บทที่ 21 อีกฝั่ง

มนตราสะท้านโลกา
คุณกำลังอ่าน: มนตราสะท้านโลกา

-A A +A

บทที่ 21 อีกฝั่ง

เนกิยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อพบว่าเขาสามารถจัดการกับศัตรูตรงหน้าได้อย่างง่ายดาย สำหรับเด็กหนุ่มเรื่องนี้มันไม่ได้เกินความคาดหมาย จากที่เขาลองประเมินพลังดูคร่าวๆ เขาก็พบว่าพลังของเขาสามารถเอาชนะชายตรงหน้าได้ เมื่อเขาคิดวิเคราะห์เสร็จเขาถึงเริ่มลงมือต่อสู้ 

เด็กหนุ่มใช้เวลาสังเกตการณ์ไม่นาน เมื่อพบว่าตอนนี้พลังเวทย์ของศัตรูได้หายไปเรียบร้อยแล้วเขาจึงถอนหายใจและลดการป้องกันตัวลง เนกิวาดวงเวทย์ขึ้นอีกครั้งเพื่อกางเวทอาณาเขตเพื่อปกป้องสองสาว เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จสิ้นเขาจึงเตรียมตัวจะออกเดินทางไปช่วยเหลือไอ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าสิ่งนี้ไม่จำเป็นกับอาจารย์ของเขาก็ตาม ไอยราเป็นนักเวทย์หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้ ลองจากเฟรมมิวและเฟรย่าที่เป็นนักเวทย์สาวอันดับต้น ๆ ที่มีพลังมหาศาล 

ผู้คนส่วนใหญ่ในโลกใบนี้คิดว่าคนที่มีพลังเวทมนต์ธาตุบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าพวกที่มีพลังเวทย์ 2 หรือ 3 ธาตุ ในร่างกาย สาเหตุก็เป็นเพราะว่ายิ่งมีพลังเวทย์หลายธาตุมากเท่าไหร่วงเวทย์ในร่างกายก็จะพัฒนาช้า กล่าวง่ายๆคือคนที่มีพลังเวทย์เยอะก็จะยิ่งใช้เวลาฝึกเวทมนต์ธาตุนั้น ๆ เยอะตามไปด้วย 

ดังนั้นการมีพลังเวทย์เยอะก็คือเรื่องต้องสาปของนักเวทย์สายบริสุทธิ์ เนื่องจากว่าการใช้มนตราสามารถแปรธาตุพลังมนตราได้ ดังนั้นการมีธาตุหลากหลายในร่างกายจึงไม่ใช่เรื่องจำเป็น 

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะมีนักเวทส่วนใหญ่คิดอย่างนั้น แต่ในโลกนี้ก็ยังแบ่งนักเวทย์อีกประเภทหนึ่ง นั่นก็คือพวกนักเวทย์ที่บูชานักเวทย์ที่มีพลังหลากหลายธาตุว่าเป็นอัจฉริยะ นักเวทย์ที่มี 2 ธาตุขึ้นไป จะถูกเรียกว่าอัจฉริยะ หรือจักขนานนามว่านักเวทผหุธาตุ ถึงแม้ในโลกใบนี้จะมีนักเวทย์ที่คิดต่างกันก็ตาม 

แต่สำหรับเนกิ เขาไม่ได้มองว่าไอยราเป็นอัจฉริยะเพราะเธอมี 2 ธาตุในร่างกาย แต่เด็กหนุ่มกลับมองว่าอาจารย์ของเขามีพลังที่ลึกลับมากกว่านั้น 

เขาละสายตาออกจากสองสาวก่อนที่จะเตรียมตัวทะยานร่าง เสียงของน้องสาวก็ฉุดให้เขาหยุดฝีเท้า เขาเปลี่ยนสายตามามองน้องสาวที่เพิ่งตามมา 

“ไม่ต้องไปหรอกนะพี่ เพราะว่าอีกไม่นานอาจารย์ก็จะสู้เสร็จแล้ว ไม่สิถ้าจะบอกให้ถูกมันไม่ใช่การต่อสู้ด้วยซ้ำ”

“หมายความว่ายังไงนากิ เธอใช้เนตรหมื่นลี้ตรวจสอบแล้วอย่างนั้นเหรอ”

สิ้นคำถามของพี่ชาย น้องสาวก็พยักหน้ารับ “ใช่แล้ว หนูลองมองดูแล้วพบว่าอาจารย์กับสตูคุยอะไรบางอย่าง จากการคาดเดาอีกไม่นานก็คงจบแล้ว แต่ว่าหนูเป็นห่วงทางด้านรูรุมากกว่า”

“หมายความว่ายังไงหมอนั่นมีปัญหาอะไรอย่างนั้นเหรอ หมอนัดถูกลักพาตัวมาก็จริงแต่ว่าคงไม่อ่อนแอถึงขนาดไม่สามารถเอาตัวรอดได้หรอกมั้ง”

“มันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิพี่ สิ่งที่ทำให้หนูแปลกใจนั่นก็เพราะว่า หนูไม่สามารถใช้เนตรมองไปยังที่แห่งนั้นได้เลย หนูก็รู้ดีว่าป่ามรณะเป็นที่ที่มีพลังเวทย์หนาแน่น แต่ว่าทุกครั้งที่หนูเคยมองไปมันสามารถตรวจสอบสภาพพื้นที่รอบๆนั้นได้ แต่ว่าวันนี้หนูกลับมองไม่เห็นอะไรเลย เหมือนกับว่ามันมีหมอกบางอย่างปกคลุมที่แห่งนั้นอยู่”

เนกิมีท่าทีตึกตรองคำกล่าวของน้องสาวของตน เขาเริ่มลังเลใจว่าจะไปยังปลามรณะตรงจุดที่เพื่อส่งเขาอยู่ หรือว่าจะไปยังจุดที่ไอยราอยู่กันแน่ แต่ก่อนที่เขาจะได้เคลื่อนร่างไปน้องสาวก็กล่าวเสริม

“ความจริงเราไม่ต้องไปไหนเลยก็ได้ ท่านคะไม่ผิดเป้าหมายของพวกนี้ก็คือน้องสาวของอาจารย์ ดังนั้นการที่เราอยู่ที่นี่ก็คือการคุ้มกันน้องสาวของอาจารย์ แล้วเราก็ต้องห่วงอีกเรื่องนึงแล้วก็คือวิญญาณในร่างของอาสึนะ เรื่องนี้นอกจากพวกเราก็ไม่มีใครรู้ ดังนั้นการที่องค์กรนี้รู้เรื่องหนูว่าต้องมีคนใดเป็นหนอนบ่อนไส้”

“เรื่องนี้มันพูดยาก พี่ไม่คิดว่าจะมีคนในเป็นหนอนบ่อนไส้ นอกจากเพื่อนสนิทอาสึนะก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้กับใครรู้ ดังนั้นองค์กรนี้คงจะหาวิธีสืบสาวราวเรื่องมาเองเป็นแน่”

คำกล่าวของเด็กหนุ่มนั้นทำให้น้องสาวของตนหยุดคิด นากิเลิกคิ้วอย่างสงสัย ตอนนี้คิ้วของเธอขมวดเป็นโบว์ก่อนที่เธอจะตัดสินใจมองไปยังรุ่นน้องที่มีชะตากรรมน่าสงสาร 

ตั้งแต่เกิดมาอาสึนะก็ถูกผนึกวิญญาณตนนี้เข้าสู่ร่างกาย ถึงแม้ว่าเด็กสาวจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างปกติ  แต่ว่าหากเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากให้ปีศาจเข้าไปอาศัยอยู่ในร่าง 

 เรื่องนี้ขนาดเบื้องบนในอาณาจักรก็ยังไม่มีใครรู้แล้วจะสืบสาวราวเรื่องมาได้ยังไง หนูว่ามันแปลกๆอยู่นะ แต่ว่าต่อให้เราคิดเราก็ไม่มีทางรู้อยู่ดี เราต้องไปถามอาจารย์ไอยรา ถึงแม้ว่าอาสึนะจะไม่ใช่น้องสาวแท้ๆของอาจารย์ แต่ว่าอาจารย์ก็มองว่าเด็กคนนี้เป็นน้องสาวแท้ๆ ดังนั้นหนูคิดว่าเรื่องนี้อาจารย์คงไม่ปล่อยไปแน่ๆ”

เนกิเห็นพ้องด้วย “ใช่แล้ว แต่ว่าพวกเราก็ต้องหาวิธีสืบเรื่องนี้ให้ได้ ยังไงพี่ก็ไม่ยอมให้ใครก็ตามมาไล่เด็กคนนี้ออกจากโรงเรียนของพวกเราเด็ดขาด ถึงแม้ว่าปู่ของเธอจะเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนมนตรา แต่ว่าโรงเรียนบาบิโลเนียก็ยังมีผู้บริหารอีก 2 คน”

“หมายความว่า ข้อ 2 ใน 3 คนนั้นอนุมัติให้ให้ไร่น้องอาสึนะออกจากโรงเรียน ปู่ของน้องก็ไม่สามารถทำอะไรได้ มติ 2 ใน 3 คือเอกฉันท์ถ้าอย่างนั้นที่ผ่านมา อาจารย์ต่อลองกับใคร ไม่ใช่ดรศิลา กับด็อกเตอร์เฟรย่า ที่เป็นผู้บริหารหลักหรอพี่”

เนกิสั่นหัว “ไม่ใช่หรอกการทำงานของโรงเรียนเวทย์มนต์มีมากกว่านั้น การทำงานของโรงเรียนของพวกเราจะอนุมัติต่อเมื่อ”

เด็กหนุ่มหยุด ก่อนที่จะตกใจเพราะเขาเผลอคุยเม้าท์มอยกับน้องสาวของตนเองจนลืมว่าจะทำอะไร  ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดเรื่องนี้นี่ พี่ลืมไปเลยว่าพี่จะไปช่วยหมอนั่นดีหรือเปล่า”

นากิสั่นหัว เธอไปนั่งลงข้าง ๆ อาสึนะ ก่อนที่จะลูบหัวของรุ่นน้องของตนเอง “อย่าไปให้เสียเวลาเลย ไปก็จะเป็นตัวถ่วงแข่งถ่วงขาของอาจารย์เปล่า ๆ เชื่อหนูสิอยู่ที่นี่รออาจารย์ดีกว่า แล้วอีกอย่างถ้าพี่ไปด้วยการใช้พลังเวทย์เคลื่อนย้าย พี่ไปถึงป่ามรณะได้อย่างรวดเร็วก็จริงแต่ว่าก็คงไม่มีแรงไปสู้กับใครหรอก”

เนกิถอดถุงมือเวทมนตร์ออกมาก่อนที่จะนั่งลงข้างๆน้องสาวของตนเอง “ถ้าอย่างนั้นเราก็มีหน้าที่แค่เฝ้ารอเท่านั้น อันที่จริงพี่ก็ขี้เกียจแล้วด้วย ใช้พลังไปเยอะแล้วด้วยนี่นะวันนี้ ว่าแต่ที่ตามมาที่นี่แสดงว่าคิดจะไปทำภารกิจด้วยใช่หรือเปล่า”

นากิ คุ้นคิด อยู่สักพักเธอจึงตัดสินใจบอกตามตรง “ยังไม่ได้คิดเลย แต่คิดว่าคงจะไปด้วยละมั้ง ไหนๆหนูก็ว่างๆ กะว่าจะไปยืดเส้นยืดสายสักหน่อย แต่ว่ายังไม่ได้ชวนโมโมะเลย 

 “อย่าชวนเลย เรื่องนี้มันเป็นความลับระหว่างอาณาจักร ถ้าไม่ใช่พวกเราเห็นข้อความของอาจารย์พร้อมๆกันพี่ก็ไม่คิดจะบอกเราอยู่แล้ว พี่ไม่อยากให้เราไปเสี่ยงอันตรายกับพี่”

“อย่างนั้นหรอ หนูกลับบอกว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องตื่นเต้น ไปที่การสำรวจพื้นที่รอบๆเท่านั้นแหละ”

ทางฝั่งของไอยรา 

หญิงสาวมองอากาศที่แสนว่างเปล่า ชายตรงหน้าหายไปราวกับว่าไม่เคยมีตัวตนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ความจริงเธอก็อยากกลับไปหาน้องสาวของเธอ อีกใจหนึ่งก็ห่วงน้องชายที่กำลังต่อสู้ หากเธอขาดไม่ผิดตอนนี้ลูกศิษย์ของเธอคงจะสามารถเอาชนะพวกนั้นได้อย่างง่ายดาย 

“เอายังไงดีเรา จะไปทางไบรท์หรือจะไปทางอาสึนะ ถ้าไปทางอาสึนะตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรแล้ว ถ้าคิดไม่ผิดเด็กคนนั้นน่าจะชนะได้ ถ้าอย่างนั้นคงต้องไปทางไบรท์ แต่ว่าก่อนอื่นต้องรายงานเรื่องนี้ให้กับท่านเฟรย่ารู้เสียก่อน ถ้าท่านเสียยังไม่รู้ว่าตอนนี้มีคนแทรกแซงภารกิจ เราก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่”

หลังจากที่เธอรำพึงรำพันกับตนเอง เธอก็ติดต่อหาเฟสหญ้าโดยการใช้เครื่องมือสื่อสาร ที่เรียกว่าโทรศัพท์ในทันที มือถือขนาดเล็กถูกหยิบขึ้นมา ก่อนที่ไอจะกดมือถือหาเฟรย่าในทันที เพียงไม่นานโทรศัพท์ก็ถูกกดรับก่อนที่หญิงสาวจะกรอกเสียงลงไป 

“ฮัลโหล นี่ไอพูดสายนะคะ ไม่ทราบว่าตอนนี้กำลังคุยกับท่านเฟรย่าหรือเปล่า”

เสียงปลายสายตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว  “ใช่แล้วหนูไอยรา เฟรย่ารับสายมีอะไรอย่างนั้นหรอ ตอนนี้ขึ้นรถยนต์กำลังมุ่งหน้าไปคุกนรกใช่หรือเปล่า”

“ไม่ใช่ค่ะ ตอนนี้หนูกำลังถูกองค์กรองค์กรหนึ่งขัดขวางภารกิจ หนูไม่รู้ว่าองค์กรนี้คือใครแต่เป้าหมายขององค์กรนี้คืออาสึนะ”

“เป้าหมายคือลูกศิษย์ของเธอ มันจะมาเอาเจ้าสิ่งนั้นใช่หรือเปล่า แสดงว่าเรื่องนี้มันเป็นความจริง องค์กรนี้กำลังตามหน้าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในยุคสมัยเดียวกับคุณพ่อของพวกเธอ เป็นโครงการที่คุณพ่อของเธอเคยทำมาก่อน ดังนั้นการมอบหมายภารกิจนี้ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องและควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง”

ไอหยุด ในใจเธอสาปแช่งหญิงที่กำลังถือสาย สำหรับเธอเรื่องบรรพบุรุษที่เคยทำมันไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย เธอก็แค่อยากเป็นครูในโรงเรียนเวทมนต์ธรรมดาธรรมดา ที่ใช้ชีวิตธรรมดาธรรมดาโดยที่ไม่ต้องสนใจใคร จะดูเหมือนว่าสิ่งที่เธอวาดหวังจะไม่มีทางเป็นจริง 

บิดาที่ถูกขนานนามว่าเป็นว่าร้ายของโลกนี้ ดีก่อกรรมทำเข็ญกับคนที่อยู่ในโลกเวทมนต์เกินกว่าที่จะให้อภัย แต่ว่าที่เธอสามารถอยู่ในโลกนี้ได้ก็เพราะการปิดบังข้อมูลของโรงเรียนเวทย์มนต์ ประวัติที่เกี่ยวกับพ่อของเธอถูกลบรักไปจนสิ้น แต่การทำอย่างนั้นก็ต้องแลกกับสิ่งที่เธอต้องตามชดใช้ รถก็คือต้องทำงานให้กับโรงเรียนเวทมนตร์และอาณาจักรบาบิโลเนียไปตลอดชีวิต

ข้อตกลงนี้ไม่ได้ถูกบอกไปยังปู่ย่าของเธอ นั่นก็เพราะว่าสำหรับเธอเรื่องของพ่อและแม่ที่ทำไว้เธอต้องชดใช้ ตอนที่เธอสามารถเรียนได้ดีแน่นคงเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก หรือไม่ได้อาจจะเป็นเพราะสายเลือดต้องสาปที่ได้รับมายังไม่เต็มใจนัก

“ฟังอยู่หรือเปล่าหนูไอยรา”

ไอยราสะดุ้งจากภวังค์ เธอรีบขานรับปลายสาย “ว่าอะไรนะคะ พอดีสัญญาณแถวป่ามรณะไม่ค่อยดี หนูเลยไม่ค่อยได้ยินสิ่งที่ท่านพูด”

“ฉันบอกว่าถ้าเป็นอย่างนี้ภารกิจที่ฉันให้เธอไปคงจะต้องยกเลิก แต่ว่าฉันคิดไปคิดมาอีกทีแล้วก็คงไม่สามารถยกเลิกภารกิจนี้ได้เป็นแน่ ดังนั้นฉันจะให้เธอไปกับนักเรียนของเธอ”

“หมายความว่าท่านจะให้หนูเลือกนักเรียนไปได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอคะ”

“ใช่แล้วจ้า หนูสามารถเลือกนักเรียนที่จะไปทำภารกิจนี้ได้ตามใจชอบ จะเอาไปเพิ่มหรือจะลดนักเรียนก็ตามใจ ดูตามความเหมาะสมได้เลย แต่ว่าการเดินทางต้องรวดเร็วและภารกิจต้องเสร็จสมบูรณ์ ถ้าตรงตามเงื่อนไขนี้จะเอาใครไปก็ได้ จากที่ฉันดูฉันคิดว่าภารกิจนี้คงมีคนได้เป็นหนอนบ่อนไส้เป็นแน่ หรือถ้าเกิดฉันขาดไม่ผิดอีกกรณีนึงที่จะเป็นไปได้ก็คือ”

เฟรย่าเว้นระยะ ก่อนที่จะพูดด้วยความหนักแน่น “พวกเราทุกองค์กรนี้วางแผนซ้อนแผนเอาไว้ มันต้องการหลอกล่อพวกเราด้วยการปลดผนึก ศาสตราจารย์ดรเอ็ดเวิร์ด ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านชีวะเวทย์มนต์วิทยา”

สิ้นคำของเฟรย่า ไอยราก็ตะโกนขึ้น “แสดงว่าเป้าหมายของพวกมันก็คือ การคืนชีพมนุษย์ งานวิจัยที่พวกมันสนใจก็คือการโคลนนิ่งร่างกาย ทฤษฎีเกี่ยวกับการสร้างสรรค์โฮมุนครุส และอีกอย่างที่ขาดไปไม่ได้ก็คือศิลาแห่งชีวิต”

“ฉลาดเฉลียวสมกับเป็นหนูไอยรา แต่ว่าเรื่องนี้ก็ไม่สามารถให้ใครดูได้เพราะว่ามันเป็นแค่การสันนิษฐานของพวกเราเท่านั้น ฉันหวังว่าเรื่องนี้จะไม่มีใครรู้นอกจากฉันเธอแล้วก็ศิลา ถ้าเรื่องนี้ถูกคนข้างนอกรู้แล้วก็อาณาจักรของเราก็จะเสียชื่อเสียง โรงเรียนของเราที่สร้างผู้ร้ายก็จะถูกนานาอารยประเทศถล่ม ประเทศนี้อาจจะไม่มีจุดยืนอีก”

“รับทราบแล้วค่ะ เรื่องนี้จะไม่มีใครรู้อย่างเด็ดขาดฉันขอปฏิญาณด้วยเกียรติของนักรบ แต่ว่าถ้าเราปล่อยเรื่องนี้เอาไว้พวกเราจะตามแก้ได้จริงๆหรอคะ ดูท่าทางแล้วพวกที่มาโจมตีฉันมีพลังเวทย์มากมายและมีเทคนิคหลากหลายมาก ตอนนี้ฉันก็ติดกับเวทมนตร์มายาอยู่ ทำให้ไม่สามารถออกไปไหนได้”

“อย่างนั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นจะให้ฉันส่งกำลังเสริมไปช่วยหนูไหมล่ะจ๊ะ”

“ไม่หรอกค่ะ เพราะว่าที่นี่มีกำลังที่จะช่วยเหลือหนูได้มากพอแล้ว งั้นเลิกกันนะคะเดี๋ยวหนูจะทำภารกิจให้เสร็จสิ้น”

“จ้าถ้าอย่างนั้นเลิกกันนะ ถ้ายังไงก็รายงานสถานการณ์มาให้ฉันรู้ด้วย”

“รับทราบแล้วค่ะ “ สิ้นคำกล่าวเธอก็กดวางสายในทันที ไอยราเตรียมตัวจะพุ่งร่างเพื่อไปช่วยน้องชาย แต่ทันใดนั้นเองเธอก็สัมผัสได้ถึงบ้างสิ่ง พลังเวทย์มหาศาลทำให้หญิงสาวรู้ได้ทันทีว่าน้องชายของตนได้อัญเชิญบางสิ่งมาจากต่างมิติ 

‘ไม่จริงอย่าบอกนะว่าเจ้านั่นสามารถอัญเชิญสิ่งนั้นมาเป็นทาสรับใช้ได้’

 riter talk 

สวัสดีนักอ่านที่กำลังติดตามผลงานทุกท่านนะครับ ผมจะทยอยอัพนิยาย 3 วันต่อตอน ถ้าใครสนใจก็ติดตามอ่านเรื่องนี้ไม่เทแน่นอนครับ ส่วนคนที่สงสัยว่าทำไมถึงไม่แต่งนิยายเรื่องเกิดใหม่เพื่อไปเปลี่ยนโลกต่อ มันก็เป็นเพราะว่าตอนนี้กำลังทำการแก้ไขและปรับปรุงเนิยายเรื่องเกิดใหม่เพื่อไปเปลี่ยนโลก 

2 เนื่องจากการเขียนนิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ 2 ทำให้สำนวนคงที่และไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำนวนครับ แต่ว่าเนื่องจากกราฟนี้เป็นดร๊าฟแรก หากมีคำผิดหรือคำตกหล่นประการใดผมก็ขอประทานอภัยมาณที่นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.