บทที่ 630: หลงโม่ในวัยเด็ก

-A A +A

บทที่ 630: หลงโม่ในวัยเด็ก

ปัจจุบันเหยียนหุนได้เห็นทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกมิติทั้งหมด

 

ในเวลานี้มันเดินไปมาในมิติด้วยขาเรียวเล็กทั้ง 2 ข้างที่โผล่ออกมา

 

“เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้บิดาควรทำยังไงดี บิดาจะออกไปข้างนอกดีไหม?” 

 

“ถ้าบิดาออกไป บิดาก็จะถูกภูตคนอื่นพบเข้า แต่ถ้าบิดาไม่ออกไปแล้วผู้หญิงคนนี้ตาย บิดาก็จะถูกค้นพบอยู่ดี โอ๊ย! เลือกทางไหนดี!” เจ้าก้อนหินอ้วนกุมหัวตัวเองแบบคนคิดไม่ออก สุดท้ายแล้วมันก็กัดฟันกระโดดออกจากมิติไป

 

“นั่นใครน่ะ!” หลงโม่สังเกตได้ว่ามีกลิ่นอายของอีกคนหนึ่งเพิ่มเข้ามาในห้องจึงหันไปมองผู้มาเยือนคนใหม่

 

เหยียนหุนยกมือขึ้นและรีบอธิบายว่า

 

“ช้าก่อน! ไม่ บิดาอธิบายได้ หมายถึง… บิดามาที่นี่เพื่อช่วยนาง”

 

มังกรหนุ่มเคยเห็นก้อนหินเรืองแสงสีทองมาก่อน เขาจึงจำเหยียนหุนได้ ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเจอกันมันเป็นเพียงก้อนหินเล็ก ๆ ก้อนหนึ่งเท่านั้น

 

ปัจจุบันสิ่งที่เคยเป็นเหมือนก้อนหินมีแขนขายื่นออกมา แถมยังมีใบหน้าที่อุดมสมบูรณ์แล้วสามารถพูดได้อีก

 

หลงโม่รู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้นว่า

 

“เจ้าบอกว่าเจ้าช่วยนางได้อย่างนั้นหรือ?”

 

เหยียนหุนพยักหน้ารับระรัว พร้อมกับพูดยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ใช่! บิดาเชี่ยวชาญด้านการจัดการจิงหลิงมาก”

 

“!!” ดวงตาสีทองเบิกกว้างทันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายพูด 

 

อาการหมดสติของเจียวเจียวนั้นเกี่ยวข้องกับของจิงหลิงจริง ๆ สินะ

 

เมื่อเจ้าหินตัวกลมเห็นว่ามังกรหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เหยียนหุนก็รวบรวมความกล้าแล้วก้าวไปข้างหน้า

 

“ตอนนี้วิญญาณของนางไม่มั่นคงซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นางตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ จิงหลิงคงจะทำอะไรบางอย่างกับนาง” มันกล่าวด้วยสายตาแน่วแน่

 

“แต่นางไม่เคยเผชิญหน้าพวกจิงหลิงมาก่อนเลย” หลงโม่พูดพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

“มันไม่ใช่เพียงการเผชิญหน้ากันเท่านั้น แต่เป็นอะไรบางอย่างที่เชื่อมโยงกับนางมันก็เกี่ยวข้องกับจิงหลิงได้หมดแหละ”

 

จู่ ๆ ชายหนุ่มก็นึกถึงจี้ที่เขาทำหล่นหายในป่าวิญญาณซึ่งเขาไม่รู้ว่าในนั้นมีอะไรบางอย่างที่เชื่อมโยงกับนางได้ เขาคิดเพียงว่านี่เป็นสิ่งของแทนใจของนาง

 

แล้วใบหน้าคมคายก็เคร่งเครียดขึ้นในทันใด

 

มันต้องเป็นเพราะเหตุการณ์นั้นแน่ ๆ!

 

“แล้วข้าต้องทำยังไงเพื่อให้เจียวเจียวตื่นขึ้นมา?” มังกรหนุ่มขมวดคิ้วถาม

 

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบิดาเถอะ!” เหยียนหุนตบหน้าอกของมันอย่างมั่นใจ

 

หลังจากที่มันพูดจบ มันก็กระโดดขึ้นไปบนหัวของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะใช้มือทั้ง 2 ข้างคว้าเส้นผมของนางเอาไว้

 

ทันทีที่แสงสีทองทั่วร่างกายของมันจางลง มันก็หายไปในอากาศ

 

...

 

หูเจียวเจียวลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าท้องฟ้าข้างนอกเริ่มมืดลงแล้ว 

 

เธอรู้สึกว่าตัวเองหลับไปนานมาก ในไม่ช้าเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าหลงโม่กลับมาแล้ว แต่ทำไมจู่ ๆ เธอถึงมานอนอยู่ตรงนี้?

 

ไม่ว่าหญิงสาวจะเค้นสมองตนเองกี่รอบ ในหัวเธอก็ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว

 

ขณะที่จิ้งจอกสาวกำลังสงสัย เธอก็ได้ยินเสียงเบา ๆ ดังอยู่ตรงหน้า

 

มันเป็นสิ่งที่ฟังดูเหมือนเสียงครางของสัตว์บาดเจ็บที่ดังเป็นระยะ ๆ

 

หูเจียวเจียวลุกขึ้นหมายจะเข้าไปตรวจสอบ แต่ทันทีที่ยืนขึ้นเธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ 

 

พอเธอก้มลงมองดูร่างกายตัวเองก็พบว่าท้องที่ยื่นออกมาหายไปแล้ว!

 

มิหนำซ้ำ ตัวของเธอก็หดเล็กลงด้วย กลายเป็นว่าร่างกายของเธอมีขนาดเท่ากับเด็กอายุเพียงไม่กี่ขวบเท่านั้น!

 

นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?

 

ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้คิดวิเคราะห์สถานการณ์ของตัวเอง ก็มีร่างหนึ่งค่อย ๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ

 

ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บเพราะมีเลือดเปื้อนอยู่บนพื้น เขาคนนั้นเป็นเด็กที่มีอายุเพียงไม่กี่ขวบ ซึ่งสภาพของอีกฝ่ายน่าสังเวชมาก

 

หูเจียวเจียวเดินเข้าไปหาเด็กชายแล้วพูดด้วยเสียงเล็กแหลมที่ดังมาจากปากตนเอง

 

“เจ้าได้รับบาดเจ็บอย่างนั้นหรือ? ข้าจะช่วยรักษาเจ้าเอง”

 

เสียงที่จิ้งจอกสาวใช้พูดนั้นฟังดูน่ารักมาก เธอไม่รู้สึกคุ้นเคยกับเสียงพูดของตัวเองในขณะนี้เลยแม้แต่น้อย

 

ส่วนเด็กผู้ชายตรงหน้าทำท่าทางประหลาดใจเมื่อมีคนเริ่มเข้ามาพูดคุยกับเขาก่อน โดยที่ดวงตาสีทองคู่หนึ่งกำลังจ้องตรงมาทางเด็กหญิง

 

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นดวงตาสีทองที่คุ้นเคย เธอก็ตกใจจนสะดุ้งสุดตัว

 

“หลงโม่?” 

 

เขาดูเหมือนหลงโม่ทุกประการเลย!

 

ไม่! นั่นไม่ใช่หลงโม่

 

หลงโม่จะตัวเล็กขนาดนี้ได้ยังไง?

 

จากนั้นหญิงสาวก็ก้มลงมองร่างเล็กของตัวเองอีกครั้ง แล้วก็เริ่มรู้สึกไม่มั่นใจ

 

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

พอจิ้งจอกสาวเห็นบาดแผลที่แขนของเด็กที่ดูคล้ายมังกรหนุ่ม เธอก็สลัดความคิดทั้งหมดทิ้งไป

 

สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือต้องช่วยชีวิตเขาก่อน

 

“ไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะไปหาสมุนไพรมาช่วยรักษาบาดแผลของเจ้าเอง เจ้ารออยู่ตรงนี้นะ อย่าเพิ่งไปไหน”

 

หูเจียวเจียวพูดเตือนเด็กผู้ชายตรงหน้าก่อนจะรีบวิ่งออกไปอีกด้าน

 

เวลาผ่านไปไม่นาน หญิงสาวก็ค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้ดูคล้ายกับในเผ่าเฟิงโชวตอนที่เธอทะลุมิติมายังโลกภูตครั้งแรก แต่สภาพแวดล้อมโดยรอบมันดูว่างเปล่ากว่าตอนนั้น และดูเหมือนว่าที่นี่ไม่มีภูตอาศัยอยู่มากนัก

 

หูเจียวเจียวเดินไปตามเส้นทางในความทรงจำของตัวเองจนกระทั่งมาถึงบ้านของหมอเฒ่าคนหนึ่ง

 

เธอเคยพบหมอเฒ่าคนนั้นมาก่อนแล้ว แต่ตอนนี้อีกฝ่ายดูหนุ่มกว่าตอนที่เธอเจอเขาครั้งแรกมากเหมือนกัน

 

แล้วความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในใจของหญิงสาว

 

ทันใดนั้นจิ้งจอกสาวก็แอบเข้าไปในบ้านหมอเพื่อหยิบสมุนไพรห้ามเลือดและลดการอักเสบมา ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกไป

 

ไม่นานเธอก็วิ่งกลับมาที่เดิมที่ตนลืมตาตื่นขึ้นมา ซึ่งเด็กผู้ชายคนนั้นก็ยังคงรออยู่ที่นั่น

 

หูเจียวเจียวจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วก้าวเข้าไปหาอีกคนพร้อมกับสมุนไพร “เจ้าอาจจะรู้สึกเจ็บนิดหน่อย แต่เจ้าต้องอดทนเอาไว้นะ”

 

ทางด้านเด็กชายผู้มีดวงตาสีทองทำเพียงแค่มองดูการกระทำของเด็กหญิงตัวเล็กอย่างหวาดระแวง แต่เขาก็ไม่ได้ขยับตัวหนีไปไหน

 

ในเวลาเดียวกัน นัยน์ตาสีทองนั้นก็จ้องมองหูเจียวเจียวเขม็งเหมือนเป็นการเตือนว่าถ้านางมีเจตนาที่จะทำร้ายตนแม้แต่นิดเดียว เขาก็จะตะปบนางแล้วฉีกเป็นชิ้น ๆ ทันที

 

ถึงแม้ว่าเขาจะส่งสายตาคมดุให้คนตรงหน้าตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไร

 

อันที่จริงในใจของจิ้งจอกสาวไม่ได้รู้สึกกลัวเด็กที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับหลงโม่เลยแม้แต่น้อย

 

ขณะนั้นเธอขยับเข้าไปประชิดตัวของเขาแล้วช่วยเขารักษาบาดแผลที่แขน

 

บาดแผลนี้คล้ายกับแผลที่ถูกสัตว์ป่ากัด ซึ่งรอยเขี้ยวมันลึกถึงขั้นเห็นกระดูกที่อยู่ด้านใน

 

พอหูเจียวเจียวได้เห็นว่าเนื้อตรงแขนของอีกฝ่ายแหว่งหายไป มันก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดแทนเจ้าตัว

 

“ถ้าเจ้าเจ็บเจ้าก็รีบบอกข้าเลยนะ แผลของเจ้ามันร้ายแรงกว่าที่ข้าคิดไว้เยอะเลย” หญิงสาวกัดฟันช่วยเขาจัดการกับบาดแผลอย่างระมัดระวัง

 

ทว่าตลอดกระบวนการทั้งหมด เด็กชายไม่ส่งเสียงอะไรออกมาสักแอะ

 

แต่ถึงกระนั้น เจ้าของนัยน์ตาสีทองก็กัดฟันแน่น ใบหน้าของเขาซีดเซียวและมีเหงื่อเม็ดใหญ่หยดลงจากคางไม่หยุด

 

ทันทีที่หูเจียวเจียวปิดแผลให้เขาเสร็จเรียบร้อย ร่างกายที่เกร็งแน่นของเขาก็อ่อนลงทันที

 

ระหว่างนั้นจิ้งจอกสาวเหลือบมองเด็กชายตรงหน้า ไม่ว่าจะมองอย่างไร เด็กคนนี้ก็เหมือนกับหลงโม่ทุกประการ แม้แต่สีหน้าท่าทางที่แสดงออกก็ยังคล้ายกันมาก 

 

“เจ้าชื่ออะไร?” เธอถามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ

 

เด็กชายหลุบตาลงต่ำ ก่อนที่เขาจะกระซิบพูดเสียงเบา “หลงโม่”

 

ชื่อของเด็กคนนี้ส่งผลให้ดวงตาของหูเจียวเจียวเบิกกว้าง

 

นี่เธอคงไม่ได้เดินทางย้อนเวลามาตอนวัยเด็กของหลงโม่หรอกใช่ไหม?!

 

“ขอบคุณ” เสี่ยวหลงโม่ยืนเงียบอยู่นาน ก่อนจะพูดเสียงอ่อน

 

นางเป็นภูตคนแรกที่ใจดีกับเขา ตั้งแต่ที่ตัวเองเกิดมาลืมตาดูโลก เขาไม่เคยได้พบเจอกับคนแบบนี้เลย

 

แถมนางยังเป็นคนแรกที่ไม่ได้รังเกียจเขาด้วย

 

“ไม่-ไม่เป็นไร” หูเจียวเจียวตอบตะกุกตะกักเพราะยังคงตกตะลึงไม่หาย

 

หลังจากนั้นไม่นานท้องฟ้าก็เปลี่ยนสี

 

ดูเหมือนว่าปัจจุบันพวกเธอทั้งคู่จะอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง 

 

เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นเขาในสภาพเช่นนี้ เธอก็ไม่ได้คิดที่จะจากไปไหน ต่อมา เธอออกไปหาน้ำดื่มก่อนจะกลับมาพักอยู่ที่นี่กับเขา 

 

ไม่ว่าอย่างไร เธอจะปล่อยให้เกิดเรื่องกับสามีในอนาคตของตัวเองไม่ได้

 

ถ้าเธอทิ้งอีกฝ่ายไว้แบบนี้แล้วเขาเกิดเสียชีวิตขึ้นมา หลงโม่ในอนาคตจะยังมีตัวตนอยู่หรือไม่?

 

หลังจากที่หูเจียวเจียวคอยดูแลเด็กชายมาทั้งวัน ท้องของเธอก็เริ่มร้องประท้วง 

 

ในช่วงที่เธอตั้งครรภ์นั้นเธอเป็นคนที่หิวค่อนข้างเร็ว และการขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็ทำให้รู้สึกเหนื่อยได้ง่ายมาก

 

ยามนี้หญิงสาวลองคลำไปทั่วร่างกายของตัวเองก่อนจะพบว่ามีผลไม้ 2-3 ผลอยู่ข้างใน

 

หูเจียวเจียวนำมันออกมาแล้วอ้าปากกว้างกำลังจะกัดกินผลไม้ในมือ แต่จู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงกลืนน้ำลายดังมาจากด้านข้าง 

 

พอเธอหันไปมองก็เห็นเสี่ยวหลงโม่เพิ่งหันหน้าหนีไปอีกทาง

 

“เอ้านี่! กินซะ”

 

จิ้งจอกสาวยื่นผลไม้ให้อีกคนแบบไม่เต็มใจนัก

 

แต่จากสภาพที่ผอมโซของเจ้ามังกรน้อย ถ้าตอนนี้เขายังไม่มีอะไรตกถึงท้อง เขาอาจจะอดตายไปเสียก่อนที่แผลจะหาย

 

ทางด้านเสี่ยวหลงโม่ตะลึง เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยสักนิด 

 

“ไม่ ๆ” ทันทีที่เขาตั้งสติได้ เขาก็ปฏิเสธแล้วหันหน้าไปทางอื่น

 

ทำไมเด็กคนนี้ถึงดื้อด้านขนาดนี้!

 

หูเจียวเจียวไม่อยากเสียเวลาพูดอะไรกับเขาให้มากความ เธอรีบยัดผลไม้เข้าไปในปากของอีกฝ่ายโดยตรงแล้วกล่าวว่า

 

“เจ้าได้รับบาดเจ็บ รีบ ๆ กินเข้าไปซะจะได้หายเร็ว ๆ กินสิ! ถ้าเจ้าคายออกมามันก็จะเสียของนะ”

 

เสี่ยวหลงโม่ตัวแข็งทื่อทันทีที่ได้ยินคำพูดข่มขู่ของหูเจียวเจียว

 

ผลไม้ในปากของเขานั้นมีขนาดเล็ก ซึ่งมีรสหวานกระจายออกมาจากตัวของมัน

 

ผลไม้นี้หวานกว่าอาหารที่เขาเคยลิ้มลองมาทั้งหมดในชีวิตเลยก็ว่าได้

 

ปัจจุบันเขาหิวโหยมากจริง ๆ เพราะว่าไม่มีอะไรตกถึงท้องมาหลายวันแล้ว

 

ถึงแม้ว่าผลไม้ลูกเล็ก ๆ กำมือหนึ่งจะไม่มากพอที่จะทำให้เขาอิ่มท้อง แต่มันก็ยังช่วยเติมเต็มร่างกายเล็ก ๆ ของตนให้มีพลังงานขึ้นมาต่อสู้กับอาการเจ็บป่วย

 

ในขณะเดียวกัน หูเจียวเจียวคอยเฝ้าดูเสี่ยวหลงโม่จนกระทั่งเขากินผลไม้จนหมด ในตอนนั้นเองเธอก็เผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา

 

“ไม่เลว ในอนาคตเจ้าจะต้องกินให้มากกว่านี้ เจ้าจะได้สูงขึ้นด้วย”

 

จิ้งจอกสาวที่อยู่ในร่างเด็กยกมือขึ้นลูบหัวของเด็กชายตรงหน้า

 

เธอรู้สึกว่าหลงโม่ในวัยเด็กนั้นน่ารักมากจริง ๆ ถึงแม้ว่าสีหน้าของเขาจะเย็นชาไปสักหน่อย แต่เขาก็ยังเป็นคนที่อ่อนโยนและน่ารักมากอยู่ดี

 

แต่ว่าเสี่ยวหลงโม่คนนี้ค่อนข้างผอมโซ หนังสัตว์ที่เขาสวมใส่อยู่ก็แข็งมากเหมือนกับว่าพอเขาถลกหนังสัตว์ออกมา เขาก็เอามาสวมเลยทันทีโดยไม่ได้ผ่านการฟอกใด ๆ ทั้งสิ้น

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: อยู่ดี ๆ แม่ก็ย้อนอดีตเฉยเลย แต่พ่อในสมัยเด็กน่ารักน่าชังมาก!

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.