บทที่ 9...1/3
จอมขวัญเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติกระบี่และจัดการเรื่องกระเป๋าเดินทางเรียบร้อย จนกระทั่งเดินออกมารอรถในเวลา 9.50 น. ชานนได้โทรมาบอกเธอก่อนขึ้นเครื่องแล้วว่าทางฟาร์มมินธราจะส่งรถมารับในเวลา 10 โมงตรง หญิงสาวมองหารถ SUV สีดำที่อาจจะขับมาจอดตรงหน้าเธอตอนไหนก็ได้ เธอมีกระเป๋าเดินทางมาใบเดียวกับกระเป๋าเป้ที่สะพายหลังเท่านั้นทำให้พอจะคล่องตัวในการเดินทางอยู่ไม่น้อย เธอมองนาฬิกาอีกครั้ง อีก 5 นาทีจะ 10โมงแล้วและในตอนนั้นเองที่รถสีดำคันหนึ่งมาจอดข้างๆ กับที่เธอยืนรออยู่ ประตูรถฝั่งข้างคนขับเปิดออก แล้วชายคนหนึ่งในชุดสูทสีดำก็เข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
“คุณชานนส่งพวกผมมารับคุณจอมขวัญครับ”
“ขอบคุณที่มารับนะคะ”
จอมขวัญมองอย่างระแวดระวัง แต่เพราะชายคนนี้เอ่ยชื่อของชานนและทะเบียนของรถก็ตรงกับที่เธอได้รับมาจากชานนทำให้วางใจพอจะส่งกระเป๋าเดินทางให้ แล้วเดินมาขึ้นรถ ประตูสไลด์เลื่อนเปิดให้เห็นว่าไม่ใช่แค่เธอที่จะเดินทางไปกับรถคันนี้
“อ้าว ทำไมคุณ...” หญิงสาวลืมตัวชะงักขาที่กำลังจะก้าวขึ้นรถไป ก่อนจะถอนใจเบาๆ แล้วก้าวเข้าในนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ กับปรานต์ที่นั่งอยู่ด้านใน
“ผมเดินทางมาเที่ยวบินเดียวกับคุณ แต่คนละที่นั่ง”
ปรานต์เลิกคิ้ว จอมขวัญช่างไม่รู้สึกตัวเสียเลยว่าถูกเขามองมาตั้งแต่เธอเดินผ่านเพื่อไปที่นั่งของตัวเอง หากเขาเป็นมือปืน เธอคงตายไปแล้ว ช่างมีสัญชาติญาณของการระวังภัยต่ำเสียจริง
“ไม่ดีหรือ มีแหล่งข่าวอยู่ใกล้ๆ ให้ถามได้ตลอดเวลา”
จอมขวัญอยากยิ้มรับคำพูดที่เหมือนทำให้หัวเราะ แต่เธอหัวเราะไม่ออก แม้ว่ากระจกของรถคันนี้น่าจะกันกระสุนได้ก็ตามเถอะ
“ฉันกลัวใครจะมาแจกกระสุนให้ แล้วฉันถูกลูกหลงมากกว่านะคะ”
ปรานต์ฟังแล้วหัวเราะชอบใจ “ดีจะตาย อย่างน้อยเวลาที่ตาย เราสองคนยังได้เห็นหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย”
“ดียังไงคะ”
“อย่างน้อยก็ไม่ได้ตายอย่างโดดเดี่ยวน่ะสิ” ปรานต์แกล้งทำหน้าขบขันสบายใจ แม้สิ่งที่พูดจะเป็นความจริงทั้งหมด “คุณคงไม่เคยรู้ แต่ผมเคยรู้ว่าการที่ใครสักคนที่เรารักมากต้องจากไปแบบนั้น หากเลือกได้ ผมคงอยากอยู่ตรงนั้นไปด้วยกัน”
ใครหรือที่เขารักมากและได้จากไปแล้ว จอมขวัญรู้สึกได้ถึงความขมขื่นจากน้ำเสียงที่เหมือนจะขบขันจากปรานต์ คนที่ดูพร้อมพรั่งสมบูรณ์แบบมีหรือที่จะไม่เคยพบกับความสูญเสีย
“แต่ถ้าจะให้ดีฉันขอให้เราทั้งหมดเดินทางปลอดภัย ไม่มีอะไรระหว่างทางนะคะ”
ปรานต์กดยิ้มที่มุมปากพลางถอนใจเบาๆ การเดินทางกับเขาในช่วงเวลาก่อนที่จะเกิดการประมูลสัมปทานรังนกรอบใหม่ไม่อาจหาความปลอดภัยได้หรอก แต่เขาจงใจไม่ถอนตัวเพื่อเหตุผลบางอย่างที่ไม่ใช่เพราะเม็ดเงินมหาศาล แต่เพื่อใครสักคนที่เขาอยากแก้แค้นให้ จอมขวัญอยู่ในโลกที่ปลอดภัย ไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าการเสี่ยงเพื่อสิ่งที่มีค่าซึ่งเงินไม่สามารถซื้อมาได้นั้นต้องแลกมาด้วยอะไร การที่เขายืนกรานไม่อยากแต่งงานกับเธอไม่ใช่เพราะไม่ชอบ แต่เป็นเพราะไม่อยากดึงเธอเข้ามาในโลกที่แสนอันตรายของเขาต่างหาก
ผ่านไปเพียงเดือนเดียว แต่จอมขวัญยังจำครั้งแรกที่มาฟาร์มมินธราได้ ตอนนี้เธอต้องกลับมาเก็บข้อมูลและถ่ายรูปเพื่อนำไปประกอบในสกู๊ปข่าว ซึ่งปรานต์เป็นหัวข้อหลักของข่าวในสกู๊ปของเธอในคราวนี้
นักธุรกิจที่จงใจเปิดตัว ทั้งที่ก่อนหน้านี้แทบไม่ยอมเผยใบหน้าในสื่อต่างๆ หญิงสาวคิดว่าเขาคงต้องการบุกเบิกธุรกิจหอยมุกให้เป็นเครื่องประดับที่ติดตลาด โดยใช้ภาพลักษณ์ของตัวเองเป็นในเบิกทาง ซึ่งก็น่าจะได้ผลเพราะความหล่อเหลา ใบเคร่งขรึมเป็นนิจ แต่เวลายิ้มก็คงทำให้สาวๆ ใจละลายตกหลุมเสน่ห์ได้ไม่ยาก
รถจอดหน้าบ้านที่จอมขวัญเห็นตอนมาครั้งแรก ซึ่งพอจะรู้ว่าเป็นบ้านของคุณคฑาที่อยู่กับลูกชายเพียงคนเดียว โดยอยู่ไม่ไกลจากฟาร์มที่จะนั่งรถกอล์ฟหรือขี่จักรยานไปก็ได้ หากเดินก็อาจจะไกลจนเหนื่อยสักหน่อย หญิงสาวลงจากรถพลางยิ้มให้ศกที่มารอรับอยู่พอดี
“เจอกันอีกแล้วนะครับ คุณจอมขวัญได้รับของรางวัลไปแล้วถูกใจไหมครับ” ศกทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างคนอารมณ์ดีของเขา
จอมขวัญอดที่จะหันไปมองปรานต์ที่ได้รับของรางวัลเหมือนกันไม่ได้ คนน่าโมโหที่บอกให้เธอชกหมอนที่มีรูปใบหน้าของเขา แถมเขาเองยังบอกว่าจะทำแบบเดียวกัน
“จอมมาทำงาน 2 วัน รบกวนคุณศกอีกแล้วค่ะ ส่วนเรื่องของรางวัล คุณศกน่าจะส่งผิดมั้งคะ ถ้ายังไง...”
“ตอนแรกเหมือนจะส่งผิด แต่ตอนนี้ไม่ผิดแล้วครับ” ศกยกมือว่อนพลางยิ้มให้ปรานต์กับจอมขวัญไปพร้อมๆ กัน เพราะคนสั่งเขาคือนายหัวใหญ่ “แข่งอาร์ซีเป็นคู่ การมีความทรงจำของคู่ตัวเองก็ถูกแล้วนะครับ”
“ความทรงจำแบบไหนดี” จอมขวัญหัวเราะเบาๆ แต่พอเห็นว่าปรานต์เหล่มองมาก็เม้มปาก
ปรานต์หัวเราะฮึๆ อยู่ในลำคอ พอเห็นว่าบอดี้การ์ดส่งกระเป๋าเดินทางทั้งหมดให้แม่บ้าน จึงบอกจอมขวัญว่า “แม่บ้านเอากระเป๋าเดินทางไปเก็บที่ห้องรับแขกให้คุณแล้ว ถ้าคุณอยากพัก...”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเริ่มงานเลยดีกว่า” หญิงสาวบอกปรานต์ก่อนจะหันไปคุยกับศกต่อ “เราไปกันเถอะค่ะ ถ้าตรงไหนถ่ายไม่ได้ คุณศกบอกจอมได้เลยนะคะ บางอย่างถ้าเป็นความลับ จอมจะไม่ถ่ายรูปออกไปค่ะ”
“ถ้าในกระบวนการเลี้ยงหอยมุกก็ไม่มีความลับอะไรหรอกครับ แต่ในด้านข้อมูลคงเปิดเผยไม่ได้ครับ”
ศกพาจอมขวัญเดินมาที่รถกอล์ฟที่เตรียมไว้รออยู่ก่อนแล้ว เขารับหน้าที่ขับแล้วแขกของฟาร์มนั่งที่เบาะหลัง จอมขวัญเปิดกระเป๋าเป้หยิบหมวกออกมาใส่พร้อมๆ หยิบยางมัดผมออกมา แล้วรวบๆ ผมก่อนจะมัดไว้ลวกๆ ปรานต์มองตามก่อนยิ้มบางออกมา ดูเหมือนว่าเธออยากไปจากเขาไวๆ จนไม่ร้องขอน้ำสักแก้วด้วยซ้ำ
ศกพาจอมขวัญเข้าไปในฟาร์มที่ค่อนข้างเข้มงวดสำหรับคนที่เข้าหรือออก เขาบอกเธอว่าธุรกิจนี้ของปรานต์ทำมาได้ 5 ปีแล้ว มีการส่งออกตลอด แต่ที่เพิ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเพราะปรานต์มีหลายธุรกิจ ทำให้ไม่มีเวลาว่างมากนัก แต่เพราะคิดว่าหากในอนาคตไม่ทำสัมปทานรังนกแล้ว งานในส่วนนี้จะสร้างรายได้มากพอและขยายต่อไปในเกาะอื่นๆ ได้ ชาวบ้านจะมีรายได้จากการเลี้ยงหอยมุก ระหว่างที่เดินดูศกก็อธิบายไปด้วยว่าไข่มุก หรือหอยมุกนั้นเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำที่นิยมเลี้ยงเป็นอย่างมากในแถบทะเลอันดามัน โดยสามารถพบเจอหอยมุกตามธรรมชาติได้ไม่บ่อยนัก จึงมีการเลี้ยงเป็นฟาร์มมากกว่า หอยมุกนั้นถือเป็นสัตว์น้ำที่หาได้ยากมาก ถ้าตามหลักการทางธรรมชาติแล้วมักจะเป็นหอยที่อาศัยอยู่ในน้ำลึกเป็นหลัก ถือได้ว่าเป็นสัตว์หายากชนิดหนึ่งเลยทีเดียว ตัวไข่มุกที่ได้จากหอยมุกนั้นก็ถือว่าเป็นผลผลิตที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง และหาได้ยากเช่นกัน โดยเชื่อกันว่าไข่มุกเป็นอัญมณีของท้องทะเล ช่วยเสริมสร้างความมีสง่าราศีให้กับสตรีเพศ ก่อให้เกิดความนุ่มนวลชวนหลงใหล อ่อนหวาน และแก้ปัญหาด้านอารมณ์ได้เป็นอย่างดี หอยมุกนั้นถ้ายิ่งเลี้ยงไว้นานก็จะช่วยให้ไข่มุกที่ได้นั้นมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น มีความสวยงามมันวาวมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วตลาดไข่มุกนั้นค่อนข้างจำกัด เพราะมีราคาสูง ต้องมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ได้แก่ มลภาวะทางน้ำ อุณหภูมิของน้ำและอากาศ รวมไปถึงความอุดมสมบูรณ์ของทะเล
ช่วงที่หอยมุกเริ่มกินอาหารนั้นอาจจะมีทรายเข้ามาปะปนอยู่ด้วย หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปภายในตัวหอย ซึ่งสัมผัสกับเนื้อเยื่อหุ้มอยู่ด้านนอกของหอย เมื่อเนื้อเยื่อได้รับการกระตุ้นก็จะขับสารที่เรียกว่า แคลเซียมคาร์บอเนต ออกมาเคลือบสิ่งแปลกปลอมเพื่อที่จะช่วยลดการระคายเคืองในตัวหอย พอนานเข้าสารนี้ก็เคลือบสิ่งแปลกปลอมเป็นชั้นๆ จนเกิดเป็นไข่มุกที่มีลักษณะแข็ง แวววาว และคล้ายเป็นไข่มุกก้อนใหญ่ขึ้นมา
หอยมุกที่พร้อมจะทำการเก็บเกี่ยวมีอายุได้ 2-4 ปี โดยหอยมุกที่เลี้ยงไว้นานเป็นปีๆ นั้นจะให้ไข่มุกที่มีขนาดใหญ่ และสวยงาม แต่ถ้าเลี้ยงไว้นานเกิน 5 ปีขึ้นไป หอยมุกก็จะเริ่มคายไข่มุกออกมาเอง ซึ่งช่วงเวลาที่เก็บไข่มุกนั้นถือว่าเป็นช่วงที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ถ้าเก็บในช่วงฤดูหนาวหรือปลายฤดูหนาวจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับไข่มุกมากที่สุด โดยอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์
ศกพาจอมขวัญไปดูไข่มุกสวยๆ ที่ทางฟาร์มเก็บไว้ไม่ได้ขาย เขาบอกเธอว่าบ่าย 4 โมงจะพาไปดูวิธีเก็บไข่มุก ซึ่งอยู่อีกฝั่งของฟาร์ม เนื่องจากตอนนี้เที่ยงแล้ว เขาจึงพาเธอมานั่งกินอาหารที่ริมโป๊ะซึ่งเห็นวิวทะเลรอบตัว เขาบอกเธอว่าตรงนี้วิวสวยที่สุด ปรานต์จึงออกแบบให้มีที่นั่งกินอาหารหรือดื่มตรงส่วนนี้ หญิงสาวเห็นด้วยกับปรานต์ว่าบริเวณนี้สวยจริงๆ หากเขาเปิดฟาร์มเพื่อการท่องเที่ยวแบบเต็มรูปแบบ ไม่ใช่เฉพาะคณะเยี่ยมชมที่รู้จักกัน มุมนี้จะต้องดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เยอะเชียว เธอถ่ายรูปวิวและมุมนั่งเล่นไปมากทีเดียว หากเขาอยากให้ช่วยโปรโมท เธอจะนำไปลงในสกู๊ปข่าวของเขาให้อย่างแน่นอน
“คุณจอมขวัญจริงๆ ด้วยรวีได้ยินปรานต์บอกว่าคุณจอมขวัญมาทำข่าวที่ฟาร์มเลยแวะมาหาค่ะ” จารวียิ้มกว้าง ช่างดีเหลือเกินที่วันนี้เธอได้หยุดพอดีเลยได้มาหาว่าที่เจ้าสาวของเพื่อนสักหน่อย
จอมขวัญยิ้มให้จารวี แม้จะไม่เข้าใจนักว่าอีกฝ่ายทำไมทำเหมือนดีใจที่เจอเธอแบบนั้น เธอคนนี้ใช่ไหมนะที่เป็นแฟนของปรานต์
“คุณจารวีมีอะไรอยากให้ฉันช่วยหรือคะ”
“เปล่าค่ะ ปรานต์บอกรวีว่าให้มาช่วยดูแลเรื่องอาหารให้คุณจอมขวัญเพราะว่าอีกไม่นานจะต้องผ่าตัด”
จารวีจึงไม่ได้มามือเปล่า แต่มีของบำรุงสำหรับจอมขวัญด้วย พ่อคนปากแข็ง ปากบอกว่าไม่สนใจ แต่โทรตามเธอมาช่วยดูแลจอมขวัญอย่างนี้ ไม่รู้จะทำฟอร์มไปทำไม ถึงจะเริ่มจากคลุมถุงชน แต่ถ้าชอบกันจริงๆ ก็ดีไม่ใช่หรือ
“ผ่าตัด...คุณปรานต์รู้ได้ยังไงคะ ฉันไม่ได้บอกใครเลย” จอมขวัญแปลกใจ นอกจากเธอกับหมอและพยาบาลที่ช่วยดูแลในการตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของเธอพร้อมสำหรับการผ่าตัด นอกจากนี้แล้วยังไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเธอจะทำอะไร แม้กระทั่งแม่ แต่ปรานต์รู้ได้อย่างไรกัน
“เอ รวีก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ”
จารวีชักไม่แน่ใจ ปรานต์ดูใส่ใจจอมขวัญแบบที่เจ้าตัวคงไม่รู้ ถ้าอย่างนั้นจอมขวัญรู้ตัวหรือยังว่าเป็นว่าที่เจ้าสาวของปรานต์ “แต่ดีแล้วล่ะค่ะ การเตรียมตัวให้ดีเรื่องอาหารการกินก่อนผ่าตัดเป็นเรื่องที่ดีนะคะ”
จารวีวางของกินที่เตรียมมามีทั้งข้าวกล้อง ผัดพริกหวาน เต้าหู้ทรงเครื่อง ผัดผักคะน้า ของกินเล่นจำพวกถั่ว แล้วยังมีโยเกิร์ตที่มีไขมันต่ำ ส่วนอีกกล่องเป็นผลไม้มีกล้วย มะละกอ สตรอว์เบอร์รี จอมขวัญเห็นแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าจารวีตั้งใจทำอาหารมื้อนี้มาอย่างตั้งใจ ปรานต์ช่างมีแฟนที่ใจกว้างและอ่อนโยนมาก พออีกฝ่ายนั่งลงฝั่งตรงข้าม จอมขวัญก็เกรงใจจนพูดออกไปว่า
“คุณปรานต์ขอให้คุณจารวีทำแบบนี้ เอ่อ แบบว่า คุณจารวีไม่รู้สึกลำบากใจหรือ เอ่อ บอกไว้ก่อนตรงนี้นะคะว่าฉันกับคุณปรานต์นอกจากเรื่องงานแล้ว ไม่มีอะไรมากกว่านั้นแน่นอน”
พอจารวีฟังแล้วก็มั่นใจทันทีว่าจอมขวัญคงไม่รู้เรื่องที่กำลังถูกจับคู่กับปรานต์อยู่แน่ๆ คราวก่อนที่ปรานต์ขอให้เธอมาแกล้งเป็นแฟนคงมีคนเชื่อจริงๆ แต่ดีแล้วล่ะที่จอมขวัญพูดขึ้นมา เธอจะได้เคลียร์ตัวเอง และยังได้ช่วยเพื่อนสักหน่อย
“รวรีกับปรานต์เป็นเพื่อนกันค่ะ คราวก่อนที่ปรานต์ทำเหมือนเป็นแฟนรวีจริงๆ แล้วรวีมาเป็นไม้กันแมลงให้แค่นั้นเอง เราสองคนไม่มีทางเป็นแฟนกันได้แน่นอน รู้จักกันมากเกินไป ปรานต์ก็มีนิสัยไม่น่ารักหลายอย่าง” จารวีพูดตามที่คิด พอนึกได้ก็รีบพูดต่อไปว่า “แต่นิสัยน่ารักๆ ของปรานต์ก็มีเยอะนะคะ”
จอมขวัญพยักหน้าไม่คิดว่าปรานต์ต้องมีไม้กันแมลงด้วย แล้วแมลงที่ว่านั้นเขาหมายถึงใคร ป่วยการที่จะถามเพราะไม่ใช่เรื่องของเธอสักหน่อย
“ขอบคุณนะคะ อาหารน่ากินมากเลยค่ะ”
“แต่ปรานต์น่าจะได้แต่งงานจริงๆ แหละค่ะ อีกไม่นานคงมีข่าวดี”
จารวีพูดหยอดแทนเพื่อนสักหน่อย แต่จอมขวัญกลับหัวเราะชอบใจ เพื่อนที่แสนดีคงได้แต่ภาวนาให้ปรานต์มีรูปทองที่จอมขวัญเห็นบ้าง
พนักงานบัญชีที่เพิ่งมากินข้าวห่างออกไปนิดหน่อยได้ทุกคำที่จารวีพูดตอนท้ายแล้วเริ่มจับโน่นมาชนนี่แล้วก็มองไปที่ว่าที่เจ้าสาวของเจ้านาย แต่ก็ยังไม่แน่ใจ ว่าที่เจ้าสาวของคุณปรานต์คือจารวีหรือว่ามีใครอีก
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ (พรุ่งนี้) ซ้อนกลรักเจ้าสาวมาเฟีย จะวางจำหน่ายที่ MEB หมด นิยายโรมานซ์ (ถ้าได้อ่านตัวอย่างใน meb บทที่ 10 จะเข้าใจว่าทำไมโบว์ถึงเลือกนิยายลงหมวดนี้นะคะ) โดยโบว์จะทำโปรโมชั่นลดราคาจาก 329 บาท เหลือ 149 บาท เป็นเวลา 21 วันค่ะ ลดกระหน่ำมากๆ
ส่วนโบว์จะลงให้อ่านถึงบทที่เท่าไหร่ เดี๋ยวแจ้งอีกทีนะคะ ตอนนี้ยังไม่หยุด up ยังลงให้อ่านไปเรื่อยๆ นะคะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 150
แสดงความคิดเห็น