่งเขามาจริงๆ
“ถ้างั้นก็กลับกันนะคะแม่ ดีเหมือนกันแม่จะได้ไม่เหนื่อย แถวนี้เรียกรถแท็กซี่ยากเสียด้วย” จอมขวัญได้แต่เก็บความสงสัยไว้ วันนี้คนที่มีคำตอบไม่ได้มา เอาไว้เธอถามจากเขาเองก็ได้ “ขอบคุณนะคะคุณชานน”
ชานนเดินนำทางไปที่รถทันที จอมขวัญมองตามเพราะรู้สึกว่าปรานต์มีความลับบางอย่างที่เกี่ยวกับเธอ เป็นไปได้ไหมว่าเขาส่งคนคอยตามเธอ แต่ทำไมต้องทำแบบนั้น
หญิงสาวมองไปรอบตัวก็ไม่เห็นใครหรืออะไรที่น่าสงสัย เธอคิดมากไปอย่างนั้นหรือ มันไม่มีเหตุผลสักเท่าไหร่ด้วยที่ปรานต์จะส่งคนมาตามเธอ แต่เขารู้ได้ยังไงว่าเธอกับแม่มาที่โรงพยาบาลนี้
ชานนออกมาจากลิฟต์จากชั้นบนสุดของตึก M ในเวลาค่ำแล้ว แต่ไฟในสำนักงานของปรานต์ยังสว่าง แม้ว่าเลขาทินจะกลับไปแล้ว เหลือแต่ผู้ช่วยเลขาอย่างเขาที่มาทำงานในเวลาที่เจ้านายยังไม่ยอมกลับบ้าน เพราะปรานต์ทำงานไม่พักเหมือนกับจะซื้อบ้านพร้อมๆ กันสัก 10 หลัง
แต่ถึงจะงานยุ่งขนาดไหนปรานต์ก็ยังมีเวลาสนใจว่าจอมขวัญทำอะไรหรือไปที่ไหน เขาทำงานกับปรานต์มาหลายปีจึงพอจะดูออกว่าจอมขวัญกำลังเป็นคนสำคัญของปรานต์ แต่มันเริ่มจากตอนไหนกันนะ การที่เธอถูกติดตามโดยบอดี้การ์ดย่อมเป็นคนที่ปรานต์ห่วงใย แต่กลับไม่ปริปากบอกให้เจ้าตัวรู้
ปรานต์เอนหลังกับเก้าอี้เมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาในห้อง จากเสียงเคาะประตูที่เป็นเหมือนรหัสลับระหว่างกัน ทำให้ปรานต์รู้ว่าคนที่เข้ามาในห้องทำงานของเขาคือชานน
“ส่งคุณจอมขวัญกับคุณลลิตาเรียบร้อยแล้วครับ ผมคิดว่าคุณจอมขวัญน่าจะสงสัยแล้วว่าคุณปรานต์ส่งบอดี้การ์ดตามเธออยู่ ถ้ารู้ว่าตัวเองคิดไม่ผิด คุณปรานต์จะตอบยังไงครับ”
ปรานต์เลิกคิ้วไม่คิดว่าคนอย่างชานนที่ไม่ค่อยถามอะไรกลับสนใจเรื่องนี้
“อาจจะบอกเรื่องบอดี้การ์ดหรือไม่บอก ขอคิดดูก่อน อีกไม่กี่สัปดาห์จะประมูลสัมปทานรังนกรอบใหม่แล้ว ใครก็ตามที่ใกล้ชิดฉันย่อมเสี่ยงอันตรายทั้งนั้น บอกกาญให้เข้มงวด ถ้าจอมขวัญไปไหนที่อันตรายก็รีบรายงานมา แล้วขอคนเพิ่มได้ทันที”
อ้อ ชานนพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็รู้ดีว่าปรานต์ตอบไม่หมด “ครับ แต่ผมชักสงสัยว่าคุณจอมขวัญกลายเป็นคนใกล้ชิดของคุณปรานต์ตั้งแต่กลับจากเกาะเพราะอะไร ไหนว่าไม่ต้องแต่งงานแล้วเพราะคุณจอมขวัญจะบริจาคตับให้คุณลลิตาเอง”
ปรานต์ล่ะเบื่อพ่อกับชานนเพราะชอบรู้ทันเขานี่ล่ะ บางเรื่องเขาก็ไม่ตอบหรอก รอให้ถึงเวลาที่สมควรก่อน
“ใกล้ชิดก็คือใกล้ชิดสิ” ปรานต์สรุปและห้ามถามด้วยการถามเรื่องอื่นต่อเสียเอง “เรื่องมือปืนที่ตาย ตามสืบไปถึงไหนแล้ว ได้เรื่องหรือยังว่าใครไปตามเก็บ”
สีหน้าของชานนจากยิ้มแย้มกลับมาเป็นการเป็นงานทันที
“คนของผมกำลังตามอยู่ ส่วนความคืบหน้าเรื่องคนที่วางยาคุณปรานต์ ไม่ใช่คนในบริษัทแน่นอนแล้ว เพราะคนที่น่าสงสัยถ่ายติดจากกล้องหน้ารถของพนักงานในบริษัท แต่ไม่พบ DNA เลย รู้แต่ว่าน้ำในรถมีปัญหา ผลตรวจออกมาแล้วว่าเป็นสารพิษที่คุณปรานต์เคยเห็นในข่าว โชคดีมากที่คุณจอมขวัญทำให้คุณปรานต์อ้วกออกมา”
ชานนวางแท็บเล็ตให้ปรานต์เห็นคลิปซึ่งกว่าเขาจะหามาได้ก็ไม่ง่ายเลยเพราะมาจากรถของพนักงานที่จอดใกล้ๆ กับรถของปรานต์ ส่วนกล้องวงจรปิดบริเวณนั้นถูกคนร้ายจัดการลบไปก่อนแล้ว ทำให้การสืบครั้งนี้ใช้เวลานาน แต่ก็ทำให้รู้ว่าคนร้ายเป็นคนที่ทำงานในตึก M แน่นอน แต่ก็ยังยากอยู่ดีเพราะตึก M นอกจากสำนักงานของมินธรา กรุ๊ปแล้วยังเปิดเช่าสำหรับบริษัทอื่นๆ ที่ต้องการพื้นสำหรับสำนักงานด้วย
ปรานต์เห็นคนรูปร่างสูงประมาณ 165-175 เซนติเมตร ตัวบาง แขนขายาว ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายเพราะปิดบังใบหน้าด้วยแมสและหมวก ส่วนผมนั้นจะใส่วิกหรือของจริง เขาไม่แน่ใจนัก
“มันเป็นใคร ผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย”
“น่าจะผู้ชายครับ มันปิดบังใบหน้ามิดชิดขนาดนี้ก็จะยากสักหน่อย แต่คนของผมสืบไปที่รถของมันแทน ตอนนี้ยังหาความเชื่อมโยงไม่ได้ว่าใครส่งมา แต่คนของผมกำลังตามมันอยู่ว่ามันติดต่อกับใคร” ชานนรายงานเท่าที่แน่ใจ ยังมีส่วนที่ยังไม่แน่ใจ แต่เขาสงสัยจึงยังเก็บไว้ในใจก่อน เพราะคนสั่งการอาจเป็นคนใกล้ตัวปรานต์มาก
“ดูไว้ให้ดี ฉันกลัวว่ามันจะถูกเก็บอีกคน เหมือนมือปืนนั่น”
วันก่อนหลังจากไปส่งจอมขวัญแล้ว ปรานต์ก็ไปสถานีตำรวจต่อเพราะมือปืนที่ตายโทรมาที่บริษัทของเขา ก่อนที่จะถูกยิงตาย ตำรวจไม่ได้สงสัยเขา แต่เขาต่างหากที่สงสัยว่ามือปืนพยายามติดต่อมาทำไม พอเขาให้ทินช่วยถามหาว่าใครรับโทรศัพท์จากมือปืนที่ตายบ้าง ซึ่งพบว่ามีจริงๆ มือปืนแค่โทรมาขอที่อยู่ของปรานต์ แต่พนักงานที่ไม่รู้ว่านั่นคือมือปืนที่ติดต่อเข้ามาจึงให้ที่อยู่ของบริษัทไป มือปืนต้องการทำอะไร ปรานต์อยากรู้ แต่จนปัญญาเพราะมันตายไปแล้ว
ชานนก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ถ้าตัวกลางตาย เขาจะทำงานได้ยากขึ้นไปอีก การหาคนบงการเป็นสิ่งที่ปรานต์ต้องการ ปรานต์ชวนชานนไปกินข้าวเพราะเขาชักหิวแล้ว แต่ชานนกลับบอกว่าแฟนทำอาหารไว้รอ จึงชวนปรานต์ไปกินข้าวด้วยกัน
การไปบ้านของชานนไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่การกินอาหารพร้อมกับคู่รักที่คอยถามว่าแต่ละวันเป็นอย่างไร สายตาที่แฟนของชานนมองชานนเต็มไปด้วยความรักความห่วงใย ปรานต์อดถามตัวเองไม่ได้ สักวันหนึ่งเขาจะมีใครคนหนึ่งทำอาหารไว้รอแล้วมองเขาแบบนั้นบ้างหรือเปล่า จอมขวัญจะรักเขาเมื่อเวลาผ่านไปได้ไหม เมื่อถึงเวลานั้นเราสองคนจะรักกันแล้วหรือยัง
ชอบเค้า แต่ไม่รู้ว่าเค้าชอบตัวเองหรือเปล่ามันอึนๆ ในใจดีไหมปรานต์
ซ้อนกลรักเจ้าสาวมาเฟีย วางจำหน่ายใน MEB แล้วหมวด นิยายโรมานซ์
โบว์ทำโปรโมชั่นราคาหนังสือเต็มๆ 329 เหลือ 149 บาท ตอนนี้เหลือเวลาโปรโมชั่น 4 วันค่ะ
โบว์จะลงให้อ่านถึงบทที่ 15 นะคะ แล้วจะหยุดอัพนิยาย
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 111
แสดงความคิดเห็น