63 ทากัตซูกิ มาโกโตะ มุ่งหน้าไปที่เมืองหลวง
63 ทากัตซูกิ มาโกโตะ มุ่งหน้าไปที่เมืองหลวง
เป้าหมายคือเมืองหลวงของโรเซส, โฮรัน
ในการเดินทางครั้งนี้ก็ด้วย, พวกเราเดินทางมาในเรือบินของฟูจิ-ยัง
มันเป็นเพราะฟูจิ-ยังมีแผนจะรับใบอนุญาตทำธุรกิจจากเจ้าหญิงโซเฟีย
แต่ผมคิดว่าการเดินทางจะสบายใจเหมือนครั้งที่แล้วนะ…
“ทุกคน, ชั้นจะเป็นเพือนใตการเดินทางครั้งนี้โปรดดูแลชั้นด้วย”
คนที่ยิ้มอย่างสง่างามคือลูกสาวของขุนนางศักดินาเลดี้คริสเตียน่า
ที่อยู่ข้างหลังเธอคือแม่บ้านส่วนตัวของเธอ?
แล้ว, มันยังมีนักรบสาวที่ดูเหมือนจะเป็นคนคุ้มกันของเธอ
(ฟูจิ-ยัง, ทำไมคริสเตียน่า-ซังอยู่นี่ล่ะ?) (มาโกโตะ)
(เธอบอกว่าเธอจะมาไม่ว่ายังไงและไม่ยอมฟัง-เดสุ โซ) (ฟูจิวาระ)
พวกเราคุยแบบกระซิบ
“คริสเตียน่า-ซามะ, ไม่มีงานต้องทำเหรอคะ?” (นีน่า)
นีน่า-ซังจัดการกับเธอพร้อมด้วยคิ้วที่ขมวด
“ใช่, ชั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกน้องชั้น ทักทายกับราชวงศ์มันเป็นหน้าที่ของขุนนางน่ะ” (คริส)
คริสเตียหน้าไม่ทำลายสีหน้าของเธอ
“ชั้นรู้สึกสงสารลูกน้องที่ถูกดันงานมาให้พวกเขา” (นีน่า)
“มันไม่มีปัญหา ว่าแต่, ห้องชั้นอยู่ไหนล่ะ?” (คริส)
“ใครจะรู้ล่ะ มันอาจจะไม่มีห้องที่ว่างอยู่” (นีน่า)
“โอ้ ชั้น งั้น, ชั้นไม่ถือถ้าจะนอนห้องเดียวกันกับฟูจิวาระ-ซามะ” (คริส)
““……””
ผมรู้สึกถึงอากาศที่เป็นลางไม่ดี
ผมเหลียวมองด้วนข้างของผม
ฟูจิ-ยังก็ได้มองมาที่ผม
(ขอโทษที่, ช่วยไม่ได้อ่ะ) (มาโกโต)
ผมกระซิบสู่เขาในหัวของผม
ผมรู้สึกสงสารต่อเพื่อนที่ดีของผมที่มีสีหน้าเศร้าใจอยู่ตอนนี้
◇◇
หลังจากอาหารเย็น, ข้างบนเรือบินตอนกลางคืน
ผมฝึกความเชี่ยวชาญน้ำต่อใต้แสงของดวงจันทร์
มันคนจะดีถ้าได้ดื่มกับฟูจิ-ยังภายใต้แสงจันทร์เหมือนครั้งที่แล้ว, แต่มันดูเหมือนว่าฟูจิ-ยังถูกจับโดยคริสเตียน่า-ซังและนีน่า-ซัง
หรืออาจะจะทั้งคู่
“ผู้ชายที่เป็นที่นิยมลำบากแฮ๊ะ” (มาโกโตะ)
ผมทำให้นกที่ผมสร้างกระพือปีกไปรอบๆระหว่างที่มีความสุขกับลมกลางคืน
หืม, ยิงใกล้เมืองหลวง, สปิริตยิ่งมีแรงน้อยลง
(มาโกโตะ, การควบคุมของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งในเมืองหลวง ดังนั้นสปิริตจึงอ่อนแอลงตามสัดส่วน) (โนอาห์)
มันเป็นอย่างนั้นเหรอ, โนอาห์-ซามะ…
ผมรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
แต่ผมไม่คิดว่ามอนสเตอร์จะปรากฏที่เมืองหลวงนะ
มันจะไม่เกิดขึ้น, ใช่มั้ย
“ทากัตซูกิ-คุง?”
ระหว่างที่ผมเหม่อดูดวงจันทร์และฝึก, ซา-ซังได้มา
“อาหารเย็นเมื่อกี้นี้มัน…ประหลาด, ไม่ใช่เหรอ…?” (อายะ)
“ออา, ใช่…” (มาโกโตะ)
คริสเตียน่า-ซังกดดันฟูจิ-ยังเอาคำตอบเกี่ยวกับการแต่งงานในกลางอาหารเย็น
นีน่า-ซังฉุนขาดด้วยเรื่องนั้น
บรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นแย่มากในทันที
พวกเขาไม่ซ่อนความเกลียดกันและกัน, และบนสนทนาที่มีหนามดำเนินต่อไป
“ฟูจิวาระ-ซังน่าจะบอกเธอไปตรงๆ ว่านีน่า-ซังคือแฟนของเค้า” (อายะ)
ซา-ซังดูเหมือนจะพวกกับนีน่า-ซัง
เธอได้เรียนรู้วิชาต่อสู้จากนีน่า-ซังมาหลังๆ, ดังนั้นมันไม่ต้องสงสัยเลยเรื่องนั้น
แต่…
“คริสเตียน่า-ซังดูเหมือนจะเลิกกับคู่หมั้นเก่าเพื่อฟูจิ-ยังนะ, รู้มั้ย” (มาโกโตะ)
“โฮฮ่ห์…ฟูจิวาระ-คุงนั้นเป็นที่นิยมจัง” (อายะ)
ซา-ซังพูดด้วยสีหน้าที่ไม่คาดถึง
ยังไงซะ, ทั้งหมดเพราะพวกเราไม่เป็นที่นิยมในตอนมัธยมปลายของเรา
“แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่อง มันไม่เหมือนว่าเธอต้องจัดเต็ม เพราะเธอเลิกกับคูหมั้นเก่าเธอซะหน่อย” (อายะ)
“ช-ใช่” (มาโกโตะ)
นั่นก็จริง, แต่…
ในกรณีฟูจิ-ยัง, เค้ามีสกิลโกงซึงก็คือสกิลผู้เล่นเกมจีบสาว
คริสเตียน่า-ซังได้ตกหลุมรักกับฟูจิยังที่เข้าใจความเป็นห่วงของเธอ และมอบคำแนะนำให้เธอนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ขุนนางที่มีปัญหาเกี่ยวกับการสืบทอดฟังดูเหมือนจะน่าเหนื่อยด้วยทั้งหมดนี่
ผมมองเห็นความน่ากลัวของสกิลผู้เล่นเกมจีบสาว
ผมดีใจที่สกิลของผมได้เรียบง่ายในเรื่องนี้
เพราะมันมีแค่เปลี่ยนมุมมองและมีตัวเลือกที่โผล่มา!
แต่ผมอยากให้มันแข็งแกร่งกว่านั้นนะ
ระหว่างที่ผมทำสีหน้าซับซ้อน, ซา-ซังดูเหมือนจะคิดอะไรออก
“เฮ้, ทากัตซูกิ-คุง, เป็นไปได้มั้ยว่าเถอะห่วงเรื่องที่ฟูจิวาระ-คุงเป็นที่นิยม, แม้ว่าอย่างนั้น, เธอยังไม่มีแฟนเลย?” (อายะ)
เอ๋? ผมมีหน้าแบบนั้นเหรอ?
“ไม่ ไม่ ไม่, ชั้นไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นเลยซักนิด” (มาโกโตะ)
จริงๆ ผมไม่ห่วง
ผมแข็งแกร่ง
“จริงเหรอ~?” (อายะ)
ซา-ซังโอบมือไปรอบแขนผมพร้อมด้วยรอยยิ้ม
นั่นมันเป็นนิสัยของพวกลาเมียเหรอ?
การพัวพันของเธอก้าวร้าวขึ้นมากกว่าตัวเธอสมัยก่อน
“เฮ้, นายทำอะไรเหรอ?”
ลูซี่นี่มีเสียงแข็งโผล่ขึ้นมา
พวกเรามีเสียงดังเหรอหือห์
“ทากัตซูกิ-คุงบอกว่าเค้าอยากมีแฟนน่ะ” (อายะ)
“เอ๋?!”, ลูซี่ตะโกนด้วยความตกใจ
“ซา-ซัง, ชั้นไม่ได้พูดอย่างนั้น” (มาโกโตะ)
“ห-หืมม, ชิ, มาโกโตะ งั้นมันเป็นแบบนั้นเหรอ” (ลูซี่)
ลูซี่เขยิบมาตรงข้ามกับซา-ซัง
อืม…เฮ้, พวกคุณได้ยินที่ผมพูดมั่งมั้ยเนี่ย?
“ซา-ซัง, ลูซี่, ชั้นอยู่ในระหว่างการฝึกเวทมนตร์ของชั้นน่ะ” (มาโกโตะ)
“เธอพูดแบบนั้นในสถานการณ์แบบนี้เหรอ?” (อายะ)
“เธอมีดอกไม้ใน 2 มือเลยนะ” (ลูซี่)
อุนหภูมิที่ต่ำของซา-ซัง, และอุนหภูมิที่สูงของลูซี่
ออา, ถ้าไม่ใช่เพราะโล่งจิต, ผมคงแตะพื้นยอมแพ้ไปนานแล้ว
มันเป็นกลางคืนที่เงียบงัน
ถูกแซนวิชโดยสาวน่ารักสองคน
ใช่, นี่มันสถานการณ์ที่โชคดีสำหรับผู้ชาย
ใช่
ผมมีเรื่องสำคัญต้องบอกสองคนนี้
มันจะดีกว่าถ้าบอกพวกเขาก่อนจะไปถึงเมืองหลวง
มันไม่ใช่ว่าผมพยายามจะเปลี่ยนเรื่องนะ
“ลูซี่, ซา-ซัง, ชั้นมีอะไรสำคัญจะบอกเธอ” (มาโกโตะ)
“อะไร?” (ลูซี่)
“มีอะไรเหรอ?” (อายะ)
“เกี่ยวกับเทพธิดา…” (มาโกโตะ)
ผมบอกลูซี่และซา-ซังเกี่ยวกับโนอาห์-ซามะ
ว่าผมจะสู้กับโลกในฐานะสาวกของเทพมาร
ทั้งสองคนฟังผมด้วยสีหน้าตึงเครียด
“ชั้นจะไม่บังคับให้เธอร่วมมือกับชั้น แต่มันมีความเป็นไปได้ว่ามันจะอันตรายถ้าเธออยู่กับชั้นต่อไป—” (มาโกโตะ)
“โง่จัง, มาโกโตะ” (ลูซี่)
ลูซี่ตัดคำพูดผมเหมือนมันโง่เง่า
“พวกเราคือปาร์ตี้, ไม่ใช่เหรอ?” (ลูซี่)
ลูซี่พูดด้วยมือที่อยู่บนเอวและหายใจออกผ่านจมูกของเธอ
“นั่นคือที่นายเป็นกังวลเหรอหลังๆ, หือห์ เธอควรจะบอกชั้นได้แล้ว” (ลูซี่)
“ลูซี่…” (มาโกโตะ)
ผมสงสัยว่าทำไม, แต่ความรู้สึกที่ต่างออกไปได้เอ่อขึ้นมา เมื่อเทียบกับเวลาที่ฟูจิยัง-บอกผมว่าเขาจะช่วยผม
“มันไม่จำเป็นต้องยืนยันกับเราไปซะทุกครั้งนะ พวกเราเป็นฝ่ายเดียวกับนาย, ทากัตซูกิ-คุง” (อายะ)
ซา-ซัง, คนที่เตี้ยกว่าผม, แปะหัวผม
“ซา-ซัง…” (มาโกโตะ)
ในบางเวลา, เธอจะทำเหมือนผมอายุน้อยกว่าเธอ, หรือเหมือนกับ, น้องของเธอมากกว่า
ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
มันไม่ได้รู้สึกแย่
“ขอบคุณ…มันยกภูเขาออกจากอกเลย” (มาโกโตะ)
ในแบบนี้, ตอนนี้มันมี พวกพ้องสาวกเทพมาร 3 คน
(โอ้ ชั้น, เธอเป็นเพลย์บอยคนนึงเลยนะ, มาโกโตะ) (โนอาห์)
โปรดอย่าแหย่ผมสิ, โนอาห์-ซามะ
“ว่าแต่, พวกเราเป็นคนแรกที่เธอบอกเกี่ยวกับการเป็นศัตรูกับโลกนี้, ใช่มั้ย?” (ลูซี่)
“ไม่, ชั้นบอกฟูจิ-ยังไปแล้ว” (มาโกโตะ)
““เอ๋?””
มันจำเป็นต้องตกใจแบบสเตอริโอด้วยเหรอ?
“ไม่ใช่เรื่องแบบนี้ควรจะบอกสมาชิกปาร์ตี้ก่อนเหรอ?” (ลูซี่)
“ทำไมมันเป็นแบบนั้น, ชั้นที่รู้จักกับนายตั้งแต่โรงเรียนมัธยมต้น, ถูกบอกทีหลัง?” (อายะ)
ทั้งสองคนได้ไม่พอใจ
ไม่, รู้มั้ย, ฟูจิ-ยังมีสกิลอ่านใจ, ดังนั้นผมต้องบอกเขาก่อน
ความจริงที่ว่าผมบอกพวกเขาไม่ได้มันรบกวนจิตใจ
“เอมิลี่บอกชั้นว่ามาโกโตะอาจจะชอบผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ทั้งหมดเพราะเธอไม่สนใจการแต่งตัวของชั้นเลยด้วย” (ลูซี่)
เฮ้ย, นั่นมันใส่ร้ายกัน
ผมจะฝ้องคุณ
“...พอมาพูดแบบนี้แล้ว, ในโรงเรียนมัธยมปลาย, เค้าจะคุยกับแค่ฟูจิวาระ-คุงคนเดียวตลอดตอนพักเที่ยง” (อายะ)
พวกเราพูดเกี่ยวกับเรื่องเกมใหม่ที่จะออก!
ผมกะไว้ว่าจะให้นี่เป็นการคุยที่ตึงเครียด, แต่สองคนนี้เหมือนเดิมตลอดเลย
ครั้งหน้าเมื่อผมมีการสนทนาที่สำคัญ, ผมควรจะบอกสองคนนี้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน
นั่นคือที่ผมรู้สึกหลังจากนี้
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอท https://discord.gg/dru8M3ZY
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 154
แสดงความคิดเห็น