ตอนที่ 5 .. “ เป็นไปไม่ได้ ”
ไม่เป็นอะไร - Mote ปราโมทย์ วิเลปะนะ
นิยาย แนว สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action
ตอนที่ 5 .. “ เป็นไปไม่ได้ ”
“นาย เพี้ยนไปหรือเปล่า พี่เนตรกับน้องโบว์เขาตายไปนานแล้ว มันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่คนตายแล้วจะฟื้นคืนชีพออกมาจากเตาไฟ ถูกเผาไหม้จนเหลือแต่เถ้ากระดูก จนเอาไปโปรยทะเล โธ่เอ๊ย ปลุกผมมาแค่เรื่องนี้เนี่ยนะ”
พูดจบ ภณก็ล้มตัวลงนอน แต่เผด็จไม่ให้นอน กลับดึงแขนไว้ ให้ภณมาฟังเขาต่อ
“นาย ผมขอร้องหละ มีอะไร เอาไว้คุยต่อในตอนเช้าจะได้ไหม อีกไม่กี่ชั่วโมงเอง นะผมขอร้องหละ ผมง่วง”
ภณเอนตัวลงนอนอีกครั้ง “ฉันเจอเนตรเมื่อคืนวันก่อน ตอนที่เราไปดักถล่มพวกนั้น” จู่ๆเผด็จก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ภณเด้งตัวขึ้นมาเองเลยคราวนี้
“อะไรนะนาย” ภณตาสว่างเลย
“นายบอกว่าเจอพี่เนตรเหรอ ตลกแล้ว นายกับผมเผาพี่เนตรกับมือนะเมื่อ 3 ปีที่แล้ว”
“จริงๆไอ้ภณ เมียฉันยังไม่ตาย” เผด็จหันหน้ามาหาภณที่อยู่ทางซ้ายมือเขาและจ้องหน้า
“แกต้องช่วยฉันตามหาเนตร” เผด็จพูดแกมบังคับ
“เป็นไปไม่ได้นาย นายเมาหรือเปล่า คิดถึงพี่เนตรมากไปแล้ว นอนๆ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
“ไอ้ภณ แก ฉันไม่ได้เมา ฉันไม่ได้แตะเหล้ามาเป็นเดือนๆแล้วนะโว๊ย ไอ้ภณ เอ๊ย ตื่น ลุกๆ”
คราวนี้ภณไม่ลุกแล้ว ดึงผ้าห่มปิดหัวปิดตัวหมุนตัวเอียงหนีเผด็จทันที เผด็จล้มตัวลงนอนเอามือซ้ายหนุนหัวแล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยคนเดียวตามลำพังกับเรื่องของเนตรในคืนนั้น ทั้งดวงตา รอยยิ้มและเสียงพูด ทำไมถึงได้เหมือนกันขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะมีวิทยาการใดที่ทำได้ถึงขนาดนี้
ถึงแม้ว่าเขาจะเคยทำก็เถอะตอนที่แปลงโฉม แต่นี่มันเหมือนมากเกินไป เหงื่อสักหยดก็ไม่มี รอยต่อของหน้ากากก็ไม่มี ถ้าใส่หน้ากากหนังคน เขาต้องรู้ ยังไงเขาก็ยังจำกลิ่นกายของเมียตัวเองได้ไม่มีลืม และปักใจเชื่อไงว่า เนตรยังไม่ตาย เพราะทุกอย่างมันช่างเหมาะเจาะซะเหลือเกิน คิดไปคิดมาจนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้
***** ----- *****
1 สัปดาห์ผ่านไป ทุกอย่างเหมือนจะสงบเงียบ ทางหงส์ฟ้าไม่มีการเคลื่อนไหว ทางดลก็พยายามสืบหาต้นตอที่มา ก็ยังหาอะไรไม่ได้ เนเน่ก็เช่นกัน พยายามสืบเสาะจากแหล่งที่คิดว่าจะหาตัวของหงส์ฟ้าเจอ แต่ก็ไม่เจอ เนื่องจากเครื่องติดตาม อยู่ดีๆสัญญานก็หายไปซะดื้อๆ แต่กลับมีเรื่องอื่นโผล่มาแทน ไม่ใช่เรื่องใด นั่นก็คือข่าวของธนบัตรปลอมนั่นเอง ที่เริ่มแพร่กระจายเร็วมากเลยทีเดียว
“จะเอายังไงต่อดีวะเนี่ย ทุกอย่างมันขาดหายไปหมดเลย อยู่ดีๆเครื่องติดตามสัญญานก็ไม่มี” เนเน่หัวเสียมาก
“แสดงว่ามันต้องรู้ตัวแล้วแน่เลย ว่าเราติดเครื่องติดตามเอาไว้ บ้าที่สุด” ยิ่งทำให้เนเน่หงุดหงิดหนักเพิ่มขึ้นอีก
“แล้วเรื่องแบ็งค์ปลอมอีก ไม่ได้ เราต้องกลับไปที่นั่น ต้องทำลายแท่นพิมพ์นั้นให้ได้ ใช่ ต้องทำลาย”
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เนเน่จึงรีบขับมอเตอร์ไซด์ กลับไปที่โกดังนั้นทันที แต่เมื่อไปถึง เธอก็ต้องผิดหวัง เพราะทุกอย่างได้หายไปแล้ว
“เป็นไปไม่ได้ มันหายไปหมดแล้วได้ยังไง มันหายไปเร็วอย่างนี้ได้ยังไง”
เนเน่โมโหตัวเองมากที่คิดช้าไปก้าวนึง ทำให้หลักฐานหายไปจนได้
“โธ่เว๊ย จบกัน อึ๊ย”
\\\\\ ----- /////
ธนบัตรปลอมของมาดามนั้น ถึงจะมีเพียงน้อยนิดในครั้งแรก แต่ก็ได้เริ่มแพร่กระจายออกสู่สังคมไทยในเวลาอันรวดเร็วมาก และลุกลามไปทั่วประเทศทั่วทุกภาคในเวลาต่อมา เพราะมาดามเริ่มแอบผลิตออกมาเรื่อยๆ โดยย้ายฐานการผลิตไปที่อื่นเรื่อยๆ จึงทำให้เนเน่แค้นใจมาก ที่ย้อนกลับไปที่เดิมแล้วไม่เจอ เมื่อเส้นทางการติดตามได้ขาดหายไป จึงต้องทำให้เนเน่ต้องเริ่มติดตามและสืบหาอีกครั้งใหม่ในเวลาต่อมา
>>>>> ----- <<<<<
ผู้กำกับจักรพันธ์เรียกอัธวิทย์เข้ามาเพื่อที่ต้องการจะรู้ว่าคดีของธนบัตรปลอมไปถึงไหนแล้ว โดยสร้างความกดดันให้กับวิทย์มาก
“สารวัตร ทำไมถึงไม่มีความคืบหน้าเลย” จักรพันธ์จ้องแต่จะหาเรื่องอย่างเดียว
“ไม่ว่าจะคดีอะไร 2-3 คดีที่คุณทำอยู่ ผมเลือกคนผิดหรือเปล่าเนี่ย ไหนบอกว่ามีฝีมือไง ราคาคุยมากกว่ามั้ง เสียแรงที่ผมสนับสนุนคุณ นี่นะเหรอคนที่มีฝีมือดีที่สุดของกองปราบ หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย”
“ท่านครับ ท่านต้องเข้าใจ ว่าคดีทั้ง 2 คดีนี้มันยากมาก ถึงเราจะรู้ว่ามันเป็นแบ็งค์ปลอม แต่เราไม่รู้ว่าที่มามันมาจากไหน แหล่งต้นตออยู่ที่ใด ต้องให้เวลาผมกับทีมงานบ้างซิครับ” วิทย์พยายามอธิบาย
“ตอนนี้เราทำได้เพียงอย่างเดียวคือต้องหาทางป้องกันและตรวจสอบไปก่อน”
“ไม่รู้หละ ผมให้เวลาคุณอีก 1 เดือน นับจากนี้ไป ต้องรู้ให้ได้ ว่าแหล่งผลิตอยู่ที่ไหน และใครเป็นคนทำ เบื้องบนสั่งการลงมาแล้ว เพราะถ้ายิ่งช้าเท่าใด เศรษฐกิจของประเทศ ก็จะยิ่งพังและล่มจมมากขึ้นเท่านั้น”
ผู้กำกับจักรพันธ์ กดดันวิทย์มาก “แล้วทำไมถึงไม่ให้หน่วยงานอื่นช่วยด้วยหละครับท่าน” วิทย์เถียงกลับ
“หวังพึ่งผมคนเดียว ผมกลัวว่าจะไม่ทันนะครับ แค่งานตามล่าหงส์ฟ้าผมก็แทบไม่มีเวลาที่จะได้อยู่กับครอบครัวแล้วนะท่าน เห็นใจกันบ้าง”
วิทย์เริ่มมีอารมณ์เช่นกัน เพราะคนเหนื่อยคือเขา แต่คนที่นั่งสบายๆคือจักรพันธ์
“ไม่รู้หละในเมื่อคุณเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาก็ต้องทำตาม เบื้องบนสั่งมา ผมก็ถ่ายทอดคำสั่งต่อให้อีกทอดก็เท่านั้น ถ้าไม่พอใจก็ลาออกไป ผมจะได้หาคนอื่นมาทำแทน ว่าไง”
ผู้กำกับจักรพันธ์ เล่นมาไม้นี้ เพราะรู้ว่ายังไงวิทย์ก็ต้องทำ เพื่อไม่ให้เสียชื่อพ่อและลุงของตัวเอง ที่ได้สร้างชื่อและสะสมผลงานให้กับวงศ์ตระกูล เมื่อตกมาถึงในรุ่นของเขา มันจะมาเสียชื่อในมือเขาไม่ได้อย่างแน่นอน
“ได้ ตกลงครับ 1 เดือนก็ 1 เดือน ผมจะพยายามหาต้นตอของแหล่งที่มาของแบ็งค์ปลอมให้ได้”
“ดี ไปได้แล้ว ต้องการคนเพิ่มเท่าไหร่ บอกผมมา ผมจะจัดให้” จักรพันธ์ทำมาเป็นคนใจกว้างใจดี
“ขออย่างเดียว ต้องรู้แหล่งต้นตอที่มาให้ได้ ผมเชื่อใจคุณ สารวัตร”
ไม่มีคำตอบจากวิทย์ เขาหันหลังเดินกลับออกไปทันทีด้วยสีหน้าที่ตรึงเครียด เผด็จและภณเมื่อได้ยินเช่นนั้นจากเครื่องสอดแนมที่ได้แอบไปติดเอาไว้ ก็รู้สึกเป็นห่วงวิทย์มาก เพราะงานทั้งสองงานนี้มันหินจริงๆ
“นาย จะเอายังไงดีครับ ผมว่างานนี้สารวัตรแย่แน่ แบะแสอะไรเขาก็ยังไม่มีเลยสักอย่าง ผมกลัวว่า..”
ก่อนที่ภณจะพูดจบเผด็จยกมือขึ้นห้ามทันที “ฉันรู้ภณ ว่าแกจะพูดอะไร ยังไงวิทย์มันก็หลานฉัน ฉันไม่ยอมให้มันมาเสียอนาคตเพราะเรื่องแบบนี้หรอก ไอ้จักรพันธ์คนนี้ฉันรู้นิสัยมันดี มันเคยเป็นลูกน้องเก่าฉันมาก่อน วันๆไม่ทำห่าอะไรเลย ไม่รู้ว่ามันขึ้นมานั่งตำแหน่งนี้ได้ยังไง มันคงมีเส้นสายและ Back ดี ไม่งั้นคงไม่กล้ามานั่งชูคอได้ง่ายๆแบบนี้หรอก เมื่อก่อนมันก็เคยรับส่วยจากแทนไท แต่หลักฐานไม่พอ ก็เลยหลุดไป เจ็บใจจริงๆ”
เผด็จลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างและมองออกไปยังท้องฟ้า
“ภณ” เผด็จเป็นห่วงหลายชายตัวเองอย่างมาก กลัวจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้
“ครับนาย” ภณลุกขึ้นจากโซฟา
“ฉันมีงานให้แกทำ” ภณเดินไปหาเผด็จอย่างไว
“แกรีบไปหาข่าวและแหล่งที่มาของแบ็งค์ปลอมโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องหงส์ฟ้าฉันจะจัดการเองไปก่อนที่อะไรๆมันจะสายไป” ภณไม่พูดอะไรมาก
“ครับ” เพราะรู้ใจว่าเผด็จต้องการอะไร รีบออกไปหาข่าวทันที
“รอหน่อยนะวิทย์ ลุงจะช่วยแกเอง อย่าพึ่งเป็นอะไรไปก่อนหละไอ้หลานรัก”
พูดจบ เผด็จก็รีบออกไปตามหาข่าว และร่องรอยของหงส์ฟ้าปลอมทันที เพื่อจะได้ทำให้ความสงสัยของเขาที่มีอยู่ จางหายไปเสียที
“ทำไมนะเนตร ทำไมเธอถึงจำพี่ไม่ได้ พี่ต้องรู้ให้ได้ว่าเธอกับโบว์และลูก ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน”
เผด็จรีบไปที่มอเตอร์ไซด์คู่ใจของเขาเพื่อทำภารกิจต่อโดยไม่รอช้า และใช้เครื่องมือใหม่ที่พึ่งทำเสร็จ
“ได้ใช้ซะทีนะ นึกว่าจะไม่ได้ใช้เสียแล้ว” เผด็จหยิบเครื่องติดต่อและสะกดรอยจิ๋วขึ้นมา หลังจากที่ดัดแปลงนิดหน่อยจนใช้ได้ เมื่อเผด็จเปิดสัญญานจากเครื่องของเขา สัญญานก็ไปดังที่เนเน่ทันที เพราะมันเป็นเครื่องที่ใช้สัญญานเดียวกัน หลังจากที่เนเน่ได้ทำการซ่อมเสร็จจนเป็นที่เรียบร้อย
“พ่อ” ขณะที่เนเน่กำลังนั่งพักหลักจากที่สอนวิชาการป้องกันตัวให้กับเด็กนักเรียนจบในช่วงเที่ยง
เนเน่เปิดเป้ตัวเองขึ้นมา หยิบเครื่องรับส่งสัญญาน มาดูทันทีว่าสัญญานอยู่ที่ไหน หลังจากที่ต่อสัญญานเข้ากับมือถือของเธอ ทำให้เนเน่ตกใจมาก
“นี่มันคอนโดแม่นี่” เนเน่ดีใจมากที่รู้ว่าสัญญานอยู่ที่ใด
“พ่อ ต้องเป็นพ่อแน่ๆ เพราะเครื่องนี้มีพ่อใช้คนเดียวเท่านั้น” เนเน่ไม่รอช้ารีบออกไปทันที
“พี่ทิมหนูขอตัวแป๊บนะพี่ พอดีมีงานด่วน” เนเน่มองไปที่ปฏิทิน
“จันทร์ที่ 20 พ.ค.” เนเน่บ่นพึมพรำแล้วก็ออกไปเลย ทับทิมเรียกไว้ไม่ทันแล้ว
“เดี๋ยวไอ้เน่ อะไรของมันวะ” ทับทิมเกาหัวแกร็กๆ ปูนเดินอุ้มลูกคนที่ 2 ลงมาจากชั้น 3 เลยถามเพื่อน
“เป็นอะไรแก ทำไมถึงยืนทำหน้าแบบนั้น” ทับทิมไม่รู้จะบอกเพื่อนยังไง
“ก็ไอ้เน่หนะซิ ไม่พูดไม่จา อยู่ดีๆมันก็ออกไปแบบพายุเลย” ทับทิมหัวเสียเลย
“ตะโกนบอกว่ามีงานด่วนเท่านั้นแหละ แล้วช่วงบ่ายใครจะสอนหละ” ปูนเข้าใจสถานะการณ์
“เออๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันสอนแทนเอง แกก็ดูเจ้าตัวเล็กแทนฉันด้วยแล้วกัน” ปูนจึงต้องช่วยไปก่อนวันนี้
“ฉันพึ่งให้นมทานจนอิ่มแล้ว กำลังหลับ” ทับทิมได้แต่พยักหน้า ปูนส่งลูกให้กับทับทิมไปอุ้ม ทับทิมเอาลงไปไว้ในเปลอีกที ใกล้ๆกับลูกของเธอ จากนั้นปูนก็เดินไปเปลี่ยนชุดทันที
***** ^^^^^ *****
ดลหลังจากที่ตัดต่อข่าวเสร็จ ก็ออกมาหาข่าวเรื่องธนบัตรปลอม เพราะตอนนี้เวลาจะซื้ออะไรทีนึง ก็ต้องระมัดระวังกันมาก นอกจากแบ็งค์ 20 และเหรียญ 10 บาทเท่านั้นที่ยังปลอดภัย เลยต้องหาแลกแตกเป็นเศษกันอยู่ร่ำไป ต้องพกเหรียญและแบ็งค์ย่อยกันเป็นการใหญ่ในตอนนี้ ถ้าใครใช้แบ็งค์ 100,500และ1,000 ปัจจุบันทางร้านค้า มักจะไม่ค่อยรับ เพราะต่างก็กลัวจะเจอของปลอม เลยทำให้เศรษฐกิจตอนนี้กำลังปั่นป่วนเป็นอย่างมาก
คนไหนรวยหรือมีกะตังค์มีแอปธนาคารก็ใช้กันไป ส่วนคนจนๆรากหญ้าที่หาเช้ากินค่ำและพวกที่ค้าขายกันอยู่ในตลาดสดและพวกที่ไม่มีแอปกำลังแย่ ดลเดินหาข่าวตามทุกแหล่งและทุกสถานที่เท่าที่จะหาได้ แต่ก็คว้าน้ำเหลว แตะตัวใครก็เจอแต่ความทุกข์หนักกันทั้งนั้น มีความสามารถพิเศษก็จริง แต่มันช่วยอะไรไม่ได้เลยจริงๆ สู้ไม่มีจะดีกว่า
“ทำไงดีเนี่ย ตอนนี้เราจะช่วยคนพวกนี้ได้ยังไง” ดลเป็นทุกข์มากเลยจริงๆ
“ความทุกข์ของทุกคนล้วนมาจากรายได้ทั้งนั้น ถ้าเรายังหาต้นตอของแบ็งค์ปลอมไม่ได้ ปัจจุบันและอนาคตของเราจะเป็นยังไงบ้างหละทีนี้ ดูซิพ่อค้าแม่ค้าบางคน เขาก็ไม่มีโทรศัพท์ แล้วเค้าจะค้าขายกันยังไงหละเนี่ย มองไปทางไหนก็เจอแต่คนหอบเหรียญ 10 พกแบ็งค์ 20 กันมาทั้งนั้น ขนาดตัวเราเอง ยังต้องทำอย่างนั้นเลย เห้อ”
ดลได้แต่มองดูผู้คนรอบกายของเขา และเดินจากไปอย่างไร้หนทางจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี
<<<<< ***** >>>>>
เนเน่ขับรถมาจอดที่คอนโดเดิมของเธอที่เคยอยู่ เดินตรงมาที่เคาน์เตอร์ เพื่อที่จะสอบถามอะไรบางอย่าง
“ขอโทษนะคะ” ประชาสัมพันธ์สาวยิ้มให้และถามกลับ
“มีอะไรจะให้ช่วยเหรอค่ะ”
“ไม่ทราบว่า ห้อง 2509 ใครอยู่คะตอนนี้” เนเน่ยิงคำถามแบบไม่อ้อมค้อม
“เราไม่ทราบหรอกค่ะ เพราะคนพักที่นี่เยอะมาก ถ้าน้องต้องการรู้ก็คงต้องใช้เวลาสักพัก ไม่ทราบว่ามีอะไรกับเจ้าของห้องเหรอคะ พี่จะได้ติดต่อให้ก่อน เพราะกฎของที่นี่ค่อนข้างเคร่งครัด อย่าว่ากันเนื่องจากเราต้องรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้าทุกคน สาเหตุมาจากว่า เราเคยปล่อยปะละเลย แล้วเกิดเรื่องขึ้น ลูกค้าขอมาหนะค่ะ”
“หนูเคยอยู่ที่นี่เมื่อ 3 ปีที่แล้วกับคุณแม่ พี่คงจะมาใหม่เลยไม่รู้ ถ้าเป็นคนเก่าๆเขาจะจำหนูได้ หนูเป็นลูกสาวของผู้การเผด็จ ห้องนั้นเป็นของพ่อหนู” ประชาสัมพันธ์สาว ก็พยายามช่วยเต็มที่
“งั้น รอสักครู่นะคะ พี่จะดูให้ก็แล้วกัน ว่าตอนนี้ใครถือครองอยู่” ประชาสัมพันธ์สาวค้นหาข้อมูลได้ไม่นาน
“ปัจจุบันในตอนนี้ชื่อผู้ครอบครองเป็นของ คุณเทียนหอม ศิริพงศ์รักษาค่ะ”
เนเน่ยิ้มออกเลย ไม่นึกว่าเทียนหอมจะเป็นผู้ถือครอง เพราะเธอหาโฉนดแผ่นนั้นไม่เจอจริงๆ
“แม่หอม แม่หอมกลับมาแล้วเหรอคะพี่” เนเน่ดีใจมากนึกว่าเทียนหอมกลับมา
“ไม่ใช่คะ เจ้าของตอนนี้ เธออยู่ที่อเมริกา ปล่อยให้เช่ามานานแล้วหละ ก่อนที่จะไป เธอได้ฝากให้เราทำการประชาสัมพันธ์ให้ ส่วนการเก็บค่าเช่าก็คงจะผ่านทางธนาคารหรือไม่ก็โทรศัพท์ เพราะค่าส่วนกลางทุกๆปี เธอก็ชำระให้เราผ่านทางธนาคารมาตลอด 3 ปี”
เนเน่ผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่หมดความพยายาม
“แล้วพอจะรู้ไหมคะ ว่าตอนนี้ใครมาเช่าอยู่ต่อ” เนเน่อยากรู้มากในตอนนี้ หลังจากที่รู้ว่าเทียนหอมยังไม่กลับมา
“ไม่ทราบเลยค่ะ ว่าใครมาเช่าอยู่ต่อ เพราะค่าส่วนกลางคุณเทียนหอมจ่ายตรงเวลาทุกปี ส่วนเรื่องว่าใครจะมาเช่านั้น ทางคอนโดไม่ทราบจริงๆ เพราะไม่อยากก่าวก่าย เนื่องจากเธอไม่เคยค้างค่าส่วนกลางเลย แต่รู้ว่าตอนนี้มีคนอยู่อย่างแน่นอน เพราะตลอดเวลาที่เจ้าหน้าที่ไปจดค่าน้ำ ค่าไฟและเก็บค่าอินเตอร์เน็ตห้องนั้น มีการใช้งานอยู่ตามปกติ” ประชาสัมพันธ์สาวช่วยได้แค่นี้ แต่เนเน่ก็ยังต้องการจะรู้ให้ได้ เพราะสงสัยมาก
“ถ้างั้นหนูขอขึ้นไปข้างบนหน่อยได้ไหมคะ ไม่ทราบว่า บัตรรุ่นนี้ยังใช้ได้อยู่ไหม” เนเน่หยิบคีย์การ์ดของเธอขึ้นมา
“ไม่ได้แล้วค่ะ เพราะตอนนี้ทางคอนโดได้เปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่มาได้เกือบ 2 ปีแล้ว ถึงน้องจะเคยอยู่ที่นี่มาก่อนก็จริง แต่ทางเราก็คงไม่สามารถที่จะให้น้องขึ้นไปได้ ถ้าเจ้าของห้องที่อยู่ในปัจจุบันไม่อนุญาต นอกเสียแต่ว่าเขาจะลงมารับน้องเอง” ประชาสัมพันธ์สาวกล่าวแบบตรงไปตรงมา
“แต่..” ประชาสัมพันธ์สาวพูดแบบยิ้มๆ เธอทำตามหน้าที่ จึงทำให้เนเน่หัวเสียขึ้นมาทันที
“ต้องขอโทษด้วยนะคะน้อง ที่พี่ไม่สามารถทำตามที่น้องขอได้”
ภณเดินเข้ามาพอดีเห็นเนเน่อยู่ที่เคาน์เตอร์หลบแทบไม่ทัน ไม่นึกว่าเนเน่จะมาที่นี่ได้
“ไอ้เน่นี่ มันมาที่นี่ได้ยังไง ไม่ได้การแล้ว ต้องรีบบอกนาย ไม่งั้นถ้าเจอกัน ยุ่งแน่”
ภณรีบส่งข้อความให้กับเผด็จทันที “เนเน่มาที่คอนโด ตอนนี้อยู่ข้างล่าง ระวังตัวด้วย ผมขอตัวหลบก่อนหละนะ บาย” เผด็จเมื่อได้อ่านข้อความจึงสามารถหลบหลีกได้ทัน
“ขอบใจมากที่บอก แกก็เหมือนกัน อย่าให้ไอ้เน่มันเห็น” เผด็จตอบไลน์กลับไปให้กับภณ
ภณแอบดูเนเน่อยู่พักใหญ่ หลังจากเนเน่กลับไปแล้วจึงได้ขึ้นไปบนห้อง เนเน่ยังคงไม่เลิกล้มการตามหาร่องรอยของพ่ออย่างแน่นอน จึงคงได้แต่เพียงเก็บความสงสัยเอาไว้ และค่อยหาวิธีอีกครั้งหลังจากที่ได้ข้อมูลมาล่าสุดว่าใครคือคนเช่าครั้งสุดท้าย แต่ประชาสัมพันธ์สาวคนนั้นก็ช่วยเนเน่ได้เท่านี้จริงๆ ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นกฎ ห้ามบอก รายละเอียด เช่นชื่อผู้เช่า/ซื้อ และราคา ที่เธอทำเช่นนั้นเพราะเห็นว่าเนเน่เคยอยู่ที่นี่ และที่สำคัญ เนเน่ยัดเงินใส่มือไปอย่างเงียบๆถึง 500 บาทเลยทีเดียว กับข้อมูลนี้ ถือว่า เป็นข้อมูลที่แพงจริงๆกับการเสี่ยงในครั้งนี้
“เป็นไปไม่ได้ เจือจันทร์ รุ้งแสง เธอคือใครกัน ฉันต้องรู้ให้ได้ ว่าเธอมีเอี่ยวอะไรกันกับเรื่องนี้”
ก่อนไปเนเน่ได้จ้องมองขึ้นไปยังห้องเดิมที่เธอเคยอยู่ ภณแอบส่องกล้องลงมาดูจากชั้น 25
“ไปซะทีซิวะไอ้เน่ น้าต้องขอโทษแกด้วยนะที่ไม่สามารถปรากฏตัวให้แกเห็นได้ เอาไว้ให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อนนะลูก” เนเน่หันกลับมาและสวมหมวกกันน๊อก แล้วขับรถออกไปทันที
ภณส่องกล้องดูจนเนเน่ลับสายตาไป จึงโล่งอกไปได้อีก 1 วัน แต่หลังจากนี้หละ พวกเขาจะต้องคอยผวาอีกต่อไปหรือไม่ ว่าเนเน่จะคอยมาแอบตามอีกหรือเปล่า นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับดวงแล้วหละทีนี้
***** ///// *****
ช่วงกลางคืน หลังจากที่กลับมาจากสืบหาร่องรอยของพ่อ เนเน่ก็อาบน้ำและทานมื้อค่ำเสร็จ ก็มานั่งนับวัน หลังจากที่ได้เบาะแสของพ่อ
“วันนี้จันทร์ที่ 20 พ.ค. ถ้านับถอยหลังไป อาทิตย์ที่แล้ว แสดงว่าทุกครั้งที่ผ่านมา พ่อช่วยเรามาตลอดเลยเหรอ เป็นไปไม่ได้ แล้วคนที่เราเห็นบนเกาะหละเป็นใครกัน พ่อไม่สามารถจะอยู่ในสองที่พร้อมๆกันได้ ในเมื่อแม่เพ็ญก็ยืนยันว่าพ่ออยู่ที่เกาะตลอด ไม่น่าจะเป็นไปได้ คิดซิคิด คิดให้ออกไอ้เน่ ทำไม”
เนเน่ยิ่งคิดก็ยิ่งคิดไม่ออก สักพักเธอก็หยิบจดหมายที่คนลึกลับส่งมาให้อ่านอีกครั้ง ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
“มันหมายความว่าอะไร” เนเน่นอนคิดไปคิดมา คิดยังไงก็คิดไม่ออก
“อย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เด็ดขาด ถือว่าเตือนแล้วนะ วันนี้ถือว่าเป็นการสั่งสอน”
เนเน่หลับตาแล้วคิดๆๆ แล้วก็คิด ไม่นานเธอก็ตีความหมายออก
“ใช่แล้ว ต้องเป็นพ่ออย่างแน่นอน ถ้าคิดมุ่งร้ายกับเรา ปาดนี้บ้านคงโดนระเบิดแหลกไปแล้ว พ่อแค่ไม่อยากให้เราเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เท่านั้นเอง พ่อ ต้องเป็นพ่อ ยังไงฉันก็เชื่อว่า ต้องเป็นพ่อ พ่อนะพ่อ คอยดูนะอย่าให้เจอตัวเชียว แสบนักนะ คิดเหรอว่าทำแบบนี้แล้ว หนูจะหาพ่อไม่เจอ แต่ถึงยังไงหนูก็ขอบใจมากนะที่ช่วย” เนเน่ลุกขึ้นมานั่งหลังจากที่คิดออก
“นี่หนูเข้าใจพ่อผิดไปมากๆเลยจริงๆ ที่แท้พ่อก็รักแม่เนตร ไม่น้อยไปกว่าหนูเลย พ่อแอบช่วยหนูมาตลอด พ่อ หนูขอโทษนะที่หนูเข้าใจพ่อผิด ถึงหนูจะไม่เห็นจะๆว่าเป็นพ่อ แต่หนูก็รับรู้ได้ว่าเป็นพ่อ หนูรักพ่อนะคนเก่งของหนู” แล้วเนเน่ก็ล้มตัวลงนอน หลังจากที่ตีความจากจดหมายได้
คืนนี้เธอมีความสุขมากจึงนอนหลับฝันดีมีรอยยิ้มหลับสนิททันที
***** \\\\\ *****
(21 พ.ค.) เช้าวันต่อมา เนเน่ออกสืบหาเบาะแสว่าใครกันที่ปลอมตัวมาเป็นแม่ของเธอ แถมยังต้องค้นหาแหล่งผลิตเงินปลอมอีก ยิ่งสืบยิ่งสาวลึกเข้าไป ก็ต้องเจอกับสิ่งผิดปกติอีกมากมาย
“นั่นมันบิงซูนี่” เนเน่จำบิงซูได้ “เมื่อ 3 ปีก่อนมันเป็นคนขับรถให้กับฉัตรเทพนี่” เนเน่เจอเบาะแสนึงเข้าให้แล้ว
“สงสัยมันคงรอดตาย จากศึกครั้งนั้นอย่างแน่นอน เป็นไปไม่ได้ มันรอดตายมาได้ยังไง มันไม่โดนระเบิดตายไปพร้อมกับรถไฟที่ขนยามาหรอกเหรอ บัดซบจริงๆ” เนเน่นึกขึ้นมาแล้วก็เจ็บใจมาก
“ก็คงไม่น่าแปลก ขนาดแม่เนตรตัวปลอมมันยังเกิดขึ้นมาได้ แล้วนับประสาอะไร มันจะรอดตายไม่ได้” เนเน่จึงมีความคิดที่ดีขึ้นมา
“เหมาะเลย งั้นเราก็ต้องตามมันไปหนะซิ ดูซิว่าตอนนี้มันทำอะไรและกบดานอยู่ที่ไหน”
ว่าแล้วเนเน่ก็ค่อยๆขับรถตามบิงซูไปอย่างติดๆ บิงซูไม่ทันระวังตัวเพราะ 3 ปีมาแล้วไม่เห็นจะมีอะไร เลยไม่ได้สนใจอะไร
“มันมาที่นี่ทำไม” เนเน่หันไปมองดูรอบๆ
“โกดังเก่าๆริมแม่น้ำเจ้าพระยา แถวพระประแดง มันมาทำไมที่นี่เนี่ย คงไม่ใช่เรื่องดีแน่”
ไม่นานก็เห็นชายสองคนออกมายกมือไหว้และก้มหัวให้ “ไอ้กวง ไอ้ตุ้ม นี่มันอะไรกัน” เนเน่งงมาก
“เป็นไปไม่ได้ พวกนี้มันรู้จักกันได้ยังไง ฉันจำได้ไอ้สองคนนี้มันเป็นคนของกงจักรทองนี่ ตอนที่เกิดศึกถล่มกันคราวนั้นมันยังไม่ตายอีกเหรอ โอย..เป็นไปไม่ได้ ทำไมคนชั่วถึงตายยากตายเย็นนักนะเนี่ย”
ขณะที่เนเน่กำลังสืบหาความจริงอยู่นั้น ดลก็ตามรอยของบิงซูมาเช่นกัน จึงได้มาเจอกับดลนักข่าวหนุ่มไฟแรงโดยบังเอิญแบบจะๆ ดลกำลังแอบถ่ายภาพของบิงซูและเสี่ยชั่วทั้งสองคนอยู่ เนเน่เหลือบไปเห็นเข้าพอดี
“ใครกัน อยากตายรึไงหนะ ถึงได้กล้าถ่ายรูปอย่างนั้น” ดลแอบตามบิงซูและเสี่ยชั่วทั้งสองคน เข้าไปด้านใน
“แสดงว่า กงจักรทองยังไม่พินาศไปพร้อมกับองค์กรชั่วนั้นเหรอ 3 ปีเต็มๆที่ข่าวขององค์กรนี้หายเงียบไป มันกลับมากันอีกแล้วเหรอ บรรลัยแน่ ถ้ามันเป็นจริงอย่างที่คิด อย่าบอกนะว่า ไอ้นี่มันมาทำงานให้กับกงจักรทองด้วย หลังจากที่นายเก่ามันตายโหงไปแล้ว” เมื่อเนเน่เริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้ จึงเกิดความวิตกขึ้นมาทันที
“ยุ่งหละซิ แค่ฉัตรเทพคนเดียวก็แทบแย่แล้ว นี่ยังมีกงจักรทองเพิ่มขึ้นมาอีก กว่าพ่อจะกำจัดได้ ก็เลือดตาแทบกระเด็น มิน่าหละ 3 ปีที่หายไปถึงไม่มีข่าวของพวกมันเลย” เนเน่เริ่มจะเข้าใจอะไรมากขึ้น
“อย่างนี้นี่เอง มันแอบไปซ่องสุมขุมกำลังและคงจะเริ่มแผนการชั่วร้ายอะไรอีกแน่เลย อย่าบอกนะว่าเหตุการณ์ที่มันวุ่นวายอยู่ในตอนนี้ มาจากฝีมือของพวกมัน เป็นไปไม่ได้ พวกมันจะกล้าทำให้ประเทศวุ่นวายได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ ถ้าใช่ เราต้องหยุดพวกมันให้ได้ ไม่งั้นประเทศแย่แน่”
เมื่อเนเน่คิดได้ดังนั้น จึงหาทางเข้าไปด้านในทันที เพื่อแอบดูว่าคนทั้งสาม กำลังคิดทำอะไรกันอยู่
“ไงกวงเชื่อฉันรึยัง” กวงก้มหัวให้บิงซู
“ครับเฮีย” และกล่าวคำขอบคุณ ที่ได้ช่วยชีวิตพวกมันสองคนเอาไว้
“ถ้าเฮียไม่มาช่วยในคืนนั้น พวกเราสองคนคงจะแย่ ขอบคุณมากๆเลยครับ”
“ถ้าย้ายแท่นพิมพ์ไม่ทันในคืนนั้น ความฉิบหายได้มาเยือนพวกเราแน่ ดีนะที่ฉันตามไปทันและแอบไปเห็นอะไรบางอย่างเข้า มีคนแอบเข้าไปถ่ายรูปแท่นพิมพ์ไว้ได้ ฉันเลยต้องสั่งย้ายด่วนมาไว้ที่นี่ ตำรวจตามจิกไม่ปล่อยเลย ทีหลังทำอะไรอย่าสัพเพร่าซิ ต้องทำให้มิดชิดเป็นความลับสุดยอด กว่าฉันจะขโมยแม่พิมพ์นี้มาได้ เลือดตาแทบกระเด็น ถ้าพวกแกสองคนไม่รอบคอบอีก พวกแกจะไม่มีลมหายใจอีก เข้าใจไหม”
บิงซูโกรธมาก ตุ้มรีบขอโทษอีกคน เพราะการดูแลแท่นพิมพ์เป็นหน้าที่ของมัน
“โธ่เฮีย วันนั้นมันฉุกระหุกจริงๆ ไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ว่าไอ้พวกตำรวจนั้นมันรู้ได้ยังไงว่าคืนนั้นเราจะทำการขนส่งธนบัตรปลอมและมีแหล่งผลิตที่นั่น ข้ามีหน้าที่ดูแลแท่นพิมพ์ ต่อไปข้าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นอีก ยังไงแล้วช่วยบอกมาดามด้วยว่าอย่าได้เอาโทษพวกเราเลย ข้าจะทำคุณไถ่โทษให้ โดยจะรีบผลิตธนบัตรปลอมให้อีก เพื่อชดเชยส่วนที่หายไปทั้งวันทั้งคืน”
ตุ้มรีบเอาตัวรอดไว้ก่อน ไม่งั้นซวย ช่วงนี้บิงซูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
“ได้ ยังไงแล้วก็รีบด้วยแล้วกัน เพราะลูกค้ารออยู่ ล๊อตนี้จะเสร็จเมื่อไหร่”
บิงซูผู้มีอำนาจคนหนึ่งรองลงมาจากมาดามจึงทวงถามทันที เพราะเป้าหมายที่รออยู่ ได้สั่งออเดอร์เพิ่มมาอีก
“คืนพรุ่งนี้ธนบัตร 100, 500 และ 1,000 จำนวน 12 ลังเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย รวมมูลค่าแล้วกว่า 1 พันล้านบาทสามารถนำออกสู่ตลาดภายนอกได้ทันที ถ้าลูกค้าของท่านมารับ”
เสี่ยตุ้มรีบรายงาน ก่อนที่จะไม่มีลมหายใจ “ดี ดีมาก” แล้วบิงซู ก็หันไปหาเสี่ยกวง
“แล้วเรื่องของแกว่าไงกวง เด็กสาวๆที่ฉันให้หา ได้รึยัง ล๊อตนี้ทำไมถึงได้ช้านัก ลูกค้าของเราทวงถามมาแล้วนะ ว่าไง”
เสี่ยกวงรีบรายงานกลับทันทีด้วยความกลัวความผิด
“ได้เกือบครบแล้วเฮีย เนื่องจากมาดามต้องการได้เพิ่มเป็น 30 ข้าและลูกน้องจึงต้องรีบเสาะหา”
ขณะนั้นลูกน้องของบิงซูกลุ่มหนึ่งเดินตรวจตราความปลอดภัยอยู่รอบๆก็ได้พบเห็นดลกำลังแอบถ่ายรูปอยู่พอดี
“ทำอะไรหนะ แกเป็นใคร” ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบ ดลก็โยนเศษเหล็กท่อนหนึ่งใส่คนกลุ่มนั้นแล้วหนี
หัวหน้ากลุ่มยิงปืนใส่ดลทันที ดลรีบวิ่งหลบอย่างไว เนเน่หลบอยู่อีกมุมหนึ่ง ลูกน้องคนหนึ่ง ขณะที่วิ่งตามหาดลก็มาเจอเข้าเช่นกัน
“เห้ย ทางนี้อีกคน” คนนั้นเลยยิงปืนใส่เนเน่ด้วย เดชะบุญที่เนเน่เป็นคนหูไวเลยหลบทัน
หลังจากที่หลบได้ เนเน่ก็กระโดดเตะก้านคอเจ้าคนคนนั้นแน่นิ่งไปเลย แล้วเก็บปืนมาด้วย คราวนี้ยกมาเป็นขโยงเลย
“ฆ่ามัน อย่าให้มันรอดไปได้” บิงซูตะโกนสั่งลูกน้อง
จากนั้นลูกน้องทั้งหมดที่เฝ้าโกดังเกือบ 30 คนก็ออกมายืนล้อมเนเน่ทันที
“นังหนูแกเป็นใครฉันไม่รู้ แต่ในเมื่อแกเข้ามาอยู่ตรงนี้แล้ว ก็อย่าคิดว่าจะมีชีวิตออกไปไหนได้อีก จัดการ”
เนเน่ยืนตั้งท่ารอรับการจู่โจม สิ้นเสียงสั่งการของบิงซู ลูกน้องบางส่วนก็วิ่งกรูเข้าหาเนเน่เกือบ 10 คน เข้าตะลุมบอนเหมือนมดแตกรัง เนเน่ก็สู้ยิบตาใช้ความสามารถที่มีอยู่ป้องกันตัวเองได้ ทั้งต่อยทั้งเตะ ทั้งรุกและรับอยู่เป็นเวลานานพอสมควร ส่วนพวกที่เหลือก็ยืนคุมเชิงดูเหตุการณ์ เธอสามารถเอาตัวรอดได้ไม่ว่าจะตีลังกาหลบ กระโดดข้ามหัวและฉีกขามุดหลบเพื่อให้เอาตัวรอดได้ทุกครั้ง
เนเน่คว้าไม้ไผ่ยาวขนาดเหมาะมือได้ท่อนหนึ่ง จึงถือว่าสบายแล้วหละคราวนี้ ตั้งท่ายืนหยุดนิ่ง มือซ้ายถือไม้ไผ่แล้วใช้มือขวากวักมือเรียกพวกนั้นเข้าไป พวกนั้นยังกล้าๆกลัวๆ เพราะเนเน่ไม่ได้หมูเหมือนอย่างที่คิด
“เป็นผู้ชายประสาห่าอะไรวะ เด็กผู้หญิงคนเดียวฆ่าไม่ได้เนี่ย ถุย” ไม่รอช้าพวกนั้นวิ่งเข้าไปประจันหน้าต่อทันที
กลุ่มชายฉกรรจ์เกือบ 10 คน วิ่งเข้าไปใหม่อีกครั้ง เนเน่หมุนไม้ไผ่เป็นวงกลม พอได้จังหวะก็เก็บทีละคนสองคน ฟาดทางโน้นที ทางนี้ที จนชายพวกนั้นบาดเจ็บไปตามๆกัน กลุ่มแรกเจ็บกันระนาว เปลี่ยนให้กลุ่มที่สองเข้าไป ทั้งมีดทั้งไม้คมแฝกและไม้หน้าสามมากันครบ เนเน่เริ่มเหนื่อยแล้วเหงื่อออกจนเปื้อนเต็มหน้า ดลหลังจากที่วิ่งหลบออกไปกำลังจะไปขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ตัวเอง ก็นึกขึ้นได้ว่า เมื่อกี้เห็นว่าเหมือนมีใครอีกคนหนึ่งอยู่ด้านใน ด้วยความไม่แน่ใจจึงรีบวิ่งกลับเข้าไปข้างในโกดังอีกครั้ง
ชายสองคนใช้มีดสปาต้าร์ด้ามใหญ่ฟันไม้ไผ่จนสั้นลงกลายเป็นกระบองไปแล้ว เนเน่ก็ไม่ถอย ชายคนหนึ่งได้จังหวะ จึงกระโดดถีบที่ยอดอกของเนเน่จนเธอเสียหลัก หงายหลังกระเด็นลงไปนอนกองกับพื้น ท่อนไม้ไผ่หลุดอกจากมือทันที จากนั้นก็รีบตรงเข้าไปซ้ำ จับคอเสื้อของเนเน่ขึ้นมา แล้วตบซ้ายตบขวา แล้วก็ยกตัวเธอขึ้นมาทั้งเตะและต่อย แล้วก็เหวี่ยงเนเน่ไปติดกับกำแพง จุกซิครับท่าน
ชายคนนั้นเดินเข้าไปดึงเนเน่ขึ้นมา กำลังเงื้อมือจะต่อยไปที่หน้าของเธอ ทันใดนั้นเองดลกระโดดมาจากทางไหนไม่รู้ ใช้มือทั้งสองดันชายคนนั้นจนล้มลงไปทันที แล้วดลก็ทำการต่อสู้กับชายคนนั้นต่อ ไม่นานชายคนนั้นก็สู้ดลไม่ได้สลบเหมือดทันที ดลวิ่งไปดูเนเน่
“ไหวไหม” เนเน่พยักหน้า แต่ก็เจ็บคอ เพราะเมื่อกี้โดดนบีบคออย่างแรง พวกที่เหลือวิ่งตามเข้ามา ดลหันหลังอยู่ มีคนหนึ่งกำลังจะเอามีดสั้นแทงข้างหลังดล เนเน่จึงรีบผลักดลออกไป แล้วรีบจัดการกับชายคนนั้น
เนเน่ใช้มือขวาของเธอจับมือขวาของมันเอาไว้ แล้วใช้มือซ้ายสับไปที่ต้นแขนอย่างแรงแล้วใช้มีดเล่มนั้นปาดคอตัวมันเองทันที ดลวิ่งเข้ามาหาเนเน่
“ขอบใจนะที่ช่วย” เนเน่ยิ้มนิดๆ
“ถือว่าหายกัน” ดลพยักหน้าให้ พวกชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งประมาณ 6 คน ได้ล้อมเนเน่และดลเอาไว้
ทั้งสองคนหันหลังชนกัน ยกมือขึ้นกราดเพื่อพร้อมลุย จากนั้นทั้งหมดก็เข้าตะลุมบอนกันอีกครั้ง สู้กันได้สักพักก็แยกออกจากกัน ต่างคนต่างกระเด็นออกไปคนละมุมคนละทาง จากนั้นก็ตัวใครตัวมัน ชายคนหนึ่งวิ่งเข้าใส่เพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคงไม่มีพิษสงอะไร ตรงเข้าต่อยแบบว่องไว เนเน่หลบซ้ายขวาและก้มลงต่อยท้องพร้อมกับเอามือขวาซัดใส่ที่ด้านหลังของชายคนนั้น
หลังจากที่ชายคนนั้นเสียหลักล้มลงไป พวกที่เหลืออีก 2 คนก็รีบวิ่งกรูกันเข้ามาทันที ดลก็อยากเข้าไปช่วยเนเน่ แต่ทางตัวเองก็กำลังสู้อยู่กับกลุ่มนี้อยู่ จึงรีบเผด็จศึกพวกนี้ทันที และไปช่วยเนเน่ เพราะรู้ว่าเนเน่ไม่ไหวแน่ เนื่องจากเธอต่อสู้มานานแล้วก่อนที่เขาจะเข้ามา หลังจากที่จัดการกับพวกนั้นได้แล้ว จึงรีบมาช่วยเนเน่ทันที โดยปาเศษหินหลายก้อนไปใส่เจ้าพวกตัวร้าย ขณะที่กำลังรุมสกรัมกระทืบเนเน่อยู่ โดนหัวบ้างลำตัวบ้าง และวิ่งมาประคองเนเน่เอาไว้ เนเน่ตาแทบจะปิดแล้ว เพราะบอบช้ำมาก โดนรุมสกรัมเอาขนาดนั้น น่วมไปทั้งตัว
“เก่งจริงนะพวกแก หน้าตัวเมียนี่หว่า รุมเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว เก่งจริงมาตัวต่อตัวกับฉันไหมหละ”
ดลประคองเนเน่ให้นั่งพิงข้างฝาแล้วออกมายืนตระหง่านต่อหน้าทุกคน เนเน่หันไปดู ต้องตะลึงกับความหล่อของดลจนตาค้างไปพักหนึ่ง เพราะพึ่งได้เห็นหน้าชัดๆของดลก็วันนี้นี่แหละ ดลก็เช่นกันตะลึงไปพักใหญ่เช่นกัน เมื่อได้หันไปเห็นใบหน้าอันงดงามชัดๆของเนเน่ก็วันนี้เช่นกัน หลังจากที่เนเน่ปิดหน้ามานาน ดลส่งยิ้มให้กับเนเน่
“พวกมึงจะรออะไรกันอยู่หละวะ ยิงแม่งให้ตายไปเลย จะรอให้พวกมันออกไปบอกตำรวจมาจับพวกมึงเข้าตารางกันรึไงไอ้ฟาย” บิงซูด่าพวกลูกน้องที่กำลังนอนเจ็บอยู่กันระนาว
พวกที่เหลือรีบยกปืนกลกราดไปที่ดลกับเนเน่ทันที ดลรีบวิ่งไปคว้ามือเนเน่อย่างไว เนเน่เหมือนโดนมนต์สะกดนิ่งไปเลย ดลจูงมือไปทางไหนเธอก็ตามไปโดยไม่ขัดขืน ดลจับเนเน่นั่งลงหลบกระสุนและโอบกอดเนเน่เอาไว้หลังจากที่หนีฝ่าวงล้อมตรงนั้นมาได้ เนเน่ได้แต่มองหน้าดลอย่างไม่ละสายตา ปากไม่พูดอะไร ไม่รู้ว่าเป็นอะไรใจสั่นไปหมด เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของดล ทำอะไรไม่ถูกสักอย่าง อีกอย่าง ไม่มีแรงด้วย
ลูกน้องคนหนึ่งปาระเบิดสุ่มจนระเบิดตูมตามไปทั่ว กองลังไม้แตกกระจาย ดลดันตัวเนเน่ให้หมอบลง โดยที่ตัวเองโอบคร่อมอยู่ด้านบนเนเน่อยู่ด้านล่าง หน้าของดลและเนเน่อยู่ในระดับเดียวกัน เศษลังไม้กระเด็นไปถูกหัวของดลอย่างแรงจนปากของดลและเนเน่ประกบกันโดยบังเอิญอย่างไม่เจตนา ทั้งสองคนจึงจูบกันโดยปริยาย
เนเน่หลับตาปี๋และเคลิ้มไปกับรสจูบแรกในชีวิตวัยสาวของเธอกับดลพักใหญ่ ร่างของดลปกป้องเนเน่เอาไว้ได้ มือขวาของทั้งดลประกบมือซ้ายเนเน่แน่นโดยไม่รู้ตัว ควันยังคงลอยละล่องไปทั่ว พวกนั้นเดินไปหาดลและเนเน่ที่อื่น ไม่นานควันก็จางหายไป เนเน่รู้สึกตัวก่อนและสำลักควันเล็กน้อย พอเห็นว่าดลจูบเธอยู่ จึงรีบเอามือขวาเธอดันหน้าดลออกจากปากเธอทันที
“อึ๊ย ไม่นะ” เนเน่รีบเช็ดปากตัวเอง “เป็นงี้ได้ไง บ้าที่สุด”
เนเน่ยกมือขวาขึ้นจะทุบหลังดล แต่ก็ทำไม่ลง เพราะดลปกป้องเธอเอาไว้
“เค้าช่วยเราเอาไว้ ไม่ ฉันทำร้ายเค้าไม่ได้” เนเน่หน้าแดงโดยไม่รู้ตัวอายก็อาย
เขินก็เขินกับรสจูบโดยไม่ตั้งใจครั้งแรกในชีวิตสาว ดลยังคงนอนกอดเนเน่ด้วยมือซ้ายทับร่างเธอ เพราะแรงปะทะของเศษลังไม้จึงทำให้ดลสลบไปพักนึงและหัวแตก มีเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อย
“เลือด” เลือดค่อยๆไหลออกมา จนเนเน่เห็นได้ชัด เพราะดลนอนทับร่างเธออยู่
“นาย นาย นาย” เนเน่พยายามปลุกและเรียกสติของดล
แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะครั้งนี้แรงระเบิดทำให้วัตถุชิ้นนั้นทำให้ดลนิ่งไปชั่วขณะ
“ฉันขอขอบใจนายนะที่ช่วยชีวิตฉัน ฉันจะไม่ลืมบุญคุณของนายครั้งนี้เลย” เนเน่พยายามปลุกดล
“แต่ตอนนี้นายตื่นก่อนได้ไหม ก่อนที่พวกมันจะมาเห็นพวกเรานอนอยู่ตรงนี้ นาย นาย นาย”
เนเน่เขย่าดลอยู่นานจนดลรู้สึกตัว ดลปล่อยมือขวาจากมือซ้ายของเนเน่แล้วเอามากุมหัวตัวเอง
“โอย ทำไมมันเจ็บแบบนี้เนี่ย” ดลดึงมือกลับมา และเห็นเลือดติดฝ่ามือมา
“นายหัวแตก เจ็บไหม” เนเน่พูดกับดลแบบอ่อนหวานโดยไม่รู้ตัว เนเน่เอามือมาแตะแผลที่หัวของดล
ดลมองหน้าเนเน่ “นิดหน่อย” เนเน่มองหน้าดลแบบอายๆและพูดกับดลเบาๆ
“จะกอดฉันอีกนานไหม” ดลรีบดึงมือซ้ายออกจากตัวเนเน่
“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะล่วงเกินอะไรเธอนะ”
ดลมองหน้าเนเน่แม้ว่าฝุ่นควันจะยังคงลอยฟุ้ง
“ฉันรู้ ฉันเข้าใจ นายทำเพราะปกป้องฉัน ขอบใจนะ ฉันเป็นหนี้ชีวิตนาย”
“ไม่เอา” ดลเอามือทั้งสองมาบีบมือซ้ายเนเน่เบาๆ
“หนี้อะไร ไร้สาระ ไม่เอา ไม่มีบุญคุณอะไรทั้งนั้น เข้าใจไหม”
จากนั้นดลก็ใช้มือซ้ายปาดผมที่บดบังใบหน้าอันสวยงามของเนเน่ขึ้นอย่างช้าๆ เพื่อที่เขาจะได้เห็นใบหน้าของเธออย่างชัดๆ และตามมาด้วยการเช็ดหน้าเช็ดแก้มให้กับเนเน่
“แล้วเธอหละ เป็นอะไรไหม” เนเน่ใจเต้นตุ๊บๆไม่เป็นจังหวะเลยเมื่อดลทำเช่นนั้น ส่ายหน้าเล็กน้อย
“ไม่เป็นไร” ดลหันมองซ้ายแลขวา พอควันเริ่มจางลง ก็ต้องพบว่า มีผู้คนรายล้อมพวกเขาอยู่ 10 กว่าคน
ตอนนี้ทั้งสองคนตกอยู่ในวงล้อมของศัตรูเสียแล้ว แถมดลยังมาบาดเจ็บอีก เนเน่ลงทุนฉีกชายเสื้อของเธอเพื่อเอามาทำเป็นผ้าพันแผลให้กับดล เนเน่ใช้เศษผ้านั้นพันไว้บนศรีษะให้กับดลด้วยความเต็มใจ
“ขอบใจนะ” เนเน่ยิ้มให้ ดลกอดเนเน่ไว้แน่นในอ้อมอกของเขาเมื่อมองไปรอบๆและเห็นว่าคงหมดทางรอดแล้วในตอนนี้ ดลใช้มือขวากุมมือซ้ายเนเน่และใช้แขนซ้ายกอดเนเน่ไว้
“กลัวไหม” ดลกระซิบที่หูซ้ายเนเน่เบาๆ “ไม่” เนเน่ตอบเบาๆ
“ถ้าจะตาย ฉันก็ไม่เสียใจ” ดลบอกเนเน่เพื่อให้เธอหายเครียด
“เธอต้องรอด ฉันไม่ปล่อยให้เธอตายหรอก” ดลบอกเนเน่เบาๆ
“นาย” เนเน่พูดออกมาเบาๆ “ทำไมถึงพูดแบบนี้” ดลยิ้มให้กับเนเน่และเอ่ยวาจาออกมาเบาๆ
“คนเราเกิดมาก็ต้องตาย ถ้าตายเพราะทำความดี ฉันก็ไม่เสียใจ แต่ฉันจะมีความสุขมากที่ก่อนตาย แล้วฉันได้ช่วยให้เธอปลอดภัย” วินาทีนั้นเนเน่ อยากจะกระโดดจูบและกอดเลย เมื่อได้ยินประโยคนั้น
“ไม่นะ อย่าพูดแบบนั้น ต้องไม่มีใครตาย” เนเน่เลื่อนมือซ้ายไปปิดปากดลเอาไว้ ดลพูดออกมา
“พวกเราไม่มีแรงที่จะสู้กับพวกมันแล้ว ฉันบาดเจ็บ เธอก็ขาเจ็บ ยังไงวันนี้พวกเราสองคน คงไม่รอดแน่ เธอมองดูซิ พวกนั้นยืนล้อมพวกเราอยู่ ตรงนั้นก็กองเพลิง ที่พวกนั้นยังไม่ทำอะไรพวกเราในตอนนี้ ก็เพราะว่าพวกมันเห็นว่าเราไม่ไหนไม่ได้ ไม่รอดแน่ ก็เลยคิดจะเล่นสนุกเท่านั้น”
เนเน่ใช้หางตามองไปรอบๆทั่วบริเวณ เพื่อที่จะหาหนทางหนี แต่ก็ไม่มีช่องเลยสักนิด ขณะที่ดลและเนเน่กำลังเพลี่ยงพล้ำจนหมดหนทางแล้ว สิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ปาฏิหาริย์มีจริง เป็นไปไม่ได้ อาวุธลับจำนวนมากได้ปลิวและล่องลอยมาจากทั่วสารทิศ ทำให้พวกเหล่าร้ายทั้ง 10 กว่าคนนั้นตายเรียบสนิทไม่เหลือสักคน บิงซู กวงและตุ้มตกใจมาก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกนั้นถึงตายได้ ใครมาช่วยพวกมัน” สิ้นเสียงของบิงซู ก็ปรากฏร่างของคนที่มาช่วยทันที
“วิหคขาว” กวงหลุดออกมาคนแรก
“พิราบเทา” ตุ้มเป็นคนถัดมา
“เป็นไปไม่ได้ สองคนนี้หายสาญสูญไปจากโลกนี้แล้วนี่”
“เมื่อไหร่ที่ความชั่วยังอยู่ ฉันสองคนก็ยังอยู่เสมอ” วิหคขาวเอ่ยวาจาออกมาอย่างดังลั่น
“มนุษย์หน้ากาก ไม่มีวันตาย ตราบใดที่คนชั่วอย่างพวกแกยังคงลอยนวลอยู่ พวกเราจะกลับมา”
พิราบเทากล่าวเสริม เนเน่ดีใจมากที่พี่สาวทั้งสองคนมาช่วยได้ทันเวลา
“พี่ปูน พี่ทิม” เนเน่บ่นในใจ “นาย เรารอดตายแล้ว มีคนมาช่วยแล้ว นั่นไง”
“วิหคขาว พิราบเทา” ดลหลุดปากออกมา
“เป็นไปไม่ได้ นี่เราไม่ได้ฝันไปนะ มนุษย์หน้ากากในตำนานอีก 2 คน 4 คนแล้วซิที่เราได้พบเห็น”
แต่ดลซิตกใจมากที่ได้พบกับตำนานตัวเป็นๆต่อหน้าต่อตา ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างชอบกันไปคนละอย่าง เนื่องจากมุมมอง มองกันคนละแบบ เพราะดลไม่ชอบมนุษย์หน้ากากเป็นทุนอยู่แล้ว
“นี่พวกแกยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอ ไม่ได้ตายไปพร้อมกับระเบิดในวันนั้นเหรอ” กวงตะโกนถามออกไป
“แผนโง่ๆของแกในวันนั้น มันทำอะไรฉันสองคนไม่ได้หรอกโว๊ยไอ้กวง ไอ้ตุ้ม” ปูนตะโกนออกไปด้วยความโมโห
“ใช่ ถ้าหงส์ฟ้ากับหงส์หยกมาช่วยไว้ไม่ทัน ฉันก็คงสิ้นชื่อ เพราะแผนรอบกัดของพวกแกทั้งสองคนไปแล้ว 3 ปีแล้ว ที่ฉันรอจะแก้แค้น และเอาคืนพวกแก” ทับทิมพูดเสริม
“บ้าที่สุด มันเป็นไปได้ยังไง” ตุ้มส่งเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจ
“แล้วแกจะเอายังไงต่อวะไอ้ตุ้ม” กวงกลัวตายขึ้นมาทันที
“ไม่ต้องกลัว คนของเฮียมาช่วยแล้ว นั่นไง” ระหว่างนั้นทีมเสริมของบิงซูวิ่งเข้ามาพอดีอีกนับ 10 คน กวงใจชื้นขึ้นมาอีกเยอะ
“มึงได้กลับบ้านแน่ไอ้กวง หาที่หลบก่อนเร็ว” ทั้งสองรีบหาที่หลบ
เนื่องจากในใจของดลนั้นคิดต่อต้านมนุษย์หน้ากากมาตลอด เรื่องราวที่เขาได้ยินผ่านมามันจริงบ้างเท็จบ้าง ดีบ้างร้ายบ้าง ดลจึงไม่สามารถฟันธงได้ว่า มนุษย์หน้ากากจะดีทุกคนและมีตัวตนหลงเหลืออยู่จริงๆในปัจจุบัน เพราะไม่ว่าจะเป็นนางแมวป่า นางเสือดาวและนางสิงห์ดำ ล้วนแล้วแต่ชั่วร้ายทั้งนั้น
สาเหตุมาจากพ่อของเขาในอดีตเมื่อ 4 ปีก่อนได้ถูกลูกหลงและตายไปด้วยฝีมือของมนุษย์หน้ากาก วิหคขาวตัวปลอมของฉัตรเทพโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงทำให้เขามีความทรงจำไม่ดีกับพวกมนุษย์หน้ากากทั้งหลาย ยิ่งพอมาเจอหงส์ฟ้าทำความชั่วอีก ยิ่งทำให้เขารับไม่ได้ และสิ่งสำคัญที่สุด ก็คือเนเน่ คนที่เขาได้เจอและปะมือกันมาล่าสุด จึงทำให้เขาสับสนไปหมดแล้วว่าอยู่ข้างไหนดี ดลได้แต่จ้องมองวิหคขาวและพิราบเทา กลัวว่าจะเป็นแผนร้าย แกล้งตบตาทำเป็นคนดี ดลไม่สนใจใครนอกจากวิหคขาวเพียงคนเดียว
“วิหคขาว แกฆ่าพ่อฉัน ฉันต้องแก้แค้นให้ได้ ฉันตามหาแกมาหลายปีแล้ว หายังไงก็ไม่เจอ ไม่นึกเลยว่า บทจะเจอ มันช่างง่ายดายเสียจริง”
ดลรำพึงรำพันคนเดียวในใจ ด้วยสายตาที่อาฆาตและเคียดแค้น
“ถล่มมัน อย่าให้พวกมันทั้ง 4 คนหลุดรอดไปได้ ปืนที่มีอยู่ในมือพวกแกมีไว้ทำไม ยิงเข้าไปซิ ไอ้พวกซื่อบื้อ”
สิ้นเสียงบิงซู ลูกน้องอีกนับ 20 คนก็รัวปืนกลกราดไปที่วิหคขาวและพิราบเทาทันที ทั้งสองสาวกระโดดหลบ และใช้อาวุธลับที่เหลือบางส่วนปาใส่พวกที่รัวปืนทันที ดับไปบางส่วน จากนั้น ก็ตรงเข้าประชิดตัวทันที สู้กันอยู่ได้ไม่นาน เสียงหวอของตำรวจกองปราบดังมาแต่ไกล
“ตำรวจมาเฮีย” ตุ้มตะโกนบอกบิงซู
“ก็หนีซิวะ หลบไปก่อน แล้วคืนพรุ่งนี้เจอกันตามที่นัดหมาย”
“ได้เฮีย” กวงรับคำลูกพี่
“พวกเราถอย” กวงตะโกนบอกลูกน้องที่กำลังสู้อยู่กับวิหคขาวและพิราบเทา
“แยกย้าย แล้วเจอกันที่จุดนัดพบคืนพรุ่งนี้” ตุ้มรีบคว้ากระเป๋าหนังเจมส์บอนด์สีน้ำตาลเข้มวิ่งฝ่าวงล้อมออกไปทันที
ก่อนที่ตุ้มจะวิ่งออกไป เนเน่ใช้แรงเฮือกสุดท้ายปาเครื่องติดตามตัวจิ๋วไปติดไว้ที่กระเป๋าเอกสารของมัน
“เฮ้ย เก่งจริงอย่าหนีซิวะ อีโธ่ ไม่แน่จริงนี่หว่า” ปูนตะโกนตามหลังไป
“ไปดูไอ้เน่กับเด็กคนนั้นก่อนปูน เร็ว”
>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<
โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 6 .. “ ต่างคนต่างใจ ”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 416
แสดงความคิดเห็น