ใช้ชีวิตใหม่เพื่อทำดี ทำไมมันยากขนาดนี้! บทที่ 1 ตอนที่ 1

-A A +A

ใช้ชีวิตใหม่เพื่อทำดี ทำไมมันยากขนาดนี้! บทที่ 1 ตอนที่ 1


บทนำของการเกิดใหม่และใช้ชีวิตอีกครั้ง (1)

 

     คอนโดสวยตระหง่าน ภายในห้องของวาดฝัน นักธุรกิจสาวหัวดี พูดเก่ง นิสัยพอถูไถไม่ใช่นางเอกนักแต่ก็ถือว่าเรียบร้อย แม้เธอจะมีอายุเข้าเลขสามไปแล้วแต่ก็ยังคงความสวยในตัวเองได้อยู่ เธอนั่งจิบชาอยู่ที่ระเบียงของห้องคอนโดตนเอง ดวงตาสวยมองลงไปที่ถนนด้านล่างเห็นกลุ่มม็อบนั่งขวางทางจราจร หญิงสาวส่ายหน้า ในใจไม่นึกอยากสนใจนัก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกให้เธอหันกลับมาสนใจ เธอเดินไปรับโทรศัพท์และเปิดสปีคเกอร์โฟน เพราะเธอไม่ค่อยชอบการแนบหูคุยโทรศัพท์ ยกเว้นจะอยู่ในที่สาธารณะ

 

     "วาดฝันครับ" เสียงหวานทุ้มของริว คู่หมั้นของเธอทักขึ้น วาดฝันยิ้มแย้มออกมา

 

     "สวัสดีค่ะคุณริว โทรมาเตือนเรื่องนัดของเรากับวาดฝันเหรอค่ะ" เธอถามขึ้น เสียงปลายสายหัวเราะเบา

 

     "ก็พักนี้วาดฝันชอบลืมนี่ครับ วันนี้ผมจะพาไปสวนน้ำที่ภูเก็ต อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าค้างคืนนะครับ" เขาย้ำเธอ วาดฝันหัวเราะ

 

     "ค่า วาดฝันเตรียมของแล้วค่ะ หลังจากไปพบลูกค้าแล้ว จะขับรถไปจอดไว้ที่บ้านคุณริวนะคะ" วาดฝันบอก

 

     "โอเคครับ ถ้าอย่างนั้น ผมไม่รบกวนแล้วนะ เจอกันตอนเที่ยงครับ" เขาพูด วาดฝันพยักหน้า

 

      "โอเคค่ะ สวัสดีค่ะ" เธอกดวางสาย

 

     วาดฝันกับริวกำลังจะแต่งงานกันในอีกไม่นาน เพราะตอนนี้ปัจจัยในชีวิตของพวกเขาครบถ้วนสมบูรณ์หมดแล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องการงาน เงิน หรือความสัมพันธ์ เธอยิ้มขึ้นมาพลางนึกอย่างมีความสุขในวันที่จะได้ใช้ชีวิตครอบครัวกับคนรัก วาดฝันมองนาฬิกาอีกสองชั่วโมงจะถึงเวลานัด เธอจัดการรีบอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย และยกของทั้งหมดมาที่ลิฟท์ เมื่อลงมาถึงแล้วเธอฝากกุญแจกับคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์ดูแลและออกไปที่รถซึ่งจอดอยู่ด้านหลัง 

 

     วาดฝันจัดการเปิดกระโปรงรถด้านหลังและให้พนักงานช่วยเธอนำของไปที่รถ พอเรียบร้อยเธอจึงขอบคุณเขา หญิงสาวจัดการขับออกมา วาดฝันขับมาไม่ถึงสามนาที ได้มีกลุ่มของม็อบที่กำลังร้องเสียงดังเดินไปตลอดทางรถวิ่งบนถนน วาดฝันสงสัยว่ามันจะวุ่นวายมากแค่ไหน จึงลองค่อยๆขยับรถดูตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น แต่แล้วก็มีคนวิ่งจ้าละวั่นไปตลอดทาง เธอตัดสินใจจะถอยรถออกมาจากถนนเพื่อเข้าไปในซอยที่พอจะออกได้ แต่ก็ติดฝูงคนที่วิ่งวุ่นวายไปทั่ว

 

      "อะไรกันเนี่ย" เธอพูดขึ้น เพราะตอนนี้รถขยับไม่ได้ ถ้าขยับรถตอนนี้ก็จะชนคนเข้า เธอจึงตัดสินใจเดินลงไปดู

 

      กลุ่มของทหารกำลังเดินมาทางที่เธอยืนอยู่ อะไรน่ะ ถ้ามาทางนี้เราคงถูกเหมารวมว่าเป็นม็อบแน่ แต่รถยังขยับไม่ได้ตอนนี้ด้วย หญิงสาวพยายามจะเดินกลับไปที่รถเพื่อนั่งเฉยๆเท่านั้น แต่ก็ถูกพลักและชนจากคนรอบตัวที่กำลังวิ่งอยู่ ขาของเธอขยับตามแรงคนที่ดันกรูกันเข้ามา วาดฝันได้สวมชุดที่สวยพร้อมกับรองเท้าส้นสูงจึงทำให้ขยับตัวหลบลำบาก

 

      "อ่ะ! ขอโทษนะคะ อย่าพลักสิค่ะ โอ๊ย!" เธอพยายามพูดแต่แรงของคนที่วิ่งกันห่าใหญ่ ทำให้ร่างของเธอเซถลาไปที่กลางถนน

 

     รองเท้าส้นสูงเกิดทำให้ข้อเท้าผลิกจนเธอยืนมองข้อเท้า เสียงรถจากอีกฝั่งที่กำลังวิ่งแล่นมา หญิงสาวมองไปยังรถภายในร้องหวาดกลัวแต่ไม่ทันได้ออกเสียง รถคันนั้นได้ชนกระแทกเข้ากับร่างของเธอจนเจ็บระบม สติของเธอได้ดับวูบลงไปทันทีเพราะชีวิตไม่เคยเจอเรื่องน่าระทึกราวกับหัวใจหายไปทันที เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง เธอลืมตาขึ้นมาที่กลางถนน หญิงสาวพยุงร่างตัวเองขึ้น สายตามองไปรอบๆ เห็นฝูงคนจางกับมีเสียงรถพยาบาลที่กำลังจอดอยู่ วาดฝันสะบัดหัวไปมา ไม่มีอาการเจ็บแล้วแต่ทำไม

 

     "เราโดนชนนี่ ทำไมไม่เป็นอะไรเลยล่ะ!" วาดฝันมองที่ร่างกายตัวเอง พลางลุกขึ้นวิ่งไปดูที่รถพยาบาล ดวงตาของเธอเบิกโพลงด้วยอาการช็อค

 

     ร่างของคนที่เหมือนเธอมีเลือดอาบ บริเวณศีรษะมีเลือดไหลไม่หยุด ทีมแพทย์พยายามห้ามเลือดจนมือเปื้อน วาดฝันยกมือขึ้นมาป้องปาก ไม่จริง นั่นคือเรานี่ เราแน่ๆ เธอคิด พร้อมกับพยายามจะตรงไปยังร่างของตนแต่ก็ถูกม่านบางอย่างกั้นไว้ เสียงห้ามของทีมกู้ภัยด้านหลังเรียกความสนใจของเธอให้หันไปหา ดวงตาของเธอกลั้นน้ำตาไม่อยู่

 

     "ระ ริว" เสียงของวาดฝันสั่นระริก "ริว วาดฝันอยู่นี่ค่ะ ริว" น้ำตาของเธอไหลออกมาอาบแก้ม เสียงร้องไห้พร้อมกับมือที่พยายามเอื้อมไปจับคนรักได้ทะลุผ่านร่างของเขาไป เขาไม่ได้ยินและก็มองไม่เห็นเธอ

 

     วาดฝันมองมือตัวเอง ริววิ่งผ่านร่างวิญญาณจิตของเธอจนวาดฝันล้มไปนั่งกับพื้นด้วยอาการเจ็บที่แปลกประหลาด สีหน้าตกใจเหมือนโลกกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ วาดฝันรีบหันหลังกลับไปมอง ริวกำลังขึ้นไปนั่งข้างร่างของเธอในรถพยาบาล เขากุมมือของเธอไว้และร้องไห้ หญิงสาวมองภาพนั้นดวงตาเบิกโพลง เราต้องกลับไป แต่เธอไม่มีแรงจะลุกขึ้นเลย

 

     "วาดฝัน ฟื้นสิ! ได้โปรด ตื่นข้นมาตอบผมที สักคำหนึ่งก็ได้" เขาพูดพร่ำซ้ำๆ ใบหน้างามของชายหนุ่มฉายออกเพียงความสิ้นหวัง หญิงสาวนั่งร้องไห้อยู่กลางถนน นี่เธอกำลังจะตายจริงๆเหรอ ไม่ได้สิเธอยังไม่พร้อมเลย

 

     แสงสีขาววาบขึ้นเบื้องหน้าเธอ ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดขาวสะอาดเปล่งประกายเดินมาด้านหน้า วาดฝันเอามือขึ้นบังตา หญิงสาวคนนั้นยื่นมือมาด้านหน้าพร้อมรอยยิ้ม ทำให้วาดฝันยื่นจับมือของเธอเพื่อลุกยืน เธอมองผู้หญิงคนนั้นอย่างสงสัยแม้จะยังร้องไห้อยู่

 

     "ขอโทษนะค่ะ คุณเป็นใครเหรอค่ะ" เธอถามขึ้น ผู้หญิงคนนั้นยิ้ม

 

     "ทูตสวรรค์ ฉันมาพาคุณไปรับคำพิพากษา" ทูตสวรรค์ตอบพลางจับมือของเธอไว้ วาดฝันยืนนิ่งอึ้ง

 

     "หมายความว่ายังไง" เธอรีบถามในใจไม่คิดเชื่อแต่พอนึกย้อนดูขนาดวิญญาณตัวเองเธอยังเห็นเลย ทูตสวรรค์มองเธอ แล้วกอดเธอไว้

 

     "พระเจ้ากำลังจะพิพากษาคุณ ไปกับเราเถอะ" ดวงตาของวาดฝันเบิกกว้าง ไม่จริง เธอจะตายแล้วจริงๆเหรอ แสงวาบได้โอบล้อมร่างของพวกเธอไว้ก่อนที่ปากจะได้พูดคำใดออกมา

 

     พวกเธอได้มาโผล่ที่ที่หนึ่ง บรรยากาศกึ่งมืดกึ่งสว่าง กึ่งร้อนกึ่งเย็น เบื้องหน้าคือบางอย่างที่ใหญ่โตและสว่างเกินกว่าจะเงยมองได้ ทูตสวรรค์ยิ้มหวานให้เธอ พร้อมกับมีร่างของยมทูตสีดำเดินออกมาจากด้านหลัง เธอมองเขา

 

     "อะไรกันเนี่ย พวกยมทูตก็ออกมาด้วยเหรอ" ทูตสวรรค์เอ่ยขึ้น

 

     "ฉันแค่ทำตามหน้าที่ เพื่อยื่นสมุดบัญชีดำของวิญญาณดวงนี้ให้พระเจ้าได้อ่าน" เขาพูด ทั้งสองยืนนิ่งมองหน้ากัน จนกระทั่งมีเสียงครืดดังขึ้นจนรู้สึกเหมือนหูจะอื้อ

 

     "วาดฝัน ลูกเอ๋ย มาแล้วหรือ" เสียงดังกังวานเหมือนกับเสียงเครื่องดนตรี ทำเอาวาดฝันตัวทรุดนั่งกับพื้นด้วยอาการสั่น

 

     หญิงสาวพยายามตั้งสติ ถึงจะเป็นวิญญาณก็เถอะแต่เธอก็ไม่ได้พร้อมจะตายนี่ อยากกลับไปที่ร่างและพบกับพ่อแม่ และริวคนรักของเธอ วาดฝันพยายามรวบสติพร้อมสายตามุ่งมั่นมองลงที่พื้นที่ไม่เหมือนพื้น

 

     "ฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อค่ะ ยังไม่อยากลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ตอนนี้!" วาดฝันพูดเสียงดัง

 

     "นึกว่าเป็นมนุษย์แล้วจะขออะไรก็ได้เหรอ" เสียงของยมทูตดังขึ้น

 

     "พระเจ้าทรงรับฟังเสียงของลูกพระองค์เสมอ เจ้าเงียบไปเถอะนะ" ทูตสวรรค์ยิ้มขึ้น ทำให้ยมทูตผงะไป พร้อมกับที่มีเสียงหัวเราะดังขึ้นจากเบื้องบน ทุกคนพยายามเงยมอง

 

     "เจ้ากำลังต้องการเวลาจากเราสินะ ถ้าเช่นนั้น เราจะส่งเจ้าไปเกิดยังที่หนึ่ง" วาดฝันตาลุกวาวด้วยความหวัง "ลองใช้ชีวิตใหม่ที่เรากำลังจะให้นี้ ทำประโยชน์ให้มากที่สุด เมื่อใช้ชีวิตใหม่ครบอายุยี่สิบห้าปี เจ้าจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง แล้วจะให้พรแก่เจ้าตามที่เจ้าหวัง" เสียงกังวานดังขึ้น รอยยิ้มของวาดฝันเผยขึ้น

 

     "จริงเหรอค่ะ! ชีวิตใหม่แต่ยี่สิบห้าปี..ฉันจะมีอายุถึงแค่ยี่สิบห้าปีเหรอค่ะ?!" เธอถามอย่างกระตือรือร้น

 

     "ใช่แล้ว โอกาสสุดท้ายนี้ จงใช้ให้ดีและเหมาะสม เพื่อเป็นเกียรติแด่เรา เมื่อไหร่ที่เจ้าทำสิ่งดีทุกอย่างเจ้าจะได้รับเหมือนกับที่เจ้าทำร้ายต่อผู้ใดเจ้าจะได้รับการร้ายตอบ" เสียงของพระเจ้าดังกังวาน "เราจะมอบชาติกำเนิดที่ดีให้เจ้า เป็นชีวิตที่เพียบพร้อมแต่ชีวิตของเจ้าจะมีขึ้นลง แต่เมื่อไหร่ที่เจ้านึกวางใจในเรา เมื่อนั้นเราจะช่วยเจ้า"

 

     หญิงสาวฟังแม้ภายในใจจะยังคงสงสัย เธอได้แต่นั่งฟังกับพื้นในท่าคุกเข่าและพยายามเงยหน้าขึ้นมองแต่ว่าแสงสว่างคอยบดบังอยู่

 

     "ชีวิตใหม่ของฉัน...จะเป็นยังไงเหรอค่ะ?" หญิงสาวถามขึ้น

 

     "อยู่ที่เจ้าเลือกเอง" เสียงจากพระเจ้าเอ่ยขึ้น หญิงสาวมองขึ้นไป อยู่ที่เราเลือกอย่างนั้นเหรอ แล้วมันจะเป็นชีวิตแบบไหนล่ะ จะต้องเกิดใหม่ใช่หรือเปล่า เสียงหัวเราะดังขึ้น

 

     "ได้เวลาของเจ้าแล้วลูกเอ๋ย เราจะให้เจ้ายังมีความทรงจำอยู่บ้างเพื่อให้เจ้ารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ถึงเวลาแล้ว ไปสิ" เสียงของพระเจ้าพูดขึ้น พร้อมกับที่ทูตสวรรค์เดินมาข้างๆ

 

     "มาสิ ฉันจะพาเธอไปที่ประตูชะตาชีวิตของวิญญาณ ไปใช้ชีวิตและกลับมาที่นี่อีกครั้ง" หญิงสาวลุกขึ้นและเดินตามทูตสวรรค์ไป

 

     ประตูเมฆพร้อมกับม่านใสที่เวียนวนไปมาชวนให้หญิงสาวตกตะลึง บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนไป เธอมองเห็นประตูใหญ่ที่มีเหมือนทหารถือดาบและโล่ยืน พวกเขามีปีกด้านหลังและยืนอยู่เฝ้าประตูหินหนา หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะจ้องมอง ทูตสวรรค์มองเธอพร้อมรอยยิ้ม

 

     "นั่นคือสวนเอเดนน่ะ เธอต้องเคยได้ยินจากตำนานต่างๆบนโลกมนุษย์แล้ว" ทูตสวรรค์ตอบขึ้น หญิงสาวหันมาทางเธอ "อย่าเพิ่งถามอะไรเลย มาตรงนี้สิ เธอจะมองเห็นชีวิตใหม่ของเธอ"

 

     วาดฝันเดินตรงไปยังหน้าประตูเมฆใกล้ๆ เธอลองจ้องมองเข้าไปในนั้น ปรากฏร่างของหญิงสาวใบหน้าสวยงามในชุดฮันบกสวย ฉากต่างๆเปลี่ยนไป เริ่มตั้งแต่ตอนเกิดเป็นทารก ตอนเด็ก โตและตอนสุดท้ายของชีวิต หญิงสาวมองอย่างไม่เชื่อสายตา นี่เธอต้องเห็นจนถึงตอนตายเลยเหรอ ทูตสวรรค์มองเธอ

 

     "ภาพพวกนี้จะวนในหัวของเธอแค่แปบเดียว เมื่อเธอได้ผ่านเข้าประตูไป เธอก็จะลืมแล้วล่ะ ไม่ต้องกลัวสปอยตอนจบหรอก" เสียงหัวเราะของทูตสวรรค์ดังขึ้น หญิงสาวยิ้มเจื่อนพร้อมกับชี้ไปทางประตู

 

     "ฉันต้องเดินผ่านประตูนี้ไปเหรอ" หญิงสาวเอ่ยถาม ทูตสวรรค์พยักหน้า

 

     "เอาล่ะถึงเวลาแล้ว! เดินเข้าไปเลย" ทูตสวรรค์ดันหลังเธอ หญิงสาวหน้าเหวอตกใจ

 

     ร่างของเธอทะลุม่านรู้สึกเหมือนภาพต่างๆกำลังวนเวียนเข้ามา ความรู้สึกวูบเหมือนกำลังหล่นจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ พร้อมกับความรู้สึกที่เริ่มเลือนรางไปพร้อมกับความทรงจำที่ผ่านมา ดวงตาของเธอปิดลงและรู้สึกร่างกายกำลังเย็นสติดับวูบราวกำลังรอช่วงเวลา

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.