ตอนที่ 684 คริสตัลชีวิต

-A A +A

ตอนที่ 684 คริสตัลชีวิต

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 684 คริสตัลชีวิต

ปัจจุบันคอลลินยืนอยู่ห่างจากเซี่ยเฟยไปประมาณ 100 เมตร โดยชุดเกราะสีดำที่เขาเคยสวมใส่อยู่นั้นได้ถูกทำลายจนหายไปหมดแล้ว เผยให้เห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยฝีขนาดใหญ่อันน่าขยะแขยง

แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้คอลลินได้ระเบิดลูกบอลสายฟ้าขึ้นมาอย่างรุนแรง มันจึงทำให้ฝีบนร่างของเขาระเบิดออกมาด้วยเช่นกัน จนทำให้น้ำเลือดน้ำหนองที่ถูกเผาไหม้ส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ และทำให้ภาพที่ปรากฏขึ้นมาดูน่าขยะแขยงมากขึ้นกว่าเดิม

คอลลินมองไปทางเซี่ยเฟยด้วยดวงตาอันว่างเปล่า ขณะที่ปากของเขาถูกฟันจนแบะออกในแนวนอน และฟันภายในปากของเขาส่วนใหญ่ก็ถูกตัดออกไปด้วยบลัดบิวเทียสภายในมือของเซี่ยเฟย

เหตุการณ์นี้ทำให้คอลลินรู้สึกโกรธจนแทบจะเป็นบ้า เพราะอาวุธแต่ละชิ้นที่เซี่ยเฟยได้ครอบครองอยู่นั้นเหนือเกินกว่าความคาดหมายของเขามากเกินไป ทั้ง ๆ ที่แม้แต่เขาที่เป็นราชากฎขั้นสูงก็ยังไม่มีอาวุธชั้นยอดพวกนั้นครอบครองอยู่ในมือ

คอลลินคิดว่าเซี่ยเฟยคงจะเป็นทายาทสายตรงของตระกูลขนาดใหญ่ภายในกลุ่มดาวม้าขาว ที่ออกมาท่องเที่ยวในแดนเนรเทศยามว่าง ไม่อย่างนั้นมันก็คงจะไม่มีเหตุผลอธิบายว่า ทำไมชายหนุ่มอายุน้อยถึงได้ครอบครองอาวุธชั้นยอดเป็นจำนวนมากขนาดนี้

แดนเนรเทศเป็นดินแดนที่แร้นแค้นและทุกชีวิตต่างก็จำเป็นจะต้องใช้สอยอย่างประหยัด เซี่ยเฟยจึงกลายเป็นเหยื่อที่มีมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่คอลลินเคยเจอมา แต่เมื่อเขาได้เผชิญหน้ากับชายหนุ่มเขาก็ได้พบว่าตัวเองประมาทมากเกินไป

“แม้ว่าร่างกายของเขาจะถูกทำร้ายแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะพ่ายแพ้ พวกเชพเพิร์ดมีทักษะเฉพาะในการปรับร่างกายของตัวเองใหม่”

“ถึงแม้ว่าหัวใจของเขาจะถูกขนอุยทำลายแต่เขาก็ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ ซึ่งมันก็หมายความว่าเขามีพลังในระดับที่สามารถอยู่รอดได้โดยไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพาร่างกายแล้ว ดังนั้นอย่าพึ่งประมาทอย่างเด็ดขาด” โอโร่กล่าวอย่างเคร่งขรึม

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับพร้อมกับดึงหงส์ครามกลับคืนมา จากนั้นเขาก็ยกขนอุยขึ้นมาในมือก่อนที่จะกระซิบข้อความบางอย่างกับเจ้าตัวน้อยเบา ๆ

คอลลินยังคงถอยหลังไปตั้งหลักและกำลังคิดว่าเขาจะจัดการกับอาวุธชั้นยอดจำนวนมากภายในมือศัตรูได้ยังไง

“ไป!”

ชายหนุ่มส่งเสียงร้องคำรามดังลั่นออกแรงจากฝ่าเท้าแล้วบิดเอวอย่างรุนแรง และเหวี่ยงแขนออกไปยังด้านหน้า

ตูม!

ขนอุยถูกขว้างออกไปด้วยความเร็วราวกับกระสุนปืนใหญ่ และท่าทางที่เซี่ยเฟยได้ทำในก่อนหน้านี้นั่นก็คือการขว้างลูกบอลออกไปนั่นเอง

นี่เขาขว้างอสูรศักดิ์สิทธิ์ออกไปเหมือนกับลูกเบสบอลเนี่ยนะ?

ถ้าหากเหล่าบรรดาผู้ฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพที่หลงใหล และเทิดทูนบูชาอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้มาเห็นการกระทำของเซี่ยเฟยในวันนี้ พวกเขาก็คงจะอยากฉีกกระชากร่างของชายหนุ่มออกเป็นชิ้น ๆ เพราะพวกเขาต่างก็บูชาอสูรศักดิ์สิทธิ์ให้มีสถานะไม่ต่างไปจากเทพเจ้า แต่เซี่ยเฟยกลับเอาขนอุยมาขว้างปาอย่างไร้เยื่อใย

อย่างไรก็ตามการกระทำของเซี่ยเฟยกลับให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง เพราะในตอนแรกขนอุยก็สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วมากอยู่แล้ว แต่เมื่อมันได้รับการเสริมพลังจากเซี่ยเฟย ความเร็วในการเคลื่อนที่ของมันในตอนนี้จึงมากเกินกว่า 40,000 เมตรต่อวินาที

“นี่มันวิชาใหม่ของนายงั้นเหรอ? ไม่น่าเชื่อเลยว่าวิธีนี้จะช่วยเพิ่มความเร็วให้ขนอุยได้มากกว่า 2 เท่า ยิ่งไปกว่านั้นทิศทางการโจมตีของขนอุยยังอยู่ภายใต้การควบคุมของนายอีกด้วย” โอโร่กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังแอบชื่นชมความสามารถในการปรับตัวของเซี่ยเฟยอยู่ดี

คนทั่วไปมักจะทำการเคลื่อนไหวในรูปแบบเดิม ๆ ตามที่พวกเขาได้เรียนรู้มา แต่เซี่ยเฟยทำลายกฎทุกอย่างที่เคยมีอยู่ในอดีต และปรับตัวให้เข้ากับเงื่อนไขที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งความคิดสร้างสรรค์ที่ชายหนุ่มได้ครอบครองอยู่นั้น ก็ถือได้ว่ามันเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ที่นักรบชั้นยอดสมควรจะมี

และแน่นอนว่าภายในใจลึก ๆ โอโร่ก็รู้สึกไม่เหมาะสมที่จะใช้ขนอุยเป็นลูกบอลขว้างปาออกไปด้วยเหมือนกัน เพราะท้ายที่สุดมันก็เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการเคารพรักไปทั่วทั้งจักรวาล

ฟิ้ว!

ร่างของขนอุยพุ่งออกไปด้วยความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า คอลลินจึงพยายามใช้กฎแห่งสายฟ้าเพื่อต้านทานการโจมตีในครั้งนี้เอาไว้ แต่น่าเสียดายที่ขนอุยเคลื่อนที่ได้รวดเร็วมากจนเกินไป ซึ่งก่อนที่เกราะสายฟ้าของคอลลินจะถูกสร้างขึ้นมา ร่างของขนอุยก็ปะทะเข้ากับร่างกายของเขาก่อนแล้ว

หลังจากการจู่โจมสิ้นสุดลงขนอุยก็พุ่งตัวกลับไปภายในมือของเซี่ยเฟยอย่างรวดเร็ว โดยในตอนนี้พวกเขาเคลื่อนไหวสอดประสานกันเป็นอย่างมาก และเจ้าตัวน้อยก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจเลยที่ชายหนุ่มได้ขว้างปาตัวของมันออกไป

แม้ว่ามันจะเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่คนอื่นต่างก็ให้ความยกย่อง แต่เมื่อมันอยู่กับเซี่ยเฟยมันก็เป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงตัวน้อย ๆ ที่พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้านายทุกอย่าง ซึ่งเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องราวที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ทุกคนที่ได้เห็นท่าทางของขนอุยในระหว่างที่อยู่กับเซี่ยเฟยจึงต่างก็ล้วนแล้วแต่จ้องมองไปที่ชายหนุ่มด้วยความอิจฉา

“แกพลาดแล้ว” คอลลินกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก

แม้ว่าขนอุยจะเพิ่งพุ่งทะลุร่างกายของเขาไป แต่มันกลับไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ ต่อร่างกายของเขาเลย ทั้ง ๆ ที่ถ้าหากอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำมากกว่านี้ บางทีมันอาจจะพุ่งทะลุแกนพลังของเขาไปแล้วก็ได้

“เชื่อฉันเถอะว่าฉันไม่ได้พลาด” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ

ทันทีที่เขาพูดจบเข็มทิศมิติที่ถูกผูกติดกับข้อมือของคอลลินก็แตกออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมกับร่วงหล่นลงบนพื้น

ที่แท้เป้าหมายของเซี่ยเฟยไม่ใช่การสังหารคอลลิน แต่เป็นการทำลายเข็มทิศมิติชิ้นนี้ต่างหาก!!

เมื่อไม่มีเข็มทิศมิติคอลลินก็ไม่เหลือเส้นทางหลบหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้อีกแล้ว ดูเหมือนว่าเซี่ยเฟยตั้งใจที่จะจัดการเชพเพิร์ดชั้นยอดคนนี้ โดยไม่คิดจะปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปเลยแม้แต่นิดเดียว

“ฉันรู้ว่าร่างกายนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่บรรจุชีวิตของแกเอาไว้จริง ๆ ไม่อย่างนั้นแกก็คงจะไม่ปล่อยให้ร่างกายถูกโจมตีอย่างรุนแรงโดยไม่สนใจ ในเมื่อการโจมตีร่างกายไม่สามารถฆ่าแกได้ สิ่งแรกที่ฉันควรจะต้องทำก็คือการตัดเส้นทางหลบหนีของแกก่อน” เซี่ยเฟยกล่าว

เมื่อสถานการณ์เริ่มไม่สู้ดีคอลลินก็โบกมือส่งสัญญาณให้พวกนักรบเชพเพิร์ดที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด เริ่มเคลื่อนไหวจัดการสังหารพวกซุยเซนให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ก็ทำให้คอลลินรู้สึกโกรธจนแทบจะเป็นบ้า เขาจึงเลือกที่จะปล่อยพวกซุยเซนไปก่อนและมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่การฆ่าเซี่ยเฟยเป็นอันดับแรก

ในฐานะที่เขาเป็นราชากฎขั้นสูง การที่เขาถูกศัตรูจู่โจมซ้ำ ๆ แบบนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องอัปยศในชีวิตของเขามาก เขาจึงไม่สามารถที่จะปล่อยให้เซี่ยเฟยรอดชีวิตกลับไปได้

เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างหนัก เพราะเขาต้องเผชิญหน้ากับราชากฎที่อยู่ตรงหน้า และยังต้องปกป้องพวกซุยเซนอีกเกือบ 300 คนที่อยู่ในหมู่บ้านเอาไว้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นแผนการสร้างหนี้บุญคุณให้กับพวกซุยเซนมันก็อาจจะต้องพังทลายลง

สิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่การจัดการกับศัตรูเป็นจำนวนมากในเวลาเดียวกัน แต่มันคือการปกป้องผู้อ่อนแอไม่ให้เกิดการสูญเสียภายใต้สนามรบที่ยุ่งเหยิงแบบนี้ต่างหาก

ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังกังวล ประตูมิติเป็นจำนวนมากก็ถูกเปิดออกครอบคลุมไปทั่วทั้งยอดภูเขาหิมะ

“กำลังเสริมมาถึงแล้ว!”

ในฐานะที่ทีมซุยเซนเป็นทีมสายลับที่โด่งดังไปทั่วทั้งดินแดนเนรเทศ พวกเขาจึงไม่ได้มีเพียงแต่ศัตรูที่โกรธแค้นพวกเขาเท่านั้น แต่พวกเขายังมีมิตรเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนที่พร้อมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับพวกเขาอีกด้วย

แม้แต่ผู้ที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับทีมซุยเซนก็เต็มใจที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือในสถานการณ์วิกฤติครั้งนี้ด้วยเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดวันหนึ่งในอนาคตพวกเขาก็อาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากทีมซุยเซนก็ได้ การเคลื่อนไหวในวันนี้จึงถือว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่ามาก เพราะอย่างน้อยมันก็จะทำให้พวกซุยเซนเป็นหนี้บุญคุณพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้นชื่อเสียงของพวกเชพเพิร์ดยังตกต่ำลงมากเรื่อย ๆ เพราะเผ่าพันธุ์นี้มีนิสัยชอบที่จะกินสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเข้าไปทั้งเป็น ดังนั้นเมื่อพวกซุยเซนบอกว่าศัตรูของพวกเขาคือพวกเชพเพิร์ด ผู้คนเป็นจำนวนมากจึงติดตามมาจัดการกับเผ่าพันธุ์ที่น่ารังเกียจพวกนี้ด้วยความยินดี

เมื่อกำลังเสริมเดินทางมาถึงเสียงสู้รบก็ดังขึ้นไปทั่วทั้งบริเวณ ในระหว่างนั้นเซี่ยเฟยก็รีบกดปุ่มที่ชุดเกราะเพื่อเรียกหมวกเกราะออกมาบังใบหน้าในทันที เพราะสถานที่แห่งนี้มีคนมากมายและเขาก็ไม่ต้องการที่จะให้ใครได้มาเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา

ท้ายที่สุดเขาก็ยังคงเป็นคนที่มีค่าหัวสูงถึง 1 ล้านคริสตัลเหลือง และเงินจำนวนนี้มันก็มากพอที่จะล่อลวงให้ผู้คนหันคมอาวุธเข้าใส่เขาได้

เหตุการณ์นี้ทำให้พวกนักรบเชพเพิร์ดตื่นตระหนก เพราะพวกเขาไม่คิดว่าพวกซุยเซนจะสามารถเรียกรวมกำลังเสริมได้เป็นจำนวนมากขนาดนี้ 

ยิ่งไปกว่านั้นกำลังเสริมยังมาเร็วกว่าเวลาที่เซี่ยเฟยได้คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าพวกซุยเซนมีชื่อเสียงในด้านดี ๆ มากแค่ไหน พวกเขาถึงสามารถเรียกรวมกำลังเสริมได้อย่างรวดเร็วมากขนาดนี้

“หัวหน้า! พวกเรารีบถอยเถอะ ไม่อย่างนั้นมันจะสายเกินไป”

“หัวหน้าพวกเราควรจะทำยังไงดี?”

ลูกน้องของคอลลินเริ่มส่งเสียงคร่ำครวญ แต่คอลลินก็ทำได้เพียงแต่กัดฟัน เพราะถึงแม้ว่าเขาต้องการจะถอยแต่เซี่ยเฟยก็ได้ทำลายเข็มทิศมิติของเขาลงไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะถอยหนีออกไปได้แม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม

ในช่วงเวลาที่คอลลินกำลังเสียสมาธิอยู่นี่เอง มันจึงเป็นโอกาสที่ดีที่เซี่ยเฟยจะเริ่มจู่โจมอีกครั้ง

ในคราวนี้เซี่ยเฟยได้ทำการจู่โจมคอลลินจากด้านหน้า ขณะที่ขนอุยทำหน้าที่อ้อมไปจู่โจมจากด้านหลัง

เซี่ยเฟยเคลื่อนที่ได้รวดเร็วมากและกว่าที่คอลลินจะทันได้ตั้งตัว ดาบสีแดงเลือดก็อยู่ห่างจากร่างของเขาเพียงแค่ 10 เซนติเมตร แต่ในทันใดนั้นมันก็ได้มีแสงสีขาวส่องสว่างออกมาจากร่างของคอลลินเสียก่อน

เป้ง!

บลัดบิวเทียสเหมือนกระทบเข้ากับหินและทำให้มันถูกสะท้อนกลับไป โดยไม่สามารถที่จะเจาะเข้าไปในร่างกายของศัตรูได้

“ทำไมจู่ ๆ ร่างกายของเขาถึงแข็งเป็นหินแบบนี้!?” เซี่ยเฟยขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความตกใจ

ในเวลาเดียวกันขนอุยก็พุ่งเข้าหาคอลลินด้วยความเร็วมากกว่า 20,000 เมตรต่อวินาที ก่อนที่มันจะพ่นลูกบอลพลังงาน 3 ลูกออกมาพร้อมกัน

ปัง ๆ ๆ!

เมื่อลูกบอลแสงกระทบเข้ากับร่างของคอลลิน ผิวหนังของเชพเพิร์ดชั้นยอดก็ถูกฉีกออกมาเป็นชิ้น ๆ

เมื่อแสงสว่างจางหายไปคอลลินในร่างผู้ใหญ่ก็หายตัวไป ถูกแทนที่ด้วยทารกตัวน้อยที่มีร่างกายโปร่งใสคล้ายกับคริสตัล

แต่ถึงแม้ว่าร่างกายของอีกฝ่ายจะมีตัวเล็กเหมือนกับเด็กทารก แต่ภายในปากของเขายังคงเต็มไปด้วยฟันอันแหลมคม และด้วยร่างกายที่ใสราวกับแก้ว มันจึงทำให้ชายหนุ่มสามารถมองเห็นเส้นเลือดและอวัยวะภายในทุกส่วนของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย

เซี่ยเฟยไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดแบบนี้มาก่อนเลย และถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะตัวเล็กมาก แต่เขากลับให้ความรู้สึกราวกับว่าทารกตรงหน้าคือลูกของพวกปีศาจ

“นั่นมันคริสตัลชีวิต! ร่างกายของคอลลินที่นายเห็นในก่อนหน้านี้มันได้เน่าเปื่อยไปตั้งนานแล้ว นี่ต่างหากคือร่างที่แท้จริงของคอลลิน” โอโร่กล่าวด้วยดวงตาอันเป็นประกาย

เมื่อคอลลินถูกเปิดเผยร่างที่แท้จริงของตัวเองออกมา เขาก็ไม่ได้คิดที่จะต่อสู้กับเซี่ยเฟยอีกต่อไปและพยายามหนีออกไปยังทิศตรงกันข้าม

แน่นอนว่าทารกตัวน้อยไม่ได้มีความเร็วเหมือนกับเซี่ยเฟยและขนอุย ในขณะที่เขาวิ่งหนีเขาจึงพยายามใช้พลังสายฟ้าจู่โจมศัตรูจากระยะไกล แต่ด้วยความว่องไวของเซี่ยเฟย การโจมตีพวกนี้จึงไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อชายหนุ่มเลย

เป้ง!

เซี่ยเฟยหาโอกาสเข้าใกล้ร่างของคอลลิน ก่อนที่จะใช้บลัดบิวเทียสแทงเข้าไปภายในร่างที่โปร่งใส

“ไม่มีประโยชน์ คริสตัลชีวิตแข็งแกร่งมาก การโจมตีธรรมดาไม่สามารถที่จะทะลุผ่านการป้องกันนั้นเข้าไปได้หรอก” โอโร่กล่าวอย่างจริงจัง

เหตุการณ์นี้ทำให้คอลลินเผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก เพราะถึงแม้ว่าพลังสายฟ้าของเขาจะไม่สามารถทำอันตรายอะไรเซี่ยเฟยได้ แต่โชคดีที่เขายังมีคริสตัลชีวิตคอยปกป้องตัวเองไว้ และเขาก็เชื่อว่าเซี่ยเฟยไม่สามารถที่จะทำอันตรายใด ๆ ต่อเขาได้อีกแล้ว

“ถ้ามันแข็งมากก็แค่ลบล้างมันซะก็สิ้นเรื่อง” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอันเยาะเย้ย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขายังคงเก็บงำไพ่ใบสำคัญของเขาเอาไว้ และแน่นอนว่าไพ่ใบนั้นมันก็ไม่ใช่พลังอะไรที่ไหน นอกจากพลังของกฎแห่งความโกลาหลที่เคยสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาแล้วเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน

***************

จบแล้วสำหรับเนื้อหาของ E-Book เล่ม 12 หลังจากนี้จะเป็นการสืบข่าวในแดนเทพและพยายามแก้ไขปัญหาที่ตระกูลหยูสร้างแล้วนะ แน่นอนว่ายังถูกตามล่าค่าหัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากนี้จะเป็นยังไงต้องติดตามกันต่อไปจ้า!!

ประกาศแจ้งข่าว E-Book เล่ม 12 (ตอนที่ 630-684) วางจำหน่ายวันที่ 27 ตุลาคม 2566 น๊า ใครที่รอสอยอยู่จัดไปโล๊ด เราแปะลิงก์ไว้ให้แล้วหรือสามารถดูข้อมูลและติดตามข่าวสาวได้ที่เพจ สำนักพิมพ์เซียนอ่าน - Xianaan ได้เหมือนกันนะ (❁´◡`❁)

ช่องทาง MEB >> https://bit.ly/3NZ3Qca   ช่องทางเด็กดี >> https://bit.ly/3LDePFC  ช่องทางปิ่นโต >> https://bit.ly/3M9vXUI

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Right Reserved.