ตอนที่ 43
ตอนที่ 43
กล้องขยายภาพของคุณหนูใหญ่ ให้เห็นชัดๆ ว่าเธอแต่งตัวแตกต่างกับคนอื่นๆ
ทั้งโจวเฟินและโจวเฉี่ยวมั่นใจว่าผู้ชมจะต้องเกิดคิดเปรียบเทียบระหว่างคุณหนูใหญ่ผู้มีชาติตระกูลดีและลูกจ้างที่เป็นชนชั้นกลาง จากนั้นสารพัดคำประณามจะต้องถาโถมไปที่คุณหนูใหญ่ เป็นไปตามแผนการอันแยบยลอันดับที่สอง
แต่ทว่า... ความเป็นจริงกลับไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง
“ตาของข้าไม่ได้ฝาดใช่หรือไม่ ข้าเห็นคุณหนูใหญ่กลายเป็นหงส์ขาวงามท่ามกลางดอกไม้หลากสี ใครก็ได้ช่วยยืนยันให้ข้าเถิด”
“ข้าแทบไม่อยากเชื่อ ทั้งที่คุณหนูแต่งกายชุดทั่วไป ไม่ได้มีความโดดเด่น แต่เมื่อได้มาอยู่ท่ามกลางความสูงค่าแล้ว คุณหนูกลับงามเด่นเลิศล้ำขึ้นมา”
“คุณหนูใหญ่ไม่จำเป็นต้องแต่งเสริมอันใดก็ยังคงงามล้น”
“ข้ามั่นใจว่าชุดเรียบง่ายอย่างที่คุณหนูสวมใส่นั้นจะต้องเป็นกระแสใหม่ไม่ช้า”
“เจ้าใช้คำผิด บัดนี้คุณหนูทำให้เป็นกระแสแล้ว”
“ข้าคลั่งไคล้คุณหนูใหญ่แล้ว ข้าจะติดตามคุณหนูใหญ่ ข้าจะติดตาม มีใครรู้หรือไม่ว่านางมีช่องทางให้ติดตาม โปรดบอกข้าเถิด”
ทั้งโจวเฟินและโจวเฉี่ยวใบหน้าอึมครึมทันใด ไม่คาดคิดว่าผู้ชมจะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ
“พวกน้องเป็นอะไร เหตุใดใบหน้าถมึงทึงเช่นนั้น ?”
คำถามกึ่งหยอกเย้าของคุณหนูใหญ่นั้นทำให้ทั้งโจวเฟินและโจวเฉี่ยวได้สติ จึงอดกลั้นความรู้สึกแล้วปั้นหน้าให้มีรอยยิ้มต่อ
“ข้ามิได้เป็นอะไร” โจวเฟินอ้ำอึ้งเล็กน้อย “เพียงรู้สึกรำคาญเล็กน้อยที่ภาพคันฉ่องสื่อสารกระตุก สงสัยบริเวณนี้คลื่นสัญญาณสื่อสารไม่ดี”
“ฉะ ใช่เจ้าค่ะ” โจวเฉี่ยวรีบตามน้ำ ในใจคาดไม่ถึงว่าพี่สาวคนรองจะเอาปัญหายอดนิยมมากลบเกลื่อน กระนั้นถือว่าเป็นเหตุผลที่สมบูรณ์
แต๋วยิ้ม “เช่นนั้นเรารีบไปจากบริเวณนี้เถิด หากอยู่นาน ผู้ชมอาจไม่พอใจ และน้องๆ จะได้เห็นชุดใหม่ตามที่ปรารถนาโดยเร็ว” ดวงตาของคุณหนูใหญ่มองต่ำลง กระทั่งหยุดอยู่ที่เสื้อผ้าของโจวเฟินและโจวเฉี่ยว “ชุดใหม่ที่พูดถึงนั้น มันอาจจะช่วยให้น้องๆ ได้เป็นสาวงามใหม่ประจำเมืองต่อจากพี่ด้วยก็เป็นได้”
คำพูดให้กำลังใจนั้นทำให้คุณหนูใหญ่ดูดีขึ้นไปอีกหลายระดับ จึงได้รับคำชมมากมายจากผู้ชมถ่ายทอดสดอีกครั้ง
ตรงข้ามกับโจวเฟินและโจวเฉี่ยว ที่ฉุกคิดได้ว่าคำพูดนั้นมีความหมายอีกอย่างคือเยาะเย้ยว่า...
ต่อให้แต่งเสริมอย่างไรก็ไม่อาจเทียบ อย่างมากสุดทำได้เพียงต่อท้ายเท่านั้น
__________
“เพราะวันนี้เป็นวันแรก แขกรับเชิญและลูกค้าจึงมีมากกว่าปกติเจ้าค่ะ”
ขณะโจวเฉี่ยวบรรยาย กล้องก็ถ่ายบรรยากาศของงานเปิดตัวชุดใหม่ที่ห่างออกไปไม่ไกล มีทั้งผู้มีอันจะกินและเหล่านักข่าวทางสื่อบันเทิงที่รายล้อมอยู่ ถึงแม้ไม่ยืนอยู่กันหนาแน่น แต่ก็มีจำนวนคนมากพอบังไม่ให้เห็นสิ่งที่ถูกจัดแสดง
เมื่อภาพถูกสลับกลับมาเป็นใบหน้าของโจวเฉี่ยว ผู้ชมก็ได้เห็นความเศร้าของเธอ
“งานจัดแสดงครั้งนี้เริ่มไปนานแล้วเจ้าค่ะ โจวเฉี่ยวคงไม่ได้สัมผัสชุดใหม่เป็นผู้แรกแล้วเจ้าค่ะ”
ไม่เป็นเรื่องแปลก เนื่องจากจวนที่เธออยู่และร้านแห่งนี้ห่างกันค่อนข้างมาก นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคต่างๆ ระหว่างทาง ดังนั้นต้องใช้เวลานานกว่าจะมาถึงจุดหมายปลายทาง ทุกคนเข้าใจตรงจุดนี้ หลายคนก็ปลอบใจ
“ขอบคุณเจ้าค่ะที่เข้าใจโจวเฉี่ยว” แววตาของเธอกลับมาเป็นประกายร่าเริงอย่างฉับพลัน “ถึงแม้โจวเฉี่ยวไม่ได้สัมผัสเป็นผู้แรก แต่โจวเฉี่ยวมั่นใจว่าวันนี้จะได้ลองชุดให้ทุกท่านได้ชมกันเจ้าค่ะ เราไปกันเถิดเจ้าค่ะ จะได้รู้กันว่าชุดใหม่ล่าสุดเป็นอย่างไร”
ระหว่างทาง ทั้งสามสาวก็ทักทายคนรู้จักเหมือนทุกครั้ง โดยเฉพาะนักข่าว ทั้งโจวเฟินและโจวเฉี่ยวให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
“พวกเราตื่นเต้นมากขอรับที่ได้เจอคุณหนูทั้งสาม...”
“จริงรึขอรับที่คุณหนูจะไปชมร้านเครื่องประดับที่จะเปิดใหม่...”
“คุณหนูมั่นใจได้เจ้าค่ะ นักข่าวอย่างเราจะไม่พลาดงานเดินแบบแน่นอนเจ้าค่ะ...”
แต่โจวเฟินและโจวเฉี่ยวพูดคุยกับนักข่าวไม่นานนัก เพียงพูดคุยเป็นเกริ่นให้ผู้ชมรับรู้ว่าคราวหน้าจะไปที่ไหนและทำอะไรบ้าง
แล้วที่สุดก็ได้เห็นชุดที่จัดแสดงอยู่
สำหรับชุดใหม่ครั้งนี้มีทั้งหมดสามตัว โดยชุดแรกถูกออกแบบคล้ายใบไม้ร่วงโรย ชุดต่อมาถูกออกแบบลวดลายคล้ายเปลือกต้นไม้แห้งๆ และชุดสุดท้ายเป็นเหมือนเอาสองชุดก่อนหน้านี้มาผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน
ไม่มีเพียงชุดที่จัดแสดงอย่างเดียว ยังมีฉากหลังเป็นภาพวาดทิวทัศน์ป่าเขายามเย็น เสริมให้ชุดทั้งสามตัวโดดเด่น
“มะ... มัน... มันสวยมากเจ้าค่ะ !”
โจวเฉี่ยวทำเสียงสั่นอย่างตื่นเต้นเพื่อให้ผู้ชมได้รู้สึกร่วมไปด้วย แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อถูกโจวเฟินแอบสะกิดให้มองพี่สาวคนโต
แววตาของแต๋วที่ตอนแรกไม่บอกความรู้สึกใดๆ แต่ตอนนี้เปล่งประกายเล็กน้อยเมื่อมองชุดที่จัดแสดง บ่งบอกให้รู้ว่าเริ่มสนใจชุดใหม่ขึ้นมา
อันที่จริง หากไม่เพราะถูกน้องๆ รบเร้า แต๋วก็จะเดินผ่านส่วนที่จัดแสดง เนื่องจากเธอนั้นไม่ได้สนใจดูชุดใหม่ตั้งแต่แรกแล้ว
ทั้งโจวเฉี่ยวและโจวเฟินเหลือบมองกัน ไม่ต้องมีคำพูด ก็รู้ว่าเกิดความคิดตรงกัน
“ท่านพี่โจวจื่อรั่วไปดูใกล้ๆ เถิดเจ้าค่ะ” โจวเฉี่ยวคว้าข้อมือข้างซ้าย
“ไปเถิดพี่ใหญ่ เราจะได้เห็นชัด” โจวเฟินคล้องแขนข้างขวา
ในสายตาของใครหลายคน ภาพของสามสาวที่เดินเกาะเกี่ยวกันนั้นบ่งบอกให้รู้ว่าพวกเธอมีความสนิทสนม ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเธอเป็นครอบครัวที่มีความอบอุ่นมาก
แน่นอนว่าเป็นเช่นนั้น อบอุ่นแทบเหมือนลุกเป็นไฟ !
เมื่อผู้จัดการร้านสังเกตเห็นคุณหนูตระกูลโจวทั้งสาม ก็รีบมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม “เรายินดีมากขอรับที่คุณหนูทั้งสามมาวันแสดงชุดใหม่ของร้านเรา” เขาผายมือไปทางชุดอันหรูหราทั้งสามตัว “สำหรับชุดใหม่ครั้งนี้ที่ร้านเราภูมิใจนำเสนอ เราได้ความคิดมาจากฤดูร้อนที่ใกล้จะมาถึงขอรับ” เมื่อเขาสังเกตเห็นคุณหนูเล็กถ่ายทอดสดอยู่ น้ำเสียงของเขาก็พลันกระตือรือร้นมากกว่าเดิม “ชุดทั้งสามแบบนี้เหมือนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคุณหนูทั้งสามมากขอรับ คุณหนูจะลองจับเนื้อผ้าก็ได้ขอรับ หรือหากคุณหนูต้องการลองสวมใส่ เราก็มีชุดสำหรับทดลองให้ขอรับ”
“ให้เราลองได้รึเจ้าคะ ?!” โจวเฉี่ยวยกมือป้องปากอย่างประหลาดใจ ทั้งที่ความจริงก็รู้อยู่แล้ว
“ขอรับคุณหนู หากคุณหนูต้องการลองชุดอื่นนอกเหนือจากนี้ก็ได้ขอรับ ร้านเรายินดีให้ตามความประสงค์ลูกค้าทุกท่าน” ผู้จัดการก็พูดตามประโยคเดิมๆ ที่เคยกล่าวมานับไม่ถ้วน
“โจวเฉี่ยวตื่นเต้นมากเจ้าค่ะ” แววตาของเธอเปล่งประกายระยิบระยับ
“ทุกท่านพร้อมหรือไม่เจ้าคะ ?” โจวเฟินมองกล้องแล้วเกริ่นให้ผู้ชมรับรู้ว่าพวกเธอจะไปลองชุดเร็วๆ นี้
แต่ใบหน้าของทั้งโจวเฟินและโจวเฉี่ยวแข็งค้างเมื่อมองตรงสำหรับแสดงความคิดเห็น
เวลานี้มีข้อความไปทิศทางเดียวกันว่าอยากเห็นคุณหนูใหญ่ลองชุดใหม่ล่าสุด ไม่มีใครระบุอยากเห็นโจวเฟินหรือโจวเฉี่ยวลองชุด
แน่นอนว่าต้องทำให้โจวเฟินและโจวเฉี่ยวเกิดความโกรธ
เพราะตั้งแต่คุณหนูใหญ่เข้ามาอยู่ในรายการ ความสนใจของผู้ชมก็เริ่มย้ายไปที่คุณหนูใหญ่ ทำให้ทั้งโจวเฟินและโจวเฉี่ยวเริ่มไม่ต่างกับตัวประกอบมากขึ้นเรื่อยๆ
“ดูนั่น คุณหนูใหญ่เดินไปจับชุดแล้ว”
“นางจะเลือกชุดใด ข้าอยากรู้ ข้าอยากรู้”
“ไม่ต้องสนใจว่านางจะเลือกชุดใด เพราะไม่ว่านางจะเลือกชุดใดก็งามทั้งหมด”
“คุณหนูใหญ่เกิดมาเพื่อเขย่ากระแสนิยมทั้งแผ่นดิน”
“ข้าอยากเห็นคุณหนูใหญ่ครั้งหน้าอีกครั้ง คุณหนูโจวเฉี่ยวโปรดเชิญคุณหนูใหญ่มาด้วยเถิด”
“ข้าร่วมขอร้องด้วยอีกหนึ่ง”
“ข้าด้วย”
“ข้าน้อยก็อยากเห็นคุณหนูใหญ่เช่นกัน คุณหนูโจวเฉี่ยวได้โปรดให้ความปรารถนาของพวกเราเป็นจริงเถิด”
ทั้งโจวเฟินและโจวเฉี่ยวอยากไปถ่ายอะไรอย่างอื่นแทน แต่ก็ไม่กล้าทำ เนื่องจากความสนใจของคนดูตอนนี้อยู่ที่คุณหนูใหญ่ แต่หากทำเช่นนั้นเมื่อใด จะไม่ต่างกับฉกเอาของเล่นไปจากเด็ก แน่นอนว่าจะต้องสร้างความไม่พอใจให้ผู้ชม
แต่ทั้งสองคนมองดูข้อความบาดใจที่ปรากฏมาต่อกันพรวดๆ ไม่นาน ก็นึกขึ้นได้ว่าลากพี่สาวคนโตมาทำอะไร
ดวงตาของพวกเธอชำเลืองมองกันอีกครั้ง ปากเริ่มเหมือนจะยิ้ม มือค่อยๆ ล้วงเอาขวดน้ำมันหอมออกมาอย่างลับๆ
แววตาของแต๋วไม่เปล่งประกายความตื่นเต้นแล้ว มีเพียงความเฉยเมยที่แสดงออกมา บ่งบอกว่าเธอนั้นต้องไม่ถูกใจชุดใหม่ ผู้จัดการร้านทำงานด้านนี้มานานจึงสังเกตได้
เมื่อเธอเลิกดูเสื้อผ้าและเก็บชุดที่เดิม ผู้จัดการก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มไม่เปลี่ยนแปลง โดยหลีกเลี่ยงบางคำที่เป็นความหมายไม่น่าสนใจมากพอ หากไม่เช่นนั้นจะเป็นว่าให้ด้อยค่าชุดทางร้าน
“หากคุณหนูต้องการชุดแบบอื่น ทางร้านเราก็มีอีกมากมายให้เลือกดูขอรับ หรือหากคุณหนูมีแบบในใจอยู่แล้วและต้องการสั่นให้เราทำขึ้นมา เราก็สามารถทำให้คุณหนูได้ขอรับ”
ขณะที่แต๋วขอเวลาคิดครู่ ทั้งโจวเฟินและโจวเฉี่ยวก็เดินเข้ามา แต่ไม่มาอย่างเดิม
โจวเฟินมีพัดขนาดใหญ่ เธอสั่งให้คนใช้เอาออกมาจากกระเป๋าเมื่อครู่นี้ แน่นอนว่าพัดนั้นต้องถูกตบแต่งสวยงามบ่งบอกฐานะ
และโจวเฉี่ยวถือไมโครโฟนขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ซึ่งมีคุณสมบัติดูดเสียงได้ดีกว่ารุ่นปกติหลายเท่า ไม่เว้นกระทั่งเสียงกะพริบตา และตอนนี้โจวเฉี่ยวไม่ถือคันฉ่องแล้ว สั่งให้คนใช้ถือให้แทน
โจวเฟินหันไปยิ้มอย่างมีเสน่ห์ให้นักข่าวที่มองอยู่ “หากพวกพี่ชายและพี่สาวจะทำข่าวเกี่ยวกับเรา ทำได้เจ้าค่ะ เราสามพี่น้องยินดีอยู่แล้วเจ้าค่ะ มาถ่ายใกล้ๆ ก็ได้เจ้าค่ะ จะได้ยินเสียงของเราชัดทุกถ้อยคำ แล้วอาจจะได้ยินชัดทุกลมหายใจเข้าและทุกลมหายใจออกด้วยเจ้าค่ะ”
เหล่านักข่าวยิ้ม บางคนก็หัวเราะเบาๆ เพราะมุกตลกปิดท้ายที่เน้นเป็นพิเศษนั้น แน่นอนว่าไม่มีใครคิดปฏิเสธ ถึงอย่างไรคุณหนูสามพี่น้องตระกูลโจวก็เป็นบุคคลมีชื่อเสียงระดับหนึ่ง ดังนั้นเรื่องของพวกเธอจึงเอาไปขายเป็นข่าวประจำท้องถิ่นได้ หรือจะเอาไปเป็นที่ดึงดูดความนิยม
ด้วยเหตุนั้น กล้องทุกตัวในมือของนักข่าวที่มีทั้งบันทึกและถ่ายทอดสดอยู่ก็มาจับภาพสาวทั้งสามคน โดยมีคุณหนูใหญ่โดดเด่นสุดเพราะอยู่ระหว่างน้องสาวทั้งสอง
“ท่านพี่โจวจื่อรั่วเจ้าคะ”
ขณะที่โจวเฉี่ยวเอ่ย คนใช้อีกคนก็ไปยืนตรงจุดที่ถูกสั่ง คลี่พัดขนาดใหญ่ที่ไม่เลิศหรูนัก เนื่องจากไม่ใช่ของที่ถูกใช้โดยคุณหนู แล้วคนใช้ก็เริ่มพัดให้ แน่นอนว่าลมไม่โดนคุณหนูเล็กเพียงคนเดียว ยังโดนคุณหนูใหญ่ที่อยู่ตรงกลางด้วยอีกคน
“ผู้รับชมรายการของโจวเฉี่ยวอยากรู้ว่าท่านพี่จะเลือกชุดแบบใด ท่านพี่ให้คำตอบได้หรือไม่เจ้าคะ ?”
แต๋วมองไมโครโฟนที่ถูกยื่นมาใกล้ แต่ไม่เอ่ย เหมือนสมองยังตามสถานการณ์ไม่ทัน
“นอกจากท่านผู้ชมที่อยากรู้ ข้ากับน้องโจวเฉี่ยวอยากรู้เช่นกัน พี่เปิดเผยให้เรารู้ได้หรือไม่ ?” ขณะโจวเฟินยิงคำถามต่ออย่างเร็ว มือที่มีพัดก็เคลื่อนไหวอย่างอ่อนช้อย ให้ลมเคลื่อนมาหา นอกจากนี้ มันยังเคลื่อนไปโดนคุณหนูใหญ่ด้วยอีกคน
“พี่โจวจื่อรั่วโปรดบอกให้เรารู้เถิดเจ้าค่ะ” โจวเฉี่ยวกะพริบตาออดอ้อนอย่างน่ารัก
“หรือว่าพี่อาย” โจวเฟินหัวเราะเบาๆ บ่งบอกว่าเธอเห็นเป็นเรื่องเล็กๆ “พี่ไม่ต้องอาย เราไม่ได้ทำอะไรไม่ดีไม่งามให้เสื่อมเสีย” เธอขยับใกล้จนแนบชิด มือก็เคลื่อนไหวเร็วขึ้นให้ลมพัดแรงกว่าเดิม
“ใช่เจ้าค่ะ เราไม่ต้องอาย” โจวเฉี่ยวขยับไปใกล้กว่าเดิมจนไหล่แนบติด
คิ้วของแต๋วค่อยๆ ขมวด หน้าตาเริ่มแสดงความผิดปกติ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 232
แสดงความคิดเห็น