หวานใจพี่รหัส ตอนที่10 เมื่อตกอยู่ในอ้อมแขนของหนุ่มหล่อ

หวานใจพี่รหัส
คุณกำลังอ่าน: หวานใจพี่รหัส

-A A +A

หวานใจพี่รหัส ตอนที่10 เมื่อตกอยู่ในอ้อมแขนของหนุ่มหล่อ

               “นภา...ไม่เป็นไรแล้วนะ ปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ” เขายกกระดาษคอยพัดวีให้คนหน้าซีด จับมือเธอมาบีบเบา ๆ คอยนวดมือของเธอให้คลายอาการเกร็งลง โชคดีที่เขามีประสบการณ์ตรงมาบ้าง ไม่งั้นคงตกใจมากกว่านี้ เพราะแม่ของเขาเวลาตกใจกลัวอะไรมาก ๆ จะเป็นแบบนี้เสมอ เขามองเด็กสาวตรงหน้าอย่างสงสัย เธอต้องมีอดีตที่จำฝังใจกลัวเกี่ยวกับรถหรืออุบัติเหตุ หรืออะไรซักอย่างแน่ถึงเป็นแบบนี้

 

                คนหน้าซีดพยายามหายใจเข้าลึก ๆ ออกยาว ๆ อยู่นานจนสามารถควบคุมอารมณ์ให้เป็นปกติได้แล้ว เธอรู้สึกอับอายที่ต้องเป็นแบบนี้ต่อหน้าชายหนุ่ม ทำไมต้องมามีอาการต่อหน้าหมอนี่ด้วย 

 

               “ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้ว ไม่เป็นไรแล้วล่ะ” เธอก้มหน้าบอกเขาเบา ๆ รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น อาการเกร็ง หมดเรี่ยวหมดแรงหายไปแล้ว เด็กสาวรีบขยับตัวถอยออกมาให้ห่างจากหนุ่มรุ่นพี่

 

                “ขอบคุณพี่นรินทร์มากนะ ขอโทษที่ทำให้ตกใจ” เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา เพื่อนของพี่ชายกำลังก้มหน้าก้มตาบีบนวดมือให้เธออย่างตั้งใจ

 

               “ดีขึ้นมั้ย? หายแล้วแน่นะ” หนุ่มหล่อเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอ 

 

                       คนถูกถามพยักหน้า นรินทร์จึงละฝ่ามือออกจากมือของเด็กสาว

 

                นภาลุกขึ้น แล้วยกหมัดชกเข้าที่ต้นแขนหนุ่มหล่อแรง ๆ ทีหนึ่ง

 

                “โอ๊ย!” 

 

                หนุ่มหน้าใสร้องเสียงหลงเมื่อเธอกระแทกหมัดเข้าที่ต้นแขนของเขาเข้าเต็มรัก

 

                “แบบนี้เรียกว่า หายรึยัง” นภาอมยิ้ม

 

 

 

               นรินทร์ยังงงไม่หาย ที่อยู่ ๆ เธอก็ประเคนหมัดให้เขารับประทานซะแล้ว บทจะหายกลัวขึ้นมาก็หายเลย ไม่ขี้อ้อนขี้ออเซาะเหมือนสาว ๆ ที่เขาเคยเจอมาก่อนเลย ที่มีแต่จะคอยเกาะติดเขาแจเหมือนตังเมจนน่ารำคาญ แต่เธอไม่เป็นอย่างนั้น

 

                 “ฉันไม่เป็นไรแล้ว เข้าไปซื้อของกันเถอะค่ะ” 

 

                     ทั้งคู่จึงเดินเข้าไปในร้านขายพลาสติกที่มีผลิตภัณฑ์พลาสติกมากมายหลายชนิด หลายขนาด หลายรูปแบบ หลากสีสัน มีตั้งแต่สีเรียบทึม ๆ จนถึงสีสันสดใส หรือแม้แต่ลายการ์ตูนก็มีให้เลือกมากมาย มีหลายแบบหลายลาย ตั้งเป็นแถวเป็นแนวยาวจนสุดร้านเลย

 

                     นรินทร์ยืนมองนภาเลือกดูของอย่างมีหลักการ ที่สำคัญราคาต้องเหมาะสม เธอดูคล่อง รู้งานเป็นอย่างดี เขาหยิบถังขนาดกลางสีดำขึ้นมาดู เมื่อเห็นเธอกำลังหาถังขนาดนี้อยู่ มองป้ายราคาแล้วไม่แพง ดูแข็งแรงดีด้วย

 

                    “ใบนี้ดีมั้ย”

 

                    นภาหันมามอง แล้วพิจารณาตรงขอบถังพลาสติกมีลักษณะไม่เรียบ และมีที่จับค่อนข้างใหญ่ แต่ราคาถูกมาก

 

               “แบบนี้ไม่ดีหรอก ขอบถังมันคมอาจบาดมือได้ ที่จับใหญ่ ๆ มันทำให้ปวดมือเวลาต้องยกบ่อย ๆ” 

 

                “ขอบไม่เรียบเหมือนปากเธอหรือเปล่า” เขาอดแหย่ยัยตัวแสบไม่ได้

 

                นภาโยนถังน้ำสีดำใส่หนุ่มปากมอมอย่างหมั่นไส้ แต่หนุ่มหล่อกลับรับได้ทันควัน เธอจึงโยนถังอีกใบตามไปทันที ถังนั้นกระดอนโดนถังที่เขาถืออยู่ก่อนจะกระเด็นไปโดนท่อนแขนของคนหนุ่ม ขอบถังบาดถูกแขนของเขาเป็นรอยลึกไม่มากแต่เลือดไหลซึมออกมา 

 

               “พี่มีผ้าเช็ดหน้ารึเปล่า เอามากดแผลไว้ก่อนสิ” เด็กสาวตกใจที่ถังไปบาดแขนเขาเข้ารีบขยับเข้าไปใกล้ชายหนุ่มพอประมาณเพื่อดูบาดแผล ซึ่งไม่ใหญ่มาก

 

               “เอาผ้าเช็ดหน้ามากดแผลไว้สิ ผ้าเช็ดหน้าไม่ได้มีไว้ยื่นให้นางเอกเวลาร้องไห้แบบในละครนะ” เธอไม่เข้าใจว่า นางเอกในละครทำไมไม่มีใครพกผ้าเช็ดหน้าซักคนเลยหรือ? ต้องให้ผู้ชายยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ทุกทีเลย อยากจะถามจริง ๆ ว่ากล้าใช้หรือเปล่า? เธอเป็นคนหนึ่งล่ะ ที่ไม่กล้าใช้ผ้าเช็ดหน้าของผู้ชายเด็ดขาดเลย

 

                หนุ่มหล่อหน้าใสแอบขำ มันจริงของเธอนะ มองเด็กสาวที่นั่งอยู่ซะห่าง เหมือนระมัดระวังตัวไม่เข้ามาอยู่ใกล้เขาจนเกินไปอย่างนั้นแหละ ใบหน้าของเธอใสแบบธรรมชาติไม่มีแม้แต่แป้งฝุ่น วันนี้เธอมัดผมสูงไว้ด้านหลังเป็นหางม้า เผยให้เห็นใบหน้าเอิบอิ่ม พวงแก้มเป็นสีชมพู ดวงตากลมคู่นั้นไม่มีแพขนตายาวงอน เล็บของเธอตัดสั้นเป็นสีชมพูระเรื่อ

 

                “กดแผลไว้สิ ให้เลือดหยุด กดเองนะ ไม่กดให้หรอก”

 

                ชายหนุ่มสะดุ้ง! รีบกดแผลตามที่เธอบอก หลังจากที่เผลอมองเธอนานเกินไป แอบงง ที่เธอให้เขากดแผลเอง ไม่เห็นเหมือนในละครเลย สาว ๆ ต้องคอยทำแผลให้สิ หนุ่มหล่ออย่างเขา มีแต่สาว ๆ จะคอยแย่งกันทำแผลให้อีกต่างหาก เธอช่างไม่เหมือนสาวคนอื่นเอาเสียเลย

 

                “ใครจะอยากให้เธอกดให้ล่ะ ขืนให้เธอกดให้ แผลต้องเขียวช้ำหมดแน่ ๆ” นรินทร์อดแขวะใส่น้องสาวเพื่อนไม่ได้

 

                “เลือดหยุดแล้วใช่มั้ย” นภาควานหาพลาสเตอร์ปิดแผลจากกระเป๋ากระโปรงได้อันหนึ่ง 

 

                “ไม่ต้องปิดหรอกแผลเล็ก ๆ เอง”

 

               “ปิดเถอะน่า...กันฝุ่น แล้วก็เวลาโดนกระแทกจะได้ไม่เจ็บด้วยนะ” นภาปิดพลาสเตอร์ลงบนแผลที่ท่อนแขนซ้ายให้เขาอย่างเบามือ

 

               “เสร็จแล้ว” เธอเงยหน้ามองหนุ่มหล่อตรงหน้า ซึ่งเขากำลังมองตรงมาเช่นกัน สายตาคมของชายหนุ่มทำให้นภารีบหลบตาทำทีเป็นมองโพยกระดาษในมือ แล้วกลับไปเลือกของต่อ

 

               เด็กสาวขมวดคิ้วยุ่ง มองตัวหนังสือในกระดาษอย่างงุนงง

 

               “พี่ต้องซื้อไอ้นี่ด้วยเหรอ” นภายื่นแผ่นกระดาษนั้นให้เขาดู ไม่เข้าใจว่าจะต้องซื้อเสื้อยกทรงสตรีไปทำไม ไม่อยากจะคิดเลย

 

                นรินทร์มองเห็นเครื่องหมายกากบาทอยู่หน้ารายการนั้น รายการนี้นี่เองที่ยนตร์บอกว่าไม่ใช่ของจำเป็นในการรับน้อง

 

                “รายการที่มีกากบาทอยู่ข้างหน้าไม่ต้องซื้อนะ” เขาไม่เข้าใจพวกเพื่อนจริง ๆ ว่าจะเล่นพิเลนอะไรกัน รู้สึกอายแทนที่โดนรุ่นน้องถามแบบนี้

 

                “งั้นก็ครบหมดแล้วนะ ของตั้งเยอะแยะ เดี๋ยวฝากเขาไว้ก่อนแล้วค่อยวนรถมาเอาดีมั้ย” นภาเสนอความเห็น หนุ่มหล่อจึงยกนิ้วโป้งให้เธอเป็นการบอกว่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง เขารอดตัวไปไม่ต้องแบกแล้ว

 

==================

 

 

 

               ปารยิ้มแก้มปริ หลังจากที่ซื้อของจนครบหมดแล้ว ยนตร์พากลับไปเข้าร้านกระดาษสีสวย ที่เธออยากจะเข้าไปดูตั้งแต่แรกแล้ว เขาเป็นอย่างนี้เสมอ ต้องทำงานให้เสร็จก่อนถึงจะยอมพาไปเที่ยวเล่นได้ เด็กสาวเลือกดูกระดาษอย่างมีความสุข โดยมีเขายืนให้ความเห็นเล็ก น้อยอยู่ใกล้ ๆ แค่นี้ก็อุ่นใจแล้ว 

 

                เมื่อเดินออกจากร้านกระดาษสีสวย สายตาของสาวน้อยมองตามคนถือถ้วยไอติมกะทิสดเดินผ่านไปจนเหลียวหลัง ปารหันซ้ายหันขวา แล้วหยุดสายตาอยู่ที่ถังสแตนเลสทรงสูง ด้านบนมีฝาปิด ฝาถูกเปิดออกเมื่อคนขายจับที่ตักไอติมล้วงลงไปในถังสแตนเลส ออกแรงกดไอติมกะทิสดให้ม้วนตัวเข้ามาอยู่ในที่ตักจนเต็มเป็นลูกกลม ๆ ก่อนจะบีบใส่ถ้วย หรือโคน หรือขนมปัง แล้วโรยด้วยถั่วลิสง ตามด้วยนมจืด หรือช็อกโกแลต ถัดไปเป็นร้านไอติมหวานเย็น ถังแสตนเลสทรงสูงปากกว้าง ตัวถังด้านบนจะเป็นถาดมีรูกลม ๆ วนเป็นแถววงกลม รูปทรงเหมือนซึ้งนึ่งแต่รูใหญ่กว่า สำหรับใส่แท่งพิมพ์ไอติมหวานเย็น ด้านล่างเป็นน้ำแข็ง ไอติมหลากสีทำจากน้ำหวาน หรือทำจากน้ำอัดลมมคนขายจะหมุนถังด้านบนไปมาอยู่เสมอ

 

               “พี่ยนตร์ทานไอติมกัน”

 

               เด็กสาวเดินรี่ไปหาถังไอติม โดยมีหนุ่มแว่นเดินตามไป

 

               “พี่ยนตร์ เอาไอติมใส่ขนมปังใช่ไหมคะ” ปารหันมาถาม

 

               ยนตร์มองสาวน้อยนิ่งงัน เธอยังจดจำได้เสมอว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร

 

               “วันนี้อากาศร้อนมาก พี่อยากกินไอติมหวานเย็นมากกว่านะ” เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย

 

                ปารอมยิ้มน้อย ๆ เพราะรู้ดีว่า แท้จริงแล้วเขาอยากทานไอติมหวานเย็นเป็นเพื่อนเธอมากกว่า จำได้ว่าตอนเด็ก วันนั้นพ่อพาเธอและยนตร์ไปซื้อของในห้างใหญ่ประจำจังหวัด เธอรีบกระโดดขึ้นรถจนลืมรองเท้า เพราะเด็กบ้านนอกอย่างเธอชินกับการอยู่กับสวนกับไร่ มักจะวิ่งเล่น เดินเท้าเปล่า ปีนขึ้นต้นไม้เป็นว่าเล่น จึงมักจะลืมรองเท้าไว้ตรงนั้นตรงนี้บ่อย ๆ พอลงจากรถจะเดินเข้าห้าง เพิ่งรู้ตัวว่า ไม่ได้เอารองเท้ามาด้วย ยนตร์กลับบอกเธอว่า ไม่เป็นไร จะเดินเป็นเพื่อน เขาถอดรองเท้าไว้ในรถ เดินเท้าเปล่าเข้าห้างไปกับเธอหน้าตาเฉยเลย

 

                แม้ว่าปารจะยังชอบทานไอติมกะทิสดอยู่ แต่เธอเลือกไม่ทานด้วยความสงสารวัว ลูกวัวที่เกิดมาจะมีโอกาสได้กินนมแม่ของมันเพียงน้อยนิด เพราะมนุษย์นั้นแย่งนมของมันมากินหมด เธอคิดว่า ทำไมคนเราจะต้องไปแย่งนมลูกวัวกินด้วยนะ ความอร่อยของมนุษย์มักทำให้สัตว์อื่น ๆ ลำบาก ทรมาน และเจ็บปวดเสมอ วัวที่ถูกเลี้ยงเพื่อรีดนมจะมีอายุไม่ยืนยาวตามอายุไข เพราะมันจะต้องตั้งท้องทุกปี ถึงจะมีน้ำนมเมารีด ให้มนุษย์ทานกันได้ วัวส่วนใหญ่จึงมักจะป่วยตายก่อนกำหนดด้วยโรคที่เกี่ยวกับเต้านมอักเสบต่าง ๆ

 

 

 

               ปารซื้อไอติมหวานเย็นมาสองอัน สำหรับตัวเองหนึ่งอัน แล้วยื่นอีกอันให้พี่รหัสก่อนจะทานไอติมอย่างเอร็ดอร่อย

 

                “พี่ยนตร์ไอติมเปื้อนแก้มค่ะ ปารเช็ดให้นะคะ”

 

               เด็กสาวค่อย ๆ เอื้อมมือจะไปเช็ดแก้มให้ชายหนุ่ม แต่ถูกเขาจับมือไว้

 

                 “ไม่ต้องเลย!” เขารู้ดีว่า ไม่มีอะไรเลอะแก้มเขาทั้งนั้น เธอจะแกล้งเขาต่างหาก คราวนี้ล่ะจะเลอะของจริง

 

                  ปารหัวเราะคิก เมื่อถูกรู้ทัน

 

               “พี่ยนตร์ยังจำได้หรอคะ”

 

                “ทำไมจะจำไม่ได้ จำฝังใจเลยล่ะ เรากับภาชอบเห็นพี่เป็นตัวตลก ชอบมารุมแกล้งพี่อยู่เรื่อยเลย เป็นโรคอะไรเนี่ย...” เขาบ่นเบา ๆ ถึงเรื่องราวในวัยเด็กเวลาทานไอติมทีไร สองสาวจะต้องมารุมแกล้งเขาจนหน้าเลอะเทอะไปหมด เห็นหน้าเขาเป็นกระดานไวท์บอร์ดไปได้ แม้เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง แต่เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เมื่อไหร่ กลับรู้สึกมีความสุข แม้ว่าจะเป็นคนถูกแกล้งก็ตามที

 

                “พี่ยนตร์ว่า นภากับพี่นรินทร์จะซื้อของเสร็จหรือยังคะ” ปารนึกถึงเพื่อนสาวขึ้นมาไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้างที่สองคนนั้นไปด้วยกัน

 

 

 

============

 

 

 

                หลังจากจ่ายเงินค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยนรินทร์กับนภาจึงพากันเดินออกมาจากร้าน รถลาบนถนนยังคงวิ่งกันขวักไขว่เช่นเดิม แถมรถบางคันยังพ่นควันดำออกมาอีกต่างหาก

 

 

 

               “เดี๋ยวเราต้องข้ามถนนกลับไปฝั่งนู้นนะ พร้อมมั้ย” นรินทร์บ่ายหน้าไปยังฝั่งตรงกันข้าม และเดินไปยืนรอทางด้านขวาของสาวน้อย

 

                เด็กสาวรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาทันที เมื่อรู้ว่าจะต้องข้ามถนนที่จราจรหนาแน่นเช่นนี้อีกแล้ว

 

                “ส่งมือมาสิ” เขาผายมือมารับ

 

                นภาอึกอัก ไม่อยากส่งมือของตัวเองให้ชายหนุ่ม เกิดมาเคยส่งมือให้หนุ่มที่ไหนจูงมือกันเล่า นอกจากพ่อและพี่ชายเท่านั้น

 

                “ทำไม! เขินเหรอ” เขาแกล้งแหย่ มองเด็กสาวทำท่ายึกยักไม่ยอมส่งมือของเธอมาซักที จะคว้ามือเธอเหมือนตอนแรกที่พาข้ามถนนมา ก็กลัวว่า ถ้าเธอยังไม่พร้อมจะข้ามถนนจริง ๆ แล้วถ้าเขาทำอย่างนั้น จะทำให้เธออาการกำเริบขึ้นมาอีก

 

                คำพูดนั้นของเขา ทำให้อีกฝ่ายต้องหันขวับมาจ้องหน้าเขาเขม็ง

 

               “เปล๊า....” เด็กสาวตีหน้าตายขึ้นเสียงสูง เพื่อกลบเกลื่อนความจริง เพราะอยู่ดีดีจะให้ส่งมือให้หนุ่มที่ไหนได้อย่างไรกัน ไม่ว่าเขาจะหล่อแค่ไหนก็ไม่มีทางซะหรอก

 

                 “พี่ไม่ต้องช่วยฉันหรอกนะ ฉันอยากจะลองข้ามด้วยตัวเองก่อน” เธอบอกเขา

 

                “ถ้าตกใจกลัว ก็เกาะแขนพี่ไว้ก็แล้วกัน”

 

                นรินทร์ลดมือลงราวกับใบหน้านั้นร้าวไปทั้งแถบ ไม่เคยถูกสาวไหนปฏิเสธอย่างนี้มาก่อนเลย

 

                ทั้งคู่เดินออกไปยืนรอที่ริมฟุตบาตเตรียมข้ามถนน มองไปทางขวามือเพื่อดูรถลาบนถนน เมื่อมองเห็นรถที่วิ่งมาทิ้งระยะห่างไกลกันพอสมควร พอที่จะข้ามถนนได้ และรถเคลื่อนที่ไม่เร็วนัก ทั้งสองกำลังจะก้าวเท้าลงไปบนถนนแล้ว แต่ทว่ามีรถมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างคันหนึ่งวิ่งย้อนศรมาทางซ้ายมือของนภา หนุ่มหล่อหันมาเห็นเข้ารีบคว้าตัวสาวน้อยที่ยืนมองแต่รถทางขวา และไม่ได้ระวังหลบไปทันที

 

                สาวน้อยเสียหลักเซไปกระแทกแผ่นอกของหนุ่มรุ่นพี่เข้าอย่างจัง! นภานิ่งอึ้งไปชั่วอึดใจ รีบขยับแก้มออกจากแผ่นอกของชายหนุ่มอย่างด่วนจี๋

 

               ‘กรี๊ดดด.....!!!’

 

                เด็กสาวแทบกรี๊ดสลบ เมื่อเห็นตัวเองนั้นตกอยู่ในอ้อมแขนของหนุ่มหล่ออีกแล้ว

 

 

*****************  

 

สวัสดีค่า...ขอบคุณมากๆ ที่ติดตามและคอมเม้นต์ให้นะคะ  ขอแจ้งให้ทราบว่า  เรื่องนี้จะอ่านฟรีถึงตอนนี้  ตอนหน้าจะติดเหรียญแล้วนะคะ  

 

 

 

 

 

 

 

 

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ tor

ทรมาร = ทรมานครับ

รูปภาพของ Risait444

ขอบคุณมากๆ เลยค่า...

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.