บทที่ 9...3/3
เสียงโมบายดังกรุ๊งกริ๊งในเวลาบ่ายสามโมงกว่าๆ มีนาเงยหน้ามองก็ยิ้มกว้างพลางเดินมาหาเมษาที่กลับมาแล้ว โดยมีชายอีกคนถือของมาพะรุงพะรัง ก่อนจะวางบรรดาของฝากที่ภามซื้อไว้ให้เมษา แล้วขอตัวกลับไป มีนาได้ยินพี่สาวขอบคุณผู้ชายคนนั้น ก่อนจะนั่งลง หมิวยกน้ำลำไยเย็นๆ มาให้เมษาดื่มพลางชะเง้อมอง แต่รถที่เห็นจอดอยู่หน้าร้านได้หายไปแล้ว
“คุณภามมาส่งเหรอพี่เม” มีนาถามเพราะในระหว่างที่รอพี่สาวกลับมา เธอได้ค้นหาข้อมูลของภามเรียบร้อยแล้ว จึงรู้ได้ว่าผู้ชายที่ถือของมาให้พี่สาวไม่ใช่ภาม แต่คงเป็นบอดี้การ์ดของเขาตามที่ป้าพิศมัยได้เล่าให้ฟัง
“ใช่ ว่าแต่ทำไมมีนทำหน้าแบบนั้น ที่ร้านมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” แค่เห็นหน้าเหมือนกับโกรธใครที่มาพร้อมเสียงถอนใจ เมษาก็รู้แล้วว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น
“พี่เมดูเองแล้วกัน ถ้าดูแล้วอยากให้มีนช่วยอะไรบอกได้เลยนะ”
เมษาเปิดคลิปของร้านที่มีนาบันทึกเอาไว้ในโทรศัพท์ ผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในร้าน แล้วถามหาเจ้าของร้าน หากผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวข้องกับภาม คนที่ถูกถามหาคงเป็นเมษาแน่นอน จากบทสนทนาและความกวนของมีนา ทำให้เมษายิ้มบาง ถ้าเป็นเมื่อก่อน วีดาจะเจอกับอะไร แล้วถ้าวันนี้เป็นเธอที่พบกับวีดา เหตุการณ์จะจบลงแบบไหน ที่แน่ๆ เธอคงไม่อาละวาดให้เป็นเรื่องใหญ่อยู่แล้ว อย่างมากก็แค่เชิญออกไปจากร้านเท่านั้น
“ผู้หญิงคนนี้น่าจะชื่อว่าวีดา คนที่คุณภามเข้าใจว่าเป็นพี่ในครั้งแรกที่พบกัน เสียดายพี่น่าจะอยู่ที่ร้านในวันนี้ พลาดเรื่องสนุกแล้วสิ”
คนแบบยัยวีดาทำอะไรเมษาไม่ได้หรอก มีนามั่นใจเพราะภายนอกดูเหมือนเมษาจะโอนอ่อน แต่หากเห็นความไม่ยุติธรรมหรือถูกเอาเปรียบ เมษาก็ไม่ยอมเหมือนกัน
“พี่เมจะส่งคลิปให้คุณภามไหม”
“ไม่” เมษาไม่มีความคิดแบบนั้นเลย “ถ้าเรื่องพี่ชายของคุณภามเคลียร์แล้ว พี่กับเขาคงไม่ต้องติดต่อกันอีก ถ้าเขากับคุณวีดาคนนี้จะคบหากัน คงไปเคลียร์กันเอง พี่ไม่เกี่ยว”
มีนาหรี่ตามองพี่สาวเพราะเรื่องราวมันไม่น่าจะจบลงง่ายๆ ถ้าคุณภามตกลงปลงใจกับวีดาคนนั้น การมาวีนเบาๆ ของวีดาคงไม่เกิดขึ้นหรอก
“แล้วถ้าคุณภามยังติดต่อกับพี่เม แล้วไม่ได้ไปสานต่อกับยัยคุณวีดาล่ะ”
“ถ้างั้นก็ให้เมษาในอนาคตเป็นคนตัดสินใจแล้วกัน พี่ตัดสินใจสิ่งที่เห็นในตอนนี้ไปแล้ว”
เมษาไม่อยากคาดหวังกับความรัก การที่รักใครสักคนมากแล้วพบว่าถูกหักหลัง ทำให้เธอไม่ยอมใจอ่อนรักใครง่ายๆ แม้ว่าภามจะทำให้เธอหวั่นไหวก็ตาม หากเขาคือคนที่เธอรอคอย และเธอเป็นคนที่เขารอคอยเช่นกัน เวลาจะทำให้ทุกอย่างกระจ่างชัดเอง ผ่านสิ่งที่เรียกว่าความซื่อสัตย์
ภามเพิ่งออกมาจากห้องประชุม การวางรากฐานและระบบงานที่ดีไว้ตั้งแต่รุ่นพ่อของเขา ทำให้เวลานี้การดำเนินงานในส่วนต่างๆ ของบริษัทไม่ค่อยมีปัญหาอะไร มีเพียงธนินซึ่งเป็นลุงของเขามักจะชอบดึงบางเรื่องให้ช้า
อย่างในวันนี้มีการเลือกบริษัทที่จะดูแลการก่อสร้างโรงแรมพริ๊นท์ตันที่ดอยช้าง จากข้อมูลทั้งหมด เขาได้เลือกบริษัทที่คิดว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว แต่ลุงธนินกลับเลือกอีกบริษัททำให้ต้องโหวตกัน แม้บริษัทที่ลุงธนินเลือกจะแพ้โหวต แต่เขารู้เหตุผลที่ลุงธนินเลือกบริษัทนี้เพราะลุงธนินเป็นหุ้นส่วนอยู่ การทำงานโดยมีเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ทำให้เขาก็ต้องมีเล่ห์เหลี่ยมกลับเช่นกัน
ภามกลับเข้ามาในห้องทำงานของเขา ส่วนปุริมแยกไปที่โต๊ะทำงานหน้าห้องเพื่อเตรียมงานในตอนบ่าย เพื่อนของคุณภัทรพ่อของภามจะเข้ามาพบเรื่องธุรกิจร้านอาหาร ภามสนใจอยากให้มาเปิดสาขาที่โรงแรมพริ๊นท์ตัน เพราะชื่อเสียงและคุณภาพที่น่าเชื่อถือมาโดยตลอด ขวัญจิราที่ดูแลเรื่องอาหารในแต่ละโรงแรมก็เห็นด้วยเช่นกัน
ก๊อกๆๆๆ
พอภามขานบอกปุริมก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับวางแท็บเล็ต
“คุณภามควรดูข่าวนี้ครับ”
ภามอ่านหัวข้อ ‘ว่าที่สะใภ้โรงแรมดัง แต่ว่าที่แม่สามีคงไม่ปลื้มถึงต้องไปแอบฝากท้องในโรงพยาบาลต่างจังหวัด’ แม้ใบหน้าของชายหนุ่มและหญิงสาวจะเบลอเพื่อไม่ให้ถูกฟ้อง แต่ใบหน้าของโมกข์กลับชัดเจนจึงรู้ได้ทันทีว่าข่าวนี้กล่าวถึงเขากับเมษา
“ส่งทนายไปยื่นโนติสให้สำนักข่าวนี้ทันที มันไม่เป็นความจริง วันนั้นเมษาป่วย ผมแค่พาไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพทั่วไป ไม่มีเรื่องแบบที่ข่าวเขียน”
ปุริมรับคำสั่งแล้วก็รีบออกไปจัดการโทรหาทนายประจำบริษัท ภามโทรหาเมษา แต่รอสัญญาณอยู่นานเธอก็ไม่รับโทรศัพท์ เขาร่ำๆ จะขับรถไปหา แต่ติดว่ามีแขกสำคัญ พอจะตั้งใจทำงาน แม่ก็โทรเข้ามาซึ่งเดาไม่ยากว่าเพราะเรื่องอะไร
“ป้าลินโทรมาโวยวายใหญ่เลยเรื่องข่าว เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ภามกับหนูเมไปที่โรงพยาบาลนั้นได้ยังไง”
แม้จะเห็นแค่ใบหน้าเบลอๆ เนตราก็จำได้ อีกทั้งตอนนี้ผู้หญิงคนเดียวที่ลูกชายของนางพยายามพาตัวไปสนิทสนมด้วยก็มีแค่เมษาคนเดียว
“ผมขอคบกับเมษาครับ” ภามแน่ใจว่าไม่ได้พูดปด เขาทำแบบนั้นจริงๆ ยกเว้นเรื่องสืบการตายของพี่ชาย เอาไว้ทุกอย่างกระจ่างแล้ว เขาจะเล่าให้แม่ฟังทุกอย่าง “พอดีว่าเมษาเป็นลมและเลือดกำเดาไหล ผมจึงต้องพาไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจ เรื่องก็มีเท่านี้เองครับ แต่ทำไมกลายเป็นผมพาเมษาไปฝากท้องได้ เรื่องนี้รอให้ทนายของผมฟ้องจนรู้คำตอบก่อน”
เนตราไม่เชื่อข่าวตั้งแต่แรก เรื่องแบบนี้ผู้หญิงเสียหาย แล้วยังมาอ้างถึงนางอีกด้วยว่าไม่ปลื้มว่าที่ลูกสะใภ้ ที่ผ่านมานางคิดเสมอว่าลูกชายรักใคร นางก็รักด้วย แล้วถ้าเป็นเมษา นางยิ่งพอใจด้วยซ้ำ การแต่งงานไม่จำเป็นที่อีกฝ่ายต้องเกื้อกูลในเรื่องธุรกิจเสมอไป แต่งแล้วไม่มีความสุขก็เหมือนเอานรกไปให้ลูกชายอยู่ดี คราวขวัญจิราเป็นเพราะภามไม่อยากขัดใจพี่นลิน ตอนที่เกิดการถอนหมั้น นางกลับโล่งใจอยู่เงียบๆ เพราะดูออกว่าเด็กสองคนไม่ได้รักกันเลย
“เคลียร์ข่าวให้ดี ภามมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากมายในมือ หนูเมเองก็ถูกถ่ายรูปติดหน้าไปขนาดนั้นถึงจะเบลอแล้ว แต่รูปจริงคงมีการส่งกันเองในหมู่นักข่าว เรื่องนินทาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครชอบหรอกนะภาม”
ภามเข้าใจว่าเมษาจะพบกับอะไรถึงได้ไม่นิ่งนอนใจเมื่อได้รู้ข่าว ป่านนี้เธอจะรู้ตัวหรือยัง เขาโทรไปเธอก็ไม่รับสาย เขายิ่งพานร้อนใจ
“ผมจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วครับ”
ภามเห็นว่าเกือบ 4 โมงแล้วจึงออกมาจากห้องทำงานกำลังจะเดินไปที่ห้องรับรอง แต่กลับเดินย้อนกลับมาหาปุริมเพื่อบอกสิ่งที่คิดว่าควรทำ
“บอกนักข่าวไปว่าผู้หญิงในข่าวเป็นผู้หญิงที่ผมคบหาอยู่ ถ้าใครให้ร้ายผู้หญิงของผม ผมจะฟ้องทันที”
ปุริมรับคำพลางมองภามที่เดินไปด้วยท่าทีปกติ แต่เขาสังเกตได้ว่าตอนที่บอกให้เขาบอกนักข่าวไปแบบนั้นภามยิ้มแปลกๆ อย่างกับเขิน ซึ่งไม่น่าจะเขินเขาหรอก แสดงว่าภามมีความรักจริงๆ วีดาคงอกหักแน่แล้ว เพียงแต่หากคุณนลินได้อ่านข่าว ความวุ่นวายคงเกิดขึ้น
ปุริมบอกภามแล้วว่าในระหว่างที่เขาไปพบคนสำคัญทางธุรกิจ ภายในห้องทำงานของเขานั้นกำลังคุกรุ่นไปด้วยความไม่พอใจของป้านลินที่มาถึงเมื่อ 10 นาทีก่อนพร้อมกับวีดา เหตุผลที่มาคงไม่ต้องถามเพราะนักข่าวรีบลงข่าวขอโทษภามและผู้หญิงที่กำลังคบหาทันทีที่ส่งทนายไปหาถึงสำนักงาน
ที่ผ่านมาภามมีข่าวทำนองนี้อยู่บ่อยครั้งว่าออกเดทกับลูกสาวของคนดังท่านหนึ่งบ้าง หรือบางทีก็อ้างว่าภามไปหาที่คอนโด ที่ผ่านมาภามไม่เคยสนใจ แล้วข่าวก็เงียบไปเอง ผู้หญิงในข่าวก็เงียบไปเช่นกันเพราะภามไม่สนใจสานสัมพันธ์ต่อหลังจากนัดบอดที่เขาไปเพราะเกรงใจป้านลิน แต่คราวนี้เขาปฏิเสธข่าวเรื่องฝากท้อง แต่กลับยอมรับว่าผู้หญิงในข่าวคือคนที่กำลังคบหาซึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“นี่มันอะไรกันตาภาม!”
นลินโวยวายทันทีที่เห็นหลานชายเดินเข้ามาในห้องทำงาน
“ตอนบ่ายมีข่าวว่าภามพาผู้หญิงไปฝากท้อง พอตอนเย็นบอกว่าเป็นแฟนที่กำลังคบหา จะทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาป้าก่อน”
ภามได้ยินเสียงแหลมๆ ของป้านลินก็คิดว่าไม่ผิดคาด บางทีเขาก็สงสัยว่าทำไมป้านลินถึงสนใจคู่ครองของเขาถึงขนาดนี้ แม่ของเขายังไม่มากะเกณฑ์อะไรเลย
“ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมตัดสินใจได้เองนะครับ”
“แต่ภามจะเลือกผู้หญิงทั่วๆ ไปมาแต่งงานไม่ได้นะ แม่ค้าร้านขนมแบบนั้นจะเหมาะสมกับภามได้ยังไง” นลินยอมไม่ได้ การแต่งงานของภามต้องเกิดขึ้นเพราะผู้หญิงที่คู่ควรเท่านั้น
วีดาลืมตัวพยักหน้า แต่พอภามหันมาเห็นพอดีก็หน้าเจื่อน เธอไม่ได้ดูถูกอาชีพของผู้หญิงคนนั้น แต่ผู้หญิงที่จะส่งเสริมเขาในเรื่องงานได้ ไม่ควรเป็นผู้หญิงที่ไร้คอนเนคชั่นแบบนั้น
“แม่ค้าร้านขนมก็มีความเป็นมนุษย์เท่าๆ กับผมนั่นแหละครับ ผมไม่เคยมองคนที่เปลือกนอก ป้าลินน่าจะรู้นะครับว่าผมเป็นคนยังไง ก่อนที่พ่อจะมาแต่งงานกับแม่ก็เป็นช่างก่อสร้างธรรมดาๆ ทุกคนสร้างตัวได้ทั้งนั้น”
คำพูดของภามทำให้วีดาขมวดคิ้วเพราะมันช่างเหมือนกับที่เธอได้ฟังตอนที่ไปร้านขนมเมนา คงมีแค่เหตุผลเดียวที่เขาพูดได้เหมือนผู้หญิงคนนั้น
“แฟนของพี่ภามคงโทรมาฟ้องแล้วใช่ไหมคะ ถึงได้พูดเหมือนกันขนาดนี้”
ทั้งภามและนลินต่างหันมามองวีดา แต่คนละเหตุผลกัน สายตาของนลินมองผู้หญิงที่นางมั่นใจว่าคู่ควรกับหลานชาย แต่การที่วีดาวู่วามทำแบบนั้นทั้งที่นางสั่งห้ามเอาไว้แล้ว ทำให้นลินเริ่มลังเลว่าวีดาใช้ผู้หญิงที่คู่ควรกับภามจริงๆ หรือเปล่า
“วีไปหาเมษาเมื่อไหร่ ทำไมถึงทำแบบนั้น พี่คิดว่าระหว่างเราสองคนไม่มีเหตุผลที่วีจะทำแบบนั้นได้เลยนะ”
คำพูดของภามยิ่งกว่าน้ำเย็นๆ ที่สาดใส่หน้าของวีดา นั่นสิ เธอมีเหตุผลอะไรถึงไปที่ร้านเมนา
นลินก็ไม่ชอบใจนัก “นั่นสิ หนูวีไปหาผู้หญิงคนนั้นทำไม ป้าบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำแบบนั้น”
วีดายกมือไหว้ภามกับนลิน เธอรู้ดีหากเถียงก็จะกลายเป็นยิ่งดูแย่กว่าเดิม
“วีขอโทษค่ะ วีแค่ไปทักทายไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”
“อย่าทำแบบนั้นอีก” ภามสั่งเสียงเข้มใส่วีดา ก่อนบอกป้านลินที่วีดาย่อมต้องรับรู้ด้วย “ผมเลือกแล้วว่าจะเป็นแฟนกับใคร เพราะฉะนั้นผมขอให้ป้าลินกับวีเคารพการตัดสินใจของผมด้วยครับ ครั้งนี้ผมไม่ได้ขอร้องนะครับ แต่นี่คือเรื่องส่วนตัวของผม”
แม้จะเป็นคำพูดที่สุภาพ แต่นลินฟังหลานแล้วก็หน้าม้าน เพราะมันจบที่คำสั้นๆ ว่า...อย่ายุ่ง ความที่ไม่อยากเสียหน้าทำให้นลินพูดเสียงไม่เบานักว่า
“ตาภามพูดอย่างนี้กับป้าได้ยังไง”
“ถ้าผมพูดอะไรให้ป้าลินไม่พอใจ ผมขอโทษครับ” ภามยกมือไหว้ผู้เป็นป้า เขาเองก็หมดความอดทนแล้วเหมือนกัน “แต่ผมหมายความตามนั้นจริงๆ”
นลินเม้มปากนึกว่าหลานจะยอมตามใจ แต่คราวนี้กลับไม่ใช่
“ก็ได้ ต่อไปนี้ป้าจะไม่ยุ่งเรื่องของภามอีก กลับกันเถอะหนูวี”
วีดาละล้าละลังไม่คิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้ ถ้าป้านลินไม่คอยสนับสนุนเธอ แล้วพี่ภามจะยอมพบเธออีกไหม หญิงสาวไม่แน่ใจเลย ครั้นจะอยู่ในห้องนี้ต่อ สายตาของพี่ภามก็ไม่ได้ยินดี วีดาจึงทำได้เพียงเดินตามนลินออกไปจากห้อง
ภามรอจนประตูห้องปิดลงแล้วจึงถอนใจยาว เขาตรวจงานบนโต๊ะอีกครู่เดียวก็โทรบอกให้โมกข์ขับรถมารอ ตอนนี้เกือบ 6 โมงเย็นแล้ว กว่าจะไปถึงร้านเมนาคงค่ำ ป่านนี้แล้วเมษายังไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเขา ซ้ำยังไม่โทรกลับ เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ทว่าในความวุ่นวายของวันนี้ ภามก็ได้คำตอบว่าการที่ลุงธนินดูไม่มีพิรุธอะไร ธีภพไปทำงานตามปกติ ไปรยายังไม่กลับจากอเมริกา ส่วนป้านลินมาโวยวายเขาเพราะเรื่องข่าว ตอนนี้คนที่น่าสงสัยกลับไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย การที่เขาถูกลอบยิง เกี่ยวข้องกับใครกันแน่ใน 4 คนนี้
งอนเค้าอยู่ดีๆ ตอนนี้น่าจะต้องไปตามง้อแทนนะภาม
ใจดวงนี้สื่อถึงรักลงขายเป็น E-Book ใน MEB แล้วค่ะ หมวดนิยายรัก
โดยโบว์ทำโปรโมชั่นลดเหลือ 149 บาทจาก 329 บาทเป็นเวลา 20 วัน ถ้าอ่านตัวอย่างแล้วถูกใจก็รวบกวนไหว้ละ ^_^ ไปพาเมษากับภามไว้บนชั้นหนังสือกันนะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 189
แสดงความคิดเห็น