ตอนที่ 2 แอบรัก
“นาริน” ถามเสียงสั่นเครือออกไป ในหัวใจก็เต้นแรงเหลือเกิน แอบหวังอยู่ลึกๆ ว่าชายหนุ่มจะจำเธอได้
“เอ่ออ พี่วิน จำน้องรินคนนี้ไม่ได้แล้วจริงๆ เหรอค่ะ”
“อัศวิน” คิดทบทวนชื่อพึมพำเสียงเบา ก่อนจะเพ่งมองดวงหน้าหวานเต็มๆ ตาอีกครั้งให้แน่ใจ
ใบหน้าเรียวสวยได้รูป ดวงตากลมโตสดใส ปากนิดจมูกหน่อย กับพวงแก้มสีชมพูระเรื่อ แลดูสุขภาพดี ผมสีดำเงา ยาวสลวยถึงกลางหลังช่วยเพิ่มเสน่ห์ไม่น้อย
เรือนร่างสมส่วน บอบบาง ผิวเนียนละเอียด ขาวผุดผ่อง จะว่าหุ่นนางแบบก็คงไม่ผิด โดยรวมแล้วช่างดูงดงามยิ่งนัก
เพียงแค่ได้มอง และคิดเท่านั้นก็ส่งผลให้คนที่เคยเย็นชาและหัวใจที่ตายไปแล้วของพ่อเลี้ยงหนุ่ม กลับมาเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ราวกับว่ากำลังรัวกลองชุดใหญ่เสียอย่างนั้น
“น้องริน นาริน นี่น้องริน จริงๆ เหรอครับเนี่ย!!”
“อัศวิน” พูดด้วยรอยยิ้มโดยไม่รู้ตัว เป็นเพราะเขาเองแท้ๆ ที่มัวแต่ใช้อารมณ์มากเกินไป จนไม่ทันสังเกตเห็นว่า เป็นน้องรินนั้นเอง
นานมากแล้วจริงๆ สินะ ที่เขากับ “นาริน” ไม่ได้พบเจอกันเลย ตอนนั้นเธอก็ยังเด็กอยู่มาก
แต่มาวันนี้เธอดูสวย สดใสร่าเริ่ง และเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากจริงๆ ทำเอาเขาแทบจะละสายตาไปจากเธอไม่ได้เลย
“ค่ะ พี่วิน นี่ “นาริน” เอง ตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะค่ะ คริคริคริ”
หญิงสาวพูดไป หัวเราะไป ฉีกยิ้มกว้างให้กับชายหนุ่มที่เธอแอบรัก อย่างอารมณ์ดีสุดๆ ไปเลย
“โอ้โห!! เดี๋ยวนี้โตเป็นสาวแล้ว แถมสวยอีกด้วย ทำเอาพี่เกือบจำไม่ได้เลยนะเรา”
“อัศวิน” พูดด้วยรอยยิ้ม และเอื้อมมือมาวางลงบนศีรษะของ "นาริน" พลางโยกไปมาเบาๆ อย่างนึกเอ็นดู
ทั้งวาจา และการกระทำของพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้น ทำเอาหัวใจของสาวน้อยพองโต และปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก
“นาริน” มองชายหนุ่มด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก และความคิดถึง แต่ไม่รู้ว่าเขาจะสังเกตเห็นมันบ้างรึเปล่านะ
“แล้วน้องรินมาที่นี่ได้ยังไงกันล่ะครับ ทำไมไม่โทรมาบอกพี่ก่อนล่ะ พี่จะได้ไปรับ”
“อัศวิน” ถามต่อด้วยรอยยิ้มทำเอาคนฟัง ยิ่งรู้สึกเคลิบเคลิ้มหลงใหล ไปกับความอบอุ่นที่ได้รับจากชายหนุ่มผู้แสนดีคนนี้เสมอมา
กาลเวลาหมุนเปลี่ยนเวียนไป แต่ชายหนุ่มก็ยังคงเป็นเทพบุตร ในดวงใจของเธอเสมอมาไม่เคยเปลี่ยนแปลง
“แม่พามาเองจ้ะ”
ยังไม่ทันที่ “นาริน” จะเป็นคนตอบคำถามนี้ แต่กลับเป็นเสียงบุคคลที่สาม ตอบกลับมาแทนเสียอย่างนั้น สร้างความประหลาดใจให้กับ "อัศวิน" เป็นอย่างมาก
คุณสาวิตรี เดินออกมาจากห้องครัวด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย แฝงไปด้วยความหมายอะไรบางอย่าง
หล่อนมองดูภาพของ “อัศวิน” บุตรชายอันเป็นที่รักเพียงคนเดียวของนาง ด้วยแววตาปีติยินดี หล่อนแอบหวังเล็กๆ ว่า วันข้างหน้าอยากให้ทั้งสองคน ได้ลงเอยกันจริงๆ มันคงจะดีไม่น้อย
เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ล่ะก็ “อัศวิน” ลูกชายของหล่อน จะได้มีความสุขอย่างที่คนอื่นๆ เขามีกันสักที
“คุณแม่ มาตั้งแต่เมื่อไรครับ แล้วมาได้ยังไง?? ทำไมผมไม่เห็นรถเลยล่ะครับ”
“อัศวิน” ถามออกไปเป็นชุด ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหา และโอบกอดร่างท้วมพร้อมหอมแก้มเสียฟอดใหญ่ ด้วยความคิดถึงมารดาเป็นที่สุด ออดอ้อนเหมือนเด็กน้อยที่ยังไม่ยอมโต
“มาตั้งแต่บ่ายแล้วจ้ะ แม่ให้คนขับรถมาส่งเอง ตอนนี้ก็ให้เขากลับไปแล้วล่ะ แม่คิดถึงลูกมากเลยนะ รู้ไหม ประจวบเหมาะ กับที่หนูรินกลับมาจากอังกฤษพอดี แม่ก็เลยชวนหนูรินมาเยี่ยมลูกด้วยกันที่นี่ซะเลย”
คุณสาวิตรี กล่าวด้วยรอยยิ้ม ส่อประกายที่แฝงความในยากจะคาดเดา
“ผมก็คิดถึงคุณแม่มากนะครับ”
“อย่ามาพูดจาปากหวานกับแม่หน่อยเลย คิดถึงยังไง ถึงไม่ไปเยี่ยมแม่กับคุณพ่อบ้างเลย แม่กับคุณพ่อเป็นห่วงลูกมากนะ "อัศวิน" ลูกรู้รึเปล่า ”
คุณสาวิตรี ว่าอย่างแสนงอน พร้อมแสดงท่าทางเล็กน้อย
“โธ่!! คุณแม่ครับ ก็งานที่ฟาร์มของผมมันยุ่งมากจริงๆ นี่ครับ ผมก็เลยไม่มีเวลาได้ไปเยี่ยมคุณแม่กับคุณพ่อเลย อย่างอนผมเลยนะครับ ถึงยังไงผมก็รักคุณแม่ที่สุดในโลกเลยนะครับ”
“อัศวิน” ทั้งกอด ทั้งหอม ประจบเอาใจ ทำเอาคุณสาวิตรี ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว
“จ้าาา แม่ก็รักลูกที่สุดในโลกเหมือนกันนะ”
คุณสาวิตรี กล่าวกับบุตรชาย นางกอดและหอมแก้มลูก ด้วยความรัก ความคิดถึง และเป็นห่วงเป็นใยเสมอมา
“นาริน” ยืนมองอยู่ไม่ไกลกันนัก อย่างเงียบๆ ดูความน่ารักของสองแม่ลูกที่แสดงต่อกัน ด้วยรอยยิ้ม แล้วก็ทำให้หวนนึกถึงคำพูดของมารดาของตัวเองขึ้นมาทันที
“ริน แม่ว่าอย่าไปเลยนะลูก อยู่กับแม่ที่นี่แหละ แม่เป็นห่วงลูกมากจริงๆนะ ลูกรู้ไหม!! แม่เสียพี่สาวของลูกไปคนหนึ่งแล้ว แม่ไม่อยากเสียลูกไปอีกคน นะลูก..”
คุณพิมพ์พา เอื้อนเอ่ยพลางลูบศีรษะของบุตรสาวที่เหลือเพียงคนเดียวของเธอ อย่างอ่อนโยน หล่อนไม่อยากให้ลูกสาวไปอยู่ที่นั่นนานๆ เลย นางอดเป็นห่วงไม่ได้เลยจริงๆ
หล่อนไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ต้องมาซ้ำรอยอีกครั้ง เพราะถ้าหาก “นาริน” เป็นอะไรไปอีกคน หัวอกคนเป็นแม่อย่างเธอ ก็ต้องแตกสลาย และไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกแล้วเช่นกัน
“คุณแม่ค่ะ ให้หนูไปเถอะนะค่ะคุณแม่ หนูอยากไปเยี่ยมพี่มินตรา หนูไม่ได้ไปที่นั่นมาหกปีแล้วนะค่ะ”
“นาริน” กล่าวกับมารดา ท่าทางออดอ้อนสุดๆ
“ไปเยี่ยม ก็ไม่เห็นต้องไปอยู่ที่นั้นเป็นเดือนๆ เลยนี่ลูก”
ผู้เป็นมารดา บอกกับลูกสาวอย่างเป็นกังวลในหัวใจมาก
“คุณแม่ขา แต่หนูก็อยากไปฝึกงานที่นั่นด้วยนี่ค่ะ คุณแม่ให้หนูไปเถอะนะค่ะ นะค่ะคุณแม่”
“นาริน” อ้อนมารดาต่อ หวังให้นางคล้อยตามคำร้องขอในครั้งนี้
“อยากไปก็ไป แต่ลูกต้องสัญญากับแม่มาก่อนนะว่า จะต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ และโทรมาหาแม่ทุกวันด้วยนะลูก ได้ยินที่แม่บอกไหม”
คุณพิมพ์พา เอ่ยกำชับ ในที่สุดหล่อนก็ทนความออดอ้อนของบุตรสาวไม่ไหว ใจอ่อนอีกตามเคย..
“ไชโย คุณแม่เป็นแม่ที่น่ารักที่สุดในสามโลกเลยค่ะ หนูสัญญานะค่ะ ว่าหนูจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเลยล่ะค่ะ จะโทรหาคุณแม่ทุกวัน และจะไม่ทำให้คุณแม่ต้องเป็นห่วงอย่างแน่นอนค่ะ ขอบคุณนะค่ะคุณแม่ หนูรักคุณแม่ที่สุดในสามโลกเลยค่ะ”
หญิงสาวว่าแล้วก็หอมแก้มมารดาไปหลายที และโอบกอดมารดาไว้แน่น เธอดีใจเหลือเกิน แต่ในหัวใจของเธอมันได้ลอยไปไกลแสนไกลแล้วในตอนนี้ ลอยไปอยู่กับชายหนุ่มที่เธอแอบรักเขามานานแสนนาน คิดถึงจังเลยปานนี้เขาจะเป็นยังไงบ้างนะ..
เมื่อหกปีก่อนครอบครัวรัตนโชติ ต้องมาสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่กับการจากไปอย่างปริศนาของ “มินตรา รัตนโชติ” บุตรสาวคนโตอย่างไม่มีวันหวนกลับ
จากเหตุการณ์สูญเสียในครั้งนั้น ทำให้ทุกคนในบ้าน ต้องทุกข์ตรม เศร้าโศกเสียใจ และสูญเสียน้ำตามากมายเหลือเกิน
ถึงแม้ว่าพี่ “มินตรา” จะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว แต่เธอก็ยังเป็นคนในครอบครัวรัตนโชติเสมอ เป็นบุตรสาวคนโตของบ้านหลังนี้ตลอดไป ไม่มีใครมาแทนที่ของเธอได้..
โปรดติดตามตอนต่อไป รอหน่อยนะค่ะ นักเขียนถุงแป้ง กำลังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้นักอ่านทุกท่านอยู่ค่ะ กดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนต่อไป และนิยายเรื่องใหม่ กดถูกใจ ส่ง comment เป็นกำลังใจ ติชมผลงานมาได้นะค่ะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 305
แสดงความคิดเห็น