ตอนที่ 765 แหวนสายรุ้ง

-A A +A

ตอนที่ 765 แหวนสายรุ้ง

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 765 แหวนสายรุ้ง

“ดูนั่นจักรพรรดิกฎคนใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว” เทพดำจ้องมองไปยังหน้าจอด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียด

สนามรบโบราณไม่เพียงแต่จะเป็นสถานที่ที่เก็บซ่อนสมบัติเอาไว้อย่างมากมายเท่านั้น แต่มันเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการฝึกฝนอีกด้วย ช่วง 4 สัปดาห์ก่อนเข้าสู่สนามรบโบราณคือช่วงเวลาที่นักรบจำนวนนับไม่ถ้วนมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในรอบนี้ราชากฎขั้นที่ 9 จากเผ่ามารคนหนึ่งก็สามารถเลื่อนระดับกลายเป็นจักรพรรดิกฎในช่วง 4 สัปดาห์นี้ได้สำเร็จ

“แบบนี้สถานการณ์ของทางฝั่งเทพก็จะยิ่งเลวร้ายมากขึ้นกว่าเดิม ฉันกำลังคิดว่าบางทีพวกมารอาจจะจงใจส่งราชากฎระดับสูงสุดเข้ามาในสนามรบโบราณโดยเฉพาะ เพราะนักรบพวกนี้สามารถใช้ช่วง 4 สัปดาห์แรกก่อนเข้าไปยังสนามรบโบราณเพื่อพัฒนาพลังของตัวเองได้” 

“แล้วถ้าหากว่าใครสามารถที่จะพัฒนาจนกลายเป็นจักรพรรดิกฎได้จริง ๆ พวกเขาก็จะสามารถแย่งชิงสมบัติจากเผ่าเทพได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าการส่งราชากฎระดับสูงสุดมายังสนามรบโบราณเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวอย่างแท้จริง” เทพขาวกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

“พวกมันจะเจ้าเล่ห์มากจนเกินไปแล้ว และหากทุกอย่างเป็นจริงอย่างที่นายพูดแสดงว่าพวกมารคงจะเตรียมตัวล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี เมื่อไหร่ก็ตามที่ทุกคนเข้าสู่สนามรบโบราณ เมื่อนั้นพวกมันก็คงจะรวมตัวกันกวาดล้างนักรบจากเผ่าเทพอย่างแน่นอน”

“พวกเราจะปล่อยให้เกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้ไม่ได้ แม้ว่าในตอนนี้พวกเราจะถูกบังคับให้หลบหนีออกมา แต่นักรบพวกนั้นก็ยังถือว่าเป็นลูกหลานของพวกเราอยู่ดี โดยเฉพาะเซี่ยเฟยที่มีสายเลือดของสกายวิง เพราะตระกูลของพวกเขาเคยช่วยเหลือเผ่าเทพของเราเอาไว้มาก แม้แต่พ่อของเราก็ยังถือว่าเป็นหนี้บุญคุณสกายวิงด้วย” เทพดำกล่าว

“ใช่ ตระกูลสกายวิงมีบุญคุณกับพวกเรามากจริง ๆ พวกเราจะปล่อยให้เซี่ยเฟยถูกจัดการไม่ได้เป็นอันขาด ปัญหาก็คือผู้ที่มีพลังระดับจักรพรรดิกฎขึ้นไปไม่สามารถที่จะเข้าร่วมสนามรบโบราณได้ ถ้าหากว่าพวกเราฝ่าฝืนกฎ ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองเผ่าพันธุ์ก็จะยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้น” 

“ตอนนี้สถานการณ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายตึงเครียดมากพอแล้ว ถ้าหากว่าเราลงมือทำอะไรอย่างหุนหันพลันแล่นมากเกินไป มันก็อาจจะกลายเป็นชนวนของสงครามระหว่างทั้งสองเผ่าพันธุ์ได้เลย” เทพขาวกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

เทพดำชะงักค้างไปอย่างฉับพลัน เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันความขัดแย้งระหว่างทั้งสองเผ่าพันธุ์กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็มีการคาดคะเนว่าสงครามครั้งใหม่ใกล้ที่จะเริ่มต้นเต็มที ถ้าหากชนวนสงครามเกิดขึ้นจากการกระทำของพวกเขา เหตุการณ์นี้มันก็คงจะกลายเป็นสิ่งฝังใจของพวกเขาอย่างแน่นอน

“แม้ว่าการปรากฏตัวของพวกเราจะไม่ทำให้สงครามเริ่มต้นขึ้น แต่พวกตาเฒ่าเจ้าเล่ห์พวกนั้นจะต้องค้นพบตัวตนของพวกเราอย่างแน่นอน ในเวลานั้นพวกเราก็จะสูญเสียสถานที่ซ่อนตัวอันยอดเยี่ยมไป และเซี่ยเฟยก็อาจจะถูกจับตัวไปสอบสวนด้วยเนื่องมาจากนายได้มอบกฎแห่งความโกลาหลให้กับเขาไป” เทพขาวกล่าว

“ทำไมนายถึงพูดเหมือนกับเรื่องนี้เป็นความผิดของฉันคนเดียวล่ะ?” เทพดำกล่าวอย่างไม่พอใจ

“ก็ใครใช้ให้นายไปเอากฎแห่งความโกลาหลมาล่ะ แม้แต่ฉันก็พลอยซวยไปกับนายด้วยไม่ใช่เหรอ?” เทพขาวกล่าวอย่างไม่พอใจด้วยเหมือนกัน

“โชคร้ายจริง ๆ ที่เซี่ยเฟยต้องเข้าร่วมการทดสอบของโครงการอัลฟ่า ขณะที่คนอื่น ๆ สามารถพัฒนาพลังของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้สนามรบโบราณใกล้จะเปิดแล้วแต่ระดับของเขายังเป็นราชากฎขั้นต้นอยู่เลย มันคงจะดีถ้าหากว่าเขาพัฒนาพลังได้มากกว่านี้ เพราะมันคงจะช่วยให้เขาสามารถเอาชีวิตรอดในสนามรบได้มากขึ้น” แบล็คกี้พยายามพูดเปลี่ยนเรื่องเมื่อได้เห็นเทพสองพี่น้องกำลังจะทะเลาะกันอีกครั้ง

“นั่นสิ เซี่ยเฟยต้องไปเข้าร่วมการทดสอบอะไรก็ไม่รู้ และในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้การทดสอบนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้เขาพัฒนาไปเลยแม้แต่นิดเดียว” เทพดำกล่าวอย่างเห็นด้วยกับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง

เซี่ยเฟยยังจำเป็นจะต้องเข้าร่วมการทดสอบอยู่ยังซ้ำ ๆ ซึ่งในตอนนี้เขาก็เริ่มที่จะรู้สึกรำคาญแล้ว เพราะการทดสอบจากระบบไม่ได้ช่วยให้เขาเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้กับตัวเองได้เลยแม้แต่นิดเดียว

“ในที่สุดมันก็จบลงสักที นายต้องเสียเวลาไป 28 วันเพื่อแลกกับแหวนมิติชั้นยอดนี้ ถ้าหากว่านายเข้าร่วมกับการประเมินแบบปกติ บางทีในตอนนี้นายอาจจะกลายเป็นราชากฎขั้นที่ 3 ไปแล้วก็ได้” โอโร่กล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีราคาที่ต้องแลกไปอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเวลา 28 วันจะล้ำค่าแต่แหวนสายรุ้งก็ไม่ใช่แหวนที่หาได้ง่าย ๆ ด้วยเหมือนกัน หลังจากนี้ผมก็คงจะเก็บของเข้าไปในแหวนได้มากขึ้น หรือแม้แต่ยานฟริเกตก็สามารถบรรจุเข้าไปภายในแหวนสายรุ้งได้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยักไหล่

ทันใดนั้นเองพื้นดินด้านหน้าชายหนุ่มก็แยกออกพร้อมกับแหวนมิติหลากหลายสีสันที่ค่อย ๆ ลอยขึ้นมาปรากฏตัวตรงหน้าของเซี่ยเฟย

แหวนวงนี้สามารถดึงดูดความสนใจของทั้งเซี่ยเฟยและโอโร่ได้ในทันที เพราะมันมีรูปลักษณ์เฉพาะตัวและให้ความรู้สึกลึกลับอย่างที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน

“สมแล้วที่มันเป็นแหวนมิติชั้นยอด แค่การมองแบบผ่าน ๆ ก็สามารถบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอน” โอโร่กล่าวอย่างอิจฉา เพราะเขาก็ยังไม่เคยเห็นแหวนมิติขนาดใหญ่เช่นนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

“ในที่สุดฉันก็ได้แกมาครอบครองแล้วสินะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะสวมแหวนวงใหม่เข้าไปแทนที่แหวนวงเก่า

โอโร่ยังคงนิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไรสักคำ และเมื่อเขาได้เห็นแหวนวงนี้กับตาตัวเอง เขาก็เริ่มคิดแล้วว่าการตัดสินใจของเซี่ยเฟยคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง

สมบัติบางชิ้นก็เป็นสิ่งที่หาได้ยากมากจนเกินไป ถึงขนาดที่ว่าถึงแม้พวกเขาจะมีพลังในระดับสูงแต่พวกเขาก็อาจจะไม่ได้มีโอกาสครอบครองสมบัติในระดับนี้ได้

ในทางกลับกันแม้ว่าเซี่ยเฟยจะมีพลังในระดับไม่สูงมากนัก แต่เขาก็ถือว่าเป็นฝันร้ายสำหรับคู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับเดียวกัน นั่นก็เพราะว่าเขามีสมบัติอยู่ในครอบครองอย่างมากมาย และเมื่อเขาได้รับแหวนสายรุ้งไว้ในครอบครอง มันก็เพิ่มสมบัติภายในคลังของชายหนุ่มขึ้นไปอีกหนึ่งชิ้น

เซี่ยเฟยพยายามทดสอบแหวนมิติภายในมือ 2-3 ครั้ง แล้วเขาก็ได้พบว่าถ้าหากเขาไม่ได้ส่งพลังเข้าไปภายในแหวน ตัวแหวนก็จะอยู่อย่างสงบคล้ายกับแหวนธรรมดา ๆ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้ใส่พลังลงไปมันจะปล่อยแสงสีรุ้งออกมาอย่างลึกลับ ซึ่งฟังก์ชั่นการปิดบังความโดดเด่นในระหว่างที่เขาไม่ได้ใช้งานมันก็เข้ากับสไตล์ของเซี่ยเฟยพอดิบพอดี

“เอาล่ะได้เวลาเข้าสู่สนามรบโบราณกันสักที ฉันเชื่อว่านายจะต้องประทับใจกับสนามรบแห่งนั้นอย่างแน่นอน” โอโร่กล่าว

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านพ้นไปประตูสู่สนามรบโบราณก็ยังไม่เปิดออก เซี่ยเฟยจึงเริ่มสงสัยว่าการที่เขาเข้าร่วมการทดสอบโครงการอัลฟ่า มันทำให้เขาสูญเสียโอกาสในการเข้าร่วมกับสนามรบโบราณไปแล้วงั้นเหรอ

ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังคิดอยู่นั่นเอง หน้าจอแสงก็ได้ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขาอีกอันพร้อมกับทางเลือกใหม่ที่ปรากฏมาให้เขาเลือก

“หลังจากการคำนวนคุณมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ระบบได้กำหนดไว้ ไม่ทราบว่าคุณต้องการที่จะเข้าสู่สนามรบโบราณโดยตรง หรือจะเลือกฝึกฝนเป็นเวลา 1 สัปดาห์เพื่อปรับปรุงความสามารถของคุณอย่างเร่งด่วน”

“ปรับปรุงความสามารถอย่างเร่งด่วน!? มันกำลังหมายความว่าฉันสามารถใช้ระบบเพื่อพัฒนาพลังแบบก้าวกระโดดในช่วง 1 สัปดาห์ได้งั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเอง

“ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้? ระยะเวลาในการเปิดสนามรบโบราณมีเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น ถ้าหากว่านายเลือกฝึกฝน 1 สัปดาห์ มันก็หมายความว่านายจะเดินทางไปยังสนามรบโบราณช้ากว่าคนอื่น ๆ 1 สัปดาห์ได้เหมือนกัน”

“ทางเลือกแบบนี้เป็นทางเลือกที่ยากลำบากจริง ๆ แบบนี้มันเหมือนกับการบีบให้นายเลือกเลยว่านายจะเลือกฝึกฝนหรือจะเลือกเข้าไปหาสมบัติในสนามรบโบราณ เพราะถ้าหากว่านายเดินทางช้ากว่าคนอื่น 1 สัปดาห์ มันก็คงจะไม่เหลืออะไรให้นายสำรวจแล้ว” โอโร่กล่าว

“มันไม่ได้ตัดสินใจยากอะไรนักหรอกครับ เพราะพูดตามตรงผมไม่ได้คิดจะไปหาสมบัติอะไรที่สนามรบโบราณตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“แล้วนายจะมาที่สนามรบโบราณทำไมถ้าไม่ได้อยากได้สมบัติ?” โอโร่ถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“ผมไม่ได้บอกว่าผมไม่ได้อยากได้ผมแค่ขี้เกียจหาต่างหาก ถ้าหากผมไปช้ากว่าคนอื่น 1 สัปดาห์ผมก็แค่ต้องไปออกปล้นคนที่หาสมบัติเจอแล้วก็เท่านั้นเอง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

“โชคดีที่ทางฝั่งเผ่ามารมีจักรพรรดิกฎถือกำเนิดขึ้นมาแค่คนเดียว แบบนี้นักรบจากทางเผ่าเทพก็ยังพอมีโอกาสอยู่” เทพดำกล่าวหลังจากที่เขาทำการตรวจสอบรายชื่อของผู้ที่เดินทางเข้าสู่สนามรบโบราณ

“หากดูแบบผิวเผินการเผชิญหน้ากับจักรพรรดิกฎคนเดียวอาจจะเป็นเรื่องที่โชคดี แต่ฉันกำลังคิดว่านักรบจากทางเผ่าเทพกำลังโชคร้ายอยู่ต่างหาก” เทพขาวกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ทำไมนายถึงคิดแบบนั้นล่ะ?” เทพดำกล่าวถามอย่างสับสน

“ถ้าหากว่ามันมีจักรพรรดิกฎถือกำเนิดขึ้นมาหลายคน จักรพรรดิกฎพวกนั้นก็จะไม่เชื่อฟังคำสั่งกันและกัน ซึ่งมันก็พร้อมที่จะเกิดสงครามภายในขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย แต่ในกรณีที่ทางฝั่งมารมีจักรพรรดิกฎถือกำเนิดขึ้นมาเพียงแค่คนเดียวแบบนี้ จักรพรรดิกฎคนนั้นก็จะสามารถออกคำสั่งทุกคนได้อย่างง่ายดาย” 

“ฉันคงจะไม่ต้องบอกหรอกนะว่าการเผชิญหน้าระหว่างศัตรูที่แตกคอกันกับศัตรูที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว การเผชิญหน้ากับศัตรูแบบไหนจะรับมือได้ยากลำบากมากกว่ากัน” เทพขาวกล่าว

เมื่อได้ฟังคำอธิบายเทพดำก็จะหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ในครั้งนี้ด้วยเหมือนกัน และเมื่อเขาเปิดอ่านข้อมูลของจักรพรรดิกฎเผ่ามารคนนั้น มันก็ทำให้เขารู้สึกตกใจมากยิ่งขึ้น

“ตระกูลดาร์กมิสท์! นี่มันตระกูลคู่แค้นของสกายวิงชัด ๆ แบบนี้เซี่ยเฟยยิ่งอันตรายมากไปอีก!” เทพดำกล่าวขึ้นมาอย่างกังวล

***************

มีแววว่าจะต้องได้เผชิญหน้ากันแน่ ๆ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Rights Reserved.