ตอนที่14: พวกปีศาจและเธอคนนั้น
มือของซีคเอื้อมไปจับที่ด้ามดาบโดยไม่รู้ตัว
‘ ข้าควรใจเย็นกว่านี้เธอยังไม่ใช่ศัตรู อย่างน้อยก็ในตอนนี้ ’
ก่อนที่เขาจะตายแล้วได้โอกาสเริ่มต้นใหม่ เธอเป็นหนึ่งในศัตรูของเขาที่รวมตัวกันมาเพื่อล้มเขาในฐานะจอมมาร
ควรจะมองว่านี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเจอกันจะถูกกว่า แต่เหมือนความทรงจำครั้งนั้นยังสดใหม่เหมือนการต่อสู้เพิ่งจะจบไป ความรู้สึกไม่สบายใจนี้ใช่ว่าจะลบออกไปง่ายๆ
“ ท่านหญิงลูเบลล่าเรื่องแค่นี้เองครับ ท่านไม่จำเป็นต้องออกมาด้วยตัวเองเลยนะครับ ” อัศวินที่อยู่ใกล้เธอคนนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกังวล
อย่างไรก็ตามไอเนะ ลูเบลล่า เธอกลับส่ายหัว
“ ไม่เป็นไรหรอกคะ พวกเราเป็นฝ่ายเข้าไปขอร้องนะ "
“ ควรเป็นข้าที่เป็นตัวแทนในการพูดหนะถูกต้องแล้ว ”
“ แต่เราไม่รู้สถานะพวกเขาเลยนะครับ เป็นใครหรือมีอันตรายไหม ”
“ ความเมตตาอันศักดิ์ศิทธิ์ของเทพการุณา ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นหรอกนะ ” ราวกับเธอกำลังบรรยายคำสอน ลูเบลล่าพูดอย่างจริงจังพร้อมรอยยิ้ม
“ และถ้าเกิดอันตรายขึ้น พวกท่านก็คอยปกป้องเราอยู่ไม่ใช่หรอ ”
คำพูดของเธอทำเอาเหล่าอัศวินรู้สึกอบอุ่นกว่าเดิม แต่นั่นยิ่งทำให้อัศวินพวกนั้นปกป้องเธอมากขึ้นอีก
“ ไม่ต้องห้ามเธอแล้ว พวกเจ้าเปลี่ยนใจเธอไม่ได้หรอก ปล่อยให้เธอทำสิ่งที่ต้องการเถอะ ” น้ำเสียงหนักแน่นดังออกมาจากรถม้า มีหนึ่งคนเดินลงมาจากรถม้าคันเดียวกับนักบุญหญิง
' ผู้ชายคนนั้นคือ! '
ซีคที่ใจเย็นลงแล้วตอนที่ได้ยินนักบุญหญิงคุยกับอัศวิน แต่การปรากฎตัวของชายคนนี้ทำซีคตื่นตัวเต็มที่ทันที เพราะชายคนนี้ซีคก็รูู้จัก
แววตาที่เป็นกันเอง เคราและผมสีเงิน
ชายชราดูใจดีคนนี้มีบรรยากาศรอบตัวที่ดูโอบอ้อม รูปลักษณ์ภายนอกหัวเราะคิกคักอารมณ์ดี ชื่อเล่นฉายาถูกเรียกนับถือ อย่าง ดาบของเทพการุณา ต้นแบบของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ผู้พิทักษ์องค์เทพ มากมายเต็มไปหมด
แต่ซีคคุ้นเคยชื่อนี้มากกว่า ‘เครื่องจักรสังหารแห่งแทสเนีย’
ในยุคก่อนที่ซีคจะถูกเรียกว่าจอมมาร มันยังมีคนกลุ่มหนึ่งอย่าง ' ไอ้พวกปีศาจ' พวกนี้จริงๆแล้วไม่ถูกนับว่าเป็นมนุษย์แล้ว พวกเขาถูกมองว่าเป็นปีศาจมากกว่า
พวกเขาปฎิเสธทุกอย่างในสังคมมนุษย์เกลียดความสงบสุข รักในความวุ่นวายสบสนและการนองเลือด ทัศนคติที่แข็งกร้าวเลวร้ายทำให้คนส่วนใหญ่เดือดร้อน หวาดกลัวและไม่ชอบพวกนี้เลย จริงๆแล้วก่อนซีคถูกเรียกว่าจอมมารเขาก็เป็นกลุ่มคนเหล่านี้เหมือนกันนะ ‘ ไอ้พวกปีศาจ ’
ตอนยุคความวุ่นวายนั้น ‘ ไอ้พวกปีศาจ ’ ทรงอำนาจอย่างแท้จริงเกือบปกคลุมได้ทั้งโลก เสียตรงที่พวกนั้นเหมือนมังกรไม่มีหัวทำลายกันเองแย่งชิงความเป็นใหญ่ ไม่ถูกแทรกแซงก็ถูกทำลายไปจำนวนลดลงเรื่อยๆ ส่วนที่เหลือรอดมาได้กลายเป็นจอมมารทีละตนพร้อมกองทัพ สุดท้ายก็ถูกเหล่าวีรบุรุษรวมตัวกันปราบลง
และชายชราที่ยืนหัวเราะ'โฮ่ โฮ่!'ตรงหน้าคนนี้ในช่วงสงคราม ฆ่าปีศาจร้ายด้วยตัวเองไปเยอะมาก เหตุการณ์สำคัญที่ทุกคนรู้จักเขาจนได้ฉายา‘เครื่องจักรสังหารแห่งแทสเนีย’คือ…
' บนที่ราบแทสเนีย เขาได้ฆ่าปีศาจชื่อดังไปหกตนพร้อมผู้ติดตามไปในเหตุการณ์เดียว '
เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นบริเวณที่ราบแทสเนีย คล้ายๆว่าช่วงนั้นจะถูกเรียกว่าช่วงเริ่มต้นยุคของพวกปีศาจ พวกมันยังไม่มีอำนาจมากเท่าไหร่หรอกแต่ไม่ธรรมดาแน่นอน ที่น่าเหลือเชื่อคือชายชรานี้กวาดล้างทีเดียวหกตนพร้อมผู้ติดตามพวกมันจนหมดสิ้น
‘ เครื่องจักรสังหาร—ไม่รู้ใครเป็นคนเริ่มแต่เป็นชื่อที่ดีจริงๆ ’
อาจดูเป็นชื่อที่ไม่เข้าเลยกับการเป็นสาวกเทพการุณา แต่สำหรับใครที่เป็นศัตรูไม่มีชื่ออื่นเหมาะสมกว่านี้อีกแล้ว
‘ ถ้าต้องสู้กันตอนนี้พลังที่เรามี คงไม่พอจะสร้างรอยขีดข่วนเลยมั้ง ’
ตอนนี้ซีคกำลังแข็งแกร่งขึ้นแบบทวีคูณ แต่มันพึ่งผ่านมาไม่นานเองที่เขาเริ่มฝึกใหม่ และเหมือนพวกเขาจะคุยกันเสร็จแล้วจึงเดินเข้ามาใกล้ซีค
‘ เวรเอ้ย ด้วยพลังของพวกนั้นเราเอาไม่อยู่แน่ ’
หนึ่งคือเครื่องจักรสังหารที่ซีคตอนนี้ไม่น่าจะฟันเขาได้สักแผล อีกคนดันเป็นเธอ ยัยผู้สร้างซอมบี้ต่อให้เขากัดเธอได้ก็คงลบรอยแผลทันที ถึงตอนนี้เธอคงคล้ายซีคที่ยังอ่อนแอไม่ใช่คนเดียวกับเวลานั้น แต่แค่นี้ก็พอทำให้เขาใจเต้นรัวแล้ว
“ พวกท่านเป็นอย่างไรบ้างค่ะ ”
“ ก็ดี ท่านมีธุระอะไรกับพวกข้าหรือ ”
ซีคหยุดความคิดหยุ่งเหยิงตัวเองไว้ก่อน เขาทำใจสงบแล้วตอบนักบุญหญิงอย่างสุภาพ?
“ ข้าขอโทษที่ต้องมารบกวนเวลาพวกท่าน ตัวข้าผู้รับใช้เทพการุณา ไอเนะ ลูเบลล่าค่ะ ”
' เวลานี้เธอยังไม่ได้ขึ้นเป็นนักบุญสินะ '
เขารู้ว่าผู้ที่ขึ้นเป็นนักบุญแล้วจะมีชื่อกลางว่า ไพรเมล
ตอนซีคเจอเธอครั้งแรก—ไม่สิตอนเขาสู้กับเธอ ชื่อเต็มเธอคือ ‘ไอเนะ ไพรเมล ลูเบลล่า’
‘ เธอน่าจะอยู่ในช่วงคัดเลือกนักบุญ ’
คารุวิมานจะมีการทดสอบเพื่อคัดเลือกให้เป็นนักบุญแค่หนึ่ง จากบรรดาผู้มีสิทธิ์หลายคน
หลัังจากลูเบลล่าพูดเสร็จ ไอ้แก่เครื่องจักรสังหารก็มาแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มเหมือนกัน รอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้น แต่ซีคมองแง่ร้ายว่า รอยยิ้มของนักล่าที่สวมหนังแกะอยู่มากกว่า
“ โฮะๆ ตัวข้า เบลลี่ เวคก์ รวมถึงพวกเขาที่อยู่ด้านหลัง เป็นนักรบและผู้รับใช้เทพการุณาเช่นกัน ” อัศวินศักดิ์สิทธิ์ด้านหลังพยักหน้าเล็กน้อยมาทางซีค
“ ส่วนข้ามีนามว่า ซีค ”
ซีคทิ้งนามสกุลสตีลวอลล์แล้ว แถมตอนนี้ยังลองคิดใช้ชีวิตในทางทีดีบ้าง เขาลังเลว่าจะใช้นามสกุลมัวร์อย่างตอนที่เป็นจอมมารดีไหม ตอนนี้เลยตัดสินใจใช้แค่ซีคไปก่อน ลูเบลล่าและเวคก์ก็มองข้ามเรื่องนี้เพราะไม่สำคัญ
‘ ตั้งแต่ที่ตั้งใจไว้ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ’
“ ฮาน เจ้าก็ทักทายด้วย…” ซีคมองไปทางฮานแล้วนิ่ง
' ไอ้หนูนี้กล้าจริงๆแหะ
ฮานจ้องมองทางลูเบลล่าด้วยใบหน้าตลก รูม่านตานิ่งไม่มีการกระพริบ ปากก็อ้าค้างไม่หุบลงเหมือนน้ำลายจะไหลได้ทุกเวลา
‘ ไม่แปลกหรอกที่จะออกอาการขนาดนี้ ’
ยัยผู้สร้างซอมบี้เล่นสวยยิ่งกว่าภาพวาดใดๆ
‘ ทำให้นึกถึงเกล็นรวมถึงคนอื่นในปาร์ตี้นั้นเลย หน้าตาดีกันหมดเหมือนรวมตัวกันเพื่อสร้างบ้านตุ๊กตา ’
แต่คงไม่ใช้เหตุผลนั้นหรอกเพราะแต่ละคนมีทักษะความสามารถเข้ากันได้ดี ‘ ก็พวกนั้นไม่ได้รวมตัวกันเพื่อมา แคสต์บทหนังนี่หว่า ’
‘ ตอนนี้ควรดูแลไอ้หนูนี้ก่อน ’ ซีคหันความสนใจมาที่ฮานอีกครั้ง
ฮานที่ยังตาค้างจ้องแต่ลูเบลล่า โชคดีที่เธอยิ้มและเขินอายเล็กน้อยแทน อัศวินคนอื่นๆรวมถึงเวคก์เหมือนจะคุ้นเคยกับมันเพราะรู้ว่าทำไม แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมองทิศทางที่ดี เริ่มมีบางคนไม่พอใจแล้ว
“ เฮ้ ตั้งสติหน่อย ”
โป็กก!
“ โอ้ย ท่าน…” หลังจากโดนตบเข้าที่หลังศีรษะ ฮานก็เอามือกุมหัวโค้งศรีษะลง
“ ผู้ชายคนนี้ชื่อฮาน เขาเป็นผู้ติดตามของข้า ”
“ ข-เข้าใจแล้วคะ ” ลูเบลล่าดูสงสารที่เห็นฮานเจ็บตัว
“ ว่าแต่ ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลยว่าต้องการให้ช่วยอะไร ”
“ อา คือพวกเราวางแผนจะตั้งแคมป์ค้างคืนแถวนี้ พวกเราต้องการคำแนะนำจากพวกท่าน ”
บริเวณที่พวกซีคตั้งแคมป์เป็นพื้นที่เปิดโล่ง มีวัชพืชขึ้นอยู่แค่เล็กน้อยและร่องรอยกองไฟที่ดับไปแล้วหลายจุดน่าจะเคยมีคนมาตั้งพักกันบ่อย ไม่เหมือนที่อื่นที่ต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมด
‘ นี้ว่าที่นักบุญเดินมาพูดเองเลยหรอ เกินคาดแหะ ’
ซีครู้สึกเห็นเรื่องอัศจรรย์ ไม่-เขาแค่ประทับใจรวมถึงไม่เข้าใจ เธอคงเป็นมนุษย์ประเภทที่ไม่เหมือนคนอย่างเขา
‘ นี่เขาเรียกว่าอะไรกันนะ เออใช่ '
' คนจิตใจดีสินะแบบนี้ ’
จนถึงตอนนี้ซีคยังนึกภาพตัวเองที่เป็นแบบนี้ไม่ออกเลย
" ได้แน่นอน "
ซีคพยักหน้าให้
* * *
เต้นท์ใหญ่สำหรับพักค้างคืนถูกตั้งขึ้นโดยเหล่าอัศวินและคนของศาสนจักรคารุวิมาน ด้วยขนาดรถม้าที่ใหญ่ทำให้ว่าทีนักบุญหญิงอย่างลูเบลล่านอนพักในนั้นได้เลย
“ กำลังมองอะไรอยู่ละ ”
“ครับ-ครับ ท่านซีค?” ฮานลนลานเหมือนถูกจับได้ว่าขโมยของ สายตาของเขาไม่ห่างออกจากรถม้ามาสักพักแล้ว
“ สติเจ้าลอยไปอยู่ไหน ดึงมันกลับมาด้วย ”
“ ครับท่าน! ”
‘ สภาพแบบนี้มันเข้าใจที่พูดไหมเนี่ย ’
ซีคยักไหล่ให้กับท่าทางของฮานที่เขาตอบมาว่ารับทราบ แต่สายตาฮานยังจับจ้องที่รถม้าไม่หยุด
‘ สงสัยไอ้หนูนี่จะยังเหนื่อยไม่พอยังมีแรงมาคิดเรื่องไร้สาระอยู่ ’
‘ ถ้าข้าลากมันไปรอบๆเอาให้เหนื่อยกันไปข้างมันจะดีขึ้นมั้ยนะ ? ’
เป็นเรื่องที่น่าสนุกเหมือนกันซีคยิ้มกว้าง เขาคิดออกหลายวิธีมันไม่ยากเลย เสียดายก็แต่ฮานไม่ได้เห็นรอยยิ้มนั้น ถึงไม่รู้ว่านรกกำลังรอต้อนรับเขาอยู่ไวไวนี้
' นี้คงเป็นโชคชะตาละมั้ง ตอนนี้ข้ามีโอกาสถามเธอแล้ว '
และในทันทีซีคลุกขึ้นเดินไปทางรถม้าคันใหญ่ ตอนแรกฮานลุกขึ้นจะเดินตามมาด้วยแต่ถูกซีคบล็อคไว้ ฮานได้แต่ก้นจั้มพื้นหมดโอกาสไป
เห็นซีคเดินเข้ามา อัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ทำหน้าเฝ้าคุ้มกันยกมือขึ้นห้ามขวางซีคไว้
“ ขอข้าเข้าพบกับนักบุญ—ไม่ กับลูเบลล่า ข้ามีเรื่องบางอย่างต้องรู้จากเธอ ”
อัศวินทำท่าทางไม่พอใจ เหมือนยังไงก็จะไม่ให้ซีคผ่าน
‘ งั้นก็ช่างมันละกัน ยังไงเราก็ไม่ได้เสียอะไรไป '
ซีคก็ไม่ได้คิดจะฝ่าฝืนเข้าไปถ้าพวกนั้นไม่อนุญาติ
“ ขอโทษด้วย ข้าก็ไม่สามารถให้เจ้—”
" ไม่เป็นไรหรอกนะ "
อัศวินที่เฝ้ารถม้าอยู่ชะงักนิ่ง ซีคที่กำลังจะเดินจากไปออกอาการคล้ายกัน
ลูเบลล่าชะโงกหน้าและเดินออกมาจากรถม้า
“ ให้ท่านซีคเข้ามาเถอะ ” เธอกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น
ตัวอัศวินก็อดไม่ได้ที่จะท้วงขึ้น “ แต่ท่านหญิงลูเบลล่า! ”
“ ท่านอัศวิน ”
“ ตัวเรามีหน้าที่ต้องรับฟังผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะค่ะ "
" จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้คือการได้รับประสบการณ์มากมายไม่ใช่หรือค่ะ”
“ แต่เขาอาจจะเป็นอันตราย! นะครับท่านหญิง! ”
“ แต่ว่ามีท่านเวกค์คอยอยู่ข้างๆเรา รวมถึงอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทุกท่านด้วย "
" ตัวเราก็ได้รับความคุ้มครองที่ดีพอแล้วคะท่านอัศวิน ”
‘ จริง แค่เครื่องจักรสังหารแห่งแทสเนียคนเดียวเธอก็ปลอดภัยพอแล้ว ’
อัศวินดูเป็นห่วงอยู่ดีแม้ได้ยินความตั้งใจของลูเบลล่า
แต่เวกค์ที่มองออกมาจากรถม้ากลับเห็นด้วยกับความตั้งใจของเธอ
“ ข้าจะคอยอยู่ข้างตัวท่านหญิงลูเบลล่าเอง เพราะฉะนั้นไม่เป็นไรหรอก”
"...ครับท่าน "
อัศวินต้องยอมปล่อยให้ซีคเดินผ่านไป โดยเขาไม่ปิดบังท่าทีไม่พอใจและหงุดหงิดที่ซีคเข้ามารบกวน
ตัวซีคไม่สนใจอัศวินนั้นเลย พร้อมเดินตามลูเบลล่าเข้าไปในรถม้า
ภายในรถม้าสะอาดเป็นระเบียบ มีชุดเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทางศาสนาอยู่บ้างแต่มันไม่ได้หรูหราเลย
ซีคเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับที่นั่งของลูเบลล่าโดยที่เวกค์นั่งอยู่ข้างๆเธอ
พวกเขาทั้งคู่จ้องมองมาทางซีค
“ ท่านซีคมีเรื่องอะไรอยากจะถามเราละ ”
“ ลูเบลล่า เรื่องที่ข้าจะถามท่านเป็นคนที่ตอบข้าได้ดีที่สุดแล้ว ”
“ ท่านซีคถามได้เลยคะ ”
“ ไอ้ที่เรียกว่าใช้ชีวิตอย่างมีเมตตา เขาทำกันยังไงหรอ? ”
" อะไรนะคะ? "
.
.
.
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 497
แสดงความคิดเห็น