บทที่ 22: ไม่ต้องคุกเข่าขอโทษข้า
เผ่าของพวกเขาเป็นเผ่าผสม มีภูตหลากหลายเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ในเผ่านี้ แล้วพวกเขาก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติมาโดยตลอด หากใครมีปัญหาอะไร ทุกคนในเผ่าก็ยินดีที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือกันและกัน
แต่เมื่อเหล่าภูตได้ยินคำพูดของสงฮวา กลุ่มคนที่เข้ามาช่วยดับไฟก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที
“นี่พวกเราเข้ามาช่วยเจ้าดับไฟนะ ทำไมถึงมาพูดจาอะไรไร้เหตุผลอย่างนี้”
“ถ้าอย่างนั้นข้าไม่ช่วยเจ้าแล้วดีกว่า เจ้าไปตักน้ำมาดับไฟเอาเองเถอะ!”
หลังจากที่ชาวบ้านพูดจบ พวกเขาก็ขว้างถังหินลงกับพื้นด้วยความโกรธก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ส่วนพวกผู้หญิงที่ถูกสงฮวาผลักล้มลงก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้นางอีก โดยที่ทุกคนพยายามรักษาระยะห่างจากนางเอาไว้
เมื่อสงฮวาเห็นว่าไม่มีใครช่วยเหลือตนแล้ว นางก็ทรุดตัวลงไปคร่ำครวญอยู่กับพื้น “ลูกแม่... คนพวกนี้ไม่ยอมช่วยเจ้า… ถ้าลูกของข้าตาย ข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไว้แน่...”
ในเวลาเดียวกัน หูเจียวเจียวเข้าไปในป่าเพื่อไปรับเด็กทั้ง 4 คนกลับบ้าน แล้วเธอก็บังเอิญได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในขณะที่เธอกำลังเดินผ่านบ้านของสงฮวา
ทันใดนั้นเองเธอก็เผยรอยยิ้มออกมา
การที่เธอจะทำให้พวกภูติในเผ่าปฏิบัติต่อครอบครัวของพวกเธอดีขึ้นอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่การที่จะทำให้ชาวบ้านในเผ่าเกลียดชังสงฮวานั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ในขณะเดียวกัน เด็กทั้ง 4 คนก็แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม “สมน้ำหน้ามัน!”
หลงหลิงเอ๋อจับมือหูเจียวเจียวในขณะที่นางเงยหน้ามองผู้เป็นแม่ด้วยสายตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ท่านแม่ ท่านทำยังไงให้พวกเขาดับไฟไม่ได้?”
ตั้งแต่ที่แม่ใจร้ายคนนี้เปลี่ยนไป ดูเหมือนว่านางจะเก่งกาจมากขึ้น!
นอกจากนางจะทำอาหารอร่อยแล้ว นางยังช่วยขับไล่คนที่มาระรานพวกเขาออกไปและช่วยสั่งสอนคนเลวพวกนั้นด้วย
“ไม่ใช่ว่ามันดับไม่ได้ แต่เป็นเพราะแม่เพิ่มบางอย่างที่สามารถทำให้ไฟลุกไหม้ได้เร็วขึ้นเท่านั้น และพวกเขาจำเป็นจะต้องใช้น้ำปริมาณมากกว่าเดิมในการดับไฟ” หูเจียวเจียวอธิบายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ช่างทรงพลังอะไรเช่นนี้!” สาวน้อยกะพริบตาด้วยความประหลาดใจประกอบกับใบหน้าที่แสนจะตื่นเต้น
มือเล็ก ๆ นั้นกำแน่นโดยหวังว่านางจะได้ลองจุดไฟแบบนี้ดูบ้าง
“ท่านแม่ ท่านช่วยมอบของที่ทรงพลังนี้ให้ข้าหน่อยได้ไหม ในอนาคตถ้ามีใครมารังแกข้าอีก ข้าจะโยนมันใส่คนพวกนั้นแล้วเผามันให้ตาย!”
“...”
สมกับเป็นวายร้ายตัวน้อยจริง ๆ ความคิดของเจ้าตัวเล็กพวกนี้มันเกินจินตนาการของเธอไปมาก
“หลิงเอ๋อ สิ่งนี้ใช้ตามอำเภอใจไม่ได้ เว้นแต่คนนั้นจะเป็นคนเลวมาก ๆ คนแบบนี้เจ้าสามารถเผามันให้ตายได้เลย เอาไว้รอให้เจ้าโตขึ้นกว่านี้ก่อน แล้วแม่สอนเจ้าใช้” หูเจียวเจียวอธิบายอย่างจริงจัง
เป้าหมายของเธอคือพิชิตใจเหล่าวายร้ายตัวน้อย ไม่ใช่เปลี่ยนพวกเขาให้เป็นฆาตกรบ้าคลั่ง
เธอจะต้องรีบสั่งสอนให้เด็กพวกนี้รู้จักกับความเมตตาเสียหน่อยแล้ว!
“โธ่... ” เมื่อหลงหลิงเอ๋อได้ยินคำพูดของผู้เป็นแม่ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
ณ ขณะนี้
สงฮวาซึ่งนอนร้องโหยหวนอยู่บนพื้นหันไปเห็นหูเจียวเจียวอยู่ในฝูงชน
ทันใดนั้นนางก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะลุกขึ้นแล้ววิ่งไปหาแม่จิ้งจอกด้วยความโกรธ
“หูเจียวเจียว ต้องเป็นเจ้าแน่! เจ้าขโมยวิธีการจุดไฟของหัวหน้าเผ่าและจงใจมาเผาบ้านข้า ถ้าลูกข้าตาย ข้าจะฆ่าเจ้า!”
แม่หมีแยกเขี้ยวพร้อมกับกางกรงเล็บออกตั้งท่าจะทำร้ายหูเจียวเจียว
ในเวลาเดียวกัน เด็กทั้ง 4 รู้สึกตกใจมากเมื่อเห็นสงฮวาพุ่งเข้ามา แต่จู่ ๆ จิ้งจอกสาวก็ดึงพวกเขาหลบไปอีกทาง
จากนั้นเธอก็ยกเท้าขึ้นเตะข้อพับคู่กรณีอย่างแรง
“โอ๊ย!”
สงฮวาคุกเข่าลงกับพื้นทันที
“สงฮวา เจ้าจะทำอะไร แม้ว่าเจ้าจะทำลายบ้านของข้าจนพังยับเยินและเข้ามาทุบตีเด็กตัวเล็ก ๆ 5 คนถึงในบ้านของข้า แต่เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องคุกเข่าขอโทษข้าแบบนี้ ในเมื่อวันก่อนเจ้านำเหยื่อ 2 ตัวมาขอโทษ ข้าก็ยกโทษให้เจ้าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องทำถึงขั้นนี้หรอก”
หูเจียวเจียวแสร้งทำท่าหวาดกลัวพลางมองดูผู้หญิงตรงหน้ากำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยความประหลาดใจ
เมื่อคนในเผ่าได้ยินคำพูดของหญิงสาว พวกเขาก็ไม่สนใจลูกเตะของเธอก่อนหน้านี้
นอกจากสงฮวาจะไปพังบ้านคนอื่นแล้ว นางยังไปทุบตีลูกของคนอื่นถึงในบ้านอีกหรือ?
แม้ว่าทุกคนจะเกลียดหูเจียวเจียว แต่มันก็ไม่ได้ขัดขวางไม่ให้พวกเขาเกลียดสงฮวาขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
เมื่อเจ้าของบ้านที่ถูกเผาจนวอดวายสัมผัสได้ถึงสายตาที่น่ารังเกียจจากรอบด้าน นางก็รู้สึกอับอายขึ้นมา
“หูเจียวเจียว นังสารเลว เจ้าต้องมาเผาบ้านเพื่อแก้แค้นข้าแน่ ๆ ข้าจะล้างแค้นแทนสงชิวลูกของข้า!”
ในตอนนี้นางหวังว่าตัวเองจะสามารถหักคอของแม่จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ให้ตายคามือทันที
นางพูดจบแล้วก็ตั้งท่าจะพุ่งเข้าต่อสู้กับหูเจียวเจียว
ถึงแม้ว่ารอบ ๆ จะมีคนในเผ่าเฝ้าดูอยู่มากมาย แต่ก็ไม่มีใครอยากจะยื่นมือเข้าไปช่วยจิ้งจอกสาวอยู่ดี
พอหูเจียวเจียวเห็นว่าสถานการณ์เริ่มแย่ลง เธอก็วางมือข้างหนึ่งบนไหล่ของหลงอวี้และบอกเขาว่า “อวี้เอ๋อ พาน้อง ๆ กลับบ้านไปก่อน เดี๋ยวแม่จะตามไป”
จากนั้นหญิงสาวก็ผลักลูกทุกคนออกจากฝูงชนไป
เธออยากจะต่อสู้กับสงฮวาที่ร่างใหญ่และแข็งแรงดูสักตั้ง
จากการอนุมาน เธอคิดว่าคงไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยตน และเธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายด้วย ตอนนี้หญิงสาวไม่อยากให้เด็ก ๆ เห็นภาพแม่ที่ถูกทำร้ายร่างกาย ดังนั้นเธอจึงบอกให้พวกเขากลับบ้านไปก่อน
ทางด้านหลงอวี้จูงมือหลงหลิงเอ๋อกับหลงจง โดยมีหลงเหยานอนอยู่บนไหล่ของเขา หลังจากถูกผลักออกจากฝูงชน คนเป็นพี่ใหญ่ก็หันกลับไปมองหูเจียวเจียวด้วยท่าทางลังเล
หญิงใจร้ายคนนี้กำลังเผชิญหน้ากับอันตรายด้วยตัวเอง...
ถ้าเป็นในอดีตเขาจะหันหลังกลับและจากไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
แต่เด็กหนุ่มจำได้ว่าเพื่อช่วยเขากับน้อง ๆ ล้างแค้น แม่จิ้งจอกแนะนำให้พวกเขาไปจัดการกับสงชิวกันเองเพื่อระบายความโกรธแค้น
หากไม่ใช่เพราะแผนการของผู้หญิงชั่วร้ายคนนี้ พวกเขาคงจะถูกสงชิวรังแกไปตลอดชีวิต
“พี่ใหญ่ ท่านจะลังเลอะไรอีก พวกเรารีบกลับกันเถอะ ... ”
เมื่อหลงจงเห็นพี่ชายคนโตไม่เคลื่อนไหว เขาก็ดึงมือของอีกคนไปข้างหน้า
หลงอวี้ขมวดคิ้วหันมามองน้องชายแล้วดึงมือของอีกฝ่ายออก ก่อนจะผลักเขาเบา ๆ “เจ้าพาหลิงเอ๋อกับน้องกลับไปก่อน”
“พี่ใหญ่ ท่านคงไม่ได้คิดที่จะเข้าไปช่วยผู้หญิงสารเลวคนนั้นใช่ไหม?” ดวงตาของหลงจงเบิกกว้าง และรอยแผลเป็นที่น่ากลัวบนใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวเล็กน้อย
“ข้าบอกให้เจ้ากลับไปก่อน” เด็กหนุ่มที่โตที่สุดในบ้านออกคำสั่งเสียงเข้ม
ในบรรดาลูกทั้ง 5 คน หลงอวี้เป็นคนที่น้อง ๆ เชื่อฟังมาก…
ท่าทางของพี่ชายทำให้หลงจงมองดูเขาราวกับว่าตนมองเห็นเงาของพ่อ
คนเป็นน้อยชายจึงกัดฟันหันหลังและพาหลงหลิงเอ๋อกับหลงเหยากลับบ้านไป
เมื่อหลงอวี้เห็นน้องทั้ง 3 คนออกไปแล้ว เขาก็หันกลับมา
ทันใดนั้น เด็กหนุ่มก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีบางอย่างมาเกาะไหล่ เขาเลยหันศีรษะไปมองก่อนจะเห็นว่ามังกรดำตัวเล็กกำลังแกว่งหางไปมาอย่างมีความสุข
รูม่านตาสีแดงคู่หนึ่งกะพริบราวกับจะบอกว่า ‘ถ้าติดตามผู้หญิงคนนั้นไปแล้วข้าจะได้กินเนื้อ ท่านพี่อย่าพยายามไล่ข้าไปเลย~’
“...”
“ตามใจเจ้าเถอะ” หลงอวี้พลันนึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ “อะแฮ่ม เสี่ยวเหยา เจ้ายัง...เอามันออกมาได้อีกไหม?”
หลงเหยาที่ได้ยินคำถามของพี่ชายกลอกตาไปมา ก่อนจะหลับตาลงในขณะที่เขาพยายามสัมผัสถึงความปั่นป่วนในท้องอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างจริงจัง
...
หลังจากที่หูเจียวเจียวส่งลูก ๆ ออกไปจากที่เกิดเหตุแล้ว สงฮวาก็กระโจนเข้าใส่เธอพร้อมกับที่มือทั้ง 2 ข้างของนางเปลี่ยนเป็นอุ้งเท้าหมีสีน้ำตาล
ในขณะนั้นกรงเล็บหมีขนาดใหญ่ถูกเล็งไปที่หน้าผากของหญิงสาวตัวเล็ก
ถ้าฝ่ามือนี้ตบลงบนหัวของเธอจัง ๆ ล่ะก็ สมองของเธออาจจะกระจุยออกมาเลยก็เป็นได้
ทันทีที่หูเจียวเจียวหันกลับมา เธอเห็นอุ้งเท้าหมีขนนุ่มที่มีกรงเล็บแหลมคมอยู่ใกล้แค่เอื้อม!
ฉิบหายแล้ว!
ฉันแปลงร่างไม่เป็น!
เธอคิดเพียงว่าจะต้องได้ต่อสู้กับสงฮวา แต่เธอลืมไปว่านี่คือโลกของปีศาจ เหล่าภูตจะกลายร่างเป็นสัตว์ร้ายในยามที่ต่อสู้กัน
หญิงสาวกำลังจะหลบการโจมตีของอีกฝ่าย ทว่าจู่ ๆ ก็มีมือที่แข็งแรงปรากฏขึ้นมาคว้าอุ้งมือของแม่หมีไว้ก่อน
“สงฮวา เจ้ากล้าทำร้ายน้องสาวข้างั้นรึ!”
หูเจียวเจียวเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ และเห็นชายร่างสูงรูปงามยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
“พี่รอง?” จิ้งจอกสาวผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะเรียกชายหนุ่มคนนั้นอย่างไม่แน่ใจ
พี่ชายคนที่ 2 ของร่างเดิมนั้นมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น เขาหล่อที่สุดในบรรดาพี่ชายทั้ง 4 แม้แต่ในเผ่า เขาก็เป็น 1 ในผู้ชายที่หน้าตาดีที่สุดเช่นกัน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 307
แสดงความคิดเห็น