บทที่ 6...2/3

เพราะคุณคือรักแรก
คุณกำลังอ่าน: เพราะคุณคือรักแรก

-A A +A

บทที่ 6...2/3

          มีนาเห็นความมั่นหน้าของเบญญาก็ชักจะไม่ไหว ผู้หญิงคนนี้จะหลอกเพื่อนของเธอไปจนถึงเมื่อไหร่ “เพื่อนแบบไหนไม่ทราบ ถ้าเบญรักคินก็หยุดทุกอย่างที่เคยทำ คินดีกับเบญมาตลอดไม่ใช่หรือ อย่าทำแบบนี้กับคินเลย” 

          “อ้อ แบบนี้เองสินะ ถ้าเราสองคนเลิกกัน เธอจะได้เลิกทำตัวเป็นเพื่อนสนิท แล้วเข้ามาดามใจเป็นแฟนของคินล่ะสิ ฉันนึกไว้อยู่แล้วว่าเธอไม่ได้หวังดีกับคินจริงๆ หรอก” เบญญาก็ใช่ว่าจะชอบหน้ามีนา ตลอดเวลาที่คบกับภาคิน เธอได้ยินชื่อของมีนาตลอด ถ้าภาคินดีขนาดนี้มีหรือที่มีนาจะปล่อยให้หลุดมือ

          “อย่ามาว่าร้ายมีนน่ะเบญ ตลอดเวลาที่ผ่านมามีนไม่เคยว่าร้ายเบญเลยสักครั้ง” ภาคินรักเบญญาก็จริง แต่เขารักเพื่อนเช่นกัน

          เขมินท์ตบบ่าน้องชายที่กำลังลำบากใจ นั่นก็แฟน นี่ก็เพื่อน

          “แล้วมีอะไรมายืนยันให้คินแน่ใจได้บ้างครับว่าผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนของน้องจริงๆ ถ้ามีก็เอามายืนยัน คินจะได้คิดให้ถี่ถ้วนว่าควรทำอย่างไรต่อไป แค่คำพูดมันช่วยให้ความแคลงใจหายไปไม่ได้หรอกนะ”

          มีนาพยักหน้าเห็นด้วยกับเขมินท์ทุกคำ ถ้าเบญญาไม่มีอะไรยืนยัน เธอจะเคารพการตัดสินใจของภาคิน แต่ถ้ายังแถไม่เลิก เธอคงไม่อยู่เฉยอีกแล้ว

          “ถ้างั้นก็ต้องยืนยันเหมือนกันว่าคินกับมีนเป็นเพื่อนกันจริงๆ ไม่ใช่เป็นอย่างอื่นด้วย ทำไมเบญต้องเป็นฝ่ายที่ยืนยันอยู่ฝ่ายเดียวด้วยล่ะคะ”

          ภาคินถอนใจเพราะการเคลียร์ใจมันกำลังจะดึงเอามีนาเข้ามาเกี่ยว ทั้งที่ระหว่างเราสองคนไม่เคยมีสิ่งอื่นใดนอกจากความเป็นเพื่อนสนิทอันบริสุทธิ์ใจ เบญญายิ้มหยันใส่มีนา เมื่อไม่มีใครตอบในเรื่องที่ขอได้เหมือนกัน

          “เห็นไหมคะ ถ้าคินสงสัยเบญได้ เบญก็มีสิทธิ์สงสัยคินได้เหมือนกัน”

          “อย่างน้อยตลอดเวลาที่ฉันเป็นเพื่อนกับคินก็ไม่เคยทำแบบนี้ ไม่เคยคิดจะทำ ไม่มีวันทำ”

มีนาเปิดคลิปยื่นใส่ให้เบญญากับพิธยาได้เห็นๆ ไปจะได้จบการแถเสียที เธอไม่อยากทนกับความกระอักกระอ่วนใจแบบนี้แล้ว เขมินท์มองดูดวงหน้าดื้อๆ ของมีนาที่พร้อมปกป้องเพื่อน ถ้าเบญญาเคยเห็นมีนาต่อยเพื่อนชายที่มาล้อภาคินว่าเรียนไม่เก่งเท่าพี่ชายคงไม่กล้าลอยหน้าลอยตาท้าทายแบบนี้

          เบญญายกมือขึ้นมาปิดปากที่จะร้องกรี๊ด เมื่อไม่คิดว่าตอนที่เธอกับพิธยากำลังนัวเนียคลุกวนในจะมีใครอยู่บริเวณนั้น พิธยาเลิกคิ้วไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดอยู่แล้ว

          “เกินไปแล้วนะ!”

          ฉาด!?!

          โดยที่ไม่มีใครทันคิดเบญญายกมือขึ้นมาฟาดแก้มของมีนาเข้าไปเต็มๆ แถมยังเงื้อมือขึ้นกำลังจะฟาดใส่มีนาซ้ำ แต่เขมินท์คว้าข้อมือเบญญาไว้ทันแล้วผลักออก มีนาเอียงตัวหลบไม่อยากตอบโต้ไม่งั้นเบญญาได้เข้าโรงพยาบาลแน่ ภาคินยืนขวางพร้อมกับแย่งโทรศัพท์ของมีนามาดูในวินาทีนั้น

          “คินอย่าดูเลย” มีนาร้องห้าม

          ดวงตาของภาคินแห้งผากยามมองเบญญาที่ทรุดนั่งลงกับพื้น ส่วนพิธยาไม่อยากอยู่ตรงนี้จึงทำทีโบกมือลา แล้วออกไปจากห้องทันที ภาคินอยากจะไปต่อยไอ้ผู้ชายคนนั้นให้เลือดกบปาก อยากกระทืบให้สาแก่ใจ แต่ทำแล้วจะมีประโยชน์อะไร หากคนที่นอกใจกำลังจะกลายเป็นอดีตผู้หญิงที่เขารัก

          “เบญขอโทษนะคิน เบญไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้นะ” เบญญาคว้ามือของภาคินมากอดไว้ “เบญสัญญานะว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”

          มีนามองเพื่อนด้วยความสงสาร ที่เธอไม่เอาคลิปให้ภาคินดูตั้งแต่แรกก็เพราะคิดว่าหากมีการให้อภัย แล้วเริ่มต้นใหม่ มันจะได้ไม่ยากจนเกินไป แต่ภาคินเห็นคลิปนั้นแล้ว มันคงยากไปหมดทุกอย่างแล้วในตอนนี้

          “เราเลิกกัน” ภาคินเอ่ยพลางส่งโทรศัพท์คืนให้มีนา แล้วเดินออกไปจากห้อง

          เบญญาวิ่งตามไปกอดภาคินไว้ ตอนที่คบสนุกๆ กับพิธยา เธอไม่เคยคิดว่ามันจะมาถึงจุดนี้เลยสักครั้ง แต่ภาคินบอกเลิกเธอได้ยังไง เขาไม่อาลัยอาวรณ์เธอเลยหรือ

          “เบญขอโทษ เราอย่าเลิกกันเลยนะคิน เบญไม่ดีเอง แต่เบญจะปรับปรุงตัวเอง ให้โอกาสเบญได้ไหมคิน”

          แขนกลมกลึงที่กอดเอวของภาคินไว้แน่นถูกเขาดึงออก แล้วสลัดให้ห่างตัว ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากของเขา มีเพียงการเดินออกไปจากห้องและออกจากชีวิตผู้หญิงที่ทรยศหักหลัง

มีนาวิ่งตามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง โดยมีเขมินท์เคียงกันไป ทว่ายังไม่ทันถึงลิฟต์ด้วยซ้ำเสียงกรีดร้องด้วยความเสียใจของเบญญาก็ดังลั่นและมากพอให้เจ้าของห้องคนอื่นๆ เปิดประตูออกมาดู

          มีนากระโจนเข้าไปในลิฟต์แล้วกดปุ่มค้างให้เขมินท์ตามเข้ามาทัน ไม่รู้ล่ะตอนนี้เธอต้องประกบติดเพื่อนและมีกำลังหนุน หากต้องลากภาคินกลับบ้าน เธอคนเดียวคงทำไม่ได้แน่ๆ แต่ถ้ามีเขมินท์ก็คงผ่อนแรงไปได้มาก ทว่าพอบานลิฟต์ปิด น้ำตาของภาคินก็ไหลออกมา มีนาน้ำตาคลอยื่นมือไปจับแขนเพื่อนไว้ เขมินท์จับบ่าน้องชายบีบเบาๆ จนกระทั่งออกมาจากลิฟต์ด้วยกัน

         

          จากสภาพจิตใจที่กำลังบอบช้ำของภาคิน มีนาจึงขอร้องให้เขานั่งรถกลับไปกับเขมินท์ ส่วนเธอจะขับรถของเขาตามกลับไปที่บ้าน ภาคินเข้าไปนั่งในรถของพี่ชายโดยไม่แย้งอะไร ตอนนี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตรงไหนบนโลกที่จะทำให้มีความสุข เขาไม่รู้จะทำยังไง แค่ปล่อยตัวเองให้ผ่านไปกับเวลาเท่านั้น เขมินท์เดินมาหามีนาแล้วรอจนเธอสตาร์ทรถเรียบร้อย จึงค่อยเดินมาที่รถของตัวเอง ก่อนจะขับรถนำไป

          “พี่เขมอย่าเพิ่งบอกแม่นะว่าผมไปทำอะไรมา” ภาคินเอ่ย ในความเสียใจมากมาย เขายังเห็นใบหน้าของแม่ที่คงเศร้าใจ หากรู้ว่าเขาล้มเหลวในความรักอีกแล้ว

          “แล้วคินปกปิดความเศร้าได้ไหม คุณภวิกาจะมองคินไม่ออกเชียวหรือ”

          คำตอบนั้นง่ายมาก ภาคินรู้ว่าแม่ต้องมองออกว่าเขามีเรื่อง แต่เขาไม่พร้อมจะให้ใครมาทุกข์ใจไปด้วยอีกแล้ว

          “เอาไว้ผมทำใจได้แล้วถึงจะบอกแม่แล้วกัน”

          เขมินท์รับฟังแล้วตั้งใจขับรถ ภาคินไม่ใช่น้องชายที่รอให้พี่ชายมากอดปลอบมาแต่ไหนแต่ไร การนั่งอยู่ข้างๆ อย่างนี้และปกป้องไม่ให้เขาแตกสลายก็เพียงพอแล้ว

          ความเงียบไม่ใช่การทอดทิ้งเสมอไป แต่มันคือการให้เวลาสำหรับการเยียวยา เพียงหันมาภาคินจะพบว่ามีพี่ชายที่เขาคิดเสมอว่าเป็นเหมือนคู่แข่งมาตลอด ในขณะที่เขมินท์คงไม่คิดว่าน้องชายเป็นคู่แข่งสักครั้ง อาจเพราะเขานำหน้าน้องชายคนนี้เสมอ ทว่าในเวลานี้ภาคินกลับมีเขมินท์เป็นเกราะบางๆ ให้เขารู้สึกว่าปลอดภัย ช่างน่าแปลกจนเขารีบปัดความคิดนี้ออกไป

          เขมินท์มองกระจกข้างเพื่อให้แน่ใจว่ามีนาขับรถตามมา เธอขับรถไม่ค่อยบ่อยนัก ทำให้เขาเป็นห่วงจนจงใจขับรถให้ช้าลง ทำให้ใช้เวลาพอสมควรกว่ารถสองคันจะขับเข้ามาจอดในบ้านหลังใหญ่ที่สุดในละแวกนี้ ภาคินลงมาจากรถแล้วไปเดินไปหามีนา เมื่อนึกได้ว่าเพื่อนโดนอดีตแฟนของเขาตบมา

          “ขอโทษนะมีน เจ็บมากหรือเปล่า”

          มีนาลูบแก้มตัวเอง “เจ็บสิ ฟาดเปรี้ยงมาขนาดนั้น แต่ช่างมัน เดี๋ยวก็หาย คินเข้าบ้านไปอาบน้ำแล้วนอนเถอะ”

          ภาคินยังยิ้มไม่ออกได้แต่พยักหน้าก่อนจะกอดมีนาหลวมๆ แทนการขอบคุณ ก่อนเดินเข้าบ้านไป แต่เขมินท์ยังไม่ได้ไปไหน พอมองหน้ามีนาชัดๆ เขาถึงได้เห็นว่ารอยแดงจากฝ่ามือที่ฟาดลงมาบนแก้มของเธอยิ่งชัดขึ้น 

          “มีนรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง”

          “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่เขม” มีนาไม่ทันคิดอะไร “ใกล้ๆ แค่นี้เอง มีนเดินกลับบ้านเองได้”

          “พี่รู้ว่ามีนเดินกลับเองได้ แต่พี่อยากเดินไปส่ง มันดึกแล้ว” เขมินท์พูดเสียงหนักราวกับอยากย้ำให้มีนาเข้าใจเหตุผลที่เขาต้องเดินไปส่ง “อย่าเพิ่งไปไหนนะ”

          มีนามองแผ่นหลังกว้างของเขมินท์ที่เดินเข้าบ้านไปแล้วยิ้มงงๆ เพราะเธอเดินไปมาระหว่างบ้านตัวเองกับบ้านของเขมินท์มาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ ไม่เห็นจะมีอันตรายอะไร หมู่บ้านนี้มี รปภ. อีกทั้งไม่เคยมีเหตุการณ์อันตรายมาก่อน แล้ววันนี้เขมินท์จะเดินไปส่งเธอที่บ้าน พอคิดๆ ดู เขาคงอยากแสดงน้ำใจเพราะเธอเพิ่งถูกตบมากระมัง

 

พี่เขมให้มีนรอทำไมน้า?  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.