บทที่ 1...3/3

ใจดวงนี้สื่อถึงรัก
คุณกำลังอ่าน: ใจดวงนี้สื่อถึงรัก

-A A +A

บทที่ 1...3/3

เมษาได้ต้อนรับแขกสำคัญในค่ำวันศุกร์ของสัปดาห์ต่อมา ซึ่งมาพร้อมข้อเสนอที่เธอไม่คิดฝันว่าจะได้รับ เธอนั่งคุยกับตัวแทนของโรงแรมพริ๊นท์ตันที่มาติดต่อให้เธอพิจารณาส่งขนมหลายรายการให้กับทางโรงแรม โดยมีข้อสัญญาหลายส่วนที่เมษาต้องการอ่านให้แน่ชัด ตอนนี้ร้านของเธอเพิ่งฟื้นตัวกลับมาหลังจากไฟไหม้ร้าน การทำอะไรก็ตามหากมีกำลังไม่พอจะกลายเป็นล้มแล้วลุกลำบาก แต่โอกาสหากเข้ามาแล้วไม่คว้าไว้ก็น่าเสียดายเช่นกัน

มีนาแวะมาที่ร้านเมนาเพื่อมารอพี่สาวแล้วจะได้กลับบ้านพร้อมกัน พอเข้ามาในร้านหญิงสาวเห็นเมษากำลังคุยกับแขกที่น่าจะมาติดต่อซื้อขนม แต่การแต่งตัวดูเป็นทางการด้วยชุดสูทจนน่าสนใจว่าลูกค้าขนมรายล่าสุดมาจากหน่วยงานไหน รอเพียงครู่ต่อมาเมษาก็เดินออกไปส่งลูกค้าที่รถ ก่อนจะเดินกลับมานั่งใกล้ๆ กัน

          “ใครหรือพี่เม มาติดต่อซื้อขนมใช่หรือเปล่า” ตั้งแต่เปิดร้านหลังจากปิดไปหลายเดือน ออเดอร์สั่งขนมที่ร้านเมนาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะความอร่อยที่บอกกันปากต่อปาก

          “รองผู้จัดการจากโรงแรมในเครือพริ๊นท์ตัน มาติดต่อทำสัญญาให้พี่ส่งขนมไปที่โรงแรม ในจำนวนที่พี่คิดว่ารับไหวน่ะ”

เมษายิ้มยามที่บอกข่าวดีกับน้องสาวพลางลุกขึ้นเพื่อกลับเข้ามาไปในครัวเพื่อเตรียมทำขนมต่อ มีนาเดินตามมาเพราะได้กลิ่นหอมของขนมตาลที่นึ่งใกล้สุกแล้ว ขนมรอบนี้เมษาน่าจะทำไว้รอส่งให้ลูกค้าที่จะมารับในตอนเช้า

          “ดีสุดๆ ไปเลยพี่เม พริ๊นท์ตันเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ ขนมพี่เมดังใหญ่แล้วนะเนี่ย”

          มีนาตื่นเต้นดีใจกว่าเมษาที่คนแป้งไปเรื่อยๆ อย่างตั้งใจ เธอมองพี่สาวแล้วรู้สึกว่าการได้ทำสิ่งที่ชอบ ความสุขย่อมฉายชัดออกมาเองไม่ว่าจะดวงตา รอยยิ้มและบรรยากาศอบอุ่นเวลาที่อยู่ใกล้

          “แต่ก็น่าแปลก ไม่รู้ว่าโรงแรมใหญ่ขนาดนั้นมาสนใจขนมจากร้านเล็กๆ ของเราสองคนได้ยังไง” แม้จะสงสัย แต่เมษาคงไม่มีเวลาว่างไปหาคำตอบของเหตุผลเหล่านั้น

          มีนาฟังแล้วคิดตาม ทำให้ตาเริ่มเป็นประกาย “ถ้าเป็นนิยายคงแบบพี่เมไปช่วยใครสักคนที่เป็นเจ้าของโรงแรมไว้ เลยอยากตอบแทนอะไรแบบนี้”

          “ก่อนหน้านี้พี่ช่วยคุณป้าคนหนึ่งไว้อย่างที่พี่เล่าให้มีนฟังนั่นแหละ แต่คุณป้าก็ดูเป็นผู้หญิงวัยกลางคนธรรมดาๆ คงไม่ใช่หรอก”

          “บางทีคนในโรงแรมคงเคยมากินขนมร้านพี่เมแล้วชอบก็ได้ล่ะมั้ง” มีนาเดาแบบลุ้นตัวโก่ง

          เมษานึกแล้วก็ส่ายหน้า “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่ว่ายังไง ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดเลยล่ะ”

          มีนาคิดว่าต้องลองสืบดูเสียแล้ว โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอก ฉะนั้นสิ่งที่เมษาได้รับย่อมมีที่มาที่ไปอย่างแน่นอน เมษาเห็นน้องสาวทำหน้าเหมือนกำลังฝันกลางวันก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องอะไร มันคงไม่มีหรอกพระเอกแบบในนิยายที่มาตามหานางเอกที่ทำขนมหน้าเลอะแป้งอยู่แต่ในครัว มีนาคงไม่เจออะไรที่เหมือนนิยายจากเรื่องราวของเธอได้หรอก

 

          ช่วงสายของวันพุธซึ่งเมษาได้อ่านสัญญาอย่างรอบคอบและมั่นใจว่าเธอมีกำลังพอที่จะทำขนมมาส่งโรงแรมพริ๊นท์ตันจึงติดต่อไปทางรองผู้จัดการที่มาหาเธอเมื่อวันก่อน หลังจากนั้นชายที่ชื่อว่าปุริมก็เป็นฝ่ายที่โทรมานัดและบอกถึงสถานที่เพื่อทำสัญญาอย่างเป็นทางการ เมษาเพิ่งรู้เหมือนกันว่าสัญญาฉบับนี้ต้องผ่านเลขาของกรรมการผู้จัดการด้วย เขาจึงมารับสัญญาด้วยตัวเอง

หญิงสาวแต่งตัวเป็นทางการด้วยชุดเดรสเรียบๆ สีฟ้า ผมปล่อยตรงไม่มัดรวบไว้อย่างเคย แต่งหน้าบางๆ เพราะหลังจากเสร็จธุระที่โรงแรมพริ๊นท์ตันแล้ว เธอจะไปงานหมั้นของเพื่อนสมัยมหา’ลัยต่อด้วย

          เมษาไปก่อนเวลานัดตอน 10.45 น.หากไม่ช้าเกินไป เธอจะไปงานหมั้นของเพื่อนทันก่อนเที่ยงแน่นอน เมษาติดต่อประชาสัมพันธ์แล้วรอครู่หนึ่งก็มีพนักงานที่มีลักยิ้มน่ารักเป็นคนพาเธอไปยังห้องซึ่งดูหรูหราแปลกๆ เพราะเปิดแอร์ไว้รอเย็นฉ่ำ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ดูมีราคาซึ่งไม่น่าใช่ที่นัดพบเพื่อทำสัญญาไม่กี่นาทีหรือเปล่านะ

          “เชิญค่ะ จะรับเป็นชาหรือกาแฟดีคะ” พนักงานถาม

          เมษาสงสัย แต่ยังไม่ถามออกไปเพราะมันอาจเป็นเรื่องปกติของโรงแรมระดับห้าดาวก็ได้ ห้องรับรองถึงได้ดูหรูหราแบบนี้

          “เอ่อ ชาแล้วกันค่ะ”

          พนักงานที่มีลักยิ้มน่ารักยิ้มให้เมษาอีกแล้ว เมษายิ้มกลับพลางคิดว่าการที่พนักงานของโรงแรมบริการแขกดีแบบนี้กระมัง โรงแรมพริ๊นท์ตันถึงได้ติดอันดับโรงแรมที่การบริการดีเยี่ยมติดหนึ่งในห้ามาตลอด

          “อีกสักครู่คุณภามคงมาถึงค่ะ คุณนลินฝากบอกว่าหลังจากพบคุณภามแล้ว คุณนลินจะรออยู่ที่ห้องรับรองฝั่งสระว่ายน้ำนะคะ”

          “คือ ฉันคิดว่า...” เมษากำลังจะบอกว่าไม่น่าจะใช่แล้ว เธอไม่ได้นัดกับคนชื่อนั้น แต่พนักงานคนเดิมกลับเดินออกไปจากห้อง แล้วปล่อยให้เธองงต่อไป  “เอ้า ยังไม่ทันได้บอกเลยว่าไม่รู้จักคนชื่อนลิน ยังไงกันเนี่ย ภามอีก ใครกัน”

          เมษาไม่แน่ใจเสียแล้วว่าพนักงานคนนั้นจำคนผิดหรือเปล่า ตอนนี้ที่เธอสงสัยมาตั้งแต่แรกว่ามันแปลกๆ ก็เพราะมันแปลกจริงนั่นเอง หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากำลังจะโทรหาปุริม ประตูห้องก็เปิดเสียก่อนโดยมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยสีหน้าแข็งกระด้างเหมือนเมื่อหลายวันก่อนที่เธอเห็นเขาแม้จะเพียงเสี้ยววินาที คิ้วเข้มของเขาขมวด ริมฝีปากที่ดูน่ามองเม้มปิด สายตาบึ้งตึงที่เขามองมาที่เธออย่างกับมีเรื่องให้โกรธ นี่มันอะไรกันเนี่ย

          ภามเดินตรงมาหาหญิงสาวที่แต่งตัวเรียบๆ ไม่พยายามหรูหราไฮเอนด์อย่างที่เขาพบมาหลายต่อหลายครั้งที่ป้านลินนัดเขาให้มาดูตัว หญิงสาวใบหน้าเรียบๆ ดวงตาสีดำสนิทเหมือนกับผมยาวประบ่า ริมฝีปากบางที่เม้มปิดไม่ได้แย้มเปิดเมื่อได้พบเขา แต่ไม่สำคัญอะไรเพราะเขาไม่ได้มาเพื่อเริ่มบทสนทนาที่กระอักกระอ่วนและฟังเรื่องที่ไม่ได้อยากฟังเพื่อเป็นการรักษาน้ำใจของอีกฝ่าย ทั้งที่เขาฝากบอกป้านลินผ่านทางแม่ไปแล้วว่าจะไม่นัดดูตัวกับใครอีก

          “ที่ผมมาพบคุณวันนี้ไม่ใช่เพราะอยากมาดูตัว แต่ผมอยากจะบอกว่าผมยังไม่อยากแต่งงาน ถ้าคุณรีบก็อย่ามาเสียเวลากับผมเลยครับ”

ภามไม่อยากอ้อมค้อมให้เสียเวลา หากป้านลินรู้ได้เสียทีว่าเขาปฏิเสธอย่างจริงจังจะได้เลิกจับคู่เขากับบรรดาลูกหลานของเพื่อนๆ

          “เดี๋ยวนะคะ ฉันคิดว่าเราไม่น่าจะมาพบกันด้วยเรื่องนี้หรอกนะ” เมษารู้ตัวแล้วว่าถูกพามาผิดห้อง ผู้ชายคนนี้หิวเลือดจนต้องมาระบายความโกรธกับใครสักคนหรือไง

          ภามยกมือห้ามไม่อยากฟังเพราะไม่อยากเสียเวลาฟังคำพูดแก้ตัว ซึ่งอาจจบลงด้วยการที่เขาต้องมาฟังอีกฝ่ายพร่ำพรรณนาความดีงามของตัวเองและอาจร้องไห้คร่ำครวญที่ถูกปฏิเสธแบบตรงไปตรงมาแบบนี้

          “ช่างเถอะ ผมเขียนเช็คให้คุณแล้วเป็นค่าเสียเวลา หวังว่าป้าลินจะไม่คะยั้นคะยอให้คุณมานัดบอดกับผมอีก ขอโทษด้วย ผมไม่อยากเสียเวลาด้วยเรื่องแบบนี้อีก”

          ภามวางเช็คให้เมษาแล้วเดินออกไปจากห้องทันที ราวกับว่าเขาจบเรื่องแล้ว ต่อไปนี้เขาคงไม่ต้องมารำคาญใจเพราะเรื่องนัดให้มาดูตัวแบบนี้อีก แม้จะได้ยินชัดทุกคำว่าอีกฝ่ายพูดไล่หลังมาอย่างไร

          “ไม่คิดฟังกันบ้างเลยหรือไง ตาบ้าเอ้ย”

เมษาถอนใจยาวพลางหยิบเช็คมาดูไม่ใช่เพราะอยากได้ แต่อยากรู้ว่าอีตานี่ตีราคาของคู่นัดบอดไว้เท่าไหร่ พอเห็นตัวเลขแล้วหญิงสาวก็ไม่รอช้ารีบวิ่งตามอีกฝ่ายไปทันที แม้เขาจะระบุตัวเลขไว้สองแสนบาท แต่เธอไม่อยากได้ ต่อให้เธอเป็นคู่นัดบอดเขาจริงๆ ขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอจะทำคือคืนเช็คให้เขา คนที่ดูถูกคนอื่นแบบนี้ไม่ควรมีค่าในสายตาของเธอเหมือนกัน

 

ไม่ฟังเมษาเลยภาม ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.