บทที่ 38: น้องสาวที่แสนดีของลู่เมี่ยนเอ๋อ
หูเจียวเจียวพยักหน้าตอบเหล่าหนิวโถวอย่างกระตือรือร้น
“ใช่ท่านลุงหนิว ข้าจะออกไปทันทีที่ได้หนังสัตว์แล้ว ท่านคิดว่าเนื้อเท่านี้จะแลกหนังสัตว์ได้กี่ผืน?”
เธอเอ่ยพลางส่งเนื้อไปทางชายวัยกลางคนเพราะกลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายปฏิเสธ
ก่อนหน้านี้เหล่าหนิวโถวตะโกนเสียงดังมาก ทำให้ภูตทุกคนที่อาศัยอยู่ใกล้บ้านเขามามุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อชาวบ้านเห็นว่าหูเจียวเจียวนำเนื้อมามากมายก็พากันตกใจ
ส่วนเหล่าหนิวโถวไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงคนนี้เต็มใจที่จะแลกเนื้อกับหนังสัตว์
หลังจากที่เขาชั่งน้ำหนักเนื้อคร่าว ๆ เขาก็คิดว่าเนื้อนี้หนัก 70 ถึง 80 ตำลึง แม้ว่าภูตบางคนในเผ่าจะมาหาตนเพื่อแลกเปลี่ยนหนังสัตว์ แต่ภูตที่มีร่างกายแข็งแรงเท่านั้นที่จะนำเนื้อหนักขนาดนี้มาได้ และเป็นเพราะคนคนนั้นขี้เกียจฟอกหนังด้วยตัวเองถึงจะเอาเนื้อมาแลกกับหนังสัตว์
แต่คนจำพวกนี้ก็ยังไม่ใจกว้างนำเนื้อจำนวนมากมาแลกเท่าหูเจียวเจียวเลย
เมื่อเหล่าหนิวโถวอายุมากขึ้น เขาก็จับเหยื่อได้น้อยลงเรื่อย ๆ ดังนั้นเขาจึงต้องการอาหาร เมื่อเห็นว่าจิ้งจอกสาวดูเหมือนจะอยากนำเนื้อมาแลกเปลี่ยนกับหนังสัตว์ เขาก็พยักหน้ารับ
“เนื้อของเจ้าสามารถแลกเป็นหนังสัตว์ขนาดใหญ่ได้ 3 ผืน เจ้าไปเลือกเอาเองแล้วกัน”
คำตอบนั้นทำให้ใบหน้าของหูเจียวเจียวสดใสขึ้น และเธอก็รีบพูดขอบคุณอีกฝ่าย “ขอบคุณมาก ท่านลุงหนิว”
หนังสัตว์ 3 ผืนก็มากพอแล้วที่จะทำเสื้อผ้าให้เด็ก ๆ 4 คน
จากนั้นธอก็เงยหน้าขึ้นมองหนังสัตว์ที่ห้อยอยู่ตามกิ่งไม้พร้อมที่จะเลือกผืนที่ต้องการ
อีกด้านหนึ่งที่ไม่ห่างไกลนัก พวกภูตที่ดูตื่นเต้นกำลังพูดถึงเรื่องนี้กัน
“หูเจียวเจียวเอาเนื้อมาแลกหนังสัตว์ด้วยตัวเองจริงหรือ? นางถูกอาคมหรือไง?”
“ลูกของนางซีดเซียวและซูบผอมเพราะความหิวโหย เด็กพวกนั้นได้กินข้าวไม่อิ่มด้วยซ้ำ นี่นางยังกล้าเอาเนื้อมาแลกกับหนังสัตว์อีก...”
“ข้าได้ยินมาว่าเหยื่อที่หลงโม่ส่งกลับมาไม่เคยพอกิน นางจะไปเอาเนื้อมากมายขนาดนี้มาจากไหน หรือว่านางไปขโมยมาจากคนอื่น...”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากหญิงสาวคนหนึ่ง ชาวบ้านก็ยิ่งรู้สึกขยะแขยงผู้หญิงที่กำลังนินทากันอยู่มากขึ้น
ตอนแรกภูตพวกนี้คิดว่าหูเจียวเจียวเปลี่ยนไปแล้ว แต่นางก็ยังทำเรื่องสกปรกและไร้ยางอายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
“หูเจียวเจียวกำลังหลอกท่านลุงหนิว!”
“ใช่ ถ้าพวกภูตที่ถูกขโมยเนื้อรู้เรื่องนี้เข้า พวกเขาจะมาหาท่านลุงหนิว เพื่อนำเนื้อกลับไปอย่างแน่นอน พอท่านลุงหนิวไม่มีหนังสัตว์ไว้แลกเปลี่ยน ท่านก็จะไม่มีเนื้อกิน...”
เมื่อชายวัยกลางคนได้ยินถ้อยคำทั้งหมดนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาคิดว่าหูเจียวเจียวประพฤติตัวดีขึ้นแล้ว แต่เขาไม่คาดคิดว่านางจะมาหลอกเอาหนังสัตว์ของตัวเองไป
ใบหน้าของชายร่างใหญ่หม่นหมองลง จากนั้นเขาจับแขนของจิ้งจอกสาวด้วยมือข้างหนึ่งแล้วผลักอีกฝ่ายออกไป “หูเจียวเจียว ออกไป ข้าจะไม่แลกหนังสัตว์นี้กับเจ้า เอาเนื้อของเจ้าคืนไปซะ”
หูเจียวเจียวที่ถูกผลักเสียหลักไปทันที
หลังจากที่ตั้งตัวได้ เธอก็หันไปมองชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ กลุ่มคนพวกนั้นเป็นคนที่เธอเคยเห็นหน้ามาก่อน แต่ผู้หญิงที่บอกว่าเธอขโมยเนื้อมานั้นเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างผอมบางแปลกหน้าคนหนึ่ง
แล้วผู้หญิงคนนี้คือใคร? ทำไมนางถึงจงใจพูดให้คนอื่นเข้าใจเธอผิด อย่าบอกนะว่านางก็เป็น 1 ในคนที่มีความแค้นกับเจ้าของร่างเดิม?
หูเจียวเจียวแอบคิดกับตัวเองว่าเธอช่างโชคร้ายจริง ๆ จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นอธิบายให้เหล่าหนิวโถวฟังว่า “ท่านลุงหนิว เนื้อนี้หลงโม่เป็นคนส่งมาให้ ข้าไม่ได้ขโมยใครมาทั้งนั้น...”
ก่อนที่หญิงสาวจะพูดจบ ชายวัยกลางคนก็โยนเนื้อและผลักเธอออกไปโดยไม่สนใจฟังคำอธิบายของเธอเลย
“ออกไปซะ ไม่ต้องมายืนมองหน้าข้า ถ้าข้าบอกว่าไม่แลกก็คือไม่แลก อย่าแม้แต่จะมาแย่งหนังสัตว์ไปจากข้าสักผืน!”
ใบหน้าของชายที่มีรูปร่างใหญ่โตคล้ายวัวนั้นเย็นชาและรังเกียจ ราวกับว่าหูเจียวเจียวเป็นของสกปรก
“ท่านลุงหนิว...”
ฝ่ายที่ถูกผลักไสไล่ส่งขมวดคิ้วมุ่นกำลังอ้าปากจะเอ่ยบางอย่างออกไป แต่ก็มีเสียงเยาะเย้ยดังขึ้นมาจากข้างหลังเสียก่อน “หูเจียวเจียว ท่านลุงหนิวบอกให้เจ้ากลับไปซะ เจ้าจะมาหน้าด้านอยู่ตรงนี้อีกทำไม ไร้ยางอายจริง ๆ!”
“นังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ อย่าทำตัวน่าขยะแขยงแบบนี้ รีบกลับบ้านโกโรโกโสของเจ้าไปซะ การที่เจ้าขโมยเนื้อของคนอื่นมามันน่ารังเกียจสิ้นดี”
หญิงสาวหันไปมองคนที่พูดเยาะเย้ยและดูถูกเธออย่างเย็นชา แต่เธอกลับเห็นว่าผู้หญิงที่พูดใส่ร้ายกำลังยิ้มเยาะให้เธออยู่
นั่นยิ่งทำให้หูเจียวเจียวแน่ใจว่าผู้หญิงคนนี้ต้องมีความแค้นกับเจ้าของร่างเดิมแน่นอน
เนื่องจากเหล่าหนิวโถวไม่ต้องการแลกเปลี่ยนหนังสัตว์อีกต่อไป เธอจึงไม่สนใจเรื่องนี้ ถ้าครั้งหน้าหลงโม่ส่งเหยื่อกลับมา เธอจะไปหาหูหมินเพื่อเรียนรู้วิธีการฟอกหนังสัตว์
อีกแค่ไม่กี่วันเอง ทน ๆ เอาหน่อยแล้วกัน
จากนั้นหูเจียวเจียวก็มองไปยังคนที่กำลังพูดจาถากถางและพวกภูตที่ซุบซิบนินทาเพื่อจดจำใบหน้าของทุกคนไว้ แล้วเธอก็หันหลังเดินกลับบ้าน
ในตอนนั้นเอง มีชายคนหนึ่งเบียดตัวออกมาจากฝูงชน
ชายคนนั้นพูดปกป้องหูเจียวเจียวด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ไม่ อย่ามาพูดไร้สาระ เนื้อพวกนี้หลงโม่เป็นคนส่งกลับมาจริง ๆ หูเจียวเจียวไม่ได้ขโมยเนื้อใครมาทั้งนั้น”
หูเจียวเจียวที่ได้ยินโหวเสี่ยวเตียวพูดก็ผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปมองอีกคนอย่างประหลาดใจ
“โหวเสี่ยวเตียว ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
ยามนี้ลิงหนุ่มถือหนังสัตว์จำนวนหนึ่งไว้ในมือพลางเดินไปหาจิ้งจอกสาว ในขณะที่หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เมื่อมาถึงตรงหน้าหญิงสาว เขาก็ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อก่อนจะอธิบายให้คนอื่น ๆ ฟังว่า
“หูเจียวเจียว ข้าได้ยินมาว่าเจ้าอยากจะแลกเนื้อกับหนังสัตว์ นี่คือหนังที่ข้าฟอกไว้ เจ้ารับไปเถอะ ถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้”
หูเจียวเจียวก้มลงมองหนังสัตว์ 3 ผืนในมือของอีกฝ่าย
เนื่องจากหนังสัตว์ไม่ใช่ของหายากในเผ่า ปกติแล้วมีแต่ภูตจอมขี้เกียจเท่านั้นที่จะขาดหนังสัตว์
หลังจากที่แม่จิ้งจอกคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ตัดสินใจยื่นไม้หาบที่มีเนื้อผูกไว้ส่งไปให้โหวเสี่ยวเตียว แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณเจ้ามาก แต่ข้าจะแลกเนื้อกับหนังสัตว์ของเจ้า ข้าจะได้ไม่ต้องแบกกลับไปกลับมา”
ครั้งที่แล้วเขาสูญเสียเหยื่อเพื่อช่วยหลงเหยา และตอนนี้เขาก็เอาหนังสัตว์มาให้เธออีก ซึ่งมันไม่ต่างอะไรจากการเอาเปรียบอีกฝ่ายเลยสักนิด
แต่ชายหนุ่มกลับตื่นตระหนกพร้อมกับโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“เจ้าทำแบบนี้ทำไม ข้ากินเนื้อของเจ้าไม่ได้...”
ครอบครัวของเขามีลูก 2 คน เนื้อที่ผู้หญิงคนนี้เอาให้สามารถกินได้ตั้ง 2 วัน แล้วสิ่งที่เขานำมาแลกเป็นเพียงหนังสัตว์ 3 ผืนเท่านั้น เขาคงไม่กล้าใช้มันแลกกับเนื้อมากมายขนาดนี้หรอก
“อย่าปฏิเสธเลย ไม่เช่นนั้นข้าไม่รู้จะขอบคุณเจ้ายังไงที่ช่วยเหยาเอ๋อ” หูเจียวเจียวมองเขาด้วยสายตาจริงใจ
“หากเจ้าไม่ยอมรับ ข้าก็ไม่เอาหนังสัตว์นี้เหมือนกัน”
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ...” โหวเสี่ยวเตียวเกาหัวและในที่สุดก็ยอมรับเนื้อของเธอมาอย่างกระดากอาย
ส่วนภูตที่เฝ้าดูอยู่รอบ ๆ ต่างพากันอิจฉาเมื่อเห็นว่าเจ้าลิงนั่นได้เนื้อมามากมาย
แม้แต่เหล่าหนิวโถวก็ยังแอบเสียใจภายหลัง ถ้าเขาได้เนื้อพวกนั้นมา เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องออกไปล่าอีก 2-3 วัน
ในเวลานี้ มีเสียงขี้อิจฉาดังมาจากฝูงชนอีกครั้งหนึ่ง “ทุกคนรู้ว่าหูเจียวเจียวเป็นคนแบบไหน โหวเสี่ยวเตียว นี่เจ้ากล้าออกหน้าแทนนางขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าแอบเป็นชู้กันหรอกนะ”
“ซุยซุยพูดถูก เราจะรู้ได้ยังไงว่าพวกเจ้าไม่ได้ช่วยกันโกหก”
“โหวเสี่ยวเตียว เจ้ามีคู่ครองแล้ว การที่เจ้าออกมาปกป้องหูเจียวเจียวแบบนี้ ถ้าเมียของเจ้ารู้เข้า เจ้าคงจะถูกโยนลงไปในถ้ำหมื่นอสรพิษ!”
ภูตคนนั้นพูดด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท
ในโลกนี้ผู้ชายก็เหมือนผู้หญิงสมัยโบราณ พอมีคู่แล้วจะไปสนิทชิดเชื้อกับผู้หญิงคนอื่นไม่ได้อีก หากชายใดถูกพบเข้าก็จะโดนโทษหนักเหมือนมนุษย์ผู้หญิงในสมัยก่อน
ยามที่หูเจียวเจียวได้ยินคำพูดแง่ลบเหล่านี้ ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา เธอหันหลังเดินไปหาพวกภูตที่กำลังเฝ้าดูพวกเธอและหยุดอยู่หน้าผู้หญิงตัวเล็กผู้ที่พูดใส่ร้ายเธอ
ถ้าหญิงสาวได้ยินถูกต้อง อีกฝ่ายมีชื่อว่า ‘ซุยซุย’
ลู่ซุยซุย ลูกพี่ลูกน้องของลู่เมี่ยนเอ๋อแอบรักอิงหยวนเหมือนเจ้าของร่างเดิม และมักใช้ลู่เมี่ยนเอ๋อเป็นข้ออ้างในการติดต่อกับเขา
เนื่องจากนางไม่สามารถคว้าใจของอินทรีหนุ่มมาครองได้ นางจึงเอาความโกรธทั้งหมดมาลงที่หูเจียวเจียวคนเก่า
ถัดมา เธอยิ้มและพูดด้วยเสียงอันดังว่า “แน่นอน! ข้าไม่ดีเท่าเจ้าหรอกลู่ซุยซุย ปากเจ้าบอกว่าเป็นห่วงลู่เมี่ยนเอ๋อ แต่ใจเจ้าแอบอยากได้อิงหยวนจนตัวสั่น ถึงขั้นบอกผู้ชายว่าจะไปอาบน้ำที่ไหน”
“เจ้าช่างเป็นน้องสาวที่ดีต่อลู่เมี่ยนเอ๋อจริง ๆ!”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 274
แสดงความคิดเห็น