ตอนที่ 544 ราชากฎหยูฮัว
ตอนที่ 544 ราชากฎหยูฮัว
การเทเลพอร์ตไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทำได้ง่าย ๆ เพราะมันจำเป็นจะต้องอาศัยความเข้าใจกฎแห่งมิติอย่างถี่ถ้วน ซึ่งโดยปกติแล้วคนที่สามารถใช้เทเลพอร์ตออกมาได้ก็มักที่จะเป็นอัศวินกฎขึ้นไปเป็นอย่างน้อย
แต่ถึงกระนั้นชายคนนี้ก็ยังสามารถเทเลพอร์ตไปปรากฏตัวขึ้นข้างกายของเซี่ยเฟยได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าระดับพลังของชายหัวโล้นคนนี้ไม่ใช่ระดับพลังที่ต่ำต้อยอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นระยะห่างระหว่างเซี่ยเฟยกับชายหัวโล้นยังน้อยกว่า 100 เมตร ทั้ง ๆ ที่ยิ่งระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายไกลเท่าไหร่ มันก็ยิ่งกำหนดระยะการเทเลพอร์ตอย่างแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น
ขณะเดียวกันกระแสไฟฟ้าก็กำลังวิ่งพล่านไปทั่วทั้งฝ่ามือของชายคนนี้ ซึ่งกระแสไฟฟ้านี่ไม่ใช่พลังของกฎแต่เป็นพลังพิเศษของชายหัวโล้น
“เปลี่ยน!”
เซี่ยเฟยทำการเปลี่ยนดาบดราก้อนสเกลให้กลายเป็นดาบยาวอันดุร้าย และทำการเหวี่ยงมันออกไปในแนวนอนเพื่อปิดกั้นแนวโจมตีของศัตรู
เป้ง!
ดาบยาวของเซี่ยเฟยปะทะเข้ากับมีดภายในมือของชายหัวโล้นอย่างรุนแรง จนก่อให้เกิดเสียงปะทะดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ
อย่างไรก็ตามกระแสไฟฟ้าก็ไหลผ่านเข้าไปยังร่างกายของชายหนุ่มทันที ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดกล้ามเนื้อไปทั่วทุกตารางนิ้ว
การปะทะกันในครั้งนี้ทำให้ร่างของเซี่ยเฟยกระเด็นออกไปหลายสิบเมตร แล้วเขาก็จำเป็นจะต้องใช้เท้ากดฝังดินเอาไว้เพื่อไม่ให้ร่างของเขากระเด็นออกไปไกลมากกว่านี้
“ปฏิกิริยาตอบสนองเร็วดีนี่ แต่น่าเสียดายที่นายไม่ได้ใช้กฎแห่งมิติในการป้องกัน กระแสไฟฟ้าเลยวิ่งเข้าไปในร่างกายของนายแบบนั้นไง” ชายหัวโล้นกล่าวอย่างเย็นชาคล้ายกับว่าก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้ใช้กำลังในการโจมตีทั้งหมด แต่เหมือนว่าเขากำลังทดสอบกำลังของเซี่ยเฟยมากกว่า
เซี่ยเฟยไม่ตอบกลับแต่โน้มตัวไปข้างหน้าอย่างรุนแรง ขณะที่ขาทั้งสองข้างเตรียมที่จะวิ่งออกไปอย่างสุดกำลัง
เหตุการณ์นี้ทำให้ชายหัวโล้นชะงักไปเล็กน้อย เพราะเขาไม่คิดว่าเซี่ยเฟยจะยังยืนหยัดต่อสู้กลับมาแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่การปะทะกันเมื่อสักครู่ก็น่าจะบ่งบอกถึงความต่างชั้นระหว่างทั้งสองฝ่ายได้อย่างชัดเจนแล้ว
“ขนอุย!”
ถุย ๆ ๆ
เมื่อได้รับคำสั่งขนอุยก็พ่นลูกบอลพลังงานออกมามากกว่า 10 ลูก คล้ายกับว่ามันเป็นป้อมปืนที่ยืนหยัดอยู่บนไหล่ของชายหนุ่ม
การจู่โจมของขนอุยสามารถที่จะเปลี่ยนสสารให้กลายเป็นพลังงานได้ ซึ่งชายหัวโล้นก็ค่อนข้างที่จะระแวงการโจมตีของสัตว์อสูรตัวนี้อยู่พอสมควร เขาจึงเลือกที่จะเบี่ยงตัวหลบโดยไม่คิดที่จะปะทะเข้ากับลูกบอลพลังงานโดยตรง
พายุมิติปิดล้อม!
เซี่ยเฟยเล็งจู่โจมไปยังช่องว่างที่ชายหัวโล้นได้เปิดเผยออกมาในระหว่างที่เขากำลังพยายามหลบการโจมตีของขนอุย นอกจากนี้ชายหนุ่มยังพุ่งตัวออกไปโดยเตรียมที่จะทำการจู่โจมอีกครั้งหนึ่งเช่นเดียวกัน
การโจมตี 3 ระลอกรวด!
การโจมตีระลอกแรกถือลูกบอลพลังงานของขนอุย การโจมตีระลอกที่ 2 คือคลื่นพลังงานจากวิชาพายุมิติปิดล้อม ส่วนการโจมตีระลอกที่ 3 คือการจู่โจมโดยตรงจากชายหนุ่ม
แม้ว่าชายหัวโล้นจะสามารถหลบรอดจากการจู่โจมในระลอกแรกได้สำเร็จ แต่มันก็ยังมีการจู่โจมระลอกที่ 2 และระลอกที่ 3 จู่โจมเข้าใส่เขาอยู่
นี่คือสไตล์การต่อสู้ของเซี่ยเฟยหลังจากที่เขาได้ผ่านประสบการณ์ต่อสู้มาอย่างโชกโชน
เมื่อชายหัวโล้นเห็นการจู่โจมระลอกใหญ่ ทันใดนั้นเขาก็ได้นำโล่วงกลมออกมาถือที่แขนขวาของเขา
“นั่นมันอาวุธกฎ!”
ในดินแดนของผู้ใช้กฎมีอาวุธที่แฝงพลังของกฎอยู่ในอาวุธเหล่านั้นด้วย ซึ่งอาวุธกฎพวกนี้มีราคาที่สูงเสียดฟ้าและมันก็เป็นหนึ่งในวิธีทำเงินที่สามารถทำเงินได้ในดินแดนนี้อย่างมหาศาล
ท้ายที่สุดในดินแดนของผู้ใช้กฎก็มีผู้ใช้กฎระดับต่ำอยู่เป็นจำนวนมาก และถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำการฝึกฝนไปตลอดชีวิต แต่นักสู้ส่วนใหญ่ก็ยังไม่สามารถที่จะพัฒนาจนกลายเป็นผู้ใช้กฎระดับสูงได้ แต่ถ้าหากว่าพวกเขาได้ครอบครองอาวุธกฎที่แข็งแรง มันก็จะทำให้พลังการต่อสู้ของพวกเขาเทียบเท่ากับผู้ใช้กฎระดับสูงได้ด้วยเหมือนกัน
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำการแฝงพลังของกฎเข้าไปในอาวุธ ซึ่งมันจำเป็นจะต้องใช้เทคโนโลยีเฉพาะทาง อาวุธอุปกรณ์พวกนี้จึงหายากและมีราคาที่สูงมาก
ตูม!
อาวุธกฎที่ชายหัวโล้นได้นำออกมาสร้างกำแพงออกมาล้อมรอบร่างของเขาเอาไว้ และมันก็สามารถปัดป้องการจู่โจมของขนอุยออกไปได้อย่างง่ายดาย
ตูม!
การจู่โจมด้วยคลื่นมิติของเซี่ยเฟยถูกตัดออกไปอีกครั้ง ขณะที่ร่างของชายหนุ่มได้เคลื่อนที่เข้ามาหาชายหัวโล้นแล้ว
แม้ว่าเซี่ยเฟยจะรู้ดีว่าโล่โลหะนี้ทำให้เขาไม่สามารถที่จะสัมผัสร่างกายของศัตรูได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังออกแรงชกออกไปอย่างเต็มกำลัง
หมัดพายุคลั่ง!
ตูม!
ร่างของชายหัวโล้นกระเด็นถอยหลังกลับไปมากกว่า 100 เมตร แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการจู่โจมของเซี่ยเฟยทรงพลังมากแค่ไหน
การต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายได้เปิดฉากขึ้นอีกครั้ง โดยชายหัวโล้นพยายามใช้พลังสายฟ้าของเขาจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยจากระยะไกล ขณะที่ชายหนุ่มก็ได้ใช้กฎแห่งความโกลาหลจู่โจมตอบโต้กลับไปอย่างเต็มกำลัง
ยิ่งเวลาผ่านไปชายหัวโล้นก็ยิ่งแปลกใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเขาไม่คิดเลยว่าเซี่ยเฟยจะสามารถกดดันเขาได้มากขนาดนี้
“ทำไมมันถึงทรงพลังขนาดนั้น? มันดูไม่เหมือนพลังของกฎแห่งมิติเลย” ชายหัวโล้นอุทานขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจ
เซี่ยเฟยยังคงนิ่งเงียบต่อไปและหยิบคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 3 ออกมาเติมพลังงานให้กับตัวเอง เพราะถึงแม้ว่าการโจมตีที่ผสมกฎแห่งความโกลาหลเข้าไปจะทำให้การโจมตีนั้นกลายเป็นการโจมตีที่ทรงพลัง แต่มันก็จำเป็นจะต้องใช้พลังงานมหาศาลในการแฝงกฎแห่งความโกลาหลเข้าไปในกฎแห่งมิติเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันชายหนุ่มก็ค่อย ๆ คลายกำปั้นออกมาด้วยความเจ็บปวด เพราะการป้องกันของอีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก ถึงขนาดว่ากำปั้นของเขาไม่สามารถเจาะทะลุการป้องกันนั้นเข้าไปได้
เมื่อเวลาผ่านไปมันก็เริ่มมีเสียงต่อสู้ดังขึ้นมาจากเชิงเขา ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าชายหัวโล้นคนนี้ไม่ได้เดินทางมาเพียงลำพัง และในปัจจุบันลูกน้องของเขาก็กำลังต่อสู้กับทหารของตระกูลหยู
เมื่อชายหนุ่มได้มองลงไปจากภูเขา เขาก็ได้พบกับกลุ่มชายชุดดำประมาณ 50 คนที่กำลังสู้อยู่กับทหารกลุ่มแรกของตระกูลหยู และสถานการณ์ของพวกเขาก็ไม่ได้เสียเปรียบมากนัก หรือมันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าทหารของตระกูลหยูอาจจะต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร ถึงจะขึ้นมาช่วยเซี่ยเฟยที่ด้านบนได้
“หยวนเตี้ยน! ท่านหมิงกุยกำลังรออยู่ รีบจัดการเรื่องนี้เร็ว ๆ เข้า”
เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นมาจากบนอากาศ และเมื่อเซี่ยเฟยได้เงยหน้าขึ้นไปเขาก็ได้พบกับชายชุดคลุมสีขาวที่กำลังนั่งอยู่ในอากาศเหนือศีรษะของเขาขึ้นไปหลายสิบเมตร
“มู่หลินไป๋อย่ามายุ่ง! ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน” หยวนเตี้ยนกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาคล้ายกับว่าทั้งสองคนนี้ไม่ค่อยลงรอยกัน
“โอเค อยากจะทำอะไรก็ทำไป แต่ถ้าหากท่านหมิงกุยโกรธขึ้นมานายก็เป็นคนรับโทษไปคนเดียวก็แล้วกัน” มู่หลินไป๋กล่าวพร้อมกับยักไหล่ และหลังจากที่เขาพูดจบเขาก็สะบัดเสื้อแขนยาวก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปในทันที
การปรากฏตัวของชายคนนี้ทำให้เซี่ยเฟยขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด และเขาก็แอบคร่ำครวญอยู่ภายในใจว่าเขาได้ไปยั่วยุใครเข้ากันแน่ เขาถึงได้ถูกตามล่าจากผู้ใช้กฎที่แข็งแกร่งมากมายแบบนี้
“หมดเวลาสนุกซะแล้วสิ” หยวนเตี้ยนกล่าวอย่างไม่เต็มใจนัก
ฟุบ!
หยวนเตี้ยนเคลื่อนย้ายร่างไปยังด้านหลังของเซี่ยเฟยในพริบตา ก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะพุ่งออกไปราวกับคีมเหล็ก
เล่ห์กายา!
เซี่ยเฟยย่อตัวลงอย่างกะทันหันทำให้ร่างของเขาลอดผ่านรักแร้ของหยวนเตี้ยนไป
ปัง!
จู่ ๆ มันก็ได้มีผนึกมิติปรากฏขึ้นมาขวางกั้นร่างของเซี่ยเฟยเอาไว้ ทำให้ชายหนุ่มไม่สามารถใช้ความเร็วหลบหนีไปจากที่แห่งนี้ได้
มุมปากของหยวนเตี้ยนยกขึ้นอย่างชั่วร้าย ก่อนที่เขาจะพลิกข้อมือเพื่อเริ่มจู่โจมอีกครั้ง
คราวนี้ชายหัวโล้นสามารถคว้าจับแขนซ้ายของเซี่ยเฟยได้สำเร็จ ก่อนที่กระแสไฟฟ้าอันทรงพลังจะไหลผ่านร่างของชายหนุ่มไป
หากเป็นสถานการณ์ในปกติเซี่ยเฟยก็คงจะต้องหมดสภาพหลังจากการจู่โจมในครั้งนี้ แต่ในช่วงเวลาวิกฤตชายหนุ่มกลับใช้กฎแห่งความโกลาหลออกมาปกป้องร่างกายตามสัญชาตญาณ และมันก็ได้สร้างสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน
แต่เดิมกระแสไฟฟ้าที่ทรงพลังพวกนี้สมควรที่จะพุ่งไปจู่โจมร่างของเซี่ยเฟย แต่เมื่อมันมีกฎแห่งความโกลาหลออกมาปกป้องร่างของเขาเอาไว้ กระแสไฟฟ้าจึงเกิดการย้อนกลับและหันไปจู่โจมเข้าใส่หยวนเตี้ยนผู้สร้างกระแสไฟฟ้าขึ้นมาแทน
ตูม!
หยวนเตี้ยนถูกจู่โจมจากกระแสไฟฟ้าของตัวเองอย่างรุนแรง และทำให้ร่างของเขากระเด็นถอยหลังกลับไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
โอกาสมาแล้ว!
เซี่ยเฟยรีบพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะทำการเรียกบลัดบิวเทียสขึ้นมาภายในมือ
กลสังหาร!
เมื่อหยวนเตี้ยนถูกจู่โจมด้วยพลังของตัวเอง มันจึงทำให้พลังป้องกันของเขาถูกลบหายไปอย่างสิ้นเชิง และมันก็ทำให้บลัดบิวเทียสสามารถจู่โจมผ่านการป้องกันเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
ฉัวะ!
จู่ ๆ ร่างของชายหัวโล้นก็พลิกตัวหลบออกไปด้านข้างอย่างฉับพลัน ทำให้บลัดบิวเทียสกรีดผ่านต้นขาของเขาไปเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น และยังไม่มีเวลามากพอที่จะดูดเลือดออกมาจากร่างของชายคนนี้ได้
พริบตาต่อมาร่างของชายหัวโล้นก็ลอยขึ้นไปบนฟ้า แล้วเมื่อเซี่ยเฟยได้เงยหน้ามองตามขึ้นไปเขาก็ได้พบกับมู่หลินไป๋ปรากฏตัวขึ้นบนอากาศอีกครั้ง และแขนของเขาก็กำลังประคองร่างของหยวนเตี้ยนที่ได้รับบาดเจ็บเอาไว้
มู่หลินไป๋มองไปที่เซี่ยเฟยด้วยความสนใจ ก่อนที่ร่างของเขากับหยวนเตี้ยนจะหายไปจากสถานที่แห่งนี้อย่างไร้ร่องรอย
หลังจากที่มู่หลินไป๋ได้จากไปไม่ถึง 5 วินาที จู่ ๆ มันก็ได้มีแสงสว่างสีแดงพุ่งผ่านค่ำคืนอันมืดมิดไปจนแทบจะฉีกกระชากท้องฟ้าออกเป็นชิ้น ๆ
“นี่มันการโจมตีอะไรกันเนี่ย!”
มู่หลินไป๋อุทานออกมาด้วยความตกใจ ซึ่งถ้าหากว่าเขาเคลื่อนไหวช้ากว่านี้อีกเพียงแค่เล็กน้อย ลำแสงสีแดงนั้นก็คงจะทำลายร่างของเขาลงไปแล้วอย่างแน่นอน
พริบตาต่อมามันก็มีร่าง ๆ หนึ่งปรากฏขึ้นข้าง ๆ เซี่ยเฟย ก่อนที่ชายคนนี้จะเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าด้วยรอยยิ้ม
“น่าเสียดายจริง ๆ ที่เขาหนีไปได้” หยูฮัวกล่าวขึ้นมาอย่างสบาย ๆ
เซี่ยเฟยหันไปมองหยูฮัวด้วยสายตาแปลก ๆ เพราะลำแสงสีแดงเมื่อสักครู่เป็นวิชาฉีกมิติอย่างแน่นอน และการโจมตีนั้นก็คงจะมาจากหยูฮัวอย่างไม่ต้องสงสัย
“คุณทรงพลังขนาดนั้นเลยเหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันจริงจัง
หยูฮัวชำเลืองมองไปยังเชิงเขา ก่อนที่จะได้เห็นคนของหมิงกุยกำลังล่าถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ถึงฉันจะเป็นพ่อค้า แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่ได้เรียนรู้การใช้พลังของกฎนะ” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“คุณเป็นพ่อค้าที่ทรงพลังมากเกินไป ผมเคยเห็นหัวหน้าครูฝึกจู่โจมมาก่อน แต่การโจมตีของคุณแข็งแกร่งกว่าหัวหน้าครูฝึกมาก ถ้าหากว่าผมเดาไม่ผิดระดับพลังของคุณก็น่าจะอยู่ที่ระดับราชากฎแล้วใช่ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าว
“อะไรกัน ถ้าฉันมีพลังอยู่ในระดับราชากฎแล้วฉันจะเป็นพ่อค้าไปด้วยไม่ได้หรือยังไง?” หยูฮัวกล่าว
เซี่ยเฟยไม่คิดที่จะคาดคั้นถามหยูฮัวต่อ เพราะแต่ละคนต่างก็มีความลับเป็นของตัวเองเพียงแต่การที่ราชากฎมาเลือกเส้นทางเป็นพ่อค้าค่อนข้างที่จะน่าสงสัยไปสักหน่อย แต่ชายหนุ่มก็จำเป็นจะต้องเก็บความสงสัยของตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้ไปล้ำเส้นของคนอื่น
“คนพวกนั้นเป็นใคร? ทำไมพวกเขาถึงอยากฆ่านาย?” หยูฮัวถาม
เซี่ยเฟยเพิ่งจะเดินทางมายังดินแดนของผู้ใช้กฎเพียงแค่ 1 เดือน แต่เขากลับสามารถดึงดูดนักรบที่แข็งแกร่งให้มาไล่ล่าเขาได้อย่างมากมาย หยูฮัวจึงไม่รู้ว่าเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ให้กับสถานการณ์ในปัจจุบันดี และมันก็ทำให้เขาได้คิดถึงวีรกรรมที่เซี่ยเฟยเคยได้ทำเอาไว้ในสมัยที่เขายังคงอยู่ในพันธมิตร
“พวกเขาไม่ได้พยายามฆ่าผม พวกเขาแค่พยายามจะจับตัวผมกลับไป”
“จับตัวนายงั้นเหรอ? นายรู้ไหมว่าใครคือหัวหน้าของพวกนั้น?”
“ผมได้ยินว่าเขาชื่อหมิงกุย”
“หมิงกุย? เดี๋ยวนี้พวกหนูสกปรกพวกนั้นกล้าที่จะเข้ามาท้าทายตระกูลหยูแล้วงั้นเหรอ?” หยูฮัวกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ลูกน้องทั้งสองคนของเขาเมื่อกี้ชื่อว่าหยวนเตี้ยนกับมู่หลินไป๋” เซี่ยเฟยให้ข้อมูลเพิ่มเติม
“ที่แท้พวกเขาก็เป็นลูกน้องของหมิงกุยนี่เอง ดูเหมือนว่าจะมีคนในตระกูลของพวกเราร่วมมือกับหนูสกปรกพวกนั้น ไม่อย่างนั้นพวกมันก็คงจะไม่สามารถบุกเข้ามาในตระกูลหยูได้อย่างง่ายดายแบบนี้” หยูฮัวพยักหน้าก่อนที่จะกล่าวขึ้นมาเบา ๆ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ” เซี่ยเฟยกล่าว
“นั่นนายจะรีบไปไหน? มีคนกำลังตั้งใจจะฆ่านายอยู่นะ นายไม่อยากรู้เหรอว่าพวกมันเป็นใคร” หยูฮัวกล่าวติดตลก
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปหาคุณเอง ตอนนี้ผมกำลังรีบ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบกลับโดยไม่คิดที่จะหันกลับมามอง
หยูฮัวไม่รู้ว่าเซี่ยเฟยกำลังจะไปทำอะไรถึงได้รีบร้อนแบบนี้ ถึงขนาดที่ไม่คิดจะฟังเรื่องของศัตรูที่มาทำร้ายตัวเองด้วยซ้ำ
“นายจะรีบไปไหน? ไม่ฟังเรื่องของคนพวกนั้นก่อนหรือยังไง?” อันธกล่าวด้วยความสงสัย
“เมื่อกี้ฉันได้ใช้พลังของกฎแห่งความโกลาหลโจมตีใส่หยวนเตี้ยน และมันก็ก่อให้เกิดปฏิกิริยาบนอักขระกฎ ซึ่งมันก็หมายความว่ากฎแห่งความโกลาหลกำลังจะทะลุทะลวงไปยังขั้นที่ 2 แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวตอบกลับไปเบา ๆ
“กฎแห่งความโกลาหลขั้นที่ 2! นายจะเลื่อนระดับคืนนี้เลยใช่ไหม?!” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ใช่ คืนนี้เนี่ยแหละ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบพร้อมกับพยักหน้า
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 177
แสดงความคิดเห็น