บทที่ 13 เดิมพัน 1
ก่อนที่พวกไอจะต่อสู้ อาสึนะกับคาเสะก็พามายน์กับมายังบ้านของไบรท์ด้วยวงเวทเคลื่อนย้ายของคาเสะ เมื่อพวกเขามาถึง สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้ทุกคนต้องชะงักงัน เบื้องหน้าของเด็ก ๆ คือสามผู้คุมกฎ และโยดารวมไปถึงแอนนาที่กำลังยืนอยู่ด้วยท่าทางสง่างาม แววตาที่เย็นชาของแอนนาจ้องมายังกลุ่มของพวกเขา
"ในที่สุดก็มาได้สักที"
น้ำเสียงของแอนนาเรียบง่าย แต่กลับเต็มไปด้วยพลังอันน่าขนลุก เธอยกมือขึ้นเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยคำสั่งเสียงดัง
"เริ่มกลางอาณาเขตระดับ 5"
ทันทีที่คำพูดจบลง วงเวทขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจากพื้นดิน บาเรียที่มองไม่เห็นแผ่ปกคลุมรอบบ้านของโยดาอย่างรวดเร็ว สายตาของแอนนาหันไปจับจ้องอาสึนะและคาเสะ
"เด็กผู้ชายที่มีผมสีฟ้าไปไหน"
อาสึนะเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่คาเสะจะตอบแทนด้วยน้ำเสียงมั่นคง "ย่าหมายถึงรูรุใช่ไหม เจ้านั่นตามพี่ไอไปค่ะ"
หญิงชราได้ยินเช่นนั้นก็เบ้ปากเล็กน้อย ก่อนจะสบถออกมาอย่างหงุดหงิด "บ้าเอ้ย แย่แล้ว"
สายลมเย็นพัดผ่าน แอนนาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอึมครึม ก่อนจะกวาดสายตามองทุกคนอีกครั้ง เธอไม่พูดอะไร แต่แววตาของเธอแฝงความกังวลที่ยากจะสังเกตเห็น
ห่างออกไปไม่ไกล ชายหนุ่มสองคนยืนอยู่บนเนินสูง สายลมหนาวพัดผ่านทำให้เสื้อคลุมของพวกเขาสะบัด เมฆายืนอยู่ข้างชายหนุ่มผมทอง สายตาของเขาจ้องมองไปยังสถานการณ์ตรงหน้าอย่างเคร่งเครียด
"ฉันแปลกใจจริง ๆ" เมฆาเอ่ยขึ้น ขณะมองชายข้างกายด้วยหางตา
"ทั้งที่คนที่กำลังต่อสู้อยู่คือลูกของนายแท้ ๆ แต่นายกลับไม่คิดจะยื่นมือเข้าไปช่วย หรือว่าตั้งแต่เธอตายไป นายก็ไม่สนใจโลกใบนี้อีกแล้ว"
ชายผมทองถอนหายใจออกมาแผ่วเบา ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "ถ้าฉันไม่คิดจะช่วย ฉันคงไม่จัดการเผ่าเดม่อนที่ปรากฏตัวขึ้นหรอก"
"ถ้าอย่างนั้นหมายความว่ายังไง ทั้งที่นายจัดการพวกมันไปแล้ว แต่กลับปล่อยตัวนั้นไว้"
ชายผมทองเลิกคิ้วเล็กน้อยและหันมองเพื่อนด้วยสายตาลึกซึ้ง "ทั้งที่นายก็อยู่มานาน ผ่านโลกนี้มาหลายยุคหลายสมัย แต่กลับไม่เข้าใจเรื่องนี้ ฉันว่ามันแปลกจริง ๆ นะ ผู้ที่ชนะมหาสงคราม"
เมฆาหรี่ตาลงเล็กน้อย "อธิบายสิ"
"ฉันน่ะ ไม่ใช่ไม่อยากช่วยพวกนั้นหรอก แต่ว่าถ้าฉันลงมือ สิ่งที่พวกนั้นจะได้รับคือการสูญสิ้นทุกสิ่ง"
"นายหมายถึงอะไร?"
"พวกเขาต้องเติบโตด้วยตัวเอง การได้รับความช่วยเหลือจากเราในตอนนี้จะทำให้พวกเขาอ่อนแอลงในอนาคต"
เมฆาส่ายหน้าเล็กน้อย "แต่นายก็รู้ดีว่าศัตรูครั้งนี้ไม่ใช่แค่เผ่าเดม่อน แต่ยังรวมถึงพลังที่โลกนี้ไม่เคยเผชิญ"
ชายหนุ่มผมทองเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยแสงอาทิตย์สีแดงฉาน เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ แต่คำพูดของเขากลับก้องสะท้อนในอากาศรอบตัว
"โลหิตต้องไหลริน ย้อมผืนแผ่นดินให้เป็นสีชาด ชีวิตต้องดับสูญ แต่ถึงกระนั้น วิญญาณยังคงอยู่"
"สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ฉันพยายามทำมันก็สูญเปล่า" เมฆากล่าวพร้อมถอนหายใจหนัก ชายหนุ่มผมทองหันมามองเขาด้วยแววตานิ่ง
"ใช่แล้ว สิ่งที่พวกเจ้าได้ทำนั้นมันสูญเปล่าจริง ๆ"
ทั้งสองชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง แม้จะมองไม่เห็นร่างของผู้พูด แต่พวกเขาก็รู้ว่าชายผู้นั้นอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่แรก
"โอสถเทวะ จะเป็นตัวช่วยของพวกเจ้า เมื่อสามผู้คุมกฎได้ตัดสินใจถ่ายทอดความรู้ให้กับชายหนุ่มผมสีฟ้า ผู้ที่มีความรู้ของนักปราชญ์และระบบเวทวิทยา เมื่อนั้นมนุษย์จะสามารถอยู่รอดได้"
ชายหนุ่มผมทองยืนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวเสียงเย็น "ช่างเหมือนกันจริง ๆ แต่ว่าสุดท้ายแล้วมนุษย์จะเหลือเพียงอาณาจักรเดียว พวกมอนสเตอร์จะกลับมาอีกครั้ง และเผ่าเทพและปีศาจจะมาอยู่บนโลกนี้ด้วย"
ชายผู้ไร้นามกล่าวค้านทันที "ไม่ใช่ เจ้าเข้าใจผิด นอกจากมนุษย์จะต้องต่อสู้กับปีศาจอสูรกาย เผ่าเทพที่ต้องการหลอกใช้ และเผ่าปีศาจที่พยายามจะล่อลวง พวกเผ่ามนุษย์ยังต้องต่อสู้กับเลือดผสม ที่มีทั้งเลือดของเทพและปีศาจ พลังของมอนสเตอร์และอสูรกาย"
ทันใดนั้นบรรยากาศรอบตัวเงียบงันลง ความเย็นยะเยือกพัดผ่าน เมฆาและชายหนุ่มผมทองต่างมีเหงื่อไหลซึมเต็มใบหน้า พวกเขามองหน้ากัน ก่อนที่คำพูดสุดท้ายจะหลุดออกมาพร้อมกัน
"หรือว่า เผ่านั้นก็คือ..."
"เผ่าเดม่อน เผ่าที่พระเจ้าไม่ได้สร้างขึ้นมา ผู้ที่เป็นศัตรูทั้งมนุษย์ เทพ และปีศาจ"
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 227
แสดงความคิดเห็น