บทที่15 คนสนิทของท่านประธาน
21:30 น. ไลน์กลุ่ม
{เชอรี่: ฝึกงานวันแรกเป็นไงบ้างชะนีทั้งหลาย ได้ฝึกงานตำแหน่งอะไรกันบ้าง}
{อิงเอย: อิงได้ฝึกแผนกการตลาด พี่ๆ ทุกคนที่นี่ใจดีมาก}
{กิ่งแก้ว: ฉันก็ได้ฝึกแผนกการตลาดเหมือนกัน แต่อยู่ในส่วนการตลาดต่างประเทศโชคดีมากพี่ๆ ในทีมมีแต่คนเก่งๆ }
{เชอรี่: ไอรดา อ่านแต่ไม่ตอบหมายความว่าไงยะ สรุปว่าแกได้ฝึกงานแผนกอะไร แล้วบริษัทที่แกไปฝึกงานผู้ชายต่างชาติเยอะหรือเปล่า}
{รดา: ฉันได้ฝึกตำแหน่งผู้ช่วยเลขา}
{เชอรี่: What? }
{กิ่งแก้ว: What? }
{อิงเอย: Really? }
{รดา: อือ}
{เชอรี่: เลขาประธานบริษัทเหรอแก}
{รดา: เปล่า ไม่ใช่}
{เชอรี่: แล้วเป็นเลขาใคร}
{รดา: รองประธานบริษัท}
{เชอรี่: แล้วรองประธานหล่อไหมแก หล่อเหมือนประธานบริษัทไหม วงในเมาส์กันว่ารองประธานบริษัทก็คือน้องชายของท่านประธานสุดหล่อใช่ไหม ขอบอกว่าหล่อมากเห็นหน้าแล้วน้ำฉันเดินเลย}
{รดา: คุณหมอกองทัพ นายเธียรวิชญ์ เศรษฐบุตรกุญชร }
{เชอรี่: Really?????? }
{กิ่งแก้ว: Really????? }
{อิงเอย: Really????? }
{รดา: อือ}
{เชอรี่: พรหมลิขิตชัดๆ คุณหมอสุดหล่อต้องเป็นเนื้อคู่ของแกแน่ๆ ดวงถึงได้สมพงศ์กันขนาดนี้}
{รดา: พูดบ้าอะไรยัยเชอ ฉันไปนอนก่อนนะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า}
เช้าวันที่ ณ บริษัท GT
“คุณกองทัพสวัสดีค่ะ” กองทัพเดินเข้ามาในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเสื้อเชิ้ตด้านในสีเดียวกันผูกเนกไทสีฟ้าอ่อน ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาไร้หนวดเคราแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อย ทรงผมถูกเชตเป็นทรงเรียบร้อยเสริมให้ดูหล่อเหลาและน่าเกรงขามในคนคนเดียวกัน
“เมื่อเช้านั่งรถอะไรมาทำงาน” รดาแต่งตัวในชุดธรรมดาเพราะได้รับคำสั่งจากเจ้านายหนุ่มว่าให้แต่งตัวในชุดธรรมดาแทนชุดนักศึกษาโดยให้เหตุผลว่าบางครั้งอาจจะต้องออกไปพบลูกค้าและร่วมรับประทานอาหารข้างนอก หากแต่งชุดนักศึกษาอาจจะดูไม่เหมาะสมเพราะบางครั้งก็มีแอลกอฮอล์วางอยู่บนโต๊ะด้วย
ชุดเดรสสีฟ้าอ่อนสั้นเหนือเข่าเล็กน้อย ด้วยความที่เป็นคนค่อนข้างเรียวขายาวเมื่อใส่กระโปรงทรงสั้นก็จะเผยให้เห็นเรียวขาสวยค่อนข้างมากแต่ไม่ถึงกับโป๊
“นั่งรถไฟฟ้ามาค่ะ”
“แล้วเดินมาถึงนี่”
“เปล่าค่ะ นั่งวินมา” เมื่อได้รับคำตอบกองทัพถึงกับหน้าเปลี่ยนสีด้วยความไม่พอใจ
“ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้วถ้าใส่กระโปรงไม่ให้นั่งวินมอเตอร์ไซต์” กองทัพเผลอพูดเสียงดังจนคนที่โดนเอ็ดหน้าเสียเพราะไม่เคยเจอคุณหมอหนุ่มเสียงดังใส่แบบนี้มาก่อน
“ใกล้แค่นี้ นั่งแท็กซี่มาก็เปลืองเงินเปล่าๆ แถมรถก็ติดมากด้วย” หลังจากที่โดนกระแทกเสียงใส่จนใจอ่อนยวบ รดาก็ไม่ลดละความพยายามพูดขึ้นเสียงเบาราวกระซิบเพราะกลัวว่าจะโดนเอ็ดอีกรอบ แต่ในใจก็อยากอธิบายให้ชายหนุ่มตรงหน้าเข้าใจ
“ต่อไปนี้ผมจะให้เอกไปรับคุณที่คอนโดทุกวัน” เมื่อพูดจบเท้ายาวก็เดินฉับ ฉับ ฉับ กระแทกสะโพกหนาลงบนเก้าอี้อย่างแรง มือด้านขวากวาดแฟ้มที่วางอยู่อย่างเป็นระเบียบไปไว้ขอบโต๊ะอีกฝั่งให้พ้นรัศมีสายตา เพราะตอนนี้ไม่มีอารมณ์ที่จะทำงาน ปกติกองทัพเป็นคนที่ใจเย็นและมีเหตุผลเสมอ แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเด็กสาวในห้อง กลับควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
“ค่ะ” น้ำเสียงปลงตกตอบกลับไปก่อนที่ภายในห้องจะตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
ต่างฝ่ายต่างนั่งเงียบอยู่สักพัก รดานั่งนิ่งใช้ความคิดอยู่นานว่าจะทำอย่างไรให้เจ้านายหนุ่มอารมณ์ดีและหายโกรธเธอ ร่างบางลุกจากเก้าอี้เดินตรงไปยังหน้าประตูหายไปสักพักและกลับมาพร้อมกาแฟดำหนึ่งแก้วในมือ
“กาแฟค่ะ” รดาวางแก้วกาแฟในมือลงตรงหน้าชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังนั่งตรวจและเซ็นเอกสารด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบขึ้นมองเพียงนิดก็หลุบมองเอกสารในมือเหมือนเดิม
กลิ่นหอมของกาแฟคั่วบดละเอียดที่ส่งตรงจากภาคเหนือของไทย ซึ่งเป็นแหล่งปลูกเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพที่สุด เริ่มตั้งแต่การปลูกในอุณหภูมิที่เหมาะสม คอยดูแลเอาใจใส่จนต้นกาแฟโตและออกผลผลิตมาจนถึงกรรมวิธีในการคั่วให้ได้กลิ่นหอมและรสชาติที่กลมกล่อมแบบนี้
“หนูแค่นั่งวินมอเตอร์ไซต์มาทำงานไม่ได้ทำอะไรไม่ดีสักหน่อย ทำไมคุณต้องงอนหนูขนาดนั้น หนูอุตส่าห์ชงกาแฟมาง้อแล้วนะคะถ้าคุณไม่ทานหนูจะเอาไปเททิ้งเดี๋ยวนี้แหละค่ะ ตาแก่ขี้งอน”
“กว่าจะได้เมล็ดกาแฟมาสักเม็ด คนปลูกต้องใช้แรงกายแรงใจคอยดูแลเอาใจใส่ตั้งเท่าไหร่” พูดจบมือหนาก็คว้าแก้วกาแฟขึ้นดื่ม รดาเผลอยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนจะเอี้ยวตัวหันหลังเดินกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะของตนเมื่อใช้มารยาหลอกล่อให้ชายหนุ่มหลงกับดักได้สำเร็จ
“เอกสารอ่านไปได้ถึงไหนแล้ว มีตรงไหนที่ไม่เข้าใจหรือเปล่า” เมื่อร่างกายได้รับคาแฟอีนเข้าไปช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ปกติ ชายหนุ่มก็กลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง
“มีนิดหน่อยค่ะแต่หนูจดไว้แล้ว รอคุณว่างหนูค่อยถามคุณหรือรอคุณเอกมาค่อยถามคุณเอกก็ได้ค่ะ” รดาตอบกลับโทนเสียงธรรมดาไปตามปกติขณะที่สายตายังจ้องอยู่หน้าจอที่โชว์กราฟแสดงผลประกอบการของบริษัทในแต่ละปีที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจนกราฟเป็นเส้นตรงชันขึ้นแทบจะเก้าสิบองศา
“เดินมานี่” รดาลุกจากเก้าทำตามคำสั่งอย่างว่าง่ายเดินไปยืนตรงหน้าโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม
“ไปยืนตรงนั้นแล้วผมจะอธิบายให้คุณฟังยังไง เดินมานี่สิ” ปากหยักออกคำสั่งอีกครั้ง รดาจึงทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินไปสามเก้าหยุดตรงหน้าชายหนุ่มพอดีในระยะห้าสิบเซนติเมตร
“ถามมาสิ ตรงไหนที่ไม่เข้าใจ” เมื่อเจอสายตาคมเข้มจ้องมองมาที่ตนตลอดเวลาในระยะประชิดก็เกิดความประหม่า มีอาการชาตามร่างกายรวมถึงสมองซีกซ้ายเกิดการประมวลผลและสั่งการล่าช้าจึงลืมคำถามที่เตรียมไว้ถามก่อนหน้าไปจนหมด
“เอ่อ..คือ..คือ”
“หน้าผมมีคำถามพวกนั้นติดอยู่เหรอ” ใบหน้าเนียนขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเมื่อโดนจับได้ว่ากำลังจ้องหน้าชายหนุ่มอยู่นาน
“ปะ..เปล่าค่ะ หนูแค่สงสัยว่าผลประกอบการของบริษัทมีกำไรตั้งแต่เปิดบริษัทปีแรกเลยเหรอคะ” คำถามนี้เป็นคำถามที่รดาเองก็รู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เธอนึกอย่างอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ ทุกครั้งที่เข้าใกล้ชายหนุ่มเธอจะเสียอาการระบบร่างกายรวนไปหมดทุกครั้ง ชายหนุ่มตรงหน้าถือเป็นบุคคลที่อันตรายสำหรับเธอจริงๆ
“ก็ตามข้อมูลที่คุณเห็น หรือคุณดูข้อมูลพวกนั้นไม่เข้าใจ”
“เปล่าค่ะ ฉันเข้าใจ”
“อ้อถ้างั้นผมวานเอาแฟ้มนี่ไปส่งที่ห้องประธานหน่อย เป็นเอกสารด่วนเซ็นแล้วรอเอากลับมาให้ผมด้วย” แฟ้มเอกสารเร่งด่วนสำคัญถูกส่งให้เด็กสาว
ขายาวเดินพ้นขอบประตูห้องออกไปแล้วเลี้ยวขวาก็เจอกับประตูห้องที่มีลักษณะเดียวกันกับห้องที่เธอเดินออกมาเมื่อสักครู่ เมื่อเดินมาถึงก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมไม่มีเลขานั่งอยู่หน้าห้องเจอเพียงโต๊ะทำงานที่ว่างเปล่า ร่างอรชรยืนครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญครับ” เสียงทุ้มหล่อเอ่ยอนุญาตดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน รดาจึงเปิดประตูเข้าไปด้านในพร้อมกับแฟ้มเอกสารสำคัญในมือ
“ท่านประธานสวัสดีค่ะ คุณ..พะ..พี่ทัพบกมาอยู่ที่นี่ได้ไงคะ” ริมฝีปากบางร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเจอชายหนุ่มที่เธอรู้จักนั่งอยู่ในห้องนี้
“ว่าไงเด็กฝึกงานตัวแสบ นึกว่าจะไม่มาทักทายพี่ซะแล้ว” คำพูดสนิทสนมที่ทัพบกมักใช้พูดกับรดาเป็นประจำ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแย้มไม่ถือตัวแม้จะเป็นถึงประธานบริษัทแต่ก็ไม่เคยรังเกียจหรือดูถูกเธอตั้งแต่ตอนที่เธอยังขับไรเดอร์วิ่งส่งอาหาร หรือตอนนี้จะอยู่ในฐานะนักศึกษาฝึกงานก็ตาม
“พี่ทัพบกเป็นเจ้าของบริษัทนี้เหรอคะ” รดาเอ่ยถามเสียงกระท่อนกระแท่นอย่างไม่เชื่อสายตาว่าผู้ชายธรรมดาที่เธอเคยรู้จักจะเป็นถึงประธานบริษัทใหญ่โตขนาดนี้
“ก็ใช่น่ะสิ คิดว่าเป็นตัวปลอมหรือไง มานี่เลยมาให้ตีซะดีๆ หายไปไหนมาตั้งนานพี่ติดต่อไม่ได้ มือถือก็ปิดเครื่อง รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วง” ประธานหนุ่มดุออกไปอย่างไม่จริงจังนัก กวักมือเรียกเด็กสาวให้เดินเข้ามาหาใกล้ๆ
“พอดีรดาเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยเลยต้องเลิกขับไรเดอร์ และอีกอย่างช่วงนี้ต้องฝึกงานเลยไม่มีเวลาว่างเหมือนแต่ก่อนค่ะ” อดีตไรเดอร์สาวกำลังอธิบายเหตุผลให้ลูกค้าประจำที่เธอมีนัดส่งอาหารให้ทุกเช้าฟัง
“เลิกขับไรเดอร์ แล้วต้องเลิกใช้โทรศัพท์ด้วยเหรอครับ ทำไมพี่ติดต่อเราไม่ได้ ไลน์ไปก็ไม่อ่าน โทรหาก็ไม่ติด ช่วยอธิบายเหตุผลที่พอจะฟังขึ้นให้พี่ทัพบกคนหล่อคนนี้เข้าใจทีครับ” เมื่อยังไม่ได้รับคำตอบที่พึงพอใจทัพบกก็เอ่ยถามขึ้นอีกรอบ และเน้นเสียงทีละประโยคให้ได้ยินชัดเจนทุกคำ
“โทรศัพท์รดาพังค่ะ อยู่ดีๆ เครื่องก็ดับไปแล้วเปิดไม่ติดอีกเลย รดาเลยไม่ได้ไลน์บอกว่าไม่สามารถไปส่งโจ๊กให้พี่ทัพบกตอนเช้าได้แล้ว รดาขอโทษนะคะ” รดาตอบไปตามความจริงแค่ไม่ได้บอกทั้งหมดแค่นั้นเอง ขืนบอกไปว่าเธอมัวแต่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับคุณหมอหนุ่มเลยลืมที่จะโทรบอกตั้งแต่วันแรกและลืมจนถึงวันนี้มีหวังเธอโดนโกรธเป็นชาติแน่ๆ
“แล้วนี่ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่หรือยัง มีโทรศัพท์ใช้หรือเปล่า” ทัพบกถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้จักเด็กสาวตรงหน้าดีว่างกและประหยัดมากแค่ไหน จะซื้อของแต่ละอย่างคิดแล้วคิดอีกเดินดูเทียบกันเป็นสิบๆ ร้านทั้งๆ ที่ราคาแต่ละร้านก็ไม่ได้ต่างกันมากมายอะไร
“มีแล้วค่ะ” เป็นไปตามคาดทัพบกยังเป็นพี่ชายที่น่ารักกับเธอเสมอ ใจดี มีเหตุผล และรับฟังสิ่งที่เธอพูดเสมอแม้บางครั้งเธอพูดความจริงไม่หมดก็ตาม คิดได้ดังนั้นความรู้สึกผิดที่วิ่งเข้ามาในหัวแต่ก็ต้องรีบไล่ความคิดนั้นให้หายไปทันที
[เธอไม่ได้โกหกรดา เธอแค่พูดความจริงไม่หมดแค่นั้นเอง] รดาบอกกับตัวเองในใจก่อนจะไล่ความรู้สึกไม่ดีให้พ้นจากหัวจนหมด
“ส่งมาให้พี่” ทัพบกพูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือขวาไปตรงหน้าเด็กสาวและแบมือค้างไว้อยู่อย่างนั้น เพราะก่อนหน้าที่รดาจะเปิดประตูเข้ามาก็ได้รับสายจากน้องชายว่านักศึกษาฝึกงานกำลังเอาเอกสารมาให้เซ็น
“อะไรคะ” รดาถามกลับอย่างงงๆ เพราะแฟ้มเอกสารเธอส่งให้ทัพบกตั้งแต่เข้ามาถึงตอนแรกแล้ว
“โทรศัพท์ พี่จะแอดไลน์และบันทึกเบอร์พี่ให้ใหม่”
พรวด!
“เครื่องนั้นมึงก็มีเบอร์กับไลน์อยู่แล้ว จะบันทึกลงใหม่ทำไม”
ชายหนุ่มร่างสูงเปิดประตูเข้ามาได้จังหวะพอดีจึงพูดขึ้น เพราะเห็นผู้ช่วยเลขาสาวหายไปนานแล้วกลัวจะหลงทางทั้งที่ชั้นบนมีเพียงห้องทำงานอยู่แค่สองห้อง ห้องครัว และห้องประชุมเพียงแค่นั้นจึงเดินออกมาตาม แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็ได้ยินว่าทั้งสองกำลังแลกเบอร์และไลน์กันอยู่
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 688
แสดงความคิดเห็น