บทที่ 4...2/3
แทบจะทันทีที่รถจอด คฑาก็กอดอกทำหน้าเคร่งใส่ลูกชายที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาเลยสักนิด การตายของปัถย์เมื่อ 5 ปีก่อนทำให้เขาไม่อาจมองข้ามเรื่องต่างๆ ในชีวิตของปรานต์ไปไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยจากคนเลวที่พร้อมจะใช้ทางลัดเพื่อให้ตัวเองได้เป็นผู้ชนะในธุรกิจ การเลิกกิจการเขาก็เคยคิด แต่ยังทำไม่ได้เพราะยังมีพนักงานอีกหลายร้อยชีวิตที่ฝากความหวังไว้กับมินธราที่เขาสร้างมาตั้งแต่สมัยหนุ่ม
ปรานต์ลงมาจากรถแล้วยิ้มให้พ่ออย่างรู้ตัวว่ากำลังฝืนคำสั่ง แต่ถ้าเขาไม่มาที่นี่คงไม่รู้อะไรอีกหลายอย่างที่ว่าพ่อเป็นห่วงสองแม่ลูกคู่นั้นมาก ทั้งๆ ที่ไม่น่ามีอะไรให้ห่วง
“ไอ้ลูกดื้อ บอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าช่วงนี้ให้อยู่ที่เกาะไปก่อน เอาไว้หลังประมูลสัมปทานรังนกอยากจะไปไหนพ่อจะไม่ห้ามเลย”
แทนที่จะสลดปรานต์กลับหัวเราะ เขาเข้าใจว่าพ่อกังวลอะไร แต่การนำอดีตมาคอยกำกับจนทำอะไรไม่ได้ก็คงจะเกินไปสักหน่อย
“ผมระวังตัวตลอดเวลาพ่อก็รู้นี่ครับ ถ้าไม่มีเรื่องด่วนผมคงไม่ลงทุนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาแบบนี้หรอก ถึงไม่บอกว่าเรื่องอะไรพ่อคงเดาได้อยู่ดี”
“ก็ได้ ถือเสียว่าไปดูหน้าว่าที่เจ้าสาวอีกรอบแล้วกัน เป็นยังไงชอบไหมปรานต์ ” สีหน้าของคฑาดีขึ้นทันทีแถมยังตบไหล่ลูกชายพลางพาเดินเข้าบ้าน
“ถ้าพ่ออยากแต่งงานใหม่ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะครับ”
ชานนก้มหน้าหัวเราะมองปรานต์ที่พยายามทำหน้าซื่อๆ ทั้งที่พกความเจ้าเล่ห์มาเต็มพิกัด คฑาถึงกับอึ้งไปเกือบวินาทีเต็มๆ
“ไอ้ลูกบ้า!” ไม่พูดเปล่ามือของคฑายังฟาดไหล่ลูกชายไม่เบานัก เขานึกอยู่แล้วปรานต์ต้องไม่ยอมง่ายๆ แต่จู่ๆ จะมาประเคนผู้หญิงให้เขามันใช่เรื่องเรอะ “พ่อหาเมียให้แก ไม่ใช่แกมายกให้พ่อ หนูจอมขวัญน่ารักจะตาย แกไม่เคลิ้มบ้างหรือวะ”
“บอกเหตุผลจริงๆ มาดีกว่าว่าพ่ออยากให้ผมแต่งงานกับจอมขวัญเพราะอะไร คนที่คิดแต่เรื่องธุรกิจอยู่ๆ จะให้ผมแต่งงานโดยที่ไม่มีเหตุผลแอบแฝงใครจะไปเชื่อ” ปรานต์กลับมาพูดเป็นการเป็นงาน
“เออ งั้นไม่ต้องเชื่อ” คฑาตอบตามตรง ก่อนจะเล่าว่า “ลิตาเป็นรักแรกของพ่อ อย่าเพิ่งอ้าปาก แต่แม่ของปรานต์ เป็นรักสุดท้ายของพ่อเหมือนกัน”
“แล้วไงล่ะพ่อ อยากสานต่อหรือไง แบบรุ่นพ่อไม่สมหวังก็เลยอยากให้รุ่นลูกสมหวัง โหย มันไม่ใช่ซีรีส์เกาหลีนะพ่อ อย่างนี้ผมไม่ความจำเสื่อมหรือตาบอดตอนใกล้จบหรือครับ”
คฑาส่ายหน้า คิดหรือว่าปรานต์แกล้งพูดไปนอกเรื่องแล้วเขาจะเขวไปด้วย ชานนกอดอกตั้งใจรอฟังคราวนี้คฑาคงไม่ยอมให้ลูกชายพาเข้ารกเข้าพงอีกแน่ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะปรานต์ไม่ถูกใจว่าที่เจ้าสาวก็คงเพราะไม่อยากแต่งงานจริงๆ
“พ่อเป็นคนบอกเลิกลิตาแล้วมาแต่งงานตามที่ปู่ของแกต้องการน่ะสิปรานต์ แต่ชาวบ้านกลับไปลือว่าลิตาทิ้งพ่อไปคบซ้อนทั้งที่จริงแล้วมันไม่จริงเลย คนที่ส่งลิตาไปที่อื่นก็คือพ่อเพราะถ้ายังอยู่ใกล้กันต่อไป ปู่ของแกอาจทำอะไรเด็ดขาด หลังจากนั้นสี่ปีพ่อถึงได้ข่าวว่าลิตาแต่งงานและกำลังท้อง”
“เรื่องราวก็สวยหรูดีนี่ครับพ่อ แล้วทำไมกลายเป็นผมต้องไปแต่งงานกับลูกสาวของรักแรกพ่อด้วยล่ะ” ปรานต์ถามด้วยสงสัยไม่ได้ตั้งใจกวนเลย
“อีกไม่เกินหกเดือนลิตาอาจจากโลกใบนี้ไปจากอาการตับวายเฉียบพลัน ลิตาเพิ่งรู้เมื่อเดือนก่อน ลิตาโทรหาพ่อในรอบ 30 ปีกระมัง พ่ออยากช่วยจึงช่วยหาหมอมารักษา ตอนนี้ให้ยาต้านการอักเสบและยากดภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิต้านตับ ตอนนี้อาการยังไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่ ”
ปรานต์แน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาด เขาเห็นลลิตายังยิ้มและหัวเราะกับจอมขวัญอย่างปกติ ช่างไม่เหมือนคนป่วยอย่างที่พ่อบอกเลยสักนิด
“ล้อเล่นน่าพ่อ แฟนเก่าของพ่อก็ดูแข็งแรงดีออก หรือถ้ามีเรื่องแบบนั้นจริงๆ ทำไมจอมขวัญถึงร่าเริงมีความสุข ไม่เห็นทุกข์ใจว่าแม่ใกล้ตาย”
คฑาถอนใจสงสารทั้งแม่และลูก
“หนูจอมไม่รู้น่ะสิ”
“อ้าว!”
“คนเป็นแม่น่ะไม่อยากให้ลูกทุกข์ใจ อยากให้ลูกมีความสุขมีคนดูแล พ่อก็เห็นว่าปรานต์ยังโสด” คฑาพาเข้าเรื่องได้ในที่สุด แต่ปรานต์ยังไม่วายรู้ทันอยู่ดี
“พอเลยพ่อ ถ้าเหตุผลคือต้องการเพื่อให้แฟนเก่าของพ่อสมหวังก่อนตาย ผมขอไม่เอาด้วยล่ะ ให้ทำอย่างอื่นดีกว่า ผมไม่ได้รักจอมขวัญ จอมขวัญก็ไม่ได้รักผม แต่งงานกันไปยังไงก็เลิกกันอยู่ดี ปล่อยให้เป็นเรื่องของธรรมชาติจัดหาดีกว่า ใช่ว่าจอมขวัญแต่งงานกับผมแล้วจะมีความสุขเสียเมื่อไหร่”
เหตุผลที่ปรานต์พูดมามีส่วนถูกอยู่มาก คฑาไม่แย้งลูกชายในเรื่องนี้ ถ้าเหตุผลของการชอบใครสักคนมีเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องก็ไม่เห็นจะยากตรงไหน
“พ่อขอแค่เดือนเดียว ปรานต์ไปใกล้ชิดกับหนูจอม แล้วถ้ายังไม่ชอบกันก็แล้วไป พ่อจะไม่ฝืนโชคชะตาของใครอีก ตกลงไหม ไม่อย่างนั้นพ่อคงเหลือวิธีเดียว”
“วิธีอะไรน่ะพ่อ” ปรานต์รีบถามเผื่อเขาจะตั้งตัวทัน
“จับปรานต์แต่งงานกับหนูจอมเองน่ะสิ อย่าลืมว่าเรื่องบังคับคนพ่อยังทำได้เก่งไม่ต่างจากตอนหนุ่มๆ หรอกนะ”
ชานนพยักหน้าเห็นด้วยทันที ขนาดปรานต์ที่ว่าเฮี้ยวและกล้าขัดคำสั่งคุณคฑา สุดท้ายก็ถูกทั้งบังคับและขอร้องจนเรียนจบกลับมาทำงานช่วยกิจการ
ปรานต์กอดอกนิ่งคิด การปฏิเสธคงทำให้คำพูดว่า ‘ไม่’ ในอนาคตเบาหวิว คงต้องทำให้พ่อเห็นว่าเขากับจอมขวัญให้อย่างไรก็ไปกันไม่ได้อยู่แล้ว
“ก็ได้ครับ แต่จะเจอกันกี่หนเชียว ผมคงกลับใต้คืนนี้แล้ว”
คฑารีบยกมือห้าม “ไม่ต้องรีบหรอกนะปรานต์ พ่อกลับเกาะเอง ปรานต์ดูแลทางนี้ก็แล้วกัน อีกไม่กี่วันก็เปิดตัวมินธราแล้วอยู่ยาวๆ ไปทั้งเดือน พ่อส่งคนมาดูแลความปลอดภัยเอง”
“ทีอย่างนี้ล่ะไวเชียวนะพ่อ” ช่างเป็นความปรารถนาดีที่ปรานต์อดที่จะเหล่พ่อไม่ได้
“ใครจะรู้ทันปรานต์ไปมากกว่าพ่อเล่าวะ ถ้าว่างช่วยส่งของให้ลิตาแทนพ่อด้วย หวังว่าจะไปส่งด้วยตัวเองไม่ใช่ให้ใครไปส่งแทน”
ปรานต์หลับตากัดฟันกรอดๆ “ผมไม่หนีหรอกน่า ไม่กลัวตกหลุมรักหนูจอมของพ่อด้วย
“ผมจะช่วยดูแลคุณปรานต์ให้ครับ” ชานนทำหน้าขึงขังเลยได้ยินเสียงแว่วๆ จากปรานต์ว่า...คนทรยศ แต่ไม่ได้จริงๆ จังอะไร
“พรุ่งนี้ผมจะไปหาว่าที่เจ้าสาวให้พ่อแล้วกันนะครับ ดึกแล้วพ่อไปนอนดีกว่า”
คฑายิ้มเรียบๆ แต่แฝงความรู้ทันไว้ โดยมีชานนเดินมาเพียงเขาพยักหน้า ถึงการสนทนาจะจบลงด้วยดี แต่ทั้งพ่อและคนสนิทต่างรู้ดีว่ามันไม่ราบรื่นอย่างที่เห็น
“ผมคิดว่าแปลกนะครับ ทำไมคุณปรานต์ถึงยอมตกลงง่ายกว่าที่คิดไว้”
“ปรานต์ ไม่ได้ยอมหรอก แต่อยากไปพิสูจน์มากกว่าว่าลิตากำลังหลอกฉันอยู่หรือเปล่า” คฑาส่ายหน้า แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้อยู่ดี “ไอ้พวกมั่นใจมากๆ มักตกหลุมที่ตัวเองขุดไว้ นนอยู่ทางนี้ก็ดูแลปรานต์แทนฉันด้วยแล้วกัน”
“ได้สิครับนายหัวใหญ่”
ชานนรับปากมั่นเหมาะสำหรับเขาแล้วคฑามีพระคุณเพราะเคยช่วยชีวิตเขาไว้ ส่วนปรานต์ก็ไม่ต่างจากน้องชายที่เขาห่วงด้วยใจสุจริต ไม่ว่าปรานต์รักใคร เขาก็รักด้วยและพร้อมปกป้องอยู่แล้ว
ไฟของร้านขนมลิต้าเปิดตั้งแต่ยังไม่หกโมงเช้า แม้ว่าจอมขวัญจะนอนดึกแต่ก็ตื่นเช้ามาตระเตรียมของสำหรับทำขนมให้ลลิตาเพราะไม่อยากให้แม่ทำงานหนัก ถ้าเธอทำงานในส่วนนี้ไว้พอ 7 โมงกว่าๆ มะลิก็มารับช่วงต่อพอดี งานก็จะเหลือน้อยแล้ว
จอมขวัญเช็ควัตถุดิบต่างๆ แล้วจดใส่กระดาษไว้ก่อนจะหยิบชามและหม้อออกมาวาง แล้วตามมาด้วยแป้งที่ต้องใช้ ถึงเธอจะไม่ได้จบคหกรรมแต่ก็ทำขนมเค้กได้เพราะแม่สอนมาตั้งแต่เด็กๆ แต่จะอร่อยหรือเปล่านั้นต้องลุ้นเอา
ลลิตาเข้ามาในครัวเห็นลูกสาวกำลังทำงานง่วนก็เลยไปเปิดตู้เย็นหยิบขนมปัง ผักกาดหอมและทูน่าออกมา จนเวลาผ่านไปแสงอาทิตย์ผ่านกระจกเข้ามา
“จอมร่อนแป้งให้เรียบร้อยแล้วนะแม่ ส่วนไข่ จอมไปซื้อมาเพิ่มให้แล้ว น่าจะพอสำหรับวันนี้” จอมขวัญตะโกนบอกมาจากซิงค์กำลังล้างชามและหม้อต่างๆ ที่เพิ่งใช้เพราะขืนปล่อยไว้ แม่คงมาล้างเองอีก
“รีบไปทำงานได้แล้วนะจอม เกือบ 7 โมงแล้ว ขอบใจมากนะลูก”
“มาขอบใจจอมทำไมล่ะคะ ถ้าจอมไม่ช่วยแม่ถึงจะแปลกค่ะ”
หญิงสาวคว้ากระเป๋ามาคล้องพาดไหล่ พอหันไปมองที่ประตูก็เห็นมะลิมาถึงพอดี
“จอมไปก่อนนะ ตอนเย็นจะซื้อแป้งเข้ามา แม่จะได้ไม่ต้องนั่งรถออกไปซื้อให้เหนื่อย”
ลลิตาเดินตามมาเร็วๆ พร้อมกล่องพลาสติกที่เพิ่งใส่แซนวิชลงไป “เอานี่ไปด้วยจ้า แม่ทำให้จอมจะได้มีอะไรกินระหว่างเดินทาง”
“น่ารักที่สุดเลย แม่ใครก็ไม่รู้” จอมขวัญรับกล่องใส่แซนวิชมาแล้วหอมแก้มแม่เร็วๆ ก่อนจะรีบออกมาจากร้านและวิ่งไปที่ป้ายรถเมล์
ปรานต์มองตามหญิงสาวในชุดกางเกงยีนสีซีดกับเสื้อกล้ามสีขาวซึ่งสวมทับด้วยแจ็คเก็ตสีน้ำตาลซึ่งดูเท่ๆ ต่างจากผู้หญิงที่เขาพบที่ฟาร์มโดยสิ้นเชิง
“แต่งตัวปกติก็ได้นี่นา แล้วไปแต่งตัวเชยๆ ทำไม”
ชานนพยักหน้าเห็นด้วย แต่ที่น่าสงสัยกว่าไม่ใช่การแต่งตัวที่เปลี่ยนไปของจอมขวัญหรอก แต่เป็นปรานต์ต่างหากที่มาเฝ้าดูสองแม่ลูกที่ร้านลิต้าตั้งแต่เช้าตรู่ทำไม ทั้งที่ไม่ออกจากรถไปทักทายสักคำ มาดูลาดเลาหรือว่าคิดแผนอะไรอยู่ก็ไม่รู้ล่ะ
พอจอมขวัญแต่งตัวปกติก็น่ารักใช่ไหมล่ะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 134
แสดงความคิดเห็น