บทที่ 2...1/3
เมษาเดินแกมวิ่งตามเจ้าของสูทสีดำไป แต่เขาเดินเร็วเพราะความที่ขายาว ทำให้เธอต้องวิ่งเร็วขึ้นพร้อมกับเกิดคำถามกับตัวเองว่าเธอมาเซ็นสัญญาส่งขนมให้โรงแรม ทำไมถึงกลายเป็นถูกผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้มาไล่ตะเพิดแบบนี้ได้ ภามหยุดเดินเพราะมีเรื่องถามไถ่พนักงาน แต่เพียงครู่เดียวก็เดินต่อ ทว่าเขาได้ยินเสียงแว่วๆ จึงหันไปมอง พอเห็นว่าเป็นหญิงสาวที่เขาเพิ่งให้เช็คเป็นค่าเสียเวลาไปกำลังวิ่งตามมา เขาก็ถอนใจยาว
“คุณ...คุณ...ชื่ออะไรก็ไม่รู้ล่ะ ช่วยรับเช็คขอบคุณคืนไปด้วย ฉันไม่ใช่คนที่คุณต้องมาหา”
เมษาวิ่งมาถึงตัวของผู้ชายหน้าโหด แต่เธอกลับต้องยืนหอบอยู่หลายวินาที ภามกอดอกมอง รออีกฝ่ายเงยหน้ามองเขาได้แล้วจึงพูดว่า
“ตัวเลขในเช็คมันน้อยไปหรือไง คุณถึงได้มาตอแยผมอีกน่ะ”
“ฟังกันบ้างไหมเนี่ย”
เมษากอดอกมองอีกฝ่ายกลับไปบ้างพร้อมกับส่งเช็คคืนให้เขา พออีกฝ่ายไม่รับเธอก็จับมือเขาแล้ววางเช็คบนมือหนา แล้วแต่เขาเถอะว่าจะปล่อยให้เช็คใบนี้ปลิวหายหรือเก็บๆ ไปเสีย
“ฉันมาหาคนอื่นไม่ใช่คุณ ตาบ้า”
ภามหยิบเช็คมาแล้วจับแขนของคู่นัดบอดไว้ เขาก็ว่าจะปล่อยผ่านไม่สนใจท่าทีกวนโมโหของผู้หญิงคนนี้แล้วนะ แต่สายตาของเธอที่มองเขาช่างกวนใจ เธอมีสิทธิ์อะไรมามองเขาแบบนั้น
“คุณเรียกใครว่าตาบ้า”
นานๆ สักทีหรอกที่เมษาจะรู้สึกว่าโกรธใครสักคน หญิงสาวเงยหน้าจ้องตาอีกฝ่ายอย่างไม่กลัว ตรงนี้ก็มีคนอื่นอยู่บ้าง หากเธอร้องขอความช่วยเหลือคงมีคนเข้ามาช่วยบ้างหรอกน่า แต่หากว่าไม่มี เธอก็จะคว่ำตานี่เอง อย่างน้อยเธอเคยไปเรียนเทควันโดกับมีนาอยู่หลายครั้ง ตอนนี้ยังพอจำท่าได้อยู่
“คุณไง เป็นคนยังไงเนี่ย ไม่ยอมฟังใครเลย เอาแต่พูดอยู่คนเดียว ฉันไม่ได้มาหาคุณ ได้ยินชัดหรือยังคะ”
ภามชะงักไป แต่ยังไม่ได้ทันถามต่อให้รู้เรื่อง จู่ๆ ใครบางคนก็ร่างเซมาที่ผู้หญิงที่เขาจับแขนไว้
“โอ๊ะ!?!”
เมษาตกใจเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซถลาตกลงไปในสระน้ำโดยมีอีตาหน้าโหดถูกคว้าตัวลงมาด้วยกัน เสียงตูมมาพร้อมกับน้ำที่กระเซ็นไปรอบสระ เมษาตะกายขา แต่เดรสที่เธอใส่เป็นผ้าหนาทำให้อุ้มน้ำกลายเป็นถ่วงตัวเธอไว้ดิ่งลง ภามคว้าเอวของหญิงสาวมาโอบประคองไว้ แล้วช่วยกันว่ายน้ำด้วยแขนข้างเดียวมาที่ฝั่งซึ่งมีบันไดเล็กๆ สำหรับขึ้นไปที่ขอบด้านบน พนักงานที่อยู่ใกล้ๆ เข้ามาช่วยดึงมือของภามให้ขึ้นไปโดยง่าย เมษาจับราวทางขึ้นไว้ ภามส่งมือมาทว่าอีกฝ่ายกลับชะงักมองเหมือนกับไม่แน่ใจ ภามเม้มปากรู้สึกเหมือนตัวเองถูกกดคะแนนจากผู้หญิงนี้อยู่ตลอดเวลา
“ผมไม่ดูดวิญญาณคุณไปเพราะแค่จับมือหรอกน่า เร็วๆ เข้า ไม่อายหรือไง เห็นไหมคนมองมากันใหญ่แล้ว”
เมษาจับมืออีตาหน้าโหด ที่เธอชะงักไปไม่ใช่เพราะกลัวเขาดูดวิญญาณ แต่กำลังก้มดูชุดตัวเองว่าแนบตัวมากหรือเปล่า เห็นถึงเสื้อชั้นในไหม พูดไปเขาคงไม่เข้าใจ
วินาทีที่มือหนาสัมผัสมือบางแล้วจับจนแน่น เมษารู้สึกอุ่นวาบที่กลางฝ่ามือ เธอกำลังจะถามว่าเขาทำอะไร แต่สายตาของเขากลับมองไปที่ท้ายสระแล้วนิ่งไป สายตาคู่นั้นเบิกกว้างราวกับตื่นตะลึงกับอะไรสักอย่าง เมษาหันไปมองบ้าง เธอเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งหน้าตาหล่อเชียวล่ะกำลังมองมาที่อีตาหน้าโหดเช่นกัน ชายคนนั้นใส่เสื้อโปโลสีขาวกับกางเกงยีนส์ แต่เขาทั้งสองคนจะไม่ทักทายกันหรือไง ทำไมเอาแต่มองกันแบบนั้น
“ฉันว่าแบบนี้คนยิ่งมองมากกว่า คุณจะดึงฉันขึ้นไปไหมคะ นี่คุณ...คุณ”
เมษาเดินขึ้นบันไดไปเองจนกระทั่งมายืนตรงขอบสระ อีตาหน้าโหดก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเพราะยังมองไปยังผู้ชายที่ท้ายสระคนนั้น เธอจึงดึงมือออกมาเสียเอง ภามมองหาเพราะคนที่เขา ‘รู้จัก’ หายไปแล้ว ชายหนุ่มวิ่งไปที่ท้ายสระแล้วมองไปทั่ว
“ไปไหนแล้ว ทำไมหายไปแล้ว”
เมษามองหากระเป๋าของตัวเอง โชคดีที่ตอนโดนชนจนตกสระ กระเป๋ากระเด็นออกจากมือเธอไปก่อน ไม่อย่างนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอได้ลาโลกในเวลาที่ไม่ควรแน่ๆ หญิงสาวหันมองไปยังอีตาหน้าโหดอีกครั้ง เขายังหาชายคนนั้นอยู่ เธอก็ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดกับเขาแล้ว จึงเดินไปอีกทางพร้อมกับโทรหาปุริมเพื่อเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไม่ได้ผิดนัด แต่ถูกพาไปผิดห้องจนเรื่องบานปลายกลายเป็นลูกหมาตกน้ำ
เนตรายืนมองจากชั้น 28 ของโรงแรมมาที่สระน้ำสักพักแล้ว ในขณะที่นลินกำลังคุยโทรศัพท์กับวีดา นางเห็นลูกชายกับเมษายื้อยุดกันแล้วถูกชนจนตกไปในสระน้ำด้วยกัน สองคนนี้มาพบกันได้อย่างไร แล้วทำไมถึงพากันตกน้ำแบบนี้ การมาโรงแรมของครอบครัวเพื่อเป็นเพื่อนพี่สาวระหว่างรอลูกชายนัดบอดชักน่าสนใจเสียแล้วสิ
ภามเดินหาไปรอบสระน้ำ จนกระทั่งแน่ใจว่าคนที่เขาเห็นไม่อยู่ตรงนี้แล้ว มันเป็นไปได้อย่างไร
เขาเห็นพี่ชายซึ่งตายไปเมื่อ 2 ปีก่อน!
ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรหรือว่ามันจะเป็นแผนมาป่วนเขา เธอมาจากคนของโรงแรมที่เป็นคู่แข่งหรืออย่างไร แต่มันไม่น่าเป็นไปได้ ป้านลินต้องเลือกมาดีแล้วถึงนัดให้ผู้หญิงคนนั้นมาพบกับเขา แต่การที่เขาเห็นพี่ชายตัวเองต้องเกี่ยวกับเธอแน่ๆ ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบวิ่งกลับไปที่ห้องรับรองที่ตอนนี้ว่างเปล่า มีเพียงพนักงานที่กำลังยกของว่างออกไป
“ผู้หญิงในห้องนี้ไปไหนแล้ว” ภามถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
พนักงานที่มีลักยิ้มหายใจไม่ทั่วท้องเพราะกลัวถูกดุ แม้ว่าเธอจะไม่เคยถูกใครที่นี่ดุรวมทั้งคุณภามเลยสักครั้งก็ตาม
“ไปแล้วค่ะคุณภาม คุณวีดาฝากบอกว่าวันนี้คงไม่สะดวกแล้ว ขอโทษที่อยู่รอไม่ได้ค่ะ”
เมื่อห้านาทีก่อน มีผู้หญิงอีกคนมาที่ห้องนี้ พอรู้ว่าคุณภามออกไปแล้วก็รีบตามออกไป เธอเองก็ชักสับสนว่าคุณวีดาคือใคร ระหว่างผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาหรือผู้หญิงที่มาคนแรกกันแน่
ภามพยักหน้าเมื่อรู้แล้วว่าจะได้พบกับวีดาอีกครั้งได้อย่างไร แม้ชื่อของเธอจะคุ้นๆ แต่เขาจำไม่ค่อยได้นัก ชายหนุ่มมองนาฬิกาแล้วถอนใจเพราะใกล้จะประชุมแล้ว เขาต้องรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ทว่าในระหว่างที่ลิฟต์กำลังเลื่อนไปที่ชั้น 28 ชายหนุ่มก็เต็มไปด้วยคำถามว่าทำไมเขาถึงเห็นพี่ภูมิ ตลอด 2 ปีที่ผ่านไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แต่เขาไม่เคยเลิกสงสัยเพราะมั่นใจว่าพี่ชายไม่ได้จากไปเพราะอุบัติเหตุอย่างที่ตำรวจสรุปคดี!
เมษามานั่งรออยู่ในห้องรับรอง...อีกแล้ว เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่ห้องเดิม พอหญิงสาวเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น ปุริมก็บอกให้เธอตามพนักงานมาที่นี่เพื่อเปลี่ยนชุด การทำสัญญาจะเกิดขึ้นเหมือนเดิม เพียงแต่ต้องรอให้เธอได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อน รอไม่ถึงสิบนาทีพนักงานคนหนึ่งก็เข้ามาในห้องพร้อมเสื้อผ้าและของใช้สำหรับผู้หญิง เมษายิ้มเขินๆ เมื่อเห็นของทั้งหมดในถุงกระดาษ
“คุณปุริมส่งดิฉันมาดูแลคุณเมษาพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ค่ะ ห้องน้ำอยู่ด้านนี้นะคะ”
“ขอบคุณค่ะ” เมษาเดินตามพนักงานไปที่ห้องน้ำส่วนตัว
เมษาเป่าผมแค่พอหมาดๆ เพราะมีธุระต้องไปจัดการต่อ หญิงสาวออกมาจากห้องแล้วนั่งรออยู่ที่โต๊ะซึ่งน่าจะใช้สำหรับคุยงานหลังจากนี้ ครู่เดียวคนชื่อปุริมก็เข้ามาในห้อง ชายหนุ่มใบหน้าขาว ดวงตาตี่นิดๆ ใส่แว่น รวมๆ แล้วเขาดูเป็นคนน่าจะคุยง่ายสบายๆ
“ขอโทษด้วยนะครับที่เกิดเรื่องแบบนั้น ไม่ทราบว่าคุณเมษาต้องการจะเอาเรื่องไหมครับ” ปุริมถามเรื่องที่สำคัญเป็นอันดับแรก
เจ้านายของเขามีใบหน้าที่ดูดุก็จริง ปกติแล้วภามแทบไม่ได้ดุใครเลย แต่ความหน้านิ่งและไม่ได้ยิ้มเก่งทำให้พนักงานเกรงใจกันหมด
“ช่างดีกว่าค่ะ ฉันคงไม่ได้มาที่นี่บ่อยๆ แต่ถ้าพนักงานคนนั้นมีปัญหาทางด้านสุขภาพจิตก็ควรแนะนำให้เข้ารับคำปรึกษานะคะ” เมษาแนะนำ แต่เธอเห็นนะว่าปุริมก้มหน้าเหมือนกลั้นหัวเราะ ทำไมหรือ ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน เธอรู้แค่ว่าเขาเป็นลูกชายของคุณป้าสุดน่ารักคนนั้น
“ครับ แล้วผมจะแจ้งให้” ปุริมอยากจะถ่ายถอดคำพูดนี้ให้เจ้านายได้ฟังเสียจริง แต่เขาไม่อยากเจอพายุโมโห ฉะนั้นเขาจะเก็บเรื่องนี้ไว้อย่างดี “นี่ครับสัญญาที่ผมกับผู้จัดการแผนกห้องอาหารลงนามแล้ว เชิญคุณเมษาตรวจสอบ หากไม่มีอะไรอยากให้แก้ไขก็เซ็นได้เลยนะครับ”
เมษาอ่านข้อสัญญาที่เธอเคยได้รับจากตัวแทนของโรงแรมในคราวก่อน ซึ่งตอนนั้นเธอมีส่วนที่ขอให้เพิ่มและลดนิดหน่อย ตอนนี้ทุกอย่างในสัญญาครบถ้วนตามที่เธอพอใจแล้วจึงจรดปากกาเซ็นด้วยความเต็มใจ
“ขอบคุณนะคะสำหรับโอกาสที่ให้ร้านเมนาในครั้งนี้” เมษารับเอกสารคู่สัญญาแล้วพับใส่กระเป๋า ก่อนจะเอยต่อไปว่า “ส่วนชุดนี้ เดี๋ยวฉันซักรีดแล้วจะส่งมาคืนนะคะ”
“รับไว้เถอะครับ คุณเมษาจะไปไหนครับหรือว่ากลับไปที่ร้าน ผมจะให้คนขับรถของโรงแรมไปส่ง”
เมษายิ้มกว้างในความใจดีของปุริม บริการทุกระดับประทับใจอย่างนี้เอง โรมแรมพริ๊นท์ตันถึงอยู่มายาวนานถึง 38 ปี
“ไม่เป็นไรค่ะ รบกวนเปล่าๆ”
พนักงานคนเดิมเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมถุงกระดาษ ปุริมรับมาแล้วส่งให้เมษาทันที
“นี่ชุดเดิมของคุณเมษาครับ ซักและอบแห้งแล้ว ส่วนชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้เป็นการแทนคำขอโทษจากโรงแรมพริ๊นท์ตันนะครับ”
เมษารับชุดเดิมมาด้วยความเกรงใจ ครั้นจะขอกลับไปใส่ชุดเดิมก็ดูจะทำลายน้ำใจของอีกฝ่าย
“อย่างนั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ฉันขอตัวไปก่อนแล้วนะคะ”
ปุริมเดินนำมาช่วยเปิดประตูให้ แล้วพนักงานคนเดิมก็มาส่งเมษาที่หน้าโรงแรม หญิงสาวกดเรียกรถจากแอพพลิเคชั่นไปตอนที่ลงมาจากลิฟต์ รอไม่ถึง 15 นาทีรถก็มารับเพื่อพาเธอไปยังสถานที่จัดงาน เมษาเปิดหน้าจอโทรศัพท์เพื่อเข้าไปดูสตอรี่ของเพื่อนที่มีข่าวดีในวันนี้ ใบหน้าของชายคนหนึ่งที่ร่วมเฟรมทำให้เมษาถอนใจ
ภามเห็นพี่ชายที่ตายไปแล้วได้อย่างไร? ภามจะหาคำตอบได้ไหมนะ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านค่ะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 284
แสดงความคิดเห็น