ตอนที่ 657 บัตรระดับทองเข้ม
ตอนที่ 657 บัตรระดับทองเข้ม
“คุณฮีธฟิลด์ ผมมีเรื่องอยากจะขอรบกวนคุณอีกเรื่องหนึ่ง คุณช่วยพาผมไปที่ธนาคารฟารซีหน่อยได้ไหมครับ” เซี่ยเฟยกล่าว
“ธนาคารฟารซีงั้นเหรอ? นั่นมันเป็นธนาคารส่วนตัวที่ค่อนข้างใหญ่เลยนะ ปกติแล้วมันก็มีเพียงแต่ตระกูลขนาดใหญ่ของสองเผ่าพันธุ์ระดับสูงสุดที่จะใช้บริการของธนาคารนั่น คุณอยากจะไปเปิดบัญชีกับธนาคารฟารซีงั้นเหรอ?”
“พูดตามตรงว่าถึงแม้ระบบการรักษาความลับของธนาคารฟารซีจะอยู่ในระดับที่ปลอดภัยมาก แต่การเปิดบัญชีที่นั่นมันก็จำเป็นจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก และมันก็ยังมีข้อจำกัดต่าง ๆ อีกอย่างมากมาย”
ฮีธฟิลด์พยายามบอกเป็นนัย ๆ ว่าธนาคารฟารซีเปิดบัญชีให้เฉพาะลูกค้าระดับสูงมากเท่านั้น ดังนั้นแม้ว่าเขาจะพาเซี่ยเฟยเดินทางไปที่นั่น แต่ท้ายที่สุดทางธนาคารก็จะมองดูสินทรัพย์ของลูกค้ารายบุคคลอยู่ดี
“ผมมีบัญชีไม่ระบุตัวตนของธนาคารนั้นอยู่ แต่คุณก็น่าจะรู้ว่าผมไม่สามารถกลับไปที่ธนาคารในแดนเทพได้ ส่วนในแดนมารมันก็ไม่ใช่พื้นที่ที่ผมคุ้นเคย ผมเลยอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณให้ช่วยนำผมไปที่ธนาคารนั้นหน่อย” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
‘เซี่ยเฟยมีบัญชีของธนาคารฟารซี?’ ฮีธฟิลด์คิดภายในใจด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เพราะเขาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะมีบัญชีของธนาคารส่วนตัวแห่งนี้ได้
“ถ้าอย่างนั้นผมสามารถส่งคนพาคุณไปที่ธนาคารพรุ่งนี้ได้เลย แต่คุณก็น่าจะรู้ใช่ไหมว่าถ้ารหัสตัวตนของคุณถูกเปิดเผยมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องดี ถ้าหากว่าคุณไปเพียงแค่ธนาคารมันก็คงจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากว่าคุณเดินทางไปไหนมาไหนมันก็อาจจะมีปัญหาใหญ่ตามมาได้” ฮีธฟิลด์กล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ไม่ต้องห่วง ผมจะไปแค่ธนาคารฟารซีเท่านั้นไม่แวะไปไหนเด็ดขาด” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับใช้มือตบหน้าอกของตัวเองเป็นเชิงว่าให้สัญญา
หลังจากนั้นฮีธฟิลด์ก็อธิบายรายละเอียดและข้อควรระมัดระวังอย่างยืดยาว โดยวางแผนการเดินทางของวันพรุ่งนี้เอาไว้อย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงรู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อย เขาจึงใช้เข็มทิศมิติติดต่อไปหาใครบางคนและเขียนข้อมูลการติดต่อ 2 รายชื่อให้กับเซี่ยเฟย โดยบอกว่าสองคนนี้คือลูกพี่ลูกน้องของเขาเอง หากเซี่ยเฟยไม่สามารถติดต่อเขาได้ให้ติดต่อไปยังสองคนนี้ได้เลย
นอกจากนี้ฮีธฟิลด์ยังมอบเหรียญตราราชวงศ์ไลอ้อนฮาร์ทให้กับชายหนุ่มด้วย มันจึงช่วยให้เซี่ยเฟยรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
“ฮีธฟิลด์จะระวังตัวมากเกินไปไหม? มันก็แค่การเดินทางไปที่ธนาคารเฉย ๆ ไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาจะต้องทำให้เรื่องมันยุ่งยากมากขนาดนั้น” อันธกล่าวอย่างไม่เข้าใจ
ทางเซี่ยเฟยก็รู้สึกว่าฮีธฟิลด์กังวลมากเกินไปเช่นเดียวกัน เพราะทั่วทั้งเผ่ามารคงจะมีตระกูลเพียงแค่ไม่กี่ตระกูลที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับตระกูลไลอ้อนฮาร์ท และสิ่งที่พวกเขากำลังจะไปในวันพรุ่งนี้มันก็มีเพียงแค่การเดินทางไปยังธนาคารเท่านั่น อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็ยังคงยิ้มรับตอบตกลงตามข้อเสนอของฮีธฟิลด์อย่างเต็มใจ
“ธนาคารฟารซีในแดนมารมีอยู่ 2 สาขา โดยสาขาแรกตั้งอยู่ในกลุ่มดาวยูนิคอร์นซึ่งเป็นเขตของพวกโคบอลต์ ส่วนอีกสาขาตั้งอยู่ในกลุ่มดาวเซฟีร่าซึ่งเป็นเขตของตระกูลที่เป็นศัตรูกับตระกูลไลอ้อนฮาร์ทเราด้วยเหมือนกัน”
“สาเหตุที่ฉันต้องระมัดระวังมากขนาดนั้น นั่นก็เพราะว่าพวกเรากำลังจะเดินเข้าไปในดินแดนของศัตรู ดังนั้นการวางแผนทุกอย่างอย่างเข้มงวดมันก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อตัวของคุณเอง” ฮีธฟิลด์กล่าวอย่างจริงจัง
เซี่ยเฟยพยายามกล่าวขอบคุณที่ฮีธฟิลด์ยอมทุ่มเทช่วยเหลือเขามากขนาดนี้
“ตระกูลไลอ้อนฮาร์ทของพวกเราใช้ชีวิตอย่างซื่อตรงมาโดยตลอด พวกเราจึงมีความบาดหมางกับตระกูลหลาย ๆ ตระกูลมาเรื่อย ๆ ซึ่งความบาดหมางบางเรื่องก็กินระยะเวลาหลายหมื่นปีจนไม่สามารถที่จะแก้ไขความสัมพันธ์ให้กลับมาคืนดีกันได้อีกแล้ว” โอโร่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
แม้ว่าตระกูลไลอ้อนฮาร์ทจะทรงพลังแต่พวกเขาก็มีศัตรูอยู่ทุกหนทุกแห่ง นอกจากนี้พวกเขายังมีความขัดแย้งกับตระกูลส่วนใหญ่ภายในเผ่ามาร มันจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจว่าทำไมพวกเขาถึงต้องการนักรบพรสวรรค์เข้าตระกูลตลอดเวลา นั่นก็เพราะว่าพวกเขามีศัตรูอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง
หลังจากได้ฟังคำอธิบายจากโอโร่แล้วเซี่ยเฟยก็เริ่มรู้สึกเสียใจที่แนะนำให้เฉินตงเข้าร่วมกับตระกูลไลอ้อนฮาร์ท แต่หลังจากที่เขาคิดพิจารณาอีกครั้ง เขาก็ได้พบว่าบางทีเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย เพราะอย่างน้อยเฉินตงผู้บ้าคลั่งการต่อสู้ก็คงจะไม่ขาดศัตรูเอาไว้ซ้อมมือ
—
ในตอนกลางคืนเซี่ยเฟยกับเฉินตงก็ได้เข้าพักในห้องเดียวกัน เพราะหลังจากนี้เฉินตงจะต้องเข้าร่วมกับตระกูลไลอ้อนฮาร์ทแล้ว โอกาสที่พวกเขาจะได้พบเจอกันย่อมน้อยลงกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย พวกเขาจึงใช้ช่วงเวลาที่เหลือนี้ในการพูดคุยฝากฝังเรื่องต่าง ๆ ซึ่งกันและกัน
“ขอบคุณนะ เผ่ามารไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ฉันเคยคิดเอาไว้เลย และความแข็งแกร่งของตระกูลไลอ้อนฮาร์ทก็ทัดเทียมได้กับเก้าตระกูลชั้นยอดจริง ๆ ถ้าวันนั้นฉันไม่ได้รับคำแนะนำจากนาย ฉันก็คงจะไม่มีโอกาสพัฒนามาได้จนถึงวันนี้” เฉินตงกล่าวขณะนอนอยู่บนเตียง
“นายอย่าพึ่งดีใจไป วันนี้นายก็ได้รู้แล้วใช่ไหมว่าถึงแม้ตระกูลไลอ้อนฮาร์ทจะทรงพลัง แต่พวกเขาก็มีศัตรูอยู่อย่างมากมาย หากวันหนึ่งนายกลายเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งของตระกูล ฉันก็คิดว่านายคงจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากนัก” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ
“นายก็น่าจะรู้ว่าฉันเป็นพวกบ้าต่อสู้มากแค่ไหน” เฉินตงกล่าว
“ฉันรู้ว่านายชอบการต่อสู้แต่ว่านายไม่ได้ชอบการฆ่าฟัน น่าเสียดายที่จุดยืนของนายหลังจากนี้คงจะทำให้นายไม่สามารถไว้ชีวิตศัตรูได้อีกแล้ว นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงแข็งแกร่งกว่านายทั้ง ๆ ที่เรามักจะมีระดับพลังอยู่ใกล้ ๆ กัน?” เซี่ยเฟยกล่าว
“เพราะว่านายมีอาวุธมหัศจรรย์อยู่ในครอบครองมากมาย และนายยังเป็นผู้ทำพันธสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์ด้วย” เฉินตงกล่าวตอบ
“กว่าจะได้ครอบครองสิ่งมหัศจรรย์พวกนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เหมือนกัน การต่อสู้ของขนอุยแต่ละครั้งจำเป็นจะต้องใช้คริสตัลต้นกำเนิดจำนวนมาก กว่าฉันจะสามารถครอบครองหงส์ครามและควบคุมมันได้จนถึงระดับนี้ ฉันก็ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงกับอันตรายมาแล้วหลายครั้ง บางช่วงบางเวลาฉันถึงกับรู้สึกหมดหวังและคิดว่าฉันคงจะตายไปแล้วด้วยซ้ำ” เซี่ยเฟยกล่าว
“ฉันรู้ว่าจริง ๆ แล้วนายเป็นพวกบ้ามากกว่าฉัน, กล้าหาญมากกว่าฉันและเด็ดขาดมากกว่าฉัน ดังนั้นแม้ว่าพวกเราจะมีระดับพลังใกล้ ๆ กัน แต่นายก็มักจะเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าฉันอยู่เสมอ เป็นไงคำตอบของฉันพอจะใช้การได้บ้างไหม?” เฉินตงกล่าว
“บางช่วงบางตอนอาจจะใช่ แต่ฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญกว่าคือฉันไม่เคยเสียเวลาคิดพิจารณาถ้าหากว่าฉันจะต้องลงมือฆ่าศัตรู” เซี่ยเฟยกล่าว
เฉินตงยังคงนิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไร ซึ่งความเด็ดขาดในระดับเดียวกันกับเซี่ยเฟยนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะลอกเลียนแบบได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะนักสู้ที่พยายามเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างขาวสะอาดมาโดยตลอดอย่างเขา
—
เมื่อถึงวันที่ต้องออกเดินทางไปยังธนาคารฟารซีเพื่อเปิดห้องนิรภัยของตระกูลแอตแลนติส มันก็ทำให้เซี่ยเฟยค่อนข้างที่จะรู้สึกตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย
หลังมื้ออาหารเช้าฮีธฟิลด์ก็ได้เรียกหาไรซ์ ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์ส่วนตัวของเขามาเพื่อให้ชายคนนี้เป็นคนพาเซี่ยเฟยเดินทางไปยังธนาคาร
ไรซ์เป็นชายร่างสูงใหญ่ที่มีความสูงเกือบ 4 เมตร และเขาก็เข้าใจคำสั่งของฮีธฟิลด์ในทันที เขาจึงพยักหน้ารับคำสั่งไปโดยไม่พูดอะไร
ปัจจุบันเซี่ยเฟยได้สวมใส่หมวกเกราะของตระกูลไลอ้อนฮาร์ท และแกล้งทำเป็นผู้ติดตามของไรซ์แล้วออกเดินทางตรงไปยังกลุ่มดาวยูนิคอร์น แต่เนื่องจากเข็มทิศมิติของไรซ์ไม่มีความแม่นยำมากนัก พวกเขาจึงจำเป็นจะต้องเดินทางออกไปยังพื้นที่โล่งนอกเมือง แล้วค่อยเดินทางเข้าไปภายในเมืองเพื่อมุ่งหน้าไปยังธนาคารฟารซีอีกที
ระหว่างทางเซี่ยเฟยได้พบกับมนุษย์ต่างดาวผิวสีฟ้าอย่างมากมาย โดยมนุษย์ต่างดาวพวกนี้มีลำตัวไม่สูงมากนัก ดวงตาของพวกเขายื่นออกมาด้านนอกเหมือนกับปลา หูของพวกเขาตั้งชันและยืดยาวเหมือนกับกระต่าย ซึ่งถ้าหากเขาเดาไม่ผิดเผ่าพันธุ์นี้ก็น่าจะเป็นเผ่าพันธุ์โคบอลต์ ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความขัดแย้งกับตระกูลไลอ้อนฮาร์ท
เมืองแห่งนี้ไม่ได้มีความแปลกตาเหมือนกับเมืองแบล็กไลออน แต่มันก็เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นมาก โดยภายในตัวเมืองเต็มไปด้วยอาคารสีฟ้าโปร่งแสงอยู่ทั่วทุกที่ และมันก็มีตึกขนาดใหญ่คล้ายหอคอยแหลมตั้งอยู่กลางเมืองอย่างโดดเด่น
หลังจากใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ไม่นานเซี่ยเฟยกับไรซ์ก็เดินทางมาจนถึงที่หมาย และเนื่องมาจากว่าพวกเขาสวมใส่หมวกเกราะซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตระกูลไลอ้อนฮาร์ท ระหว่างทางฝูงชนจึงมองมาที่พวกเขาด้วยความสนใจ
“พวกเรามาถึงธนาคารแล้วเดี๋ยวฉันจะรออยู่ที่ประตู คุณอย่าเดินออกไปไหนสุ่มสี่สุ่มห้าก็แล้วกัน” ไรซ์กล่าว
“ไม่ต้องห่วง หลังจากทำธุระเสร็จฉันจะรีบกลับทันที” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ท่านฮีธฟิลด์ได้บอกผู้จัดการธนาคารอุลลิเยร์เอาไว้ก่อนแล้วว่าคุณจะมา คุณสามารถเข้าไปติดต่อหาเขาได้เลย แต่จำเอาไว้ว่าคุณจะต้องสวมหมวกของเราเอาไว้ตลอดเวลา ห้ามถอดออกระหว่างนี้เป็นอันขาด” ไรซ์กล่าวเน้นย้ำอีกครั้ง
—
ธนาคารฟารซีเป็นเพียงแค่ธนาคารไม้ที่ไม่โดดเด่น และทางเข้าของธนาคารนี้ก็ค่อนข้างที่จะดูร้างผู้คนอยู่เล็กน้อย
เมื่อเซี่ยเฟยผลักประตูเปิดเข้าไป ลูกค้าในธนาคารต่างก็จ้องมองมาทางเขาในทันที โดยสายตาของพวกเขาต่างก็ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความเย็นชา และไม่มีท่าทีต้อนรับผู้มาเยือนเลยแม้แต่นิดเดียว
เซี่ยเฟยพอจะคาดเดาปฏิกิริยาลักษณะนี้ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาจึงไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหลังจากที่เขามองไปรอบ ๆ เขาก็ได้พบว่าด้านหลังเคาน์เตอร์ให้บริการมีมนุษย์ต่างดาวผิวเทาที่มีความสูงประมาณ 1.5 เมตรคอยให้บริการอยู่หลายคน
ลูกค้าส่วนใหญ่คือชาวโคบอลต์ โดยมีเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ให้เห็นบ้างอยู่อีกสามคน โดยลูกค้าเผ่าพันธุ์อื่นนี้คือผู้ที่มีจมูกแหลมและสวมใส่เสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ ทำให้พวกเขาดูคล้ายกับพวกพ่อมดแม่มดในเทพนิยาย
“ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายต้องการใช้บริการด้านไหนคะ?” พนักงานต้อนรับกล่าวถามเซี่ยเฟย
“ผมมาหาผู้จัดการอุลลิเยร์ คุณช่วยไปแจ้งเขาทีว่าผมเดินทางมาจากเมืองแบล็กไลออน”
พนักงานต้อนรับลังเลอยู่เล็กน้อย ก่อนที่เธอจะขอให้เซี่ยเฟยนั่งรอ จากนั้นเธอก็ขึ้นไปบนชั้น 2 เพื่อไปแจ้งข้อความให้กับผู้จัดการธนาคาร
“จู่ ๆ ฉันก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้” ระหว่างที่เซี่ยเฟยนั่งรอชายผิวสีน้ำเงินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาก็เริ่มพูดกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่เย่อหยิ่ง
“เรื่องอะไร? เล่ามาเลย” สหายของเขากล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
“ครั้งหนึ่งเพื่อนของฉันเล่าให้ฟังว่าเขาเข้าไปอาบน้ำในโรงอาบน้ำกับชาวทูดอร์เรียน แต่จู่ ๆ ไอ้พวกไลอ้อนฮาร์ทกับสกังก์ก็เข้ามาในโรงอาบน้ำด้วย เพื่อนของฉันจึงรีบออกมาเพราะทนความเหม็นไม่ไหว จากนั้นไม่กี่นาทีเขาก็ได้พบว่าชาวทูดอร์เรียนถูกหามตัวออกมา”
ชายหนุ่มผู้เย่อหยิ่งเล่าเรื่องอย่างขบขันขณะเหลือบสายตามองไปทางเซี่ยเฟย
“แล้วยังไงต่อ? ชาวไลอ้อนฮาร์ทคนนั้นถูกหามออกมาด้วยไหม?” เพื่อนของเขากล่าวถามด้วยความกระตือรือร้น
“หลังจากนั้นอีก 5 นาที สกังก์ก็ทนกลิ่นเหม็นไม่ไหวจนรีบวิ่งออกมาหางจุกตูดเลย”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
ทุกคนต่างก็ส่งเสียงหัวเราะ เพราะเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องตลกคลาสสิกของชาวโคบอลต์ที่พวกเขาจงใจเล่าเพื่อเยาะเย้ยเซี่ยเฟย
น่าเสียดายที่เซี่ยเฟยไม่ใช่คนจากตระกูลไลอ้อนฮาร์ทจริง ๆ เขาจึงไม่ได้รู้สึกโกรธหรือมีปฏิกิริยากับเรื่องเล่าพวกนั้นเลย
“ไอ้พวกสิงโตพวกนี้มันก็เป็นเพียงแค่สิงโตสินะ พวกมันช่างไม่มีอารมณ์ขบขันเหมือนเผ่าพันธุ์อื่นเขาบ้างเลย” ชายหนุ่มผู้เย่อหยิ่งกล่าว
สักพักพนักงานต้อนรับก็นำชายร่างเตี้ยสวมแว่นตาเดินเข้ามาหาเซี่ยเฟย
“ท่านประธานกำลังติดประชุม แต่เขาขอให้ผมคอยให้บริการคุณเป็นอย่างดี เชิญคุณผู้ชายทางนี้ได้เลยครับ” ชายร่างเตี้ยกล่าวด้วยความเคารพ
ขณะที่เซี่ยเฟยกำลังจะลุกยืนขึ้น ชายหนุ่มจากตระกูลโคบอลต์ที่อยู่ด้านหลังก็ส่งเสียงแซะขึ้นมาอย่างน่ารำคาญ
“ธนาคารฟารซีตั้งอยู่ในดินแดนของเราแล้วทำไมพวกเราถึงต้องรอคิว แต่พวกสิงโตตัวเหม็นกลับได้รับการดูแลเป็นพิเศษ!?”
ทันทีที่คำพูดนี้จบลงชาวโคบอลต์มากกว่าสิบคนที่นั่งรออยู่ในธนาคารต่างก็ส่งสายตาหาคำตอบไปทางพนักงาน ซึ่งมันก็ทำให้พนักงานภายในธนาคารรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย เพราะการที่เซี่ยเฟยได้รับการดูแลเป็นพิเศษมันไม่ใช่เรื่องที่ยุติธรรมต่อลูกค้าคนอื่นจริง ๆ
“เอาเป็นว่าผมจะเข้าแถวรอคิวก็ได้ครับ พวกคุณจะได้ไม่ต้องรู้สึกลำบากใจ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหยิบบัตรธนาคารออกมาลงทะเบียนเพื่อรอคิวเหมือนกับคนอื่น ๆ
แต่ในทันใดนั้นทุกคนที่อยู่ในห้องก็เงียบเสียงลงอย่างฉับพลัน เพราะสายตาของพวกเขากำลังจ้องไปยังบัตรธนาคารสีทองเข้มที่เซี่ยเฟยกำลังถืออยู่
“นั่นมันบัตรระดับทองเข้ม!!” ชายหนุ่มเผ่าโคบอลต์อุทานอย่างตกใจ ก่อนที่เขาจะกลืนน้ำลายลงไปเสียงดัง
***************
ของดีแน่!!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 214
แสดงความคิดเห็น