ตอนที่ 8 .. “ เปิดตำรารัก ตอน วุ่นชุลมุน ”

-A A +A

ตอนที่ 8 .. “ เปิดตำรารัก ตอน วุ่นชุลมุน ”

รวมเรื่องสั้น นิยายรัก นักศึกษา (Romance Fiction - นิยายรัก)

ตอนที่ 8 .. “ เปิดตำรารัก ตอน วุ่นชุลมุน ”

 “เอ้าๆรีบๆกันหน่อย เร็วๆเข้า เดี๋ยวจะดึก” หมัด ชายหนุ่มหน้าทะเล้นตะโกนสั่งงาน

       ทุกคนต้องรีบทำตาม ไม่งั้นอดได้ตัง เสียงทำงานดูวุ่นวายดีจริงๆ บรรยากาศอย่างนี้มันวุ่นๆดี แล้วก็เหลือบไปเห็นหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ไม่ทำตามในสิ่งที่บอก

“เราหนะ ไม่ต้องมองใคร แก้ผ้า” แป๋มสาวน้อยผู้นั้นตกใจ อ้าปากหวอ

“ห๊า” ยัยแป๋มหันควับ พร้อมกับตะโกนด่าออกมาทันที

“จะบ้าเหรอไอ้โย่ง อยู่ดีๆ จะมาให้ฉันแก้ผ้าได้ยังไง ฉันไม่ใช่อีตัวนะ”

“สาบานนะ ว่าที่พูดเมื่อกี้หนะปาก” หมัดสวนกลับทันที

       ยัยแป๋มถึงกับต้องอ้าปากหวออีกครั้ง เป็นครั้งที่สอง

“อ้าว ไอ้นี่ ถ้าคิดว่าไม่ใช่ปาก แล้วนายว่ามันคืออะไร” ยัยแป๋มเริ่มฉุนแตก

“ก็ไอ้ที่เขาเอาไว้ผายลมไง” หมัดสวนกลับครั้งนี้ทำเอายัยแป๋มสะอึกเลย

       ยิ่งเป็นคนไม่ยอมคนอยู่ด้วย เลยด่ากลับ

“ไอ้บ้า ไอ้ห่วยแตก ไอ้ปากไม่มีหูรูด ไอ้นรกแตก ไอ้ๆๆ”

     แป๋มไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าไอ้หมัด ผู้สูงชะลูดบุคคลนี้อีกแล้ว ช้าง ผู้คุมสถานที่ รีบวิ่งมาดูว่ามันเกิดสงครามย่อยๆอะไรขึ้น เพราะเสียงมันดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้งสตูฯ

“อะไรกัน อะไรกัน ทะเลาะอะไรกัน” หมัดรีบแถลงการณ์ตัดหน้าก่อนที่ยัยแป๋มจะใส่ร้ายมัน เพราะความรู้สึกมันบอกอย่างนั้น

“ก็กะอีแค่ กูบอกให้ยัยนี่เค้าแก้ผ้าพันคอออกดีๆ แม่นางน้อยท่านนี้ เค้าก็มาโวยวายอะไรก็ไม่รู้ใส่กู แม่งโหลยโท้ยจริงๆเลย”

       พูดจบเจ้าหมัดก็เดินหนีหายไปซะดื้อๆอย่างนั้นแหละ ปล่อยให้ยัยแป๋มยืนทำปากขมุบขมิบอยู่คนเดียว เพราะเถียงไม่ทันมัน ปล่อยให้ช้างเกาหัวแกร๊กๆอยู่คนเดียว งง

“อะไรของมันวะ มาเร็วเคลมเร็วเกิ้น” ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านกันในคืนนี้ จึงมีการนัดแนะ

       ซึ่งในตอนเช้าของพรุ่งนี้ ต้องมีการทำงานที่นี่อีกเหมือนเดิม แน่นอนหน้าที่นี้คงไม่พ้น ต้องเป็นของไอ้หมัดอีกแน่นอน

“เอ้าๆ เร่เข้ามา เร่เข้ามา” หมัดตบมือเรียกสาวๆนางแบบทุกคนมาฟังการนัดเวลาทำงาน

“พรุ่งนี้นะจ๊ะสาวๆ 9 โมงเช้านะคร๊าบ เจอกันที่นี่ กรุณาให้ตรงต่อเวลากันหน่อยนะ จะได้ไม่ต้องเลิกดึก และผิดเวลาเหมือนกับคืนนี้ เพราะพรุ่งนี้เราจะไป Out Door แล้วเจอกันพรุ่งนี้ แค่นี้นะคร๊าบ Good Night ราตรีสวัสดิ์กันทุกๆคนเลย อย่าลืมฝันถึงพี่บ้างนะน้อง” สาวๆทุกคนพร้อมใจกันยกนิ้วกลางให้กับไอ้หมัด

“หว่า” ไอ้หมัดเห็นแล้วเศร้าใจ จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกลับบ้านกันไป

“พรุ่งนี้ถ่ายทำที่ไหนคะพี่โป่ง” แจ๋วถามลูกพี่

“อ๋อ สวนหลวง ร.9” ช้างยืนอยู่ใกล้ๆอ้าปากหวอเลย

“ทำไมไกลจัง” โป่งเลยอธิบาย

“ไม่รู้ซิ เจ้าของชุด จะเอาที่นั่น น่า ก็ตามใจสปอนเซอร์หน่อย” หมัดเดินผ่านมาพอดี โป่งเลยเรียก

“เฮ้ย ไอ้หมัด ฮู้ทางนี้” หมัดเดินเข้ามา หลังจากเตรียมตัวจะกลับบ้าน

“มีไรไอ้โป่ง” ช้างเดินเข้ามาตีมือหมัด

“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นวะมึง” หมัดยังไม่อยากจะตอบอะไรอีก

“เออ เรื่องนั้นว่างๆกูจะเล่าให้ฟังไร้สาระ ว่าแต่มึงเถอะไอ้โป่ง มีไรกูง่วงแล้วจะกลับ เสือกมาเรียกกูไว้ทำไมเนี่ย” หมัดถามเพราะสงสัยเป็นอย่างมาก

“ไอ้หอก เป็นถึงเจ้าของ ผู้บริหาร แต่ดูมึง แต่งตัวยังกะคนจรจัด งานหนะช่วยกูทำหน่อย อย่าถือว่ารวย แล้วใช้เงินทำงานแทน” โป่งต่อว่าเพื่อนนิดหน่อย

“โอ้โหมึง กูถามนิดเดียว แต่มึงมาเป็นชุด ยังกะโกรธใครมาสักสิบชาติร้อยชาติ” หมัดเจอเพื่อนว่าเป็นชุดเลยคืนนี้ โป่งรีบพูดทันที

“พรุ่งนี้มึงไปสวนหลวงกะกูด้วย” หมัดรีบยกมือและส่ายหน้า

“ไม่เอาหละ ไกลฉิบ..เลยมึง”

       ช้างรีบอธิบายกลัวเพื่อนไม่ไป ไม่งั้นงานพังแน่ แจ๋วพยายามจะหาช่องเพื่อแย้งกับคำพูดเมื่อกี้

“ไอ้โหลมันป่วย เกิดอุบัติเหตุเมื่อเย็นนี้ แมงกะไซด์คว่ำ เมียมันโทรมาบอกกูเมื่อค่ำนี้เอง ว่านอนอยู่โรงบาล”

       ช้างเอามือแตะไหล่เพื่อน “น่านะ ช่วยกูที” แจ๋วรีบตะโกนแทรกทันที เมื่อได้โอกาส

“แล้วที่นี่หละ ถ้าพี่หมัดไป แล้วใครจะ..” โป่งไม่มีคำตอบให้

“ก็..” ยังไม่ทันที่ไอ้โป่งจะแก้ตัวอะไร ไอ้หมัดก็สวนทันควัน เพราะรู้ทันเพื่อน

“ก็กูอีก” หมัดทำหน้าเบื่อหน่ายและเซ็งกับแขนขาที่จ้างมา

       แล้วก็มองหน้าเพื่อน ที่เป็นทั้งลูกจ้างและหุ้นส่วนไปพร้อมๆกัน

“กูหละโคตรหน่ายกับการทำงานและวางแผนของพวกมึงเนี่ย” หมัดขอระบายบ้าง

“ทุกที พอกูไม่ทำไม่ช่วย ก็มาด่า มาว่ากู กระเพาะตัวเองเลยจริงๆ มึงเอ้ย”

“น่านะ เพื่อบริษัท มึงเสือกเกิดมาเก่งทำเหี้ยเองทำไมหละวะ หล่อก็หล่อ รวยก็รวย แถมหุ่นสูงชะลูดดีอีกต่างหากราศีจับเลยมึง” เพื่อนแซว

“จับเจ่านะซิไม่ว่าไอ้ห่า นั่นซิ ว่าแต่กูเสือกเกิดมาเก่งทำไมวะเนี่ย”

       หมัดว่ากระแทกเข้าให้และบ่นกับตัวเองเล็กน้อย

“เออ มันก็คงไม่พ้นกูอีกตามเคย ไปก็ไป”

       แล้วก็เดินจากไปอย่างเร็ว ออกประตูสตูฯอย่างไว โป่งกับช้างและแจ๋วจ๋อยไปเลยตามๆกัน

“เพราะมึงเลยไอ้ช้าง ไม่เสือกบอกมันเร็วๆ มึงก็รู้ว่ากูอยู่ฝ่ายจัดหาสถานที่ แต่มึงหนะจัดหาคนมาเสริม” โป่งรีบโทษเพื่อน

“แล้วกูจะรู้ไหม ว่ามันจะกะทันหัน กูไม่น่าบอกมึงเลย งานกูยิ่งยุ่งๆวุ่นๆอยู่” ช้างไม่รู้จะลงที่ใคร เลยหันไปลงที่แจ๋ว

“นี่เลย เธอเลย ยัยแจ๋ว ทำไมถึงไม่เตือนพี่ ว่าให้บอกไอ้หมัดมันด้วยเรื่องไอ้โหล แย่มาก แย่ที่สุด เป็นผู้ช่วยประสาอะไร แย่ๆ” แจ๋ว งงเลย

“อ้าว” แจ๋วเดินเกาหัวกลับบ้านก็ยังไม่หายมึน

“อะไรวะ ไหงมาลงที่เราหละ” โดนหางเลขกับเขาด้วยคืนนี้

>>>>> ***** <<<<<

       รุ่งเช้าเวลาก่อนเวลาการเดินทาง 1 ชั่วโมง ยัยแป๋มเดินคุยมากับเพื่อน ยังคงไม่หายโกรธไอ้หมัดในเรื่องเมื่อคืน เช้านี้อารมณ์จึงไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ มดเพื่อนสนิทเห็นไม่สบายใจจึงถาม

“เป็นไรแก” มดถามเพื่อน แต่แป๋มยังเหม่อลอย เพราะยังคิดถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่ จึงไม่ได้ยิน มดเลยเขย่าตัว

“ไอ้แป๋ม” แป๋มได้สติจึงหันมา

“อะไรแก มีอะไร เรียกฉันทำไม”

“แกเป็นอะไรของแก” มดมองหน้าเพื่อน

“เช้านี้แกเป็นอะไร ฉันเห็นแกกระฟัดกระเฟียตมาตั้งนานแล้ว ไปกินรังแตนที่ไหนมา” อยู่ดีๆแป๋มก็พูดออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

“แกคิดดูนะไอ้มด อยู่ดีๆถ้ามีคนมาสั่งให้แกแก้ผ้า แกจะโกรธไหม”

“โกรธ อืม เออ โว๊ย โกรธ แต่ดีนะฉันชอบ” แป๋มตวาดเพื่อนทันที

“อีบ้า” กำลังเดินคุยกันดีๆ ต้องหยุดกึก เพราะคำตอบของมด แป๋มหันมามองหน้มดแล้วทำหน้าละเหี่ยใจ

“ฉันอยากจะบ้าตายวันละหลายๆครั้ง ถ้ามีเพื่อนอย่างแกสัก 10 คน ฉันว่ารับรองประเทศชาติล่มจมแน่ เพราะไอ้พวกลามกอย่างพวกแกนี่แหละ”

       พูดเสร็จก็จ้ำอ้าวเลย “เฮ้ย รอด้วยดิ” แป๋มไม่สนใจเพื่อปล่อยให้มดวิ่งตามแทบไม่ทัน

“รอด้วย อย่าวิ่งเร็ว ฉันตามไม่ทัน” แป๋มเดินงอนไปไกลแล้ว ไม่นานมดก็ทันแป๋ม

===== <> =====

       ณ.โรงแรมหรูชานเมืองแห่งหนึ่ง

“เออ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่า ผมจะติดต่อขอยืมสถานที่ ถ่ายรูปได้ที่ไหนครับ” ก้างช่างภาพฟรีแลนด์ ยิ้มให้

“อ๋อ ที่ห้องโน้นค่ะ ติดต่อหัวหน้าฝ่ายบริการทั่วไปได้เลยนะคะ” ปลาประชาสัมพันธ์สาวก็ยิ้มตอบ

“ขอบคุณครับ” หลังจากนั้นไม่นาน 20 นาทีผ่านไป ก้างทำธุระเสร็จก็เดินกลับมาที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่มันมาครั้งแรก

       ก้างพุ่งตรงไปหาปลาประชาสัมพันธ์สาว แล้วก็กล่าววาจาสุภาพต่อเธอเบาๆ

“ขอโทษ คุณชื่ออะไรครับ” ปลางงซิ เลยเงยหน้าขึ้นมา

“ถามทำไมคะ” ไอ้ก้างทำหน้าตายใช้ลุกไม้เดิมๆคือ ตอบแบบซื่อๆ

“ผมคลับคล้ายคลับคลาว่า จะเคยเห็นหน้าแบบนี้ แบบคุณเด๊ะที่ไหนมาก่อนหนะครับ พึ่งนึกขึ้นได้เมื่อตะกี้ แต่ก็จำไม่ได้ซะที”

       ปลารู้ทันทีเลยว่าก้างกำลังขายขนมจีบเธอ แผนตื้นๆแบบนี้เธอรู้ทัน เพราะคนสวยอย่างเธอมีเหรอที่จะไม่มีหนุ่มๆมาขายขนมจีบ เจอทุกวันและวันละหลายๆคนด้วย

“เอ อีตานี่จะมาแผนไหนอีกเนี่ย” จึงสวมหัวใจเสือ แก้ลำก้างกลับไปทันที โดยไม่รอช้า

“อืม ก็ลองกลับไปคิดดูก่อนนะคะว่าเจอที่ไหน แล้วค่อยมาบอกดิฉัน ดีไหม”

       พูดจบ ปลาก็ลุกขึ้นและเดินหนีไปเลย ก้างเจอดีเข้าแล้ว จึงถอยกรูดมาตั้งหลัก เจอคู่ปรับซะแล้ว

“โห แสบสุดๆ ชอบหวะ แบบนี้ซิถึงจะเรียกว่าสูสี ฉันต้องรู้ชื่อเธอให้ได้”

<<<<< ===== >>>>>

       หลังจากที่ยัยมดวิ่งตามยัยแป๋มทัน ก็เดินคุยกันต่อจนเข้ามาในเขตของบริษัท แล้วเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้ จะเป็นยังไงหนอ

“นี่นะ ถ้าฉันเจอหน้าหมอนั่นอีกจะด่าให้แสบไปถึงรูทวารเลยไม่เชื่อก็คอยดู คนอะไรปากจัดเป็นบ้าเลย”

       ไม่ทันขาดคำ ยัยแป๋มเปิดประตูเข้ามา มัวแต่หันไปพูดกับมดอยู่ จึงไม่ทันได้ดูตาม้าตาเรือ เดินชนหมัดเข้าอย่างจัง เพราะเขากำลังรีบจะต้องล่วงหน้าไปที่สวนหลวง เพื่อเช็คสถานที่ก่อนใคร หมัดหันหลังก้มเช็คของและสัมภาระอยู่ ระยะห่างของประตูกับกองที่หมัดอยู่ ก็ถือว่าห่างพอสมควรนะไม่ได้ตั้งขวางทางใคร แต่เนื่องจากแป๋มกับมดเดินตรงอย่างเดียว ไม่ได้ดูทาง จึงตรงเข้ามาชนกับหมัดอย่างแรง

“โอ๊ย” หมัดโดนแป๋มชนที่ก้นอย่าจังจนหน้าคว่ำไปข้างหน้า มือกางออกใส่ข้าวของจนล้มละเนละนาดกับพื้นไม่มีชิ้นดี

       ยัยแป๋มตกใจ จึงหยุดคุยและหันมามองหาเจ้าของเสียง ได้ยินแต่เสียง แต่มองหาเจ้าของเสียงไม่เจอ จะไปเจอได้ไง ก็หน้าคว่ำ ข้าวของล้มทับอยู่ข้างล่างนั่น พอลุกขึ้นมาได้ ก็ใส่เป็นชุดเลย เพราะโกรธมาก ไม่รู้ว่าข้าวของอะไรจะเสียหายบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้

“อึ๊ย นี่แม่คุณ เดินประสาอะไรของหล่อนเนี่ยห๊ะ ไม่เห็นรึไงว่าคนเขายืนเช็คขอทำงานอยู่ตรงนี้ ชนเข้าไปได้ยังไง ชนแล้วก็ไม่ขอโทษ”

       แป๋มยืนอึ้ง เถียงไม่ทัน เพราะหมัดกำลังโกรธและใส่ไม่ยั้ง ไม่เปิดโอกาสให้แป๋มตอบกลับเลยแม่แต่นิดเดียว

“ที่บ้านไม่ได้สั่งสอนรึไง มารยาทหนะมีบ้างไหม ขอโทษหนะ เวลาชนคนอื่น สักคำมีไหม อีกอย่าง เวลาเดินหนะ เขาให้ดูทางบ้าง”

       หมัดเล่นเป็นตับยาวกว่ารถไฟไปใต้เสียอีก มดเชื่อแล้วที่แป๋มบอกว่าหมัดปากจัด มากถึงมากที่สุด มดหันไปดูเพื่อนกำลังยืนตัวสั่น

“บุพการีสร้างไว้ให้เดินคนเดียวรึไงแม่คุณ อะไร๊ หน้าตาก็ดี แต่งตัวก็ดี เสียดาย นิสัยไม่ได้เรื่อง อะไรกันนี่..”

       ยังไม่ทันที่หมัดจะพูดจบ แป๋มซึ่งกำลังยืนตัวสั่นเหมือนจ้าวเข้าอยู่นานสองนานนั้น คงไม่รอที่จะให้หมัดพูดต่อจนจบแน่ ยัยแป๋มจึงตัดสินใจสวนกลับทันที เพราะทนฟังต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เนื่องจากไม่อยากที่จะทนสายตาผู้คนที่ยืนมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นได้

“หยุดนะ” หมัดหยุดกึกทันที แล้วมองไปที่หน้าแป๋ม

“นี่คุณ พูดจบหรือยัง” แป๋มจ้องหน้าหมัด ทั้งๆที่ตัวเองผิด

“ถ้าจบแล้ว ก็กรุณาเว้นช่องให้ฉันพูดบ้าง อะไรเล่นเป็นชุด ไม่ให้ตั้งตัวเลย”

       แล้วแป๋มก็เดินเข้าหา ใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าอกของหมัด พูดไปด้วยและจิ้มไปด้วยหมัดค่อยๆเดินถอยหลังไปอย่างช้าๆ

“จะบอกจะกล่าวอะไรไม่ได้เลย หรือว่าอยู่ที่บ้าน คนอื่นแย่งพูดหมด หรือไม่มีใครคุยด้วย ถึงได้มาปล่อยเอาที่นี่ อ้อ หรือว่าสงสัยจะเป็นนิสัยเก่าซิท่า ถ้าวันไหนไม่ได้ทะเลาะกับใคร ไข้มันจะขึ้นใช่ไหม”

       หมัดเจอแบบนี้เข้าก็เถียงไม่ทันเหมือนกัน

“ได้ ถ้าจะ..” ไอ้หมัดเจอครู่ปรับเข้าให้แล้ว เล่นเอางงและตั้งตัวไม่ติดไปพักใหญ่ พอตั้งตัวได้ อดทนฟังไม่ไหวเหมือนกัน ก็เลยยกมือขึ้นมาชี้หน้าแป๋มทันที

“เฮ้ยหยุด” แป๋มหยุดเหมือนกัน

“โถแม่คุณ เหนื่อยไหม แม่นกแก้ว นกขุนทอง เอ้า นี่น้ำ”

       หมัดยกน้ำเปล่าขึ้นมาให้ 1 ขวด กำลังเย็นๆเลย แป๋มเอามือปัดทิ้ง แต่หมัดกำไว้แน่น จึงได้แต่เอียงไปด้านข้าง

“เชอะ ไม่สน” แป๋มชะเง้อหน้าไปถามหมัดใกล้ๆ

“เอ้า มีเรื่องอะไรก็ค่อยๆว่ามา” นักเลงซะด้วยยัยแป๋ม

       มือซ้ายท้าวสะเอว มือขวาชี้หน้าถามซะด้วย

“ไม่ใช่ เจอหน้าแล้ว ใส่ลูกเดียว ว่าไป ฉันรอฟังอยู่”

       ขณะที่สองคนนั้นกำลังทะเลาะกันอยู่ ช้างกับแจ๋วก็ต้องรีบวิ่งมาดูอีกแล้ว เพราะเสียงทะเลาะมันดังลั่นโถงบริษัทไปหมด พอๆกับเมื่อคืนเลย

“ดาวหางหล่นใส่กันรึไงวะเนี่ย” ช้างโวยมาแต่ไกล

“โอย แต่เช้าเลย เมื่อไหร่มันจะสงบได้วะ” มาถึง ช้างก็โวยใส่ทันที แจ๋วมองหน้าเพื่อนและถาม

“เอ้ยไอ้แป๋ม นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นวะ” แป๋มกำลังโกรธ จึงยังไม่ตอบ เอามือเสยผมตัวเอง เหนื่อยก็เหนื่อย

       เห็นแจ๋วถือน้ำเย็นมา จึงคว้ามาดื่มทันที โดยไม่ขออนุญาตกันแล้ว

“เบาๆโว๊ยเพื่อน เบาๆ เดี๋ยวได้สำลักกันพอดี” ช้างรอนานแล้วจึงถามอีกครั้ง

“ว่าไงไอ้หมัด ตกลงมึงจะบอกกูได้รึงยังว่าเกิดอะไรขึ้น” ช้างมองดูของที่กระจัดกระจายแล้วชี้

“ทำไมข้าวของถึงได้กระจัดกระจายแบบนี้” ช้างอยากรู้

       แป๋มรีบตัดหน้า ก่อนที่หมัดจะแถลงการณ์อะไรออกไป หลังจากดื่มน้ำจนอิ่ม

“ก็เพื่อนคุณนั่นแหละปากหมา” ไอ้หมัดสวนกลับทันควัน

“อ้าวเฮ้ย ไหงพูดแมวๆอย่างนั้นหละ” จะให้ถูกว่าฝ่ายเดียวได้ไง

“เอาหละๆ ฉันว่าขอให้เลิกลากันก่อน เสร็จงานแล้วค่อยมา Clear กันจะได้ไหมไอ้แป๋ม พี่หมัดต้องรีบเอาของพวกนี้ไปที่สวนหลวง ฉันขอให้แกเลิกลาก่อนนะ ใครผิดใครถูก ตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะรู้ นี่มันก็เสียเวลามานานแล้ว ไปไป แกไปรวมตัวเช็คชื่อกับพวกนางแบบทางโน้น อะไรวะ มีปัญหากันได้ทุกวัน ฉันหละเบื่อเลย”

       แจ๋วดันตัวเพื่อนพร้อมกับลากแขนมดไปด้วย

“ก็ได้วะ เห็นกับแกนะเนี่ยไอ้แจ๋ว อย่าให้เจออีกนะ คราวหน้าไม่เกรงใจจริงด้วยๆ”

       แน่ะอาฆาตซะด้วยยัยแป๋ม ตัวเองผิดนะเนี่ยงานนี้

“ยังไงก็ได้วะ โธ่เอ้ย นึกว่ากลัวเหรอ ไอ้โย่ง”

       นี่ก็เก่งซะเหลือเกิ้น กว่าจะย่างเท้าออกไปจากจุดเกิดเหตุนั้นได้ ช้างหันไปหาเพื่อน

“แล้วมึงหละ ว่าไงไอ้หมัด ไหวไหม” หมัดพยักหน้า

“ได้เวลาไปได้รึยัง กว่าจะถึง เดี๋ยวกูกับทีมจะตามไป ไป เอ้าๆ พวกเราช่วยกันเก็บของ แล้วเอาไปใส่ไว้ที่หลังรถบอสด้วย ไปๆ ปาดนี้ไอ้โป่งคงไปรออยู่นานแล้ว”

       หมัดมีสปีริตพอสมควร แมนๆครับ ช่างมัน

“สู้โว๊ยเพื่อน กูรู้ กูเห็นว่ามึงไม่ผิด เอาน่า ยังไงแล้ว เราก็ทำงานร่วมกัน หนักนิดเบาหน่อย ยอมๆมันหน่อย เราเป็นผู้ชาย” ช้างอุตส่าห์ไกล่เกลี่ยให้

“กู ไม่อยาก..” แป๋มเดินกลับมาเอากระเป๋าสตางค์ที่หล่นอยู่กับพื้นพอดี จึงได้ยินประโยคนั้นเข้า

“หนูก็ไม่ พี่ช้างอย่ามาห้ามหนูหน่อยเลย ห้ามเพื่อนพี่ดีกว่า” ช้างนึกว่าแป๋มไปแล้ว กลับมาตอนไหนเนี่ย

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ต่างคนต่างไป โอเครไหมคะ เชิญค่ะ ไปแป๋ม” มดตัดปัญหาให้ จะได้จบซะทีเรื่องนี้ ว่าแล้วก็แยกย้ายกันไป

***** ----- *****

        ไม่นาน หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อย แจ๋วเช็คชื่อนางแบบและตรวจสอบเสื้อผ้าชุดที่จะใช้ในวันนี้เป็นที่เรียบร้อย ก็หันไปรายงานกับช้าง ลูกพี่ที่แสนดี

“เรียบร้อยแล้วพี่ แล้วรถที่จะมารับหละ มาหรือยัง”

       ช้างหันไปดู กำลังเลี้ยวเข้ามาจอดพอดี สักพักโป่งเดินลงมา

“อ้าว ไอ้โป่ง ทำไมมึงมาอยู่ที่นี่ได้หละ แล้วที่โน้นหละ ใครอยู่”

       โป่งรีบอธิบายเฉพาะส่วนที่สำคัญ เพราะเวลาไม่มีแล้ว

“ไอ้หมัดไง พอดีรถที่เช่าไว้คันนั้นมันมีปัญหา เล็กไป กูก็เลยขอเปลี่ยนเป็นคันที่ใหญ่กว่า จะได้ขนของใส่ไปได้ด้วย ไปไป อย่าถาม”

       ทุกคนรีบขึ้นรถ เพราะนี่ก็เลยเวลามามากแล้ว 9.20 น. กำหนดการ 9.00 น.ล้อต้องเลื่อน เช้านี้แป๋มเลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะหมัดไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย

“พี่โป่ง ที่นั่นอากาศน่าจะดีนะ บรรยากาศก็คงจะดีด้วย เคยได้ยินแต่ชื่อและเห็นในภาพถ่าย ไม่เคยเห็นสถานที่จริงสักที วันนี้ถือว่าโชคดีที่ได้มาทำงานที่นั่น ขอบใจนะพี่ ที่ให้โอกาสหนู ในครั้งนี้”

       โป่งมองดูข้างทางระหว่างไปแล้วก็พูด “แน่นอน นี่ดูซิ ดูวิวข้างทางซะก่อน สดสวยเลิศสแมนแตนขนาดไหน” แป๋มกำลังมีความสุขกับภาพที่เห็น

“เอ้อ ถ้าจะขอบใจจริงๆ คงผิดคนแล้วหละ ไม่ใช่พี่นะ” แป๋มงง

“อ้าวทำไมหละ ก็พี่เป็นคนคัดเลือก นางแบบไม่ใช่เหรอ”

“เมื่อก่อนหนะใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เป็นหน้าที่ของไอ้ช้างมัน พี่พึ่งเปลี่ยนกับมันมาได้ไม่ถึงเดือน”

“ดี ถ้างั้น หนูก็จะไปขอบคุณพี่ช้าง” โป่งหันมาได้คราวนี้ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตอบ แจ๋วตอบแทนเสียก่อน

“พี่หมัดต่างหาก ที่แกควรจะไปขอบคุณไม่ใช่พี่ช้าง” แป๋มงงมากจึงหันหลังไปถามเพื่อน

“ทำไม นายนั่นเขามาเกี่ยวอะไรด้วย” แจ๋วกำลังจะบอกความจริงบางอย่าง แต่โป่งห้ามไว้ ส่ายหน้า แจ๋วเลยไม่พูดอะไรมาก

“เออๆ เอาเป็นอันว่า คนที่แกควรจะขอบคุณและทำให้แกได้มาถ่ายแบบในวันนี้ คือพี่หมัดก็แล้วกัน แกรู้แค่นี้พอแล้ว”

       แล้วแจ๋วก็ไม่พูดอะไรอีกเลยไปตลอดทางจนถึงที่หมาย จึงทำให้มีปริศนาเกิดขึ้นสำหรับแป๋มในเวลาต่อมาทันที

“อีตานี่เป็นใครกันนะ ทำไมคนที่นี่ถึงกลัวและให้ความเกรงใจกันจัง ก็แค่ตากล้องปัญญาอ่อนคนนึง ไม่เห็นที่จะต้องกลัวเลย”

\\\\\ ----- /////

       ไม่นานรถบัสแอร์ฉ่ำคันใหญ่ก็มาจอดที่สวนหลวง ร.9 ในเวลาประมาณ 10.35 น. ทุกคนทยอยเดินลงมายืดเส้นยืดสายข้างล่าง

“เอ้าๆ ใครอยากที่จะทำธุระส่วนตัวก็เชิญที่ห้องน้ำทางโน้นเลยนะ แล้วรีบกลับมารวมตัวกันที่นี่ เชิญ” แจ๋วตะโกนบอกทุกคน

       พวกกลุ่มนางแบบรีบไปจัดการธุระส่วนตัวกัน ช้างกับโป่งลงมาบิดขี้เกียจ สำหรับช้างหลับมาตลอดทาง

“กูหละเบื่อมาก เดินทางไกลๆแบบนี้ ได้งีบแบบนี้ก็หายเบื่อได้บ้าง” ช้างสบายตัวไปแล้ว

“เออ สบายแล้วซิมึงหนะ กูเห็นหลับมาตลอดทาง ว่าแต่ไอ้หมัดมันมาถึงหรือยังเนี่ย ไหนมันบอกว่ามันจะมาไง”

       โป่งเจอหมัดในตอนเช้าสวนกัน นึกว่ามาแล้ว แป๋มจึงใส่ไฟทันที

“หนีงานซะแล้วมั้ง หรือไม่ก็กลับไปนอนต่อ” โป่งจึงรีบพูดแก้ตัวให้ทันที

“ทำไมพูดแบบนั้น ไม่มั้ง ไอ้หมัดมันไม่ใช่คนแบบนั้น ยัยแป๋ม แกก็ไปใส่ร้ายมัน นิสัยเพื่อนคนนี้ พี่รู้ดี ถึงมันจะดูเหลอะแหละ แต่เวลาทำงาน มันทำเต็มที่นะจะบอกให้”

       วันนี้โป่งพูดได้ดีมาก จนทำให้แป๋มจ๋อยไปเลย เงียบไปพักใหญ่ สักพักเริ่มใหม่เมื่อคิดได้

“ก็จริงไหมหละพี่ ถ้ามาก็ต้องเห็นแล้วซิ” คราวนี้แจ๋วพูดเสริมขึ้นมาอีกคน

“พี่หมัดหนะ เค้าเป็นคนไม่เหลวไหลหรอก เผลอๆปาดนี้ ถึงที่นี่ก่อนเราเสียอีกมั้ง”

“ให้มันจริงเถอะ” พูดไม่ทันขาดคำ หมัดก็โผล่หน้าออกมา

       เขาเดินมาพร้อมกับลูกน้องอีกกลุ่มหนึ่งที่พึ่งกลับมาจากการจัดเตรียมฉากและอุปกรณ์ไว้อย่างดีเรียบร้อย สำหรับถ่ายทำได้เลย เมื่อมาถึง พร้อมถ่าย

“นั่นไงแก ผิดปากที่ฉันพูดไว้ไหม ไป พร้อมแล้วสำหรับงานของแก ไง พี่หมัด เค้าเกเรอย่างที่แกใส่ร้ายเค้าไหม”

“ทำไมต้องเรียกมันว่าพี่ทุกคำด้วย ไร้สาระหวะ ไปเลย ห่างๆฉันเลย ไอ้พวกไม่รักดี แกอยู่คนละฝ่ายกับฉันไอ้แจ๋ว ไปมด เราไปกัน”

       พอแป๋มกับมดเดินลับสายตาไป แจ๋วก็พูดออกมาเบาๆ

“สักวันไอ้แป๋ม ถ้าแกรู้ความจริงว่าคนที่แกเกลียดนักเกลียดหนา เป็นใคร แกจะต้องขอบคุณฉัน ถ้าไม่ใช่ฉันขอร้อง พี่หมัดคงจะไม่เอาแกมาหรอกวันนี้หนะ เห้อ ช่างไม่รู้เงาหัวตัวเองเอาซะเลย ไอ้แป๋ม”

       บ่นจบแจ๋วก็รีบตรงไปดูสคริปเพื่อเตรียมถ่ายทันที

“ทำมาช้านักวะ กูรอตั้งนาน” โป่งรีบขอโทษเพื่อน

“ขอโทษโว๊ย รถติดน่าดูเลยหวะ” พอหมัดเห็นแป๋มเดินลอยหน้าไปมาในงานวันนี้จึงแกล้งพูดแหย่เพื่อนทั้งสองออกไป

“ยัยนั่นมาด้วยเหรอ” ช้างพยักหน้า

“งั้นกูกลับ” หมัดทำท่าไม่พอใจขึ้นมาทันที

“อะไรกันวะไอ้หมัด” ช้างดึงแขนเพื่อนไว้

“มันจะอะไรกันนักกันหนาวะ มึงเห็นกะหน้ากูบ้าง กูเป็นคนเลือกน้องเค้ามานะ” ช้างขอร้อง

“มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบขี้หน้ายัยนั่นเลยจริงๆ พับผ่าซิ หยิ่ง ไม่มีมารยาท ไม่มีสัมมาคารวะ เห็นแก่ตัว ทำตัวแปลกแยก”  ไอ้หมัดบ่นอีกแล้ว คราวนี้ชุดใหญ่

“น่า..ยังไงก็เพื่องาน กูเห็นว่าเด็กมันเหมาะกับงานนี้จริงๆ” ช้างขอโอกาส

“มึงจะไม่ให้โอกาสเด็กมันบ้างรึไง อีกอย่างกูสงสารมัน บ้านมันจน รายได้ที่มันได้ ก็เอาไปช่วยเหลือพ่อแม่มันจริงๆ โดยเฉพาะพ่อมันที่ไม่สบาย นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลค่าใช้จ่ายสูงมาก กูสืบมาหมดแล้ว อีกอย่างเด็กคนนี้ไม่เคยเที่ยวกลางคืน เป็นเด็กดีจริงๆ ถ้ามึงไม่เชื่อ ก็ถามไอ้แจ๋วมันดู เพื่อนในก๊วนมัน กูไม่โกหกมึงหรอกเพื่อน” หมัดเมื่อได้ฟังเช่นนั้นก็จึงลดทิฐิลงมาได้มากโขทีเดียว

“กระเพาะตัวเองจริงๆ”

       ขณะที่เพื่อนทั้งสามกำลังยืนคุยกันอยู่ที่พุ่มไม้แห่งหนึ่ง สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นก็คือ อยู่ดีๆยัยแป๋มมาจากทางไหนไม่รู้ กระโดดถีบใส่หมัดอย่างแรงแบบไม่มีสาเหตุจากทางด้านข้าง จนหมัดกระเด็นล้มกลิ้งลงไปกับพื้นแบบไม่ทันตั้งตัว ทุกคนตกใจมากเมื่อได้เห็นภาพเหตุการณ์นั้น หมัดยังคงนอนนิ่ง

“เฮ้ยไอ้แป๋ม นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะไปกระโดถีบเพื่อนพี่ทำไม มันทำอะไรให้อีกหละ” โป่งตกใจมาก ทุกคนรีบวิ่งมาดูทันที

“ขอเตะไอ้ตัวหมัดหมาให้หายโมโหสักหน่อยอีกสักที เป็นไงเป็นกันวะ ตกงานฉันก็ยอม ทนฟังมานานแล้ว คันตีนจริงๆ”

“แกกำลังเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าแป๋ม” แจ๋วถามเพื่อน ก่อนที่อะไรมันจะบานปลายไปมากกว่านี้

“แกไม่ได้ยินเหรอ ว่ามันพูดว่าอะไรฉันบ้าง หาว่าฉัน หยิ่ง ไม่มีมารยาท ไม่มีสัมมาคารวะ เห็นแก่ตัว ทำตัวแปลกแยก พูดแบบนี้เท่ากับว่างานนี้ฉันก็หน้าด้านมานะซิ ในเมื่อมันไม่เต็มใจที่จะทำงานกับฉัน ไม่ทำก็ได้โว๊ย ทำไมต้องมาง้อคนอย่างมันด้วย ฉันไม่ทำก็ได้ เงินที่ได้ในวันนี้ มันจะซะเท่าไหร่เชียว อย่างดีก็แค่ 3 พัน” แจงรีบตะโกนบอกเพื่อน เพราะแป๋มกำลังเข้าใจผิด

“3 หมื่น” แป๋มตกใจมาก ขณะที่แป๋มกำลังยืนงงอยู่นั้น หมัดพอตั้งสติได้ ก็รีบกระโจนโถมเข้ามาใส่แป๋มทันที

       ทั้งสองคลุกฝุ่นกลิ้งลงไปยังที่โล่งอีกด้านนึง หมัดลุกขึ้นมาได้ จับคอเสื้อแป๋มขึ้นมาแล้วง้างหมัดจะต่อย แป๋มหลับตาไม่ตอบโต้ ยืนให้หมัดต่อย หมัดง้างมืออยู่นานก็ผลักแป๋มออกไปเพราะต่อยผู้หญิงไม่ลงถึงจะโกรธแค่ไหนหมัดก็ทำไม่ได้ ทุกคนใจหายใจคว่ำหมด แต่แป๋มยังไม่หมดฤทธิ์เดช คิดว่าหมัดคงไม่ทันตั้งตัว จึงกระโดดเตะหมัดอีกครั้ง แต่แล้วตัวเองก็พลาดลื่นล้มเคเก้ลงไปเสียก่อน มือข้างนึง คว้าคอเสื้อของหมัดติดมือลงไปด้วยพร้อมกันอีกครั้ง แป๋มได้โอกาสที่ทับอยู่บนตัวหมัด รีบลุกขึ้นนั่งทันทีแล้วตบหน้าซ้ายขวาซ้ายขวา หมัดจึงได้แต่หลบไม่ตอบโต้

“ไปแยกซิ ไอ้เวร ยืนดูกันอยู่ได้” โป่งตะโกนบอกพวกสาวๆ โดยเฉพาะมดกับแจ๋ว มดกับแจ๋วรับไปดึงตัวแป๋มขึ้นมาหิ้วปีกคนละข้าง

“พอได้แล้วไอ้แป๋ม” มดตะคอกใส่เพื่อน แป๋มจึงหยุดได้

       ช้างกับทีมงาน ลงไปดึงตัวหมัดขึ้นมา แล้วปัดเนื้อตัวให้ พวกเศษใบ้ไม้ใบหญ้าหลุดออกจากตัว และพาเดินขึ้นมานั่งพักด้านบน เอาน้ำให้ล้างหน้าและทาน

“จะเอายังไงวะไอ้หมัดหมา” แป๋มยังไม่หมดฤทธิ์ ยังซ่าส์ได้อยู่

“ถอนนะไอ้ที่พูดเมื่อกี้หนะ” หมัดชี้หน้าแป๋ม เพราะชักจะทนไม่ไหวแล้วกันนิสัยที่เอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ ไม่นึกว่าจะหนักกว่าที่คิด

“ไม่ถอน” แป๋มยืนยันเสียงแข็ง

“มีอะไรไหม” แถมยังลอยหน้าลอยตาเย้ยอีกต่างหาก

       หมัดทนไม่ไหวจริงแล้วๆคราวนี้กับเด็กคนนี้ จึงลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหา ผลักยัยแป๋มจนล้มลงไป ยัยแป๋มพอลุกขึ้นมาได้ วิ่งสวนเข้าไปต่อยทันที หมัดไม่สนใจ เอามือจับหมัดของแป๋มแล้วบีบเอาไว้ พร้อมกับผลักออกไปอย่างแรง จนแป๋มเซออกไปพอสมควร แป๋มยังไม่หยุดบ้า วิ่งเข้าไปหมายจะสู้หมัดอีก โป่งรีบตะโกนห้ามทันที

“เฮ้ย ไปกันใหญ่แล้ว แจ๋ว มด จับเพื่อนแกไว้ทีซิ” ทั้งสองรีบคว้าแขนไว้ได้ทันคนละข้าง

“ถอน” หมัดชี้ไปที่หน้าของแป๋ม หน้าตาแบบว่าโกรธสุดๆ ย้ำประโยคนั้น

“ถอนซิ ไม่งั้นวันนี้ ยกกอง”

“ไอ้แป๋ม ถอนซะแก แกก็พูดแรงเกินไป ถ้าแกไม่ยอมถอน งานวันนี้พังหมดแน่ นะ ทำเพื่อส่วนรวม”

       แป๋มหันไปมองหน้าเพื่อนนางแบบทุกคน ที่กำลังจ้องมองเธอเป็นสายตาเดียวกัน อยู่ที่การตัดสินใจของแป๋มคนเดียวเท่านั้น ว่าจะจบหรือไปต่อ เพราะความเอาแต่ใจตัวเองของแป๋ม แป๋มเลยต้องยอมแพ้ ไม่อยากได้ชื่อว่าทำให้เพื่อนๆเสียงานในวันนี้ ยอมตกงานคนเดียว

“ก็ได้ ฉันถอน” ทุกคนโล่งอก จึงแยกย้ายกันไปเสียที

“เอ้า ฉันถอนแล้ว แต่นายก็ต้องขอโทษฉันด้วย” ยัง ยังมีก๊อกสอง ไม่ยอมจบง่ายๆ

“จะเอายังไงอีกเล่า เรื่องมากจริงแม่คนนี้” หมัดพูดใส่หน้าแป๋ม

“อ้าว ไหนบอกว่าลืมหมดแล้วไง ไอ้แป๋ม” โป่งพูดขึ้นมา

“ลืมได้ยังไงหละพี่ พูดหมาๆอย่างนั้นหนะ เป็นพี่ พี่พอใจและรับได้เหรอ” หมัดรีบสวนทันควัน

“ก็วันนั้น ฉันพูดยังไม่ทันหมดประโยคเลย เธอก็โวยวายออกมาก่อน แล้วยังงี้จะมาว่าฉันผิดได้ยังไง”

“พี่ พี่ดูไอ้หมัดหมามันพูดซิ มันยังหาว่าฉันผิดอยู่อีก ตัวเองผิดแล้วยังไม่ยอมรับ” แป๋มเริ่มเดือดขึ้นมาอีกครั้ง

“วันนั้นกูจะให้แม่คนนี้เค้าแก้ผ้าพันคอออกมึงก็เห็น เพราะมันต้องเปลี่ยน Set ถ้าไม่เปลี่ยน แล้วจะถ่ายต่อได้ยังไง จริงไหม” แป๋มหน้าถอดสีเลย เมื่อนึกขึ้นได้

“ถ้าไม่จำเป็น กูจะไม่มาถ่ายให้เลยจริงๆพับผ่าซิไอ้ช้าง” หมัดชักจะหมดความอดทนแล้ว

“กูถามมึงจริงๆเถอะ ว่ามึงไปขุดเอาตัวยัยนี่มาจากหลุมไหนวะ ถึงฟังภาษาไทยแล้วตีความไม่ถูกหนะ คนไทยหรือเปล่าวะ มึงอย่าบอกนะว่าเป็นพม่า ลาวหรือเขมรหนะ”

“น่าๆ เลิกแล้วกันไปนะ ถือว่าพี่ขอ งานจะได้เริ่มสักที นี่ก็จะเที่ยงแล้ว สองทุ่มจะเสร็จไหมเนี่ย ที่นี่เขาปิด ทุ่มนึงนะ เอ้าๆไปไป แยกย้าย แยกย้าย ไปแป๋มเลิกๆ ไปทำงาน เปลี่ยนชุด”

       ว่าแล้วทั้งหมดก็สลายตัว เริ่มทำงานกันได้เสียที หมัดมีสปีริตเสมอ งานก็คืองาน ก่อนไปทำงาน ไอ้ช้างก็เกิดบ้าอะไรขึ้นมาไม่รู้

“เฮ้ยไอ้หมัด” หมัดกำลังเช็คกล้องเพื่อทำงาน

“มีอะไร”

“ทำไม ไม่เปลี่ยนจากเกลียด มาเป็นชอบหละวะ ง่ายดี”

       พูดเสร็จ ช้างก็กอดคอโป่งเดินไปหานางแบบ ปล่อยให้หมัดคิดอะไรเล่นๆ ไม่นานงานก็เริ่มขึ้นได้เสียที ระหว่างที่ถ่ายแบบ อยู่ดีๆหมัดก็เริ่มลังเลใจคิดตามที่เพื่อนบอกเอาไว้ สมาธิเริ่มไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวเสียแล้ว เพราะเวลาตามองยัยแป๋มแล้วกดชัตเตอร์หลายภาพขึ้น ก็ทำให้ภาพของยัยแป๋มติดตามันมากขึ้นๆ จนกลับเอาไปนอนคิดทั้งคืน คิดถึงแต่หน้าของแป๋มและคำพูดของช้างก้องดังอยู่ในหัวสมองตลอดเวลา

“ไม่น่า เป็นไปไม่ได้ ฉันเกลียดเธอฉันไม่ได้คิดถึงเธอ” คืนนั้นไม่รู้ว่าหมัดได้นอนหรือเปล่า

***** ///// *****

       ที่เดิมอีกแล้ว โรงแรมเดิม เช้าวันนี้ไอ้ก้างมาฟอร์มใหม่ หลังจากที่หายหน้าไปหลายวัน

“สวัสดีครับ นี่สำหรับคุณ” ปลางง

“ให้ฉันทำไมคะ”

“ก็ขอบคุณ สำหรับเมื่อหลายวันก่อน ที่บอกทางสว่างให้กับผมไงครับ”

“โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดิฉันถือว่าทำบุญทำทาน อีกอย่าง มันเป็นหน้าที่ของดิฉัน คุณไม่เห็นป้ายเหรอคะ ตาไม่ดีรึไง ก็บอกอยู่แล้วว่า ประชาสัมพันธ์ไงคะ นี่ไง”

       ปลาชี้ให้ดูป้ายที่วางอยู่ <เพ้ง> หน้าแตกซิครับท่าน ดอกไม้ที่ถือมา งอเหี่ยวเฉาไปทันทีถนัดตา

<<<<< ***** >>>>>

       หลายวันต่อมา เหตุการณ์ทำไมมันถึงได้เปลี่ยนไปได้แบบนี้ ยัยแป๋มเดินชนหมัดอีกแล้ว

“โอ๊ย” ยัยแป๋มเตรียมตัวจะด่า ถ้าเจ้าหมัดโวยวายใส่ แต่แปลกที่เจ้าหมัดเงียบ แต่มีเสียงตอบกลับมาเบาๆนิ่มๆ

“ขอโทษครับ” เล่ยเอายัยแป๋มงงไปเลย เพราะจริงๆแล้ว คำๆนี้ยัยแป๋มต้องเป็นฝ่ายพูด

       คนทั้งบริษัทอุตส่าห์ตั้งใจรอดูมวยคู่นี้ แต่กลับพลิกล๊อกเป็นมวยล้ม แป๋มหันกลับไปจะขอโทษซะหน่อย แต่ก็ไม่เจอ เพราะหมัดเดินพ้นประตูออกไปนานแล้ว แป๋มวิ่งตามออกไป แต่ก็ไม่เจอ ทั้งซ้ายทั้งขวา ก็หาไม่เห็น

***** \\\\\ *****

       ทางเจ้าก้าง ก็ไม่ย่อท้อ ที่จะรู้จักชื่อของยัยปลาให้ได้ แต่ก็แห้วอีก

“เออ คุณหนะ” ปลาหันมา

“คุณนั่นแหละ” ไอ้ก้างทำท่าทำทางจะดูเป็นความลับ

“ขา มีอะไรคะ” แล้วก็พูดเบาๆ

“จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป” ปลาทำท่าลึกลับเหมือนกัน และพยายามตั้งใจฟังสิ่งที่ก้างจะบอก

“คุณลืมรูดซิบ” ปลาเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก็ตกใจ รีบลุกขึ้นแล้วเอามือจับที่กระโปรงทันที

       เมื่อตรวจดูจนมั่นใจแล้ว ว่าไม่มีอะไรที่ผิดปกติ ก็รู้ว่าถูกหลอกแล้ว จึงรีบหันกลับมา ไอ้ก้างหายไปแล้ว สักพักก็มีโทรศัพท์เข้ามาที่มือถือของปลา ปลารีบรับทันที

“สวัสดีครับคุณคนสวย เอ ทำไมคนสวยๆถึงได้โง่จังเลยหละครับ คุณก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่ได้รูดซิบกระโปรง 5555+ สวัสดีนะครับ”

       พอวางสาย ยัยปลารีบเดินเข้าห้องน้ำทันที แล้วตรงเข้าห้องส้วมหนึ่งห้อง ปิดประตูแล้วร้องลั่น กรี๊ด สาวๆที่อยู่ในห้องน้ำตกใจไปตามๆกัน นึกว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่นานพอสบายใจแล้ว ก็ออกมาจากห้องนั้น แล้วแต่งตัวและก็เดินออกไป

>>>>> ----- <<<<<

       หลายวันมานี้ หมัดมีอาการแปลกไปจนเพื่อนๆงง จากคนที่เคยร่าเริง กลับกลายเป็นคนเงียบขรึม หนวดเคราที่เคยเกลี้ยงเกลา บัดนี้กลับงอกโผล่ขึ้นมาเต็มใบหน้า ดูเหมือนไม่ใช่หมัดคนเดิมอย่างนั้นแหละ ชอบเหม่อลอยเวลาทำงาน อะไรที่ไม่เคยทำ ก็ทำแปลกไป

“เฮ้ย ไอ้หมัดมันเป็นอะไรวะ ตาลอยๆพิลึก”

       ก้างถามขึ้นมาคนแรก ขณะที่นั่งดื่มกันอยู่ในผับแห่งหนึ่ง กับค่ำคืนที่แสนจะเงียบเหงา

“ไม่รู้” โป่งตอบ ขณะที่พวกเพื่อนๆกำลังเป็นห่วงหมัดอยู่ แจ๋วก็วิ่งตะโกนเสียงดังลั่นเข้ามาแต่ไกล

“ข่าวดีพี่ ข่าวดี” แจ๋ววิ่งมานั่งเพราะหอบ

“อะไรของเอ็งวะไอ้แจ๋ว” พอตั้งสติได้ก็รีบบอกทันที

“พรุ่งนี้วันเกิดไอ้แป๋ม ไปนะพี่ ที่บ้าน หนูพึ่งนึกขึ้นได้” แจ๋วหวังดี

“นึกว่ามันจะไม่จัด เพราะมันไม่ได้จัดมาหลายปีแล้วตั้งแต่พ่อมันป่วย แต่พอมันได้เงินก้อนนั้นไปแล้ว ผ่าตัดพ่อมันจนหาย พ่อแม่มันเลยจัดงานวันเกิดตอบแทนให้มัน ไอ้มดมันพึ่งโทรมาบอกหนูเมื่อกี้นี้เอง”

“ใครวะยัยแป๋มอะไรเนี่ย” ก้างเป็นคนเดียวในก๊วนที่ตกข่าวนี้ ช้างจึงกระซิบที่หูเพื่อน

“เด็กมัน แต่ทะเลาะกัน ไม่มีใครยอมใคร คิดถึงเค้า แต่ไม่กล้าไปง้อ กลัวเสียฟอร์มว่างั้น”   

<<<<<<<<< ---------- >>>>>>>>>

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 9 .. “ เปิดตำรารัก ตอน วุ่นชุลมุน 2 ”

ตอนที่ 8 .. “ เปิดตำรารัก ตอน วุ่นชุลมุน ”

รวมเรื่องสั้น นิยายรัก นักศึกษา (Romance Fiction - นิยายรัก)

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.