ตอนที่ 319 ยานรบรุ่นที่ 2
ตอนที่ 319 ยานรบรุ่นที่ 2
ยานรบหนักถือได้ว่าเป็นยานรบรุ่นที่ 2 ของพันธมิตร เพราะมันมีอำนาจการยิงและพลังป้องกันเหนือกว่ายานครุยเซอร์ ซึ่งเป็นยานรบรุ่นแรกที่มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่ถึงกระนั้นมันกลับมีอำนาจในการทำลายสูงกว่ายานประจัญบานที่มีระดับชั้นสูงกว่า แล้วมันก็ยังมีความคล่องตัวเหนือกว่ายานเดสทรอยเยอร์ซึ่งเป็นยานที่มีขนาดเล็กลงไป
ปัจจุบันยานประจัญบานถือได้ว่าเป็นกองกำลังหลักในพันธมิตร แต่การมาถึงของยานรบหนักย่อมสั่นคลอนตำแหน่งของยานประจัญบานอย่างแน่นอน ซึ่งมันก็จะทำให้แนวทางในการต่อสู้หลังจากนี้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
“ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมยานคอมเมทถึงไม่ถูกผลิตออกมาต่อ นั่นก็เพราะว่าทางพันธมิตรมียานรุ่นที่ 2 ออกมาแล้วนี่เอง มันเลยทำให้ยานคอมเมทซึ่งเป็นยานรุ่นแรกมีความสำคัญลดน้อยลง” เซี่ยเฟยกล่าว
“จะว่าเหตุผลนั้นก็ใช่ แต่ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพโดยรวมของยานรบรุ่นแรกจะแย่กว่ายานรบในรุ่นที่ 2 แต่ต้นทุนในการผลิตของยานรบรุ่นแรกก็ต่ำกว่ายานรบในรุ่นที่ 2 ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นในตอนนี้พวกเราจึงยังคงผลิตยานรบรุ่นแรกอย่างเต็มที่และจะผลิตยานรบรุ่นที่ 2 ขึ้นมาเป็นกำลังเสริม มันจึงทำให้ยานรุ่นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือยานชั้นยอดที่ผลิตในอดีตอย่างเช่นยานคอมเมท” นิโคลกล่าวอธิบาย
“คุณนิโคลพวกเรามาพูดเรื่องราคากันดีกว่า ถึงแม้ว่าผมจะชอบไดมอสมากแต่ถ้าหากว่าราคาของมันสูงเกินไปผมก็สู้ราคาไม่ไหวเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ยานรบลำนี้เป็น 1 ใน 3 ยานต้นแบบที่ถูกปรับแต่งมาอย่างประณีต และอุปกรณ์เสริมทั้งหมดที่ติดตั้งบนตัวยานต่างก็เป็นอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานสูงมาก ดังนั้นยานลำนี้จึงไม่สามารถวัดมูลค่าด้วยเงินได้ มันจึงไม่ใช่ยานที่มีเอาไว้ขายแต่มีเอาไว้สำหรับการให้เป็นของขวัญ” นิโคลกล่าวพร้อมกับส่ายนิ้วชี้ไปมา
“คุณจะให้ยานลำนี้กับผมฟรี ๆ งั้นเหรอ! ทำไมล่ะ พวกเราเพิ่งได้รู้จักกันเองไม่ใช่เหรอ?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย
“ทั้งคุณและฉันต่างก็เป็นนักธุรกิจ ดังนั้นคุณควรจะรู้จักคำว่าผลประโยชน์ร่วมกันใช่ไหม? ตอนนี้บริษัทควอนตัมของคุณได้กลายเป็นซัพพลายเออร์ระดับ A ของกองทัพ ซึ่งมันก็หมายความว่าในอนาคตพวกเรามีโอกาสจะได้ร่วมงานกันมากขึ้น และมันก็หมายความว่าสักวันหนึ่งบริษัทของฉันก็จะได้รับผลประโยชน์จากบริษัทของคุณเช่นเดียวกัน” นิโคลกล่าว
คำพูดของนิโคลทำให้เซี่ยเฟยทำได้เพียงแต่เกาหัว เพราะท้ายที่สุดเขาก็ชอบที่จะให้ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ กับคนอื่นเช่นเดียวกัน เพียงแต่ของขวัญที่นิโคลมอบให้คนอื่นมีมูลค่าสูงกว่าของขวัญของเขามาก ซึ่งถ้าหากว่าเขานำยานต้นแบบลำนี้ไปขายในตลาดมันก็คงจะทำให้เขารับเงินกลับมาในปริมาณที่ไม่สามารถจะจินตนาการได้
เซี่ยเฟยรู้สึกลังเลอยู่เล็กน้อย เพราะเขาเชื่อมาโดยตลอดว่ามันไม่มีของฟรีภายในโลก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจอย่างยากลำบากว่าจะรับของขวัญชิ้นใหญ่ชิ้นนี้ดีหรือไม่
แม้ว่าชายหนุ่มจะชอบยานรบหนักไดมอสลำนี้มาก แต่ถ้าหากของขวัญชิ้นนี้มาพร้อมกับเงื่อนไขที่เขาไม่สามารถยอมรับได้ เขาก็จะทำการปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้โดยไม่ลังเล
เมื่อนิโคลได้เห็นท่าทางลังเลของเซี่ยเฟย เธอก็เริ่มที่จะอธิบายออกมาอีกครั้ง
“บอกตามตรงนะว่าถึงแม้ว่าคุณจะไม่ชนะการแข่งขันโกลเดนฟิงเกอร์ในครั้งนี้ แต่โดยส่วนตัวแล้วฉันคิดว่าคุณคือคนที่มีความสามารถโดดเด่นที่สุดภายในการแข่งขัน”
“ขณะเดียวกันบริษัทผลิตยานรบขนาดใหญ่ทั้งสี่แห่งต่างก็เริ่มผลิตยานรบรุ่นที่ 2 ส่งออกให้กับกองทัพแล้ว แต่มันมีเพียงยานไดมอสของบริษัทไกอาของเราเท่านั้นที่ถูกปฏิเสธจากกองทัพ และฉันก็ไม่มีวันยอมรับการตัดสินใจที่สร้างความอัปยศให้เราแบบนี้”
“ดังนั้นฉันจึงต้องการที่จะพลิกสถานการณ์ให้กองทัพรู้ว่าพวกเขาคิดผิดที่ปฏิเสธไดมอสของเราไป ฉันจึงเริ่มมอบมันเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับช่างกลที่มีความสามารถในการดัดแปลงยานรบอย่างยอดเยี่ยม เพื่อให้กรมทหารได้รู้ว่าไดมอสเป็นยานรบที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ายานรบรุ่นที่ 2 ลำไหนทั้งนั้น”
นิโคลพูดขึ้นมาอย่างจริงจังและท่าทีที่ไม่ยอมแพ้ของเธอก็ทำให้เซี่ยเฟยได้จ้องมองไปยังหญิงสาวคนนี้อย่างชื่นชม
“คุณกำลังหมายความว่าคุณต้องการให้ผมพิสูจน์ความสามารถของไดมอสใช่ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างจริงจัง
“ใช่” นิโคลกล่าว
“เรื่องนี้ถือว่าเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่เลยนะ เพราะถ้าหากว่าผมไม่สามารถเปลี่ยนไดมอสให้กลายเป็นนักฆ่าที่น่าสะพรึงกลัวได้ มันก็หมายความว่ายานรบที่มีค่าของคุณจะถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ฉันยินดีที่จะยอมรับความเสี่ยงอยู่แล้ว และฉันก็เชื่อว่าคุณจะต้องมีวิธีทำให้ยานลำนี้สามารถปลดปล่อยศักยภาพของมันออกมาได้อย่างดีที่สุด” นิโคลกล่าวอย่างจริงจัง
“รีบตกลงเร็ว ๆ เข้า! นั่นมันยานรบหนักเชียวนะอย่ามัวแต่ลังเลเลย ปกตินายเป็นคนงกจะตาย” อันธพยายามกล่าวกระตุ้นจากด้านข้างเมื่อเห็นว่าเซี่ยเฟยไม่ยอมตัดสินใจรับของขวัญชิ้นนี้สักที
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเซี่ยเฟยก็เปลี่ยนจากใบหน้าอันจริงจังกลายเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ผมคิดว่าแม้แต่คนโง่ก็คงจะไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอที่ดีแบบนี้ได้ แล้วผมก็สัญญาว่าผมจะพยายามทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด”
“คุณมีแผนการที่จะดัดแปลงไดมอสยังไงบ้าง?” นิโคลกล่าวพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“พูดง่าย ๆ คือผมจะเอาช่องใส่โดรนกับพื้นที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ออกไป และพยายามเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีและการป้องกัน ในเมื่อไดมอสเป็นยานรบที่ใช้ปืนล้วน ๆ หน้าที่ของมันจึงมีเพียงแค่ 2 อย่างคือการจับศัตรูเอาไว้และทำลายมันลงไปซะ” เซี่ยเฟยกล่าว
“ทำแบบนั้นมันจะดีเหรอ?” นิโคลถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“จุดอ่อนของยานลำนี้ไม่สามารถที่จะแก้ไขได้ ดังนั้นเราก็ควรจะชูจุดเด่นของมันให้ถึงขีดสุด ผมจึงคิดว่าผมจะทำการดัดแปลงให้มันกลายเป็นยานที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับการดวลแบบตัวต่อตัว” เซี่ยเฟยกล่าว
“แล้วถ้าหากว่าคุณจะต้องเผชิญหน้ากับยานของศัตรูหลาย ๆ ลำล่ะ?” นิโคลถาม
“คุณนิโคลมันไม่มียานลำไหนมีความสามารถที่จะทำได้ทุกอย่างหรอกนะ แม้ว่ายานรบลำนี้จะเป็นยานที่ดีแต่มันก็ไม่จำเป็นจะต้องทำเรื่องทุกอย่างโดยลำพัง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
“คุณแน่ใจไหม?” นิโคลกล่าวพร้อมกับพยักหน้าหลังจากที่เธอเริ่มคิดตามคำพูดของชายหนุ่ม
“ไม่มีแผนการไหนสามารถได้รับการยืนยันก่อนที่จะได้ลองทำมันขึ้นมาแล้วจริง ๆ ตอนนี้ผมสามารถพูดได้แค่ว่าผมจะพยายามทำอย่างดีที่สุด และถึงแม้ว่ามันจะไม่ทำให้ไดมอสกลายเป็นสินค้าที่ขายดิบขายดีได้ แต่อย่างน้อยมันก็จะไม่ถูกลบเลือนไปทั้งที่ยังไม่ได้ถูกจดจำ” เซี่ยเฟยกล่าว
“ฉันขอเวลา 2 วัน แล้วฉันจะดัดแปลงทุกอย่างตามที่คุณต้องการ” นิโคลกล่าว
“2 วัน? นี่คุณสามารถทำงานพวกนี้ได้ในเวลาเพียงแค่ 2 วันเองงั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“คุณอย่าลืมนะว่าที่นี่คือบริษัทไกอา 1 ใน 4 ผู้ผลิตยานรบที่ใหญ่ที่สุดในพันธมิตร ดังนั้นมันไม่มีอะไรที่พวกเราทำไม่ได้” นิโคลกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
—
หลังจากเซี่ยเฟยกลับไปแล้วนิโคลก็ยังคงอยู่ในศูนย์ประเมินของบริษัทไกอา
วืด!
ยานรบที่จะนำเซี่ยเฟยไปส่งบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งหญิงสาวก็ได้จ้องมองไปยังด้านบนด้วยความผิดหวัง
ทันใดนั้นชายชราคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนรถเข็นลอยก็ค่อย ๆ ขยับเข้ามาทางด้านหลังของนิโคล
“นิโคล” ชายชรากล่าวเรียกขึ้นมาเบา ๆ
“คุณพ่อ! วันนี้รู้สึกดีขึ้นบ้างไหมคะ?” นิโคลหันศีรษะกลับมาพูดกับบิดาด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นเธอก็นั่งยอง ๆ กุมมือของชายชราเอาไว้อย่างแผ่วเบา
ชายชราคนนี้ได้ป่วยเป็นโรคปริศนาทำให้มือของเขาสั่นตลอดเวลา และถ้าหากว่าใครมองดี ๆ ก็จะเห็นว่าเปลือกตาของชายชราคนนี้ก็กำลังสั่นอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
“ทำไมวันนี้พ่อถึงมาที่นี่ได้ล่ะคะ?” นิโคลกล่าวถามขึ้นมาอย่างแผ่วเบา และถึงแม้ว่าต่อหน้าคนนอกเธอจะทำตัวเข้มแข็งเนื่องมาจากเธอต้องขึ้นมารักษาการณ์ตำแหน่งประธานบริษัท แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อของตัวเองแล้วเธอก็เป็นเพียงแค่เด็กสาวตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง
“พ่อมาหาลูกนั่นแหละ ลูกก็น่าจะรู้ว่ายานต้นแบบของไดมอสมีอยู่เพียงแค่ลำเดียว แล้วทำไมลูกถึงบอกเขาว่าเรามียานต้นแบบอยู่ 3 ลำ?” บันดี้ ซอว์เยอร์กล่าวถาม
“หนูรู้ค่ะ” นิโคลกล่าวขึ้นมาเบา ๆ
“ลูกรู้ แต่ก็ยังตัดสินใจมอบยานลำนี้ให้กับเขา?”
“ค่ะ”
“เขากำลังมีความสัมพันธ์กับแอวริลจากตระกูลเจี่ยนนะ”
“ค่ะ”
“พวกเขารู้จักกันมานานเกือบ 3 ปีแล้วและพวกเขาก็น่าจะอยู่ด้วยกันไปอีกนาน”
“ค่ะ”
ไม่ว่าบันดี้จะพูดอะไรแต่คำตอบเพียงหนึ่งเดียวของนิโคลก็ยังคงเป็น ‘ค่ะ’ อยู่เหมือนเดิม
“ช่างมันเถอะ ถึงยังไงลูกก็ได้ตัดสินใจเรื่องนี้ไปแล้ว” บันดี้กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“คุณพ่อ... หนูอยากลบรอยแผลเป็นที่ข้อมือค่ะ” นิโคลกล่าวด้วยท่าทางสบาย ๆ
“โอเค... โอเค... ในที่สุด... ในที่สุดลูกก็... พ่อรู้สึกดีใจจริง ๆ” บันดี้อุทานออกมาอย่างตะกุกตะกัก โดยในแววตาของเขาได้เต็มไปด้วยความดีใจอย่างที่ไม่สามารถจะอธิบายได้
***************
เฮ้ออออออ สกิลติดตัวเรียกสาวของพระเอกทำงานอีกแล้วสินะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 163
แสดงความคิดเห็น