ตอนที่ 622 การโจมตี 2 ครั้ง
ตอนที่ 622 การโจมตี 2 ครั้ง
ชิงเหมิงเป็นอสูรเทวะที่คอยปกป้องตระกูลหยูอย่างซื่อสัตย์มาเป็นเวลานานหลายพันปี และเมื่อมันได้เกิดวิกฤติกับตระกูลในวันนี้ ในที่สุดมันก็ตัดสินใจสละชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องสัญญาในอดีตที่มันเคยให้กับบรรพบุรุษของตระกูลหยูไว้
ยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์ครั้งนี้ยังเกิดขึ้นต่อหน้าอสูรศักดิ์สิทธิ์ อสูรเทวะอย่างมันจึงจำเป็นจะต้องรักษาศักดิ์ศรีเพื่อปกป้องชื่อเสียงเผ่าพันธุ์ของมันเช่นเดียวกัน แต่น่าเสียดายที่ชิงเหมิงไม่รู้เลยว่าขนอุยเติบโตขึ้นมาโดยมีนิสัยคล้ายคลึงกับมนุษย์ มันจึงไม่ได้มีศักดิ์ศรีเหมือนกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ในตำนานอย่างที่ควรจะเป็น
แต่ในตอนนี้อสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้ซุกซนเริ่มเผยเขี้ยวเล็บของมันออกมาแล้ว ทำให้ขนสีขาวทั่วทั้งร่างของมันลุกตั้งชันอย่างรวดเร็ว พร้อมกับส่งเสียงร้องคำรามออกมาเบา ๆ ตลอดเวลา ท้ายที่สุดเมื่อชีวิตของเจ้านายตกอยู่ในอันตราย แม้แต่ขนอุยก็จำเป็นจะต้องลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องเซี่ยเฟยเช่นเดียวกันกับชิงเหมิงที่พยายามปกป้องตระกูลหยู
เจ็ดมังกรแยกฟ้า!
หยูฮัวส่งเสียงร้องคำรามพร้อมกับเริ่มจู่โจมด้วยวิชาแยกมิติอันรุนแรงในทันที รอยแยกมิติ 7 สายเคลื่อนที่เข้าไปปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของเซี่ยเฟยเอาไว้อย่างแน่นหนา และความรุนแรงของการจู่โจมในครั้งนี้ก็ทำให้ทั่วทั้งเกาะสั่นไหวขึ้นมาอย่างรุนแรง
นี่คือวิชาสร้างชื่อของหยูฮัวที่เซี่ยเฟยเคยเห็นมันมาก่อน เพียงแต่ในครั้งนี้เป้าหมายของวิชาคือตัวเขาไม่ใช่คนอื่นเหมือนดั่งในอดีต
เล่ห์กายา!
เซี่ยเฟยบิดร่างด้วยท่าทางอันน่าเหลือเชื่อหลบรอดการจู่โจมทั้งเจ็ดสายและเร่งความเร็วไปยัง พื้นที่ด้านนอกของตัวเกาะ
ฟุบ!
ร่างของหยูฮัวปรากฏขึ้นในพริบตาโดยวิชาเทเลพอร์ตของกฎแห่งมิติ จากนั้นเขาก็ลงมือจู่โจมดักหน้าเส้นทางหลบหนีของชายหนุ่มเอาไว้
ตูม!
แรงปะทะจากการกระแทกทำให้ร่างของเซี่ยเฟยเซออกไป แต่ก่อนที่เขาจะตั้งหลักได้อีกครั้งฝ่ามือของหยูฮัวก็กระแทกเข้าที่สีข้างของเขาจนทำให้ร่างของเขากระเด็นขึ้นไปบนฟ้า
ปัง!
ชายชุดดำที่ติดตามหยูฮัวมาใช้พลังของกฎแห่งสสารเปลี่ยนพื้นดินให้กลายเป็นดาบจู่โจมซ้ำเข้าใส่เซี่ยเฟยอย่างรวดเร็ว จนทำให้ร่างของชายหนุ่มกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง เนื่องจากไม่สามารถหลบการจู่โจมในครั้งนี้ได้
ร่างของเซี่ยเฟยตกกระทบกับพื้นหลังจากกระแทกจนต้นไม้หักลงไป 2 ต้น แต่ถึงกระนั้นจุดที่เขาตกกระทบก็ยังคงยุบตัวลงไปคล้ายกับหลุมอุกกาบาต
“ฉันบอกไปแล้วใช่ไหมว่าอย่ากลับมา ทำไมไม่ฟังคำเตือนของฉัน!” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับส่ายหัวขณะที่หายตัวมาปรากฏร่างใกล้ ๆ ชายหนุ่ม
“นี่สินะพลังทำลายของราชากฎ” เสียงของเซี่ยเฟยดังขึ้นมาจากหลุมดิน หยูฮัวกับชายชุดดำจึงรีบถอยกลับไปด้วยความระมัดระวังพร้อม ๆ กับร่างของชายหนุ่มที่สวมใส่ชุดเกราะสีเทาที่บินขึ้นมา
ด้านหลังของตัวชุดมีลำแสงสีฟ้าอ่อนส่องแสงสว่างขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ทำให้ตัวชุดเกราะดูมีความแวววาวมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนตรงบริเวณหัวไหล่ก็มีเครื่องหมายของบริษัทฟิกส์แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าชุดเกราะชุดนี้ไม่ใช่ชุดเกราะธรรมดา
“ชาร์ปเลส!? นี่มันชุดต่อสู้ของบรูซ 1 ใน 4 ผู้พิทักษ์มังกรฟ้า”
“นายนี่ทำให้ฉันประหลาดใจได้เสมอเลยนะ ฉันไม่คิดเลยว่าตอนนี้นายจะได้รับชุดเกราะจากบริษัทฟิกส์มาอยู่ในมือของนายแล้ว” หยูฮัวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อหมวกเกราะได้เปิดออกมันก็เผยให้เห็นใบหน้าที่ซีดเซียวเล็กน้อยของเซี่ยเฟย โดยในขณะนี้มันมีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก เพราะถึงแม้ว่าเขาจะได้รับการปกป้องด้วยชุดเกราะ แต่เขาก็ยังคงได้รับบาดเจ็บจากการจู่โจมเมื่อสักครู่นี้อยู่ดี
“ฉันอุตส่าห์หวังว่าเราจะได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันต่อไปซะอีก ท้ายที่สุดพวกเราก็มีนิสัยคล้าย ๆ กันแต่น่าเสียดายที่ตัวของนายชอบสร้างปัญหาเหมือนกับพวกเขา” หยูฮัวพึมพำคล้ายกับกระซิบกับตัวเอง
“เพื่อนในดินแดนกฎงั้นเหรอ? ฮ่า ๆ ๆ คุณได้สอนบทเรียนสำคัญให้กับผมแล้ว แต่คุณควรเก็บเรื่องนี้เอาไปใช้กับตัวเองเถอะ... ผมพูดถูกไหมคุณชานหยิงหรือจะให้ผมเรียกว่านเยียนยู่ตู้”
ชายชุดดำสะดุ้งขึ้นมาอย่างน่าเหลือเชื่อในทันที ก่อนที่เขาจะหันหน้าไปเพื่อขอความคิดเห็นจากหยูฮัว
เมื่อหยูฮัวพยักหน้าให้กับเขาชายชุดดำก็ดึงหน้ากากของเขาออกเผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงที่เขาเก็บซ่อนมาเป็นเวลานาน
สิ่งที่เซี่ยเฟยสันนิษฐานไม่ต่างไปจากความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะชายชุดดำคนนี้คือชานหยิง! ราชากฎขั้นที่ 5 ผู้ซึ่งเป็นอดีตลูกน้องของหมิงกุย
แท้ที่จริงแล้วหยูฮัวไม่ได้ลงมือสังหารชายคนนี้ แต่ทำให้อีกฝ่ายกลายมาเป็นลูกน้องที่คอยรับใช้ข้างกายของเขา
“ในดินแดนกฎมิตรภาพไม่เคยมีค่าเทียบเท่ากับผลประโยชน์อยู่แล้ว” ชานหยิงพูดขึ้นมาเบา ๆ
“ครั้งหนึ่งคนคนนี้เคยทรยศต่อเจ้านายเดิมของเขาอย่างง่ายดาย และในวันหนึ่งเขาก็จะทรยศคุณด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มและแม้ว่ามันจะยังคงมีรอยเลือดไหลอยู่ตรงบริเวณมุมปากของเขาก็ตาม
“ฉันยอมรับว่านายเป็นคนที่ฉลาดจริง ๆ แม้ว่านายกำลังจะตายแต่นายก็ยังไม่วายสร้างความร้าวฉานให้กับทีมของฉัน น่าเสียดายจริง ๆ ที่นายไม่ยอมรับฟังคำแนะนำของฉันตั้งแต่แรก” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมากุมหน้าผาก
“นั่นสิน่าเสียดายจริง ๆ ที่ผมคงไม่ได้เห็นวันที่คุณถูกลูกน้องทรยศด้วยตาของตัวเอง” เซี่ยเฟยพูดอย่างอ่อนแอ ก่อนที่เขาจะจับบลัดบิวเทียสออกมาจากแหวนมิติและกดส่งข้อความผ่านทางระบบเรดาร์แบล็คแบท โดยไม่รู้ว่าข้อความนี้จะถูกส่งออกไปถึงผู้รับได้หรือไม่
“ตอนแรกที่ผมเห็นคุณในเกาะผมรู้สึกตกใจจริง ๆ ที่คุณปรากฏตัวขึ้นทั้งนอกและในเกาะพร้อม ๆ กัน แต่ตอนนี้ผมคิดออกแล้วว่าคนที่อยู่ข้างนอกคือหยูเผิงที่ปลอมตัวเป็นคุณอยู่สินะ การใช้แผนการนี้ก็จะทำให้ไม่มีใครสงสัยว่าแผนการทั้งหมดคือฝีมือของคุณอย่างแน่นอน”
“เมื่อไหร่ก็ตามที่หยูเจียงกับหยูกู่ติงเสียชีวิตทั้งตระกูลก็จำเป็นจะต้องเลือกผู้นำขึ้นมาใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเวลานั้นคุณที่เป็นราชากฎเพียงคนเดียวของตระกูลย่อมถูกเสนอชื่อขึ้นมาในทันที และเมื่อคุณมีผู้จัดการเรื่องต่าง ๆ ในตระกูลอย่างหยูจินคอยสนับสนุน มันก็จะยิ่งทำให้คุณขึ้นสู่ตำแหน่งได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น”
“ในเวลานั้นแม้ว่าผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ของตระกูลจะไม่ค่อยชอบคุณเท่าไหร่นัก แต่พวกเขาก็ไม่มีทางปฏิเสธการขึ้นตำแหน่งของคุณได้ และผมก็เชื่อว่าคุณคงวางแผนกันทุกอย่างเอาไว้มาตั้งนานแล้ว”
“แผนการนี้ช่างเป็นแผนการที่แยบยลจริง ๆ คนนอกย่อมสงสัยคนอื่นยกเว้นคุณอย่างแน่นอน หลังจากนี้คนของผมก็คงจะถูกจัดการไปด้วยสินะ เพราะว่าผมคงเป็นคนคนเดียวที่ตั้งข้อสงสัยในตัวคุณตั้งแต่แรก”
“ใช่ หลังจากที่นายตายฉันก็จะส่งคอปเปอร์ตายไปพร้อมกับนายด้วยเหมือนกัน” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
“นายรู้ได้ยังไงว่าหยูเผิงกำลังปลอมตัวเป็นฉันอยู่?” หยูฮัวถาม
“ง่ายมาก คุณบอกเองว่าคุณยังไม่ได้แต่งงานแต่หยูเผิงที่ปลอมตัวเป็นคุณกลับลืมถอดแหวนแต่งงานออก ไม่น่าเชื่อเลยว่าอดีตผู้จัดการเมืองอีกาดำจะเป็นคนที่สะเพร่าได้ถึงขนาดนี้” เซี่ยเฟยกล่าว
“จะตายอยู่แล้วยังจะหลอกด่าคนอื่นอยู่อีกงั้นเหรอ? ฉันต้องยอมรับจริง ๆ ว่านายจะไม่มีวันปล่อยศัตรูคนไหนไปอย่างเด็ดขาด แม้ว่านายจะทำอะไรเขาไม่ได้แต่นายก็ยังคงแอบด่าเขาได้สินะ” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“ถ้าวันนี้นายไม่ได้เข้ามาสร้างปัญหาให้กับตัวเอง ฉันก็อยากจะรับนายมาเป็นคนของฉันจริง ๆ ฉันรับรองได้เลยว่ามีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ฉันไม่ได้โกหกนาย”
หลังจากพูดจบหยูฮัวก็หยิบอาวุธสีดำออกมาจากแหวนมิติ ซึ่งมันเป็นอาวุธที่ทำขึ้นมาจากดาร์คเมทัลเช่นเดียวกันกับดาบวงพระจันทร์ภายในมือของเขา เพียงแต่ว่ามันมีขนาดที่แตกต่างกันอยู่มากพอสมควร
“จริง ๆ มันจะเรียกของสิ่งนี้เป็นอาวุธก็ไม่ถูกเท่าไหร่นัก เพราะรูปร่างภายนอกมันดูเหมือนอิฐสี่เหลี่ยมจตุรัสที่เต็มไปด้วยลวดลายและมีรูหลายช่องคล้ายกับว่ามันเป็นเครื่องดนตรี”
“มันชื่อว่าวิญญาณหวนเป็นอาวุธที่ผลิตขึ้นมาจากดาร์คเมทัลที่พวกเราไปเก็บมาด้วยกัน แล้วมันก็เป็นผลงานของนักออกแบบอาวุธเช่นเดียวกันกับจันทร์ร้องในมือของฉัน ซึ่งมันเป็นอาวุธที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้พลังจิตเหมือนอย่างนาย…”
“น่าเสียดายที่ตอนนี้มันคงจะกลายเป็นอาวุธที่ไร้เจ้าของแล้ว” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับจงใจโยนวิญญาณหวนทิ้งลงไปบนพื้น
แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่หยูฮัวพยายามตอบโต้เซี่ยเฟยกลับไปเช่นเดียวกัน เพราะชายหนุ่มพยายามสร้างรอยร้าวฉานระหว่างเขากับชานหยิง หยูฮัวจึงลงโทษเซี่ยเฟยให้อีกฝ่ายรู้สึกเสียดายที่พลาดอาวุธชิ้นสำคัญอันล้ำค่าชิ้นนี้ไป
ในที่สุดหยูฮัวก็พยักหน้าส่งสัญญาณให้กับชานหยิง เพราะเขาไม่ต้องการที่จะเสียเวลากับเซี่ยเฟยไปมากกว่านี้อีกแล้ว
พริบตาต่อมาราชากฎ 2 คนก็ลงมือพร้อมกัน โดยคนหนึ่งจู่โจมจากทางด้านหน้า ขณะที่อีกคนหนึ่งจู่โจมจากทางด้านหลัง
“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าชุดเกราะชุดนี้มันจะทนได้นานสักแค่ไหน?”
ตูม!
ลูกบอลสีเงินลอยขึ้นมาปิดกั้นศีรษะของเซี่ยเฟยอย่างรวดเร็ว ซึ่งลูกบอลสีเงินนี้ก็คือชุดเกราะโลหะเหลวซึ่งเป็นชุดต่อสู้ชุดเดิมของเขา
ข้อดีของชุดเกราะโลหะเหลวคือมันสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้อย่างอิสระ ดังนั้นเมื่อเซี่ยเฟยมีชุดเกราะชาร์ปเลสแล้ว เขาจึงเปลี่ยนชุดเกราะโลหะเหลวให้กลายเป็นโล่อิสระโดยหวังว่ามันจะพอสกัดกั้นการโจมตีจากหยูฮัวได้
ตูม!
น่าเสียดายที่หยูฮัวมีพลังอยู่ในระดับราชากฎ ดาบวงพระจันทร์ของเขาจึงสามารถตัดผ่านชุดเกราะเหลวจนทำลายมันเป็นชิ้น ๆ
อิ้ว!
ขนอุยปล่อยตาข่ายพลังงานสีขาวออกไปปกป้องร่างของเซี่ยเฟย และเนื่องจากกำลังการจู่โจมของหยูฮัวอ่อนแอลงจากการปกป้องของชุดเกราะโลหะเหลวลงบ้างแล้ว แต่มันก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่ชายหนุ่มจะรับการโจมตีในครั้งนี้เอาไว้
ตูม!
ร่างของเซี่ยเฟยถูกกระแทกจนกระเด็นขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง และชานหยิงที่เฝ้ารอโอกาสจู่โจมมาเป็นเวลานานแล้วก็รวบรวมพื้นดิน, ต้นไม้, เศษหินดินทรายให้กลายเป็นภูเขาลูกเล็ก ๆ กดทับเข้าใส่ร่างของชายหนุ่ม
ตูม! ตูม! ตูม!
การลงมือของราชากฎทั้งสองคนเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ซึ่งเซี่ยเฟยก็ทำได้เพียงแต่คอยตั้งรับอย่างอดทนเท่านั้น เพราะมันไม่หลงเหลือช่องว่างให้เขาจู่โจมโต้กลับเลยแม้แต่น้อย
ด้วยการป้องกันของชาร์ปเลสและขนอุยที่คอยให้ความช่วยเหลือ แม้ว่ามันจะทำให้เซี่ยเฟยยังมีชีวิตอยู่แต่มันก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกัน
‘ถ้าเป็นแบบนี้ฉันต้องตายแน่! ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องจู่โจมกลับไป’ เซี่ยเฟยคิดกับตัวเองภายในใจ
สถานการณ์อันเลวร้ายในปัจจุบันทำให้อันธเริ่มรู้สึกสิ้นหวัง กระป๋องก็เริ่มร้องไห้ออกมาเช่นเดียวกัน แม้แต่โอโร่ก็ทำได้เพียงแต่เฝ้าดูเซี่ยเฟยอย่างอดทนโดยไม่สามารถจะทำอะไรได้
ตูม!
ร่างของเซี่ยเฟยร่วงลงมาจากบนท้องฟ้าราวกับอุกกาบาตที่พุ่งเข้าชนโลก
การจู่โจมอย่างต่อเนื่องทำให้ขนอุยรู้สึกเหนื่อยล้า ส่วนชุดเกราะชาร์ปเลสก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักแล้วด้วยเช่นเดียวกัน มันจึงทำให้การป้องกันของชายหนุ่มอ่อนแอลงเรื่อย ๆ
“รีบจัดการเขากันเถอะ” หยูฮัวกล่าว
ชานหยิงพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะเดินไปด้านข้างของเซี่ยเฟยและยกดาบสีขาวภายในมือเตรียมปลิดชีพชายหนุ่มตรงหน้า
“หือ?” จู่ ๆ ชานหยิงก็อุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อได้พบว่าขาของเขากำลังถูกพันด้วยใบหญ้าสีฟ้าอันแปลกประหลาด
***************
เห้อออ สุดท้ายหยูฮัวกับพี่เฟยก็ต้องสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งสินะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 185
แสดงความคิดเห็น