ตอนที่ 20 .. “ พึ่งรู้ว่าใช่ ”

ไม่มีคำตอบ...จากหัวใจ
คุณกำลังอ่าน: ไม่มีคำตอบ...จากหัวใจ

-A A +A

ตอนที่ 20 .. “ พึ่งรู้ว่าใช่ ”

ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ นิยาย ไม่มีคำตอบ...จากหัวใจ

    เป็นเพียงความบันเทิงในการฟัง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆของตัวละครในนิยาย เพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้มีผลใดๆกับทางการค้าทั้งสิ้น .. ด้วยความเคารพ ผู้ประพันธ์นิยาย .. วีณา

ฉันกำลังเป็นตัวแทนของใครหรือเปล่า - พี สะเดิด

https://www.youtube.com/watch?v=WlY25SbEHFo

ขอขอบคุณ คุณ พี สะเดิด จาก ค่าย แกรมมี่ ที่เอื้อเฟื้อเพลงให้มาประกอบในนิยาย

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

ตอนที่ 20 .. “ พึ่งรู้ว่าใช่ ”

“ดาวออกมาได้แล้ว เห็นไหมว่าดาวทำอะไรลงไป วุ่นวายหมดแล้ว” นุ่นหันไปบอกพราวและเอียด เพื่อตัดความรำคาญ

“ไปพี่พราว เอียด เราเข้าไปข้างในกันดีกว่า ร้อนด้วย ใครอยากจะ Clear อะไรกัน ก็เชิญตามสบาย”

     นุ่นงอนกุ้ง มองหน้าแล้วก็เชิดใส่ ปล่อยมือกุ้งที่จับอยู่ทันที แล้วไปจับพราวและเอียดแทน

“ไปเอียด พี่พราว หนูก็เบื่อ มีแต่เรื่อง ชิ” คงเหลือแต่กุ้งกับดาวที่ยืนอยู่ข้างนอกสองคน

“ไป เขาไปกันหมดแล้ว อยากจะอยู่ข้างนอกคนเดียวก็เอา พี่ไปหละ”

     ดาวรีบจับมือและแขนกุ้งแล้วเดินเข้าไปพร้อมกัน ทอมขอตัวกลับก่อนจึงร่ำลาเพื่อน พร้อมวาและตาล

“ดูแลตัวเองด้วยนะแก ฉันกับอี 2 ตัวเนี่ย กลับก่อนหละนะ แล้วจะโทรหานะแก” น้องพยักหน้า

“มะมากอดที” โกร๋นเดินผ่านมาพอดีเห็นเต็มๆจึงเบือนหน้าหนี ไม่อยากเห็นภาพบาดตาภาพนั้น ขณะที่สองคนกำลังกอดกัน

“ฉันไปก่อนนะแก” วาลาเพื่อน “มีอะไรก็ใจเย็นๆนะแก อย่าใจร้อน” ตาลสั่งก่อนที่จะขึ้นรถ

“เออๆ ไปเถอะ ไปได้แล้ว เดี๋ยวฝนจะตกเสียก่อน ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มแล้ว ไป ฉันสบาย ไม่มีอะไร”

“สู้ๆ” ทอมบอกก่อนที่จะออกรถไป ดาวยังไม่อยากเข้าข้างใน จึงอ้อนกุ้งขอให้นั่งอยู่ข้างนอกเป็นเพื่อนเธอก่อน กุ้งก็ตามใจเพราะขืนเข้าไปตอนนี้ได้ทะเลาะกับนุ่นและเอียดแน่ จึงพาดาวไปนั่งที่หลังรถของเขา เปิดประตูหลังไว้ให้ลมพัดผ่าน ดันเบาะหลังพับลงไป

     แล้วรถของทอมก็ลับตาน้องไป น้องหันกลับมาเจอสายตาของโกร๋นจ้องมองอยู่ไม่ไกลนัก น้องไม่สนใจ รีบเดินเข้าด้านในทันที โกร๋นรีบเดินไปดักหน้า เพื่อที่จะขอ Clear อะไรบางอย่างก่อน ไม่งั้นคืนนี้นอนไม่หลับแน่ น้องเดินหนีโกร๋น โกร๋นก็ดักหน้าดักหลังไม่ยอมให้ไปจนกว่าจะได้พูดกัน น้องจ้องตาโกร๋นแล้วพูด “ถอยไป อยากมีเรื่องรึไง” โกร๋นเดินเข้ามาจับไหล่ของน้อง

“พี่ไม่ดีตรงไหน ทำไมน้องถึงไม่มองพี่บ้าง ไม่ให้โอกาสคนอย่างพี่บ้างเลย มองแต่คนรวยๆเท่ห์มีเก๋งขับยังงั้นเหรอ แล้วที่ผ่านมา มันคืออะไร ที่น้องมีวันนี้ได้ ไม่ใช่เพราะพี่หรอกเหรอ ถ้าพี่ไม่พาน้องไปที่ฟาร์ม น้องจะได้เจอกับกุ้งกับนุ่นไหมคิดซิ คิดให้ดี”

“พี่อย่ามาล้ำเลิกบุญคุญกับหนูนะ อีกอย่าง หนูไม่ได้เป็นคนแบบนั้น จะมีรถหรือไม่มี จะรวยหรือไม่ หนูไม่เคยสน ถ้าหนูจะรักใครสักคน หนูจะรักเค้าคนนั้นที่ใจไม่ใช่เงินตรา ขอให้เข้าใจหนูซะใหม่ด้วย อีกอย่าง ต้องเข้าใจ เป็นห่วงและสามารถเป็นที่พึ่งที่ปรึกษาให้หนูได้ ไม่ใช่คอยแต่หาเรื่อง แสดงว่าพี่ยังไม่รู้จักหนูดีพอถึงได้พูดแบบนี้ออกมา ถ้าพี่คิดว่าหนูเป็นแบบนั้น เป็นคนเห็นแก่ได้ เป็นคนไม่ดี แล้วมายุ่งมาวอแวกับหนูทำไม ทำไมไม่ออกห่างให้ไกลๆ ไปซิหนูจะได้รู้และเข้าใจตั้งแต่วันนี้ว่าที่จริงแล้วพี่เป็นคนยังไง”

     มอญกำลังจะเดินเข้าไปในสตูดิโอเห็นดาวกำลังนั่งพลอดรัก สวีทหวานเจี๊ยบอยู่กับกุ้งหลังรถของกุ้ง เพราะนึกว่าไม่มีใครมาแถวนี้ แล้ว ดาวนั่งอยู่ในอ้อมกอดและนั่งพิงตัวกุ้งอยู่ กุ้งเอามือซ้ายมาพาดไหล่คล้องดาวไว้ มือขวาของกุ้งดาวจับดึงเข้าไปจับเต้าซ้ายเธอไว้ ส่วนดาวเองก็หันหน้าจูบอยู่กับกุ้งอย่างดูดดื่ม มอญแอบเห็นเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ โมโหมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงตัดใจเดินเข้าข้างใน

“ถอยไปนะหนูจะเข้าไปทำงาน พี่มีสิทธิ์อะไรมาทำกับหนูแบบนี้” น้องตบหน้าโกร๋น เมื่อโกร๋นจูบปากเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต

“สิทธิ์ของคนที่มันรักมันห่วงไง พี่รู้นะว่าน้องหงุดหงิดเรื่องอะไร ไอ้กุ้งใช่ไหม พี่เห็นสายตาที่น้องมองมัน มันต่างจากสายตาที่มองพี่ แล้วไอ้ทอมแฟนเธอหละ เธอเอามันไปไว้ตรงไหน ถ้าเธอมีใจให้กับไอ้กุ้ง ไม่เข้าใจทำไมนะพวกสาวๆ ต้องไปหลงไปรักมันด้วย”

“ก็พี่กุ้งน่ารัก อบอุ่น หน้าที่การงานดี โปรไฟล์เยี่ยมออกขนาดนั้น ใครไม่สนก็โง่แล้ว ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้หรอก ไม่ได้เรื่อง”

“น้อง ทำไมถึงพูดกับพี่แบบนี้ พึ่งรู้ว่าใช่รึไง อ๋อ เพราะแบบนี้เองใช่ไหม เธอและพวกสาวๆพวกนั้นถึงไปชอบ ไปหลง ไปรัก มันอยู่คนเดียว แล้วเป็นไง เจ็บไหมหละ ที่มันมีทั้งนิด ทั้งนุ่น และอีดาวหนะ น้องจะยอมเข้าไปเป็น 1 ในคอลเล็คชั่นของมันอีกคนเหรอ”

“นั่นมันก็เรื่องของหนู พี่ไม่เกี่ยว หนูจะรักใครชอบใคร พี่มาเกี่ยวอะไรด้วย ทอมก็ส่วนทอม พี่กุ้งก็ส่วนพี่กุ้ง แล้วพี่มายุ่งอะไรกับชีวิตหนูมิทราบ จะพี่กุ้งหรือทอม หนูจะรักใครเลือกใคร มันก็อยู่ที่ใจหนู ถอยไป จะเข้าไปทำงานแล้ว อย่าให้หนูเกลียดพี่ไปมากกว่านี้เลย ถ้าหนูทนไม่ได้ขึ้นมาเมื่อไหร่ แม้แต่คำว่าเพื่อน พี่ก็จะไม่ได้ จากหนู หลีกไป อ้อ..แล้วขอร้อง อย่าทำแบบนี้อีก เพราะถ้าพี่บังอาจทำแบบนี้กับหนูอีกครั้ง ก็ไม่ต้องมาเจอหน้ากันและทักทายกันอีกเลย จำไว้ แค่คนรู้จักก็จะไม่มีโอกาสได้เป็นด้วย จำใส่กบาลไว้เลย”

     น้องรีบเดินเข้าสตูดิโอทันที ปล่อยให้โกร๋น ยืนเจ็บใจและอารมณ์ค้างอยู่ตรงนั้นคนเดียว ดันเผลอไปจูบปากเขาซะนี่ ไม่น่าเลย

“โธ่ โว๊ย นี่มันอะไรกันวะ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง” โกร๋นเอาเท้าเตะไปที่เสาอย่างแรง “อูย” แล้วก็ค่อยๆเขย่งตัวเข้าสตูดิโอไปเช่นกัน..เมฆนั่งซึมอยู่ที่หน้ามอนิเตอร์ นุ่นเดินเข้ามาพร้อมเอียด อาการไม่ต่างกันสักเท่าใด แต่ยังไม่หนักไปกว่า มอญกับโกร๋น

“ไหวหรือเปล่าพี่” นุ่นกลัวงานไม่เสร็จ เมฆหันหน้ามายิ้มให้กับนุ่น ปรับโหมดใหม่ งานก็คืองาน ต้องมีสปีริตก่อน ไม่งั้นงานพังแน่

“ไหวครับ ไป เราต่อกันเลย” เมฆยกวอร์แล้วพูดกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง เอียดเห็นทุกคนจะทำงานก็เลยขอตัว

“ไหวนะแก งั้นฉันไม่กวนแล้ว ขอตัวไป Clear งานเหมือนกัน หอบเอามาทำแก้เซ็ง ว่างๆแล้วค่อยคุยกัน ไปหละ”

“เออ ต้องขอโทษที ที่เหตุการณ์มันไม่เป็นดังที่คิด วุ่นวายไปหมด ช่วงเบรกค่อยเจอกัน ไปทำงานแกเถอะ”

“เอาๆ ชอตต่อไปเตรียมได้เลย ฉากพร้อม แสงพร้อม นางแบบพร้อมนะครับ” เมฆลุกขึ้นยืนบอกกับทีมงานทุกคน

     แล้วทุกคนก็กลับเข้ามาทำงานกันดังเดิม พยายามลืมเรื่องและเหตุการณ์ต่างๆเมื่อกี้ไปก่อน แล้วค่อยว่ากันใหม่อีกครั้งหลังจบงาน

----- ^^^^^ -----

     เวลาล่วงเลยผ่านไปจน 4 โมงเย็น นิดแต่งตัวไปทำงานและไม่ลืมที่จะฝากข้อความทิ้งไว้ให้กุ้ง สามีไปรับด้วย เพราะไม่ได้ขับรถไปทำงาน จะให้ผัวไปรับ “ผัวขา คืนนี้อย่าลืมไปรับเมียด้วยนะ อย่าหักโหมงานมากจนเกินไปนักหละ เดี๋ยวจะไม่สบาย รักนะ จุ๊บๆ”

     เสียงข้อความดังขึ้นจึงทำให้ดาวรู้สึกตัวปล่อยปากจากกุ้ง “พี่กุ้งดาวไม่ไหวแล้ว ขอหละอย่าว่าดาวนะ” ดาวไม่ฟังเสียง รีบดึงประตูหลังปิดทันทีและขอมีความสุขกับกุ้งตามที่ใจต้องการ กุ้งไม่สามารถที่จะขัดใจดาวได้เพราะดาวไม่รอให้กุ้งตอบรู้ตัวอีกทีดาวขึ้นขย่มตอและกำลังมีความสุขอยู่คนเดียว สรุปว่าดาวมีความสุขกับกุ้งในรถนั่นแหละไม่รอเข้าไปข้างในแล้ว เพราะดาวมีความต้องการมาก

     ช่วงพักสุดท้ายตอนประมาณ 18.00 น. ฝนด้านนอนตกหนักมาก ดีนะที่นุ่นได้สั่งพิซซ่ามาเสียก่อน ไม่งั้นก็ไม่มีอะไรทานแน่คืนนี้ นุ่นได้สั่งพิซซ่ามาเลี้ยงทุกคน เพราะงานไปได้ดีมาก เมฆไม่ทำให้เธอผิดหวังเลยทีเดียว นุ่นและเมฆลืมเรื่องนั้นไปแล้วจริงๆ มุ่งโฟกัสกับงานเท่านั้น น้องหลังจากพักก็แยกตัวไปนั่งตามลำพังเพราะเสียใจที่รู้ว่ากุ้งเป็นแฟนกับนุ่นไปแล้ว พราวเดินมาเรียกให้ไปทานพิซซ่า เพราะฝนตกไม่สามารถออกไปทานอะไรข้างนอกได้

“ไป เป็นอะไร พอเพื่อนๆไม่อยู่เหงาหละซิ ไปทานพิซซ่ากัน นุ่นเค้าสั่งมาเลี้ยง เพื่อน้องโดยเฉพาะเลยนะ ไปกัน เร็ว”

     พราวลากน้องไปนั่งกินพิซซ่ากับเพื่อนๆนางแบบที่ทำงานอยู่ด้วยกัน น้องจำใจต้องไป เพราะถ้าไม่ไป เดี๋ยวเขาจะมองว่าหยิ่ง จะอยู่ในวงการนี้ยาก น้องต้องฝืนยิ้มและต้องทนอยู่กับคนพวกนี้อีกนาน ต้องผูกมิตรเอาไว้ ไม่งั้นอยู่ไม่ได้แน่อีกตั้ง 1 คืน 1 วัน

“แล้วนี่พี่ชายตัวดีของฉันหายไปไหนเนี่ย ไหนบอกว่าเป็นแฟนกันแล้วไง ทำไมถึงไม่เห็นอยู่ด้วยกันตั้งแต่หลังมื้อเที่ยง อีดาวฉันก็ไม่เห็นเหมือนกัน อย่าบอกนะว่า หายไปด้วยกันและแอบไปทำอะไรกันอยู่หนะ พี่กุ้งนะ เจ็บแล้วไม่จำ ก็ไม่ใช่เพราะอีนังนี่หรอกเหรอ ถึงต้องเกือบปางตายเมื่อ 6 ปีที่แล้ว นี่แกไม่หึงไม่หวง ไม่มีความรู้สึกอะไรบ้างเลยรึไงยัยนุ่น แฟนทั้งคน ผัวทั้งคน แกทนได้ยังไง”

“แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง ฉันก็ทำทุกวิถีทางแล้ว ไม่งั้นจะลากตัวมาด้วยเพื่ออยู่กับฉันวันนี้เหรอ อุตส่าห์ลากตัวมาได้แล้วก็จริง ฉันก็นึกว่าวันนี้จะได้อยู่ด้วยกันสองคนผัวเมียแล้วเชียวนะ ไม่นึกว่ามันจะมีมารมาคอยตามหลอนฉันจนได้ พอมาถึงฉันก็เห็นอีนั่นอยู่กับพี่กุ้งแล้ว แกจะให้ฉันพูดยังไง ไล่มันไปงั้นเหรอ พี่กุ้งคงยอมหรอก เมื่อเช้าก็ถามแล้วนะ ว่าใช่ไหม ก็ยังปากแข็งไม่ยอมรับ ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่มีอะไรเป็นแค่เลขาผู้ช่วยเท่านั้น แล้วนี่ดูซิช่วงบ่ายเนี่ย หายไปด้วยกันแบบนี้ แกจะให้ฉันทำยังไง ถึงจะเป็นผัวแล้วก็ตามเหอะ ถ้าใจเขาไม่อยู่กับเรา จะแอบไปกินของเน่าๆที่ไหน ก็ไปเถอะ ของสดๆซิงๆดีๆอย่างฉัน ถ้าเขาไม่สนใจ ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว พูดแล้วมันก็เจ็บใจหวะ รู้งี้วันนั้น ฉันน่าไม่เผลอตัวเผลอใจยอมเป็นของเค้าเลย พูดไปก็อายตัวเอง อายแกเหมือนกัน”

“เออ ฉันเข้าใจ ทำใจซะเถอะวะไอ้นุ่น ในเมื่อแกเลือกทางเดินของแกแล้ว ไม่อยากแต่งงานกับนายสิงห์อะไรนั่น แล้วเลือกที่จะยอมมาเป็นเมียน้อยพี่ฉันเนี่ย ฉันเห็นใจแก ความรักมันห้ามกันไม่ได้ ทำไงได้วะ ในเมื่อแกยอมรับสภาพหลบๆซ่อนๆแบบนี้ได้ ฉันก็นับถือใจแกเลย ถามจริงๆเถอะวะเพื่อน มันเกิดขึ้นมานานหรือยัง กับความรู้สึกนี้ และตัดสินใจนานไหมที่ยอมบอกฉันเนี่ย”

“นานหวะ บอกตามตรงว่าทีแรกฉันก็ไม่กล้า แต่พอโดนแม่บังคับบ่อยๆมากขึ้น มันก็เลยต้องกล้า พึ่งรู้ว่าใช่จริงๆ ก็เมื่อตอนเช้านั่นแหละที่เห็นอีดาวมันมากอดมาจูบพี่กุ้ง ตอนก่อนที่ฉันจะขึ้นรถ บอกตามตรงว่าหึงมาก มันปรี๊ดเลย ที่เห็นแบบนั้น ฉันนี่แทบอยากจะไปจิกหัวมัน แล้วลากมาตบตบตบให้มันตายคามือไปเลย แต่ก็ทำไม่ได้เพราะกลัวพี่กุ้งว่าเอา พี่กุ้งคงไม่รู้ว่าฉันเห็น ฉันก็เลยลองใจถามไง แต่ในเมื่อไม่ยอมรับฉันก็พยายามใจเย็น ผัวทั้งคนนะแกจะปล่อยให้ทำยังงั้นต่อหน้าต่อตาได้นานสักแค่ไหนวะ คงนึกหละซิว่าฉันไม่รู้ไม่เห็นอะไร ให้ตายเหอะ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะกล้า หญิงก็ร้าย ชายก็ชั่ว ไม่รู้ว่าก่อนมารับฉันเนี่ย จะล่อกันไปกี่รอบกี่ยกแล้ว”

“อีนี่มันทำได้ทั้งนั้นแหละ ไม่งั้นมันจะกล้าหนีและทิ้งไปได้ยังไงเมื่อ 6 ปีที่แล้ว กลับมาคราวนี้ ไอ้เราก็นึกว่าจะเข็ด แต่กลับไม่จำ”

“นี่ก็ไม่รู้ว่าแอบไปเอากันที่ไหนอีก ลองหายไปนานๆแบบนี้เชื่อได้เลยว่า ทำแน่ คอยดูนะ อย่าให้ฉันจับได้คาหนังคาเขาก็แล้วกัน ผัวก็ผัวเถอะ ถึงจะรักมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่เกรงใจกัน ฉันก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกัน เห็นจะๆเมื่อไหร่ แม่จะระเบิดให้รู้เรื่องกันไปเลย เสียตัวแล้ว ทำไมต้องมาเสียใจอีกวะ” พูดจบก็หันซ้ายหันขวาไปดูว่า กุ้งผัวตัวดีอยู่ไหน เมื่อไม่เห็นจึงจะขึ้นไปดูด้านบน

“ขอตัวเดี๋ยวนะแก ขอขึ้นไปดูผัวตัวดีก่อน ว่าไปหลบนอนอยู่ข้างบนหรือเปล่า” นุ่นลุกขึ้นไปดูที่ห้องชั้นบน

“เออ เอาที่สบายใจเลย ถ้าไม่มีอะไรก็รีบลงมาแล้วกัน ฉันรออยู่ตรงนี้แหละ ไปไป ไปดูให้เห็นกับตา แกจะได้สบายใจ นุ่นเอ๊ย”

     กุ้งกับดาวเดินเข้ามาในสตูดิโอตอนไหนไม่รู้ คงตอนที่ไปชำระร่างกายหลังเสร็จกิจหละมั้ง กุ้งโทรหาเมฆเพื่ออยากจะ Clear และนัดคุยเรื่องก่อสร้าง วันลงเสาเข็ม เมฆและเพื่อนๆกำลังนั่งทานพิซซ่ากันอยู่ โกร๋นเห็นชื่อกุ้งดังขึ้นหลายครั้งแล้ว แต่เมฆไม่ยอมรับสาย คล้ายๆว่ายังโกรธเพื่อนอยู่ โกร๋นจึงบอกให้รับสายเถอะ วิธีหนีแบบนี้ไม่ใช่วิธีที่ดี เมฆจึงยอมรับสายเพื่อน

“กูอธิบายได้นะโว๊ย” เมฆรีบเปลี่ยนประเด็น เพราะไม่อยากฟังเรื่องนั้น

“ถ้าจะโทรมาพูดเรื่องนุ่นกูจะวาง” เมฆใจเด็ดเหมือนกัน กุ้งเลยรีบบอกสิ่งที่จะพูด

“กูไม่ได้จะโทรหามึงเรื่องนั้น กูแค่จะบอกมึงว่า ที่ของนุ่นที่จะสร้างบ้านหนะ กูจัดการเรื่องถมเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กูแค่จะถามว่า มึงจะมาลงเสาเข็มเมื่อไหร่ กูจะได้บอกนุ่นได้ถูก เพราะวันจันทร์กูไม่ว่างต้องไปอีกที่นึง กูจะได้รู้วันที่แน่นอน จะได้วางงานถูก”

“ไม่เป็นไร ถ้าเรื่องนี้ เดี๋ยวกูคุยกับน้องเค้าเอง แค่นี้ใช่ไหม กูขอตัวทานพิซซ่าก่อน เดี๋ยวไม่มีแรงทำงาน”

“เดี๋ยวไอ้เมฆกู” ไม่ทันแล้ว เมฆวางสายไปก่อน ดาวแอบมาข้างหลังกุ้งและกระโดดกอดจากข้างหลัง จนกุ้งล้มลงเพราะไม่ทันตั้งตัว

     นุ่นเดินลงมาจากชั้นบนเพราะไม่เจอกุ้งที่นั่น ก็แปลกใจว่า ทั้งบ่ายนี้กุ้งหายไปไหน ไม่เห็นหน้าเลย ดาวก็เหมือนกันไม่เห็น จึงเดินกลับไปที่เดิม “ไงแก เจอไหม” นุ่นส่ายหน้า “เมื่อกี้ฉันยังได้ยินพี่เมฆคุยกับพี่กุ้งทางโทรอยู่เลย น่าจะอยู่แถวๆนี่แหละ”

“จริงดิ” นุ่นเลย เดินไปหาเมฆ “พี่เมฆ” เมฆหันมา “มีอะไรเหรอนุ่น”

“เมื่อกี้โทรคุยกับพี่กุ้งเหรอ” เมฆพยักหน้า “แล้วได้ถามไหวว่าอยู่ไหน หนูไม่เห็นตั้งแต่บ่ายแล้ว มีธุระจะคุยด้วย”

“ลืมถาม ก็คงจะอยู่แถวๆนี้แหละ จะคุยอะไรกับมัน ถ้าเรื่องสร้างบ้านของหนู มันบอกพี่แล้ว”

“อ้าว ตกลงว่าคนที่พี่กุ้งบอก คือพี่เมฆเองเหรอ” เมฆพยักหน้าอีกครั้ง

“แหม พี่นี่เอาทุกอย่างเหมือนกันนะ” เมฆหันหน้าไปทางอื่น “ทำไงได้หละน้องก็พี่มันจนนี่ อะไรที่หาเงินได้ พี่ทำทั้งนั้นแหละ”

“ดูพูดเข้า หนูยังไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย แค่ชมว่าเก่ง ทำเป็นน้อยใจไปได้ จะรวยจะจน หนูคุยได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าคนนั้นเป็นคนดี”

“จร้า” เมฆหันมามองหน้านุ่น “นั่งก่อนซิ จะยืนอยู่อีกนานไหม ไม่เมื่อยเหรอ พี่หละเมื่อยแทนเลย ขอบใจนะสำหรับพิซซ่ามื้อนี้”

     นุ่นยิ้มหวานให้ “ไม่เป็นไรพี่ นิดหน่อย เพื่องาน เล็กๆน้อยๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่” นุ่นเดินลงมานั่งข้างๆเมฆโดยปริยายไม่กลับไปหาเอียด มอญเดินไปเข้าห้องน้ำได้สักพัก ขากลับเห็นดาวกำลัง เฮฮากอดรัดฟัดเหวี่ยงสนุกสนานเริงรักกับกุ้งอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องพัก

     ทั้งคู่วิ่งไล่จับกันจนเพลิน วิ่งหลุดเข้าไปในสตูดิโอโดยไม่รู้ตัว มอญจึงร้องเพลงหนึ่งให้ดาวฟัง คนทั้งสตูดิโอได้ยินพร้อมๆกัน

< คนไม่มีอะไร - สน สนธยา > https://www.youtube.com/watch?v=IXSFKrmYJ8w

     คนทั้งสตูดิโอหันไปมองกุ้งกับดาวที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันขณะที่วิ่งไล่จับกันอยู่ โดยที่ไม่ได้แคร์สายตาผู้ใดในนั้นเลย มารู้ตัวอีกทีก็อีตอนที่มอญร้องเพลงนี่แหละ กุ้งกับดาวจึงหยุดหยอกล้อ หยอกเอินกันได้ ท่ามกลางสายตาของคนนับสิบ ดาวอายมากที่ทุกคนได้เห็นภาพเหล่านั้น ดาวรีบจัดเสื้อผ้า ชุดเสื้อกระโปรงที่ใส่มาให้เข้าที่เข้าทางและหาที่นั่งแถวนั้นหลบสายตาทุกคนที่มองมา

     หลังจากเพลงจบ มอญจึงตัดใจจากดาวได้สักที เพราะคิดว่ากำลังจะขอคืนดีเพื่อเห็นกับความรัก 2 ปีที่ผ่านมา คิดว่าดาวคงอยากจะกลับมาอยู่กับเขาบ้าง ถ้าพูดจากันดีๆด้วยเหตุผล แต่เปล่าเลย เมื่อเขาได้เห็นแล้วว่า ดาวเลือกที่จะกลับไปอยู่ ไปหาคนรักเก่าอย่างกุ้ง

“ขอให้มึงมีความสุขกับสิ่งที่มึงเลือกนะดาว กูคงจะไม่มีทางสู้ไอ้กุ้งมันได้ จากนี้ต่อไปขอให้มึงสบายใจได้ กูจะไม่เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตมึงอีกเลย กูให้สัญญา” ดาวไม่สนใจ ในเมื่อความจริงปรากฏแล้ว จะได้ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีก รู้ซะได้ก็ดี จะได้จบๆกันไป

“เออ ในเมื่อมึงรู้แล้วว่ากูกับพี่กุ้งกลับมาคืนดีกันแล้ว คนอย่างมึงก็ไม่ต้องสะเออะมายุ่งและวุ่นวายกะชีวิตของกูอีก จะไปตายที่ไหนก็ไป ไอ้มอญ” มอญเสียใจที่ได้ยินคำพูดนี้ออกมาจากปากของดาว คนที่เคยเลี้ยงดูและให้ความสุขสบายมาถึง 2 ปีเต็มๆ มันไม่มีความดีอะไรที่น่าจดจำเลยรึไง กุ้งผลักดาวออกไปแล้วพูดกับมอญ “เอ๊ย มอญกูขอโทษ กูไม่ได้ ตั้งใจ กูขอโทษ กู..” มอญยกมือห้ามเพื่อน

“อย่าไอ้กุ้ง อย่าให้กูต้องเสียความรู้สึกมากไปกว่านี้ มึงไม่ได้เป็นคนผิดไม่ต้องมาขอโทษอะไรกูเลย กูเข้าใจ อีดาวมันไปจากกูเองตั้งนานแล้ว จากนั้นมันจะไปดอกทองที่ไหน ไปเอากับใคร นอนกับใคร มันก็สิทธิ์ของมัน แต่มันเลือกที่จะกลับไปหามึง และมึงก็เอามัน นั่นมันก็สิทธ์ของมึง มึงไม่ได้ผิดอะไรต่อกูเลยสักนิด มึงสบายใจได้ กูแยกแยะออก ก็ดีเหมือนกัน กูรู้ตอนนี้ ดีกว่ารู้วันอื่น เจ็บตอนนี้ ดีกว่าเจ็บวันอื่น ขอให้มึงมีความสุขกับอีนี่ต่อไปก็แล้วกัน ถ้าเจ็บมาอีกคราวนี้ มึงไม่ต้องมาหาพวกกูอีกนะ เพราะกูคงจะช่วยอะไรมึงไม่ได้อีกแล้ว กูมีเรื่องจะบอกมึงแค่นี้แหละ ขอบใจที่ฟัง” เอียดลุกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นมอญกำลังทะเลาะอยู่กับกุ้ง

     แล้วมอญก็เดินจากไป นุ่นไม่พอใจมากกับภาพที่เห็น ปาพิซซ่าที่กำลังทานอยู่ลงใส่ถาด และรีบลุกขึ้นเดินหายไปทางไหนไม่รู้จากตรงนั้น ส่วนน้องก็เช่นกัน อาการพอกันไม่แพ้นุ่น ลุกเดินออกไปอีกทาง ไปไหนก็ไม่รู้ โกร๋นลุกเดินตามไป เมฆเห็นดังนั้น จึงลุกตามนุ่นไปเหมือนกัน เอียดเลยตัดสินใจเดินไปหาพี่ชายตัวเอง เรื่องมันจะได้จบๆกันไปเสียที มันจะอะไรกันนักกันหนา

     มอญเดินมานั่งลงที่วง แล้วทานพิซซ่าต่อ ไม่สนใจอะไรแล้วทั้งนั้น เพราะทำใจได้แล้ว เอียดเดินมาถึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ตบหน้าดาวอย่างแรง แทนที่จะตบหน้ากุ้ง “อะไรกันพี่เอียด มาตบหน้าหนูทำไม หนูทำอะไรผิด”

“ยังจะมาถามอีก อีดาว แกนี่ ไม่ว่าปีไหน ตอนไหน เมื่อไหร่ อยู่ที่ไหน ก็หาแต่เรื่อง นำความฉิบหาย ความวิบัติมาให้ตลอด แกนี่มันศูนย์รวมความบรรลัยจริงๆเลยนะ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ จนถึงตอนนี้แก ก็ยังทำ แล้วยังจะมาถามฉันอีกเหรอว่าฉันตบแกทำไม”

“หนูไปทำอะไรให้ พี่ถึงได้จงเกลียดจงชังหนูนักเนี่ย” เอียดชี้ไปที่กุ้งซึ่งยืนอยู่ข้างๆ

“ก็นี่ไง” ดาวลุกขึ้นทันที ไม่ทนให้เอียดต่อว่าเอาฝ่ายเดียว แล้วตะโกนใส่หน้าเอียดด้วยเสียงที่ดังลั่น

“ทำไมพี่ หนูผิดตรงไหน นี่ผัวหนู” เอียดตบหน้าดาวอีก กุ้งจับมือน้องสาวไว้ทันที “ทำอะไรหนะเอียด” ดาวมองหน้าเอียด

“ผัวเหรอ อีหน้าด้าน หน้าไม่อาย ยางอายหนะมีบ้างไหม ฉันรู้นะว่าแกกลับมาหาพี่กุ้งทำไม อย่านึกว่าฉันไม่รู้ ว่าแกคิดอะไรอยู่”

     ดาวยังคงเห็นกับหน้าของกุ้ง ไม่อยากทำอะไรมากไปกว่านี้ เพราะกุ้งขอไว้ ถ้าคิดอยากจะอยู่ด้วยกัน จึงต้องอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“หนูวิ่งเล่นกับผัวหนูอยู่ข้างนอกตรงนี้ ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายกับการทำงานข้างในสักหน่อย แล้วมันผิดตรงไหน อีกอย่างตอนนี้ มันก็หยุดการทำงาน ไม่มีอะไร ไม่ได้ทำให้การทำงานของใครเสียหาย ถามหน่อย มันผิดตรงไหน ถ้ารู้ว่ามาแล้วมีปัญหา รู้งี้ไม่มาก็ดี นอนรอผัวอยู่ที่ห้องดีกว่าจะได้สบายใจ” พูดจบ ดาวไม่สนใจเอียด ไหนๆก็รู้ความจริงแล้ว เป็นไงเป็นกัน

     ดาวจับมือกุ้งเดินออกไปนอกสตูดิโอทันที ทั้งๆที่ฝนตกหนัก “อีดาว..พี่กุ้ง” กุ้งหันมายกมือบอกเอียด

“ใจเย็นๆ เอาน่า เรื่องนี้เดี๋ยวพี่ Clear เอง เอียดกลับไปอยู่กับเพื่อนๆก่อน เดี๋ยวพี่ตามเข้าไป”

     เอียดโมโหและหงุดหงิดมากที่กุ้งพูดแบบนั้น จากนั้นจึงหันหลังเดินกลับเข้าไปด้านในทันที

“ดาว หยุด พี่บอกให้หยุด” ดาวหยุดยืนอยู่กลางสายฝนที่กำลังตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตา แล้วร้องไห้

     ดาวปล่อยมือจากกุ้งเอามือทั้งสองมาปิดหน้า และนั่งร้องไห้กลางสายฝน ไม่ยอมลุกไปไหน เพราะมันสุดที่จะทนแล้ว

“ทำไมดาวถึงพูดออกไปแบบนั้น เราเคยสัญญากันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่เปิดเผยสถานะ จะอยู่กินกันอย่างเงียบๆ”

“ก็ดาวทนไม่ไหวแล้ว กับการปิดบังและหลบๆซ่อนๆแบบนี้ ทั้งนุ่นทั้งเอียด บังคับหนูเองนะพี่” ดาวหันมา ระเบิดอารมณ์ใส่กุ้ง

“หนูก็อยู่ของหนูเงียบๆทำตามที่พี่ขอทุกอย่าง ทำไมคะ แค่ขอวิ่งเล่นมีความสุขกับผัวบ้างตามเวลาที่มันมีอยู่น้อยนิดแบบนี้ หนูผิดมากเลยเหรอ หนูไม่ได้ไปแหกปากบอกใครทุกคนว่า นี่พี่กุ้งผัวฉันนะทุกคนกรุณารับรู้ไว้ด้วย จะให้หนูพูดแบบนี้เหรอคะพี่”

“พี่ขอโทษดาว พี่ขอโทษ” ดาวทรุดตัวคุกเข่าลงตรงนั้น กุ้งวิ่งเข้ามาประคอง สักพักดาวนิ่งไปเลย หมดสติอยู่ในอ้อมแขนของกุ้ง

     กุ้งเอามือจับหัวดาวดู ร้อนจี๋เลย เพราะตากฝน ประกอบกับชุดที่เธอใส่มามันบางมาก พอเปียกฝนก็เห็นหมด อุณหภูมิในร่างกายจึงปรับสภาพไม่ทัน กุ้งรีบอุ้มดาวเข้าไปในสตูฯทันที ทุกคนหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ดาวนอนตัวสั่นยังกะลูกนกอยู่ในอ้อมแขนของกุ้ง

“คุณพราว คุณพราว” พราวรีบวิ่งมาหากุ้ง “ขาคุณกุ้ง” พราวมองดูดาวที่กำลังสั่น

“พอจะมีชุดใหม่เปลี่ยนให้ดาวมั่งไหมครับ ชุดอะไรก็ได้ แต่ตอนนี้ผมขอยาแก้ไข้ก่อน ผมฝากด้วย”

“ได้ค่ะ ทางนี้เลยค่ะ เอ้าทุกคนหลบหน่อย” พราว พากุ้งไปยังห้องพักชั่วคราว ที่จัดเตรียมไว้สำหรับพวกนางแบบคืนนี้

“ทางนี้เลยค่ะ คุณกุ้งไม่ต้องห่วงและกังวลนะคะ ยังไงเดี๋ยวพราวจะดูแลน้องคนนี้ให้ สบายใจได้ คุณกุ้งออกไปก่อนแล้วกัน คงไม่สะดวกถ้าจะอยู่ เพราะนี่มันห้องของพวกผู้หญิงเค้า อ้อ เห็นยัยนุ่นตามหาอยู่ ไปหาแฟนคุณก่อนเถอะค่ะ ทางนี้พราวดูแลเอง คืนนี้คงจะหลับยาว เพราะไข้สูงมาก เดี๋ยวพราวจะเช็ดตัวและเปลี่ยนชุดให้ก่อน ไข้จะได้ลดลงบ้าง เอ้า พวกเธอไปเอายากับชุดมาให้พี่หน่อย ไปไป ช่วยกัน” กุ้งเป็นห่วงดาวมาก แต่ก็ต้องไป เพราะมีงานค้างอยู่อีก คือต้องไปรับนิด

     ยิ่งฝนตกหนักขนาดนี้ ต้องรีบไปก่อนเวลาเพราะรถติดแน่ “ผมฝากดาวด้วยนะครับ แล้วพรุ่งนี้จะมารับ ผมไปหละ”

“ค่ะๆ อ้อ เดี๋ยวค่ะ..ไปซะแล้ว จะถามสักหน่อยว่าทำไมต้องพรุ่งนี้ แสดงว่าคืนนี้คุณกุ้งไม่ได้ค้างที่นี่กับยัยนุ่นหละซิเนี่ย”

>>>>> ***** <<<<<

     โรสพาออยกลับมาถึงบ้านอย่างทุลักทุเล เพราะฝนตกหนัก ดีนะที่ออกมาก่อนสักพักใหญ่ ไม่งั้นก็คงจะติดอยู่บนถนนแถวๆในตัวเมือง กทม. โชคดีที่ขึ้นสะพานพระราม 8 แล้วเข้าถนนลอยฟ้าทัน รอดวิกฤตรถติดมาอย่างหวุดหวิด มาติดฝนแถวๆถนนบรมฯขาออก ก็ไม่เท่าไหร่ เพราะถนนโล่งมาก หลังจากลงจากถนนลอยฟ้าก็บึ่งตรงเข้าบ้านที่สาย 5 ทันที ไม่ได้แวะที่ไหนอีกเลย

“เอ้า เข้าบ้านก่อนแก ฝนตกหนักแบบนี้ คงอีกนานกว่าจะหยุด เอางี้ คืนนี้แกค้างกับฉันที่นี่เลยแล้วกัน ฉันจะได้อธิบายและเอาแฟ้มงานให้แกเลย” ออยคิดอยู่พักนึง “ก็ได้ ดีเหมือนกัน ตกหนักขนาดนี้ถึงบ้านจะอยู่แค่นี้ ฉันก็ไม่อยากจะเสี่ยงขับฝ่าไปนอนกับแกก็ได้”

“พี่พิณ เอาของไปเก็บในห้องหนูแล้ว ช่วยหาชุดให้ไอ้ออยเพื่อนหนูด้วย ในตู้หนูหนะชุดไหนก็ได้ ผ้าเช็ดตัวกับแปรงด้วยนะ”

“ค่ะคุณหนู” พิณตะโกนลงมาจากข้างบน” ชัชเดินออกมาจากห้องทำงานพอดี ออยยกมือสวัสดี

“คุณพ่อ สวัสดีค่ะ แหม เมื่อเช้าตอนนอนอยู่ตรงนี้กับตอนนี้ ช่างต่างกันเลยสิ้นดี” ชัชยิ้มแบบอายๆ

“แหม หมดท่าเลยเรา อายจัง” ออยยิ้มและหัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องอายหรอกคะ แบบนี้หนูเจอบ่อย คุณพ่อหนูก็เป็น เวลาไปงานกินเลี้ยงทีไร กลับมา ไม่เคยได้นอนเตียงนุ่มๆสักที จองโซฟา หรือไม่ก็พื้นบ้านนั่นแหละค่ะ หนูถึงบอกว่าชินแล้ว เรื่องปกติ”

“แล้วเป็นไง เห็นว่ายัยโรส ขอตัวมาช่วยงานเหรอ ไหวไหม” ออยยิ้มให้กับชัชและจูงมือโรสมานั่งที่โซฟา

“ค่ะคุณพ่อ ก็ว่าจะขอลองทำดู เพราะงานแบบนี้หนูไม่เคยทำเลย ยัยโรสก็ไม่เคย พอเพื่อนชวนหนูก็เลยตอบรับทันที จะได้ศึกษาดูว่ามันยากแค่ไหน ไม่อยากนอนอยู่บ้านเฉยๆและผลาญอากาศหายใจไปวันๆ อย่างวันนี้ก็ไปดูร้านขายเสื้อผ้าที่สยามมา มันก็แปลกไปอีกแบบ ได้รู้ได้เห็นอะไรใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น” พอออยพูดถึงร้านที่สยาม จึงนึกขึ้นได้ เลยบอกพ่อ

“ใช่ค่ะพ่อ วันนี้หนูไปร้านไอ้ฝ้ายมา พ่อจำไอ้ฝ้ายได้ไหม ที่พึ่งไปงานแต่งมันมาเมื่อกลางปีที่แล้วหนะ” ชัชพยักหน้า

“นั่นแหละ ตอนนี้มันเปิดร้านขายเสื้อผ้าบูติควัยรุ่นที่สยาม ผัวมันลงทุนให้ เลยมาชวนหนูเข้าหุ้นด้วย พ่อว่าไง มีความเห็นยังไงบ้าง”

“เอ้า มาถามพ่อทำไม พ่อไม่ได้ไปเห็นด้วยหรือทำด้วยนี่กับตรงนั้น อีกอย่าง หนูโตแล้ว ก็ดูเอาซิลูก พ่อเคยสอนหนูไปแล้วใช่ไหม”

“แหม พ่อหนะ หนูพูดนิดเดียว เล่นเทศน์ยาวเลยนะ จำได้ค่ะ หลักธุรกิจเบื้องต้นที่พ่อเคยสอนเอาไว้” ชัชเอามือลูบหัวลูกสาวเบาๆ

“อะไรถ้าคิดว่า ทำแล้วมีรายรับรายได้ ถึงแม้ว่าจะน้อยนิด ทำไปเถอะ ถึงจะกำไรน้อยหน่อย แค่ขอไม่ขาดทุนก็พอแล้ว หนูจำได้ดีค่ะ”

“นั่นแหละ หนูก็ลองดูนะ ยังไม่ต้องรีบร้อน ดูให้มั่นใจ การลงทุนมันมีหลายแบบ ลงแล้วกระโดดลงไปทำด้วยบริหารด้วย กับลงทุนอย่างเดียวไม่บริหารรอปันผลอย่างเดียว เพราะฉะนั้น ผลตอบแทนและประสบการณ์ มันก็จะได้กลับมาต่างกัน คงเข้าใจนะสาวๆ”

     ทั้งสองคนหันไปมองหน้ากันและหันกลับมาไหว้ชัช “ขอบคุณมากค่ะคุณพ่อ ที่แนะนำและสั่งสอน”

“ไปพักผ่อนกันเถอะลูก กลับมากันเหนื่อยๆ พ่อขอตัวไปทำงานต่อก่อน มีเอกสารที่ต้องทำอีกเยอะตามสบายนะออย พ่อไปหละ”

“ขอบคุณค่ะ พักผ่อนบ้างนะคะ” ชัชหันมายิ้มให้ทั้งสองคนก่อนที่จะเดินเข้าห้องทำงานไป

“ไป ฉันอยากจะอาบน้ำแล้ว เดินมาทั้งวันแล้ว เพลียเหมือนกัน ปาดนี้พี่พิณ คงเตรียมของให้แกแล้วหละ ไป”

     แล้วโรสก็จูงมือออยไปที่ห้องตัวเอง หลังจากนั้นก็อาบน้ำ ลงมาทานมื้อค่ำและก็เอาเอกสารที่จะใช้ประชุมในวันจันทร์มาให้ออย

***** ----- *****

     โกร๋นยื่นผ้าเช็ดหน้าให้น้อง น้องหันไปแล้วรับมาด้วยความเต็มใจแล้วเอามาซับน้ำตา โกร๋นเดินมายืนกอดอกพูดอยู่ข้างๆเบาๆ

“ร้องออกมาให้หมด เอามันออกมาเสียให้พอ ถ้าคิดว่าสบายใจแล้ว ก็ตั้งหลักเสียใหม่ ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวในโลก”

“มาแนวไหนเนี่ยพี่ เอาคืนไปเลย ขอบใจมาก” โกร๋นดันมือน้องกลับไป

“น้องเก็บไว้เถอะ อย่างน้อย น้องก็ได้รู้ว่าคนจนๆอย่างพี่ อย่างน้อยก็มีความจริงให้ ไม่แพ้กับคนรวยอย่างไอ้กุ้งหรือแฟนหนู”

“หยะ พ่อคนจน ขอบใจนะที่ทำให้หนูยิ้มได้” สักพักน้องก็พูดออกมา “ขอโทษนะที่พูดแรงไปเมื่อตอนบ่าย”

“พี่ก็ต้องขอโทษน้องเหมือนกันที่ทำแบบนั้นกับน้องไป ขอโทษจริงๆนะ”

“ช่างมันเถอะพี่ หนูลืมมันไปหมดแล้ว แต่อย่าทำอีกแล้วกัน หนูไม่ชอบ ถ้าทำอีกจำไว้ แม้แต่หน้าหนู พี่ก็จะไม่ได้เห็นอีก”

“ครับ” โกร๋น หันไปหาน้อง “แสดงว่าน้องยกโทษให้พี่แล้วใช่ไหม เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะ”

     โกร๋นลืมตัวเผลอรวบมือทั้งสองข้างของน้องมากำเอาไว้ แล้วยิ้มให้ จนน้องต้องใช้สายตาบอกแทน “ฮึ่ม แฮ่ม”

“อุ๊ย ขอโทษ ลืมตัว” โกร๋นปล่อยมือแล้วก็หันหน้ากลับมา มองออกไปข้างนอกหน้าต่างดูฝนตก ยืนคู่อยู่กับน้อง มีความสุขเงียบๆ

     เมฆเดินตามหานุ่นจนเจอ นุ่นหลบมาอีกมุมนึงของชั้นสอง ห่างจากห้องพักของตัวเองไม่มากนัก เมฆยื่นผ้าเช็ดหน้าให้นุ่นเช่นกัน นุ่นหันไปมองนิดๆ “พี่เมฆ” นุ่นลืมตัวโผเข้าหาเมฆโดยไม่รู้ตัว กอดเมฆเอาไว้

“ทำไมเค้าถึงทำกับหนูแบบนี้ หนูเจ็บ หนูไม่มีแรงทำงานแล้วพี่” เมฆพูดออกมาขณะที่นุ่นกอดเขาอยู่

“นุ่น ทำใจดีๆ ใจเย็นๆเอาไว้ มันคงไม่มีอะไรมากหรอก นุ่นก็รู้นิสัยไอ้กุ้งมันดีนี่ ถ้าคิดจะอยู่กับมัน นุ่นต้องเข้าใจมันด้วย พี่เองก็ยอมรับนะว่าครั้งแรกที่พี่รู้เรื่อง พี่ก็โกรธมันเหมือนกัน แต่พอคิดไปคิดมา มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปโกรธมัน มันไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะนุ่น เจอดาวยั่วเอาขนาดนั้น ถึงจะใจแข็งยังไง ตบะก็แตกได้ ถ้าเป็นพี่เจอเข้าแบบนั้น พี่ก็คงจะทำเหมือนมันเช่นกัน”

     ขณะที่นุ่นกอดเมฆอยู่นั้น กุ้งเดินตามหานุ่นอยู่ กุ้งเดินขึ้นมาที่ห้องกำลังจะเปิดประตูเข้าไป ก็เหลือบไปเห็น ภาพนั้นพอดี เมฆหันมาเห็นกุ้งเช่นกัน “ไอ้กุ้ง” นุ่นตกใจที่เมฆเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมา จึงหันไปดู เห็นกุ้งกำลังเดินเข้ามา พอมาถึงเหตุการณ์มันเร็วมากจนไม่มีใครตั้งตัวทัน กุ้งชกหน้าเมฆจนหงายหลังไปก่อน 1 ครั้ง อุปกรณ์บางส่วนหล่นลงไปข้างล่างจนแตกละเอียด

     ทุกคนหันขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นข้างบน ก็เห็นกุ้งกับเมฆกำลังชกกันอยู่ข้างบนโดยมีนุ่นอยู่ข้างๆ เอียดกับมอญรีบวิ่งขึ้นไปทันที

“มึงฟังกูก่อนไอ้กุ้ง” กุ้งตอนนี้กำลังหน้ามืดไม่ฟังอะไรทั้งนั้น

“มึงก็รู้ว่านุ่นเป็นเมียกู มึงยังกล้ามาเล่นชู้ แอบขึ้นมาวุ่นวายกับเมียกูเนี่ยนะ ไอ้เหี้ย” พูดจบก็ชกอีก เมฆหลบได้และสวนกลับไปบ้าง

     กุ้งกระเด็นออกไป “มึงฟังกูก่อนซิวะ กูไม่ได้..” กุ้งไม่สนใจ โถมใส่ ตอนนี้ล้มกลิ้งกันทั้งคู่

“พี่กุ้ง หยุด หยุดบ้าได้ไหม พี่กำลังเข้าใจหนูกับพี่เมฆผิดนะ พี่กุ้ง” นุ่นพยายามจะหาจังหวะเข้าไปแยก แต่ไม่มีเลย สองคนกำลังบ้า

     โกร๋นกับน้องยืนอยู่อีกด้านนึงของชั้นสองได้ยินเสียงเหมือนชกต่อยกัน จึงรีบวิ่งไปดูยังที่เกิดเหตุทันที เอียดกับมอญวิ่งขึ้นมา

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นนุ่น ทำไมพี่กุ้งกับพี่เมฆถึงได้กัดกันยังกะหมาบ้าแบบนี้ แล้วทำไมไม่ห้าม”

“ห้ามแล้ว แต่พี่กุ้งไม่ฟังเลย มาถึงก็ใส่เลย พี่มอญช่วยที” มอญหาจังหวะที่จะเข้าไปแยก โกร๋นกับน้องวิ่งมาถึงพอดี

“ไอ้โกร๋นมึงช่วยกูที แยกไอ้หมาบ้าสองตัวนี้ออกจากกันที เร็ว ก่อนที่อะไรๆมันจะฉิบหายวายป่วงมากกว่านี้ เร็ว”

“เออ..น้องหลบไปอยู่ทางโน้นก่อนไป” แล้วโกร๋นก็หาจังหวะ พอมีช่อง มอญกับโกร๋นรีบดึงทั้งสองคนแยกออกมาจนได้

     มอญได้กุ้งไป ส่วนโกร๋นได้เมฆมา กุ้งชี้หน้าด่าเมฆ “ไอ้เพื่อนเลว เมียเพื่อนมึงก็ไม่เว้น ไอ้เหี้ย แอบมาตีท้ายครัวกูจนได้ เผลอไม่ได้ กูดูกูสังเกตุมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เช้าและบ่าย ไม่นึกว่าช่วงค่ำมึงจะกล้า มึงก็รู้ว่านุ่นหนะเมียกู มึงยังแอบมาเล่นชู้กันตรงนี้”

     นุ่นเดินมาตบหน้ากุ้งอย่างแรง “พี่กุ้งพูดให้ดีนะ หนูไปแอบเล่นชู้กับพี่เมฆตรงไหน หนูไม่ได้ดอกทองอะไรขนาดนั้น รู้ตัวดีว่ามีผัวมีเจ้าของแล้ว ทีพี่หละไม่เคยผิดเลยใช่ไหม มีหนูเป็นเมียอยู่แล้ว ทำไมถึงกล้าไปมีอะไรกับอีดาวมันลับหลังหนู อย่านึกว่าหนูไม่รู้นะว่าตอนเช้าหนะพี่กับมันทำอะไรกันบนรถหนะ ว่าจะไม่พูดแล้วเชียวนะ แล้วเมื่อตอนบ่าย นั่นก็อีก ที่หลังรถหนะ อย่านึกว่าหนูไม่รู้ไม่เห็นอะไรนะ รถสั่นทั้งคันอย่างนั้น ที่หนูรู้ เพราะหนูเดินออกไปเอาของที่ลืมอยู่ข้างนอก เป็นไง ใครกันแน่ที่นอกใจ ใครกันแน่ที่ผิดบอกมาพี่ บอกมา” นุ่นทนไม่ไหวแล้วกับสิ่งที่เก็บกดเอาไว้ จึงระเบิดออกมาทันที เอามือทั้งสองตบไปที่หน้าอกกุ้ง

    มอญจึงปล่อยกุ้งทันที “ตอบมาซิ ว่าหนูพูดผิดและใส่ร้ายพี่หนะ ตอบ” นุ่นเอาจริงขึ้นมา กุ้งถึงกับเงียบกริบ เพราะมันคือความจริง เมื่อไม่มีทางออกหาคำตอบให้นุ่นไม่ได้ เมื่อไม่มีที่ลง และกุ้งยังไม่เลิกบ้า จึงหาเรื่องเมฆต่ออีก เพื่อจะกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง

“กูรู้นะว่ามึงแอบชอบเมียกู มึงแอบถ่ายรูปนุ่นไว้ตั้งหลายรูป ตอนเมียกูเผลอ” คราวนี้นุ่นหันไปถามเมฆ

“จริงเหรอพี่เมฆที่พี่กุ้งพูด พี่แอบถ่ายรูปหนูเหรอ ไหนเอามาดูซิ” เมฆยื่นกล้องที่คล้องอยู่ให้นุ่น นุ่นรับมาแล้วเปิดดู

     มีเกือบ 100 รูป “นี่มันอะไรกัน พี่ทำอย่างนี้ได้ยังไง พี่ก็รู้ว่าหนูเป็นเมียพี่กุ้ง แล้วพี่ยังจะมาคิดแบบนี้ ทำแบบนี้กับหนูได้ยังไง หนูไม่ Ok เพราะตอนนี้หนูรู้สึกว่า หนูไม่ปลอดภัย ถ้าทำแบบนี้ หนูว่าเรายกเลิกเถอะงานในวันนี้ เราคงจะทำงานร่วมกันต่อไปอีกไม่ได้แล้ว บอกตามตรง หนูไม่สนิทใจ” นุ่นยื่นกล้องคืนให้เมฆ กุ้งสะบดคำออกมา “สะใจจริงโว๊ย ฮู้ สะใจ”

     นุ่นหันไปมองทุกคน “เอาหละในเมื่อทุกคนก็รู้ความจริงหมดแล้ว ไหนๆเรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว จะปิดยังไงก็คงจะไม่มิดอีกแล้ว ไหนๆเมื่อมันจะพัง ก็ให้มันพังสุดๆไปเลยแล้วกัน ฉันขอประกาศว่า ตั้งแต่นี้ไปขอยุติการถ่ายทำทั้งหมด จบกันไปเลย ไม่มีการถ่ายทำต่อไปอีกแล้ว ขอให้ทุกคนแยกย้ายกลับบ้านกันได้ เพราะฉันไม่แรงและกระจิตกระใจจะทำอะไรทำต่อไปอีกแล้ว ช่างภาพก็โดนทำร้าย บาดเจ็บขนาดนี้ แถมยังมาแอบถ่ายและคิดไม่ดีกับนายจ้าง ผัวก็แอบมีเมียน้อย ฉันหมดกำลังใจจริงๆ ใครอยากจะทำอะไรต่อ ก็เชิญแต่ฉันไม่ไหวแล้ว ขอตัว ใครอยากจะร่วมงานกับใครต่อไป ก็ไปตกลงกันเอาเอง ถ้าไม่มีอะไรก็เชิญกลับได้ ค่าแรงทุกอย่างฉันจะจ่ายให้เองครบทุกบาททุกสตางค์ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะโกง ฉันไม่เหนี่ยวรั้งและบังคับใครทั้งนั้น ถ้ามันอึดอัดกันนักหละก็ งานนี้ถ้ามันจะพังจะเจ๊งก็ให้มันล้มละลายกันไปเลย ไม่ต้องทงต้องทำมันแล้ว”

     พูดจบนุ่นก็เดินอารมณ์เสียลงไปทันที โดยไม่อาลัยใยดีกุ้งที่นั่งอยู่ตรงนั้น กุ้งเอื้อมมือมาจับแขนขวานุ่น นุ่นสะบัดทิ้งทันที ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เมฆเดินตามนุ่นไป โดยไม่ต้องคิดอะไร เพราะยังมีงานที่ค้างอยู่ โกร๋นกับน้องมองหน้าและพยักหน้าต่อกัน เลยรีบจูงมือและวิ่งตามไปอีกคู่ มอญมองหน้าเพื่อน ไม่พูดอะไร เดินจากไปอย่างเงียบๆเหลือแต่เอียดซึ่งยืนสมเพชพี่ชายตัวเองอยู่ สักพักก็เดินจากไปโดยไม่พูดอะไรเช่นกัน ปล่อยให้กุ้งนั่งสงบสติอารมณ์อยู่คนเดียว พอนุ่นลงไปถึงข้างล่างก็ยกมือไหว้ทีมงานทุกคนและก็ประกาศดังลั่นด้วยน้ำตานองหน้า ขณะที่ทีมงานทุกคนกำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้

“นุ่นต้องขอโทษทีมงานทุกคนด้วยนะคะที่ทำให้เกิดเรื่องบ้าๆแบบนี้ขึ้นมา นุ่นไม่อยากให้ทุกคนเกิดความไม่สบายใจ และลำบากใจมากไปกว่านี้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันมาจากสามีของนุ่นเอง นุ่นขอ..” นุ่นยังพูดไม่จบ เมฆตะโกนสวนตามหลังออกไปทันที

“ให้ทุกคนช่วยเริ่มทำงานกันได้แล้วครับ เพราะเราเลยเวลาช่วงท้ายมามากแล้ว คิดว่า 2 ทุ่มคงไม่เสร็จแน่ ถ้าพวกเรายังอู้กันอยู่แบบนี้ 3 ทุ่มครับ อย่างช้า ผมพยายามจะเร่งให้จบงานในคืนนี้ พวกเราสู้กันไหม” ทุกคนเงียบ เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก

“มีใครจะสู้ไปพร้อมกับผมไหม ว่าไงครับ ถ้าทุกคนไม่ช่วยกัน ผมไม่สามารถที่จะทำคนเดียวได้นะ อีกนิดเดียวมันก็จะจบแล้ว”

     เงียบอีกครั้ง เพราะทุกคนถอดใจ กลัวจะเจอแบบเมื่อกี้อีก อยู่ดีๆก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากข้างหลังสตูฯ

“หนูค่ะ หนูสู้ หนูจะไม่ยอมแพ้ และหนูจะไม่ยอมถอดใจ เพราะเรื่องแค่นี้”

     น้องเดินแหวกทีมงานเข้ามายืนอยู่ข้างๆเมฆซึ่งยืนอยู่กลางสตูฯ เพียงคนเดียว

“กูด้วย กูก็ขอสู้ไปกับน้องด้วย ถึงแม้กูจะเป็นแค่ช่างไฟ” โกร๋นเอาด้วย เดินไปรวมกันกลางสตูฯ

“กูด้วย” มอญเอาด้วย มอญเดินไปรวมอีกคน ไม่นานทุกคนก็ส่งเสียงออกมาพร้อมกันจนดังลั่นสตูฯ

“สู้ สู้ สู้” นุ่นดีใจยืนน้ำตาไหลอยู่ตรงนั้นที่ทุกคนมีน้ำใจและไม่สนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ทุกคนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่กุ้งทำป่วนไปทั้งสตูฯ ข้าวของหล่นมาแตกกระจายเต็มสตูฯไปหมด เพราะการต่อสู้กันเมื่อกี้ เอียดเดินเข้ามาแตะไหล่เพื่อน

“เห็นไหมไอ้นุ่น ทุกคนเขาพร้อมที่จะช่วยแก ในเมื่อพวกเขา ไม่ถอดใจ แล้วทำไมแกถึงจะถอดใจซะเองหละเพื่อน ล้มเลิกความคิดนั่นซะ ที่จะยุติการทำงานของโปรเจ็คนี้หนะ เชื่อฉัน นะเพื่อน กะอีแค่ผู้ชายคนเดียวจะไปแคร์ทำไม เรื่องนั้นเดี๋ยวฉันจัดการให้เอง”

“ขอบใจมากเพื่อน ฉันขอโทษนะที่สติแตกไปหน่อย ถ้าไม่มีแกมาด้วยในวันนี้ ฉันคงทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ขอบใจมากจริงๆเพื่อน” เอียดดึงเพื่อนมากอด “ไม่เป็นไร ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่ ขอให้แกสบายใจได้ นะ ทำต่อเถอะนะเพื่อน เห็นไหม ทุกคนเค้ายอมเหนื่อยสู้มากับแกตั้งแต่เช้าแล้ว เหลืออีกนิดเดียวเอง ทำต่อเถอะนะ ถือว่าฉันขอร้อง ทำความฝัน ความต้องการของแกต่อไปให้เสร็จ พี่เมฆเป็นคนดี ถ้าเป็นคนอื่นฉันไม่รู้ แต่ถ้าเป็นคนนี้ ฉันบอกได้เลยคำเดียวว่า ไม่ผิดหวัง สู้นะเพื่อน รับปากกะฉันก่อน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ต้องอย่ายอมแพ้” นุ่นพยักหน้า ปาดน้ำตาและเดินไปหาเมฆ และเพื่อนๆกลางสตูฯ แล้วบอกกับทุกคน “เริ่มงานได้”

     จากนั้นทุกคนก็เริ่มงานในช่วงสุดท้ายของคืนนี้อย่างขมักเขม่น ทั้งสองนุ่นกับเมฆทำงานเข้าขากันเหมือนเดิมแบบมีความสุข โดยไม่สนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อตะกี้เลยแม้แต่นิดเดียว พราวยืนยิ้มอีกครั้งที่ทั้งสองคนมีเลือดนักสู้และสปิริต จึงทำให้งานไปได้เร็วมากเลยทีเดียว ทั้งสองคนยังคงใจแข็งและปากแข็งไม่มีใครกล้าเผยความในใจที่แท้จริงออกมา ว่าที่แท้แล้วทั้งคู่มีใจให้กันโดยไม่รู้ตัว

     ทั้งสองคงทำเป็นไม่ได้สนใจอะไรกันไปมากกว่าการเป็นเพื่อนร่วมงานเท่านั้น เพราะเมฆยังต้องมาคุมงานก่อสร้างให้กับนุ่นอีกตั้งหลายเดือน ไม่อยากจะมีปัญหา กลัวงานไม่เสร็จ จึงเฉยๆมุ่งแต่งานอย่างเดียว ส่วนนุ่นก็หวังจะคบกับกุ้งให้ได้นานที่สุด ก่อนที่จะต้องเข้าพิธีวิวาห์กับสิงห์ในเดือนหน้านี้ และจะหาโอกาสพูดกับกุ้งเรื่องนี้สักที เพราะเวลากระชั้นเข้ามาแล้ว เหลือไม่มาก

***** \\\\\ *****

     ฝนยังคงตกอยู่ชัชจึงไม่ได้ออกไปหานิดในคืนนี้ ได้แต่ส่งข้อความไปจีบนิดเป็นระยะๆ จนนิดเบื่อ แทนที่จะเป็นข้อความของสามีกลับเป็นของคนที่ไม่ต้องการ นิดไม่เคยตอบชัชเลยสักข้อความ จนข้อความสุดท้ายก่อนที่นิดจะกลับบ้าน นิดเลยตัดใจตอบกลับไป

“กรุณาอย่าส่งข้อความมาอีกนะคะ นิดขอบคุณที่เป็นห่วง นิดไม่อยากมีปัญหากับสามีค่ะ แฟนนิดเป็นคนขี้หึง ถ้าเขามาอ่านเจอ มันจะไม่ดี นิดขอร้องนะคะ คราวหน้าไม่ต้อง เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ขอโทษนะคะที่ต้องพูดตรงๆ ถ้าเจอหน้ากันทักทายได้ แต่ถ้าส่งข้อความมาจีบกันมากมายขนาดนี้ นิดขออนุญาตลบเพื่อนนะคะบาย” พอส่งข้อความสุดท้ายเสร็จ นิดก็ลบชัชออกจากเพื่อนจริงๆ

     กุ้งขับรถมาถึงพอดี เพราะรถติดมาก กุ้งบีบแตรบอกให้นิดรู้ว่ามาแล้ว นิดยืนรอกุ้งอยู่ตรงนั้นไม่วิ่งขึ้นรถ กุ้งแปลกใจว่าทำไมนิดถึงไม่วิ่งขึ้นรถ รอนานจนคันหลังบีบแตรไล่ กุ้งเลยขับไปวนมาอีกรอบแต่คราวนี้จอดข้างหน้าไม่ได้ เพราะรถเยอะมาก เนื่องจากฝนตก คนแย่งกันขึ้นรถ จึงไปหาที่จอดซะไกลเลย แล้วถือร่มเดินมาหานิด กุ้งอารมณ์เสียนิดๆ เพราะนิดไม่ยอมวิ่งขึ้นรถ

“ผมบีบแตรตั้งนาน ผมเห็นแล้วว่าคุณเห็น แล้วคุณทำไมถึงไม่วิ่งขึ้นรถหละนิด คนอื่นเขาก็ทำกัน คุณเป็นอะไรของคุณ เป็นอะไร”

“ก็นิดไม่อยากเปียกนี่ ขี้เกียจไม่สบาย เดี๋ยวคุณก็มารับเองนิดรู้ว่าคุณไม่ทิ้งเมียให้ยืนหลบฝนอยู่คนเดียวหรอก นี่ไงแล้วคุณก็มาจริงๆ”

     กุ้งไม่อยากมีเรื่องเพราะมีเรื่องไม่สบายใจมามากพอแล้ววันนี้ “ไปไป ผมง่วงแล้ว ฝนก็ตก กว่าจะถึงคงดึกแน่วันนี้” ดีที่กุ้งเอาร่มใหญ่มา นิดจึงไม่เปียก นิดกอดเอวกุ้งจนเดินไปถึงรถ กุ้งเปิดประตูรถให้นิด นิดเหวี่ยงแฟ้มโน้ตเพลงและโทรศัพท์ไปไว้เบาะหลัง กุ้งรีบวิ่งอ้อมไปขึ้นอีกด้าน นิดสังเกตุว่าดาวไม่อยู่ จึงถามกุ้ง ว่าดาวไปไหน และทำไมเบาะตอนหลังถึงต้องพับลงแบบนั้น

“แล้วเด็กที่ชื่อดาวหละกุ้งไปไหน ก็เมื่อเช้าไปทำงานด้วยกันไม่ใช่เหรอแล้วตอนนี้หายไปไหน”

“ไม่สบาย กลางวันเจอแดด ตอนเย็นเจอฝน ร่างกายปรับตัวไม่ทันเลยน๊อกเข้าโรงบาลไปแล้ว”

“เวรกรรม อ่อนแอเสียจริง แล้วเบาะตอนหลังทำไมถึงเป็นแบบนั้นหละเอาลงทำไม”

“อ๋อ พอดีวันนี้ต้องขนของบางอย่าง เพื่อไปทำแบบแปลนชุดสุดท้าย เลยขนบางอย่างไปไว้ด้วยเลย อย่าไปสนใจเลยนะ”

     นิดก็ไม่ได้สนใจอะไร เอียงตัวไปหอมแก้มซ้ายและนั่งซบไหล่กุ้งแล้วพักผ่อนจนหลับไปตอนไหนไม่รู้ พอถึงบ้านกุ้งก็ปลุก

“นิดถึงแล้ว ผมขอตัวลงไปเปิดประตูก่อน” นิดรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาขยับไปนั่งตามปกติ กุ้งลงไปเปิดประตูรั้ว และขึ้นมาขับรถเข้าไป

“กุ้งลงไปเปิดบ้านก่อนแล้วกัน นิดขอเก็บของก่อน ฝนซาแล้วนี่ หายแล้วมั้ง” ก่อนลงนิดก็หันไปหอมแก้มซ้ายกุ้งอีกครั้ง

     กุ้งเดินไปเปิดประตูเข้าบ้าน นิดลงจากรถประตูหน้าเดินไปเปิดประตูข้าง แล้วค่อยๆเก็บของที่มันกระจัดกระจาย สมุดแฟ้มโน๊ตเพลง มองหาโทรศัพท์ มันไหลไปอยู่ตรงไหน ก้มดูตรงหน้าก็ไม่เห็น ข้างประตูฝั่งนี้ก็ไม่มี เหลือฝั่งโน้น จึงเอนตัวไปควานหาที่ประตูฝั่งโน้น นิดเอามือคลำลงไป ควานไปควานมา เอื้อมมือล้วงลงไป ดึงขึ้นมาแทนที่จะเป็นโทรศัพท์ กลับกลายเป็นกล่อง/ซองถุงยางอยามัยที่ใช้ไปแล้วถึงสองชิ้น เหลืออีก 1 ชิ้นที่ยังไม่ได้ใช้ นิดโมโหขึ้นมาเลยทีเดียวที่เห็นสิ่งนี้ จึงเก็บใส่กระเป๋าทันที

“กุ้ง อีดาว นี่มึงสองคนหลอกกูมาตลอดเลยใช่ไหมเนี่ย มึงเห็นกูเป็นควายรึไง แล้วเอางานมาบังหน้า อย่าให้จับได้คาหนังคาเขานะมึง กูมั่นใจว่าต้องเป็นมึงอีดาว อีดอกทอง นี่คงเอากันจนไม่สบาย ต้องหามเข้าโรงบาลเลยหละซิ กุ้งนะกุ้ง อุตส่าห์ไว้ใจ ต่อไปนี้อย่าหวังว่านิดจะไว้ใจคุณอีก อีดาว เมียน้อยอย่างมึงคราวนี้มึงไม่รอดกูแน่ เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับเมียหลวงอย่างกู อยากจะลองของกะกูใช่ไหม ได้ เดี๋ยวกูจะจัดให้มึงอย่างสาสมเลย แล้วอย่ามาหาว่ากูร้ายและไม่ดีกับมึงก็แล้วกัน อีเด็กเวร มึงกล้ามากที่มาแย่งผัวกูไปกก”

     พูดจบนิดก็ควานหาโทรศัพท์ต่อจนเจอแล้วรีบเดินขึ้นบ้านไป พอนิดขึ้นไปถึงห้องก็ไม่ได้แสดงที่ท่าอะไร ทำตัวตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “จะอาบน้ำเหรอคะกุ้ง” กุ้งพยักหน้า กุ้งไม่ได้เอะใจว่า ทำไมวันนี้นิดแปลกๆคงคิดว่า ดาวไม่อยู่ ก็เลยไม่ได้ออกฤทธิ์อะไร และมองไปรอบๆวันนี้ห้องดูสะอาดแปลกตาไปไม่เหมือนวันก่อนๆ

“นิดอาบด้วย อยากให้ช่วยถูหลังให้หน่อย วันนี้นวดไหล่ให้นิดหน่อยนะเมื่อยมากเลย”

“วันนี้นิดทำความสะอาดห้องเหรอจ๊ะ” กุ้งถามนิดขณะที่เดินเข้าห้องไปอาบน้ำ

“ใช่ ดีไหม” แล้วนิดก็ปิดประตูห้องน้ำ ดึงผ้าขนหนูออกแขวนไว้ที่หน้าประตู “ดีครับสะอาดตาดี” และก็ดึงผ้าขาวม้ากุ้งออก

     นิดคงจะทนไม่ไหวแล้ว ยังไม่ทันที่จะอาบน้ำก็เริ่มจู่โจมกุ้งก่อนเลย เอามือลูบไล้ตัว กอดและจูบตั้งแต่หน้า แก้ม ปาก เรื่อยลงไปถึงหน้าอก หน้าท้องและน้องชาย นิดใช้ปากอย่างคล่องแคล่ว จนกุ้งร้องครางออกมาโดยไม่รู้ตัว นิดดึงตัวกุ้งลงมานอนกับพื้นอย่างช้าๆและขึ้นคร่อมทันทีเมื่อน้องชายพร้อมใช้งาน จากนั้นก็มีความสุขกับสิ่งที่ต้องการ แล้วดึงมือกุ้งขึ้นมาจับเต้าทั้งสองของเธอไว้

\\\\\ ----- /////

     น้องพึ่งรู้ใจตัวเองว่าชอบกุ้งจริงๆ ไม่ใช่ Poppy Love เหมือนที่ผ่านมา ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ากุ้งมีเมียแล้วตั้งสองคนคือนิดกับนุ่น น้องก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม พึ่งรู้ว่าใช่พึ่งรู้ว่ารักพึ่งรู้ว่าขาดกุ้งไม่ได้เสียแล้ว ทั้งๆที่พึ่งผ่านเหตุการณ์ของครอบครัวมาหมาดๆไม่กี่ชั่วโมง ขณะที่น้องนั่งคิดอะไรเพลินๆหลังจากที่เสร็จงานและอาบน้ำเรียบร้อย เตรียมตัวนอน มองออกไปที่หน้าต่างห้องพัก นุ่นเดินเข้ามาหา เอามือมาจับหัวน้องแล้วลูบเบาๆ “เหงาเหรอน้อง ไม่มีเพื่อนๆอยู่ด้วยหนะ”

     น้องหันไปมองหน้านุ่นและยิ้มให้ “ไม่หรอกค่ะพี่ รู้สึกแปลกๆมากกว่า เพราะไม่เคยนอนรวมกันมากๆแบบนี้ อย่างดีก็ 2 คน”

“อีกหน่อยเดี๋ยวก็จะชินไปเอง เพราะงานของพี่จะมีการถ่ายทำแบบนี้ค่อนข้างบ่อยๆ อย่างน้อยก็ปีละ 3 ครั้ง เพราะต้อง Update สินค้าอยู่เรื่อยๆต่อไปน้องคงจะไม่เกิดอาการแบบนี้อีกแล้วจะชินไปเอง นี่พึ่งเป็นวันแรกและครั้งแรกเอง คงจะไม่ถอดใจก่อนนะสาวน้อย”

“ไม่หรอกคะพี่ มันเป็นประสบการณ์มากกว่า หนูดีใจที่ได้มีโอกาสมาสัมผัสกับงานแบบนี้ น้อยคนนักที่จะได้มีโอกาสแบบนี้ หนูขอขอบคุณพี่นุ่นมากนะคะที่ให้โอกาสหนู มีงานทำ มีเงินใช้ และมีวันนี้ได้ หนูขอรับรองว่าจะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง จะทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หนูก็จะไม่ทิ้งพี่ไปไหนอย่างแน่นอน หนูรักพี่นะคะ” น้องกราบขอบคุณนุ่นลงที่ตัก ในชุดนอนที่สวยงาม

“ไม่ต้องทำซึ้งถึงขนาดนี้หรอก เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องทำตาแดงๆด้วย ไหนพี่ดูซิ เป็นอะไร”

     น้องอยากจะบอกนุ่นใจแทบขาดว่า หนูรักพี่กุ้ง แต่น้องก็ไม่สามารถที่จะบอกได้ตรงๆ น้องไม่สามารถแย่งกุ้งมาจากนุ่นได้ เพราะ นุ่นมีบุญคุณกับเธอมากมายเหลือเกิน ถึงน้องจะรักกุ้งมากแค่ไหน ก็ต้องพยายามตัดใจและห้ามใจให้ได้ แม้ว่ามันต้องใช้เวลานานสักเท่าใดก็ตาม จะพยายามทำเพื่อคนที่เธอรักและมีพระคุณกับเธอให้ได้ น้องปฏิญานกับตัวเองไว้อย่างนั้น เพื่อคนมีพระคุณ ฉันไม่ทำ

“ไม่มีอะไรค่ะ หนูคงจะเหนื่อย อืม..หนูพึ่งสังเกตุว่าชุดนอนพี่สวยจัง ซื้อมาจากไหนคะ หนูอยากได้สักชุดนึง คงใส่สบาย สวยมาก”

“ไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหนหรอกจร้าน้อง สินค้าของพี่เอง พรุ่งนี้น้องก็ได้ใส่แล้ว ตอนถ่ายแบบหนะ”

“จริงดิ ดีจัง ชุดพี่สวยมากจริงๆ หนูเชื่อเลยว่าสินค้าและคอลเล็คชั่นชุดนี้ต้องขายดีอย่างแน่นอนเลย เพราะหนูเองเห็นแล้วยังชอบเลย”

“ถ้าน้องชอบเดี๋ยวพี่ให้เลย อยากได้กี่ตัวพรุ่งนี้พอถ่ายแบบเสร็จ น้องมาเลือกเอาไปได้เลยพี่ให้”

“ขอบคุณมากๆเลยค่ะพี่ หนูรักพี่นุ่นจังเลย พี่นุ่นทั้งสวยและใจดี น่ารักและนิสัยดีแบบนี้ ทำให้หนูละอายใจ ถ้าวันหนึ่งวันใด หนูเกิดทำสิ่งไม่ดี ทำอะไรให้พี่เสียใจขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ขอให้พี่ยกโทษให้หนูด้วยนะ สัญญากับหนูก่อน”

“อะไรกัน พูดถึงเรื่องเสื้อผ้าอยู่ดีๆ แล้วจู่ๆมาพูดถึงเรื่องดราม่าอะไรอีกเนี่ย ไม่เอาๆ ได้ๆพี่สัญญา พอใจรึยัง”

“ขอบคุณค่ะพี่” น้องสบายใจไปอีกเปาะ “ราคาคงจะแพงนะพี่ สวยแบบนี้ ถ้าหนูซื้อเองคงไม่มีบุญได้ใส่อย่างแน่นอน”

“ไม่หรอก ราคาก็ทั่วไป แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ตามห้างนะ ตามร้านทั่วไปก็อาจจะมีบ้าง เพราะพี่เป็นตัวแทนเองเลยสามารถเลือกลูกค้าได้ แต่ตามตลาดนัดคงไม่มี เพราะคนละเกรดกัน นอกจากชุดนอนแล้ว ก็ยังมีชุดกางเกงขาสั้น เสื้อยืด ยีนส์และชุดเอี๊ยมอีกนะ น่ารักๆเหมาะกับวัยรุ่นวัยอย่างน้องเลยหละ ใส่ได้ตั้งแต่อายุ 14 ขึ้นไปจนถึง 40 เลยหละจะบอกให้ ไม่เชื่อพรุ่งนี้น้องก็จะได้เห็นเองแหละ”

“ค่ะ พี่นุ่นไปพักผ่อนเถอะ วันนี้พี่เหนื่อยมามากแล้ว ต้องดูแลคนตั้งหลายคน คนทั้งหมดในงานเลย นับถือๆ”

“จร้า งั้น พี่ขอตัวไปนอนหละนะ น้องเองก็เหมือนกัน นอนซะ และอย่าลืมปิดไฟด้วยหละที่หัวเตียงหนะ คนอื่นเค้าหลับกันหมดแล้ว นี่จะ ตี 2 แล้ว นอนได้แล้ว พรุ่งนี้เราต้องลุยถ่ายแต่เช้า 8 โมงนะ แล้วเจอกัน” นุ่นเดินจากไป น้องหันไปถามนุ่นก่อนที่นุ่นจะพ้นเตียง

“พี่กุ้งหลับแล้วเหรอคะพี่ ถึงมาหาหนูได้” นุ่นไม่รู้จะตอบยังไง จึงโกหกน้องไปก่อนง่ายดี ไม่อยากพูดความจริง กลัวยาวอีก

“ใช่จร้า หลับแล้ว คนนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเค้าหรอก พอหัวถึงหมอนแป๊บเดียวก็หลับแล้ว พี่ไปหละนะพรุ่งนี้เจอกัน Good Night บาย”

“Good Night บาย เช่นกัน” น้องปิดไฟที่หัวเตียงแล้วดึงผ้ามาห่มมาปิดตัว นุ่นปิดประตูห้องแล้วหลบมายืนพิงข้างฝา หลับตาพักนึง

     น้ำตาเริ่มไหลรินออกมา โดยไม่รู้ตัวเมื่อน้องพูดถึงกุ้งขึ้นมา เมฆเดินออกมาเข้าห้องน้ำ บังเอิญเห็นเข้า ว่าจะเดินไปถาม แต่ไม่ทันแล้ว นุ่นเดินกลับเข้าห้องตัวเองไปแล้ว จึงกลับเข้าห้องน้ำไป นุ่นล้มตัวลงนอนที่เตียง เอียดรู้สึกตัวขึ้นมา

“ไปไหนมาแก ตี 2 แล้ว” นุ่นตอบเพื่อนไปแบบไม่คิด “ห้องน้ำ” เอียดงง เพราะพึ่งกลับมาจากห้องน้ำ เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องพิเศษ Vip มีน้องน้ำในตัว “ไม่เนียน โกหก ฉันพึ่งออกมาจากห้องน้ำ” เอียดเปิดไฟหัวเตียงทันที เห็นนุ่นนอนร้องไห้น้ำตาซึม

“ไอ้นุ่นเป็นอะไร ฉันขอโทษนะแก โอ๋ไม่เอา ฉันขอโทษ ไม่ร้องนะ พี่กุ้งใช่ไหม แกคิดถึงเค้าอีกแล้วใช่ไหม” เอียดพยายามปลอบใจ

“เอียด ฉันขอโทษ” เอียดพยายามปลอบใจต่อ “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แกไม่ได้ผิดอะไร ฉันบอกแล้วไงว่า ไม่ต้องมาขอโทษอะไรฉันเลย อย่าคิดมากเพื่อน คนผิดไม่ใช่แก พี่กุ้งต่างหากที่ผิด ถ้าเค้าไม่มายุ่งกับแกก่อน มันก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาหรอก”

“ฉันไม่รู้ว่ามันจะเจ็บได้ถึงขนาดนี้ ถ้ารู้ว่ารักเค้าแล้วและต้องมาเจ็บแบบนี้ ฉันจะไม่เผลอใจไปรักเค้าได้มากมายขนาดนี้เลย เอียด ฉันจะทำยังไงดี ช่วยฉันด้วย ฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะแก ฉันทรมาน ฉัน..” เอียดเอียงตัวมากอดเพื่อน และเอามือตบไหล่เบาๆ

“นอนซะเพื่อน นอนนะอย่าไปคิดถึงเค้า อีกไม่กี่นาทีก็จะเช้าแล้ว แกต้องนอนพักผ่อนเยอะๆ อย่าลืมนะว่าแกเป็นหัวเป็นหลักของงานนี้ ถ้าแกเป็นอะไรขึ้นมา พวกนั้นจะทำยังไง ไม่ต้องไปคิดถึงเค้า นอนหลับตาซะ” เอียดปิดไฟที่หัวนอน แล้วนอนกอดเพื่อน

     ไม่นานนุ่นก็หลับ อาจเป็นเพราะเหนื่อยมาทั้งวันก็ได้ ส่วนดาว พราวก็ให้คนหมุนเปลี่ยนเวียนกันมาเฝ้าจนตัวเย็นลงปลอดภัยแล้ว

***** ///// *****

     รุ่งเช้าวันใหม่ วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม กุ้งออกมาจากบ้านแต่เช้าประมาณ 7 โมง นิดยังไม่ตื่นเพราะเมื่อคืนโดนกุ้งจัดไปหลายดอกหลังจากออกมาจากห้องน้ำ แล้วโดนกุ้งวางยานอนหลับด้วยอีก 1 เม็ด หลังจากเสร็จกิจครั้งสุดท้ายตอนประมาณตี 3

     กุ้งรีบบึ่งรถไปยังสตูดิโอทันที เพื่อที่จะไปขอปรับความเข้าใจกับนุ่นและมาดูอาการดาว ถ้าไม่ดีขึ้นจะได้พาไปหาหมอ

<<<<< ***** >>>>>

     ทางสตูดิโอ หลังจากบางคนเริ่มตื่นและเตรียมเก็บข้าวของใส่กระเป๋ากันนั้น เมฆกับเพื่อนๆก็มาเตรีมจัดสถานที่ทั้ง Out Door และ In Door อย่างขมักเขม่น นุ่นแอบยืนดูเมฆอยู่ไกลๆจากบนดาดฟ้าชั้นสาม พร้อมเอียดกับน้องที่แอบดูโกร๋นเช่นกัน

     เอียดสงสารมอญที่ถูกดาวทิ้งโดยไม่อาลัยใยดี ไม่รู้ทำไมใจถึงได้เต้นแรงมากมายได้ถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่เกลียดมอญมาตลอดเป็นทุน เอียดเมื่อได้จ้องมองมอญอย่างจริงๆจังๆในเช้าวันนี้ อาการเดิมกลับมาอีกแล้วเหรอ หรือว่าพึ่งรู้ว่าใช่

     ที่จริงคนที่อยู่ในใจเธอตลอดเวลานั้นไม่ใช่ใคร คือมอญยังงั้นเหรอไม่จริงมั้ง เอียดได้ปิดใจตัวเองมาตลอดหลายปีแล้ว วันนี้เห็นอากาศดี เอียดจึงขึ้นไปสูดอากาศบนนั้น เนื่องจากวันนี้เสร็จงานก็จะได้กลับบ้านใครบ้านมันเสียที ทุกคนจึงรีบเก็บข้าวของโดยเร็ว

***** \\\\\ *****

     นงนุชเดินตามหานุ่นแต่เช้า เพราะเมื่อคืนไม่ได้กลับบ้าน จึงวุ่นวายใจแต่เช้า กลัวลูกสาวหนีตามผู้ชายไปแล้ว

“เอ้ามีใครอยู่แถวนี้บ้าง” สาวใช้คนนึงวิ่งมา “ขาคุณผู้หญิง ต้องการอะไรเหรอคะ”

“มีใครเห็นยัยนุ่นบ้างเนี่ย เมื่อวานฉันก็ไม่เห็น เข้าไปดูในห้อง 5 ทุ่มก็ไม่เจอ เช้านี้ก็เข้าไปดู ฉันก็ไม่เห็น ที่นอนเหมือนไม่มีร่องรอยของการนอนเลย ว่าไงลูกสาวฉันหายไปไหน ไม่มีใครรู้เลยรึไง” สาวใช้ส่ายหน้า ตฤนเดินลงมาจากข้างบนพอดี

“มีอะไรเหรอคุณ บ่นแต่เช้าเลย วันนี้วันอาทิตย์นะ หยุดสักวันจะได้ไหม ฉันขอกาแฟหน่อย ไป ทางนี้ฉันจัดการเอง” สาวใช้จากไป

“ก็ยัยนุ่นหนะซิ หายไปตั้งแต่เมื่อวาน เมื่อคืนก็ไม่กลับบ้าน ถามพวกคนใช้ ก็ไม่มีใครรู้ใครเห็นเลย อยู่บ้านกันยังไง คนหายไปทั้งคนไม่ยักกะมีใครรู้ใครเห็น ให้แฟ้มการ์ดงานแต่งไปเลือก ฉันก็เห็นมันวางอยู่ที่หัวเตียงที่เดิม มันไม่ได้สนใจอะไรเลย ฉันจะบ้าตาย นี่คุณหรือว่า ไม่รู้ว่ามันจะหนีตามไอ้ผัวจนๆซังกะบ๋วยคนนั้นของมันไปแล้ว ไม่ได้นะ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆเนี่ย ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน โทรไปก็หลายครั้งแล้วก็ไม่เปิดเครื่องไม่รู้ว่ามันคิดอะไรของมันอยู่ แล้วดูคุณซิดูเหมือนไม่อาทรร้อนใจอะไรที่ลูกหายไปหนะ”

“คุณก็เอาไว้ที่เดิมของคุณนั่นแหละหน้าหนะ ไม่ต้องหาที่ไว้ใหม่เลย นี่คุณจำไม่ได้จริงๆเหรอ หรือไม่คิดจะจำกันแน่เนี่ย คุณนงนุช”

“คุณหมายความว่ายังไง คุณตฤน ฉันไม่เข้าใจ” สาวใช้เอากาแฟมาวางให้ ตฤนยกจิบนิดหน่อย แล้วพูดต่อ

“ก็เมื่อวานกับวันนี้หนะ ลูกเราไปอยู่ที่สตูดิโอของเจ้าลอร์ดที่รามอินทรา ไปตั้งแต่เมื่อวานเช้าแล้ว มีการถ่ายแบบเครื่องสำอางค์และแฟชั่นเสื้อผ้าที่จะออกวางจำหน่ายในทันต้นเดือนหน้านี้ ก่อนวันวาเลนไทน์ไง ถึงบางอ้อหรือยัง คุณไปอยู่ไหนมา ลูกบอกผมกับคุณมาตั้งนานแล้ว ก่อนไปเมื่อเช้าวาน มันยังอุตส่าห์มาลาผมเลย” นงนุชทำหน้าเลิ่กลั่ก เหมือนลืม

“อ้าวเหรอ ทำไมฉันถึงจำไม่ได้หละ” นงนุชทำหน้างง กับตัวเอง

“แล้วผมจะไปรู้คุณไหม ก็มัวแต่ไปยุ่งและวุ่นวายกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องอยู่นะซิ”

“คุณตฤน จะมากไปแล้วนะ เรื่องแต่งงานนี่นะที่คุณบอกว่าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องหนะ พูดจาไม่เข้าหูแต่เช้าเลย”

“แล้วมันไปยังไงรถก็ยังจอดอยู่อีกตั้งสองคัน อย่าบอกนะว่าผัวมันมารับ นั่งเข้าไปได้ยังไงไอ้กระบะเก่าๆพังแหล่ไม่พังแหล่นั่นหนะ”

“คุณอคติกับลูกเขยมากไปหรือเปล่าคุณนงนุช” นงนุชมองหน้าสามีด้วยสีหน้าที่ไม่ถูกใจอีกแล้ว

“พูดออกมาได้ไม่อายปาก ลูกเขย คุณไปนับญาติกับมันแล้วเหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“อ้าวแล้วทีคุณหละ เรียกแฟนลูกว่าผัวผัวผัว ทุกคำ เรียกแบบนั้น ผมก็นึกว่าคุณนับญาติกับเขาแล้ว ผมก็เลยเรียกบ้างมันผิดตรงไหน”

“คุณตฤน นี่คุณอย่ามาย้อนฉันนะ ฉันไม่ชอบ อึ๊ย” นงนุชแถไม่ได้ ไปไม่ถูกเลยเจอประโยคนี้ของตฤนเข้าไป

“อ้อ อีกอย่างผมลืมบอกคุณไป เมื่อวานรถที่มารับยัยนุ่นหนะ ผมไม่เห็นนะไอ้รถกระบะที่คุณพูดถึงที่ว่า เก่าๆพังแหล่ไม่พังแหล่หนะ ผมเห็นแต่ New Ford Everest รุ่นใหม่ล่าสุดสีแดง ป้ายแดง มาจอดรอรับอยู่หน้าบ้านต่างหาก”

“เป็นไปไม่ได้ นี่ยัยนุ่น คบใครอีกเหรอนอกจากไอ้กระจอกนั่น เพราะเท่าที่รู้ ไม่มี ก็มันยอมรับและบอกกับเราเองว่าคบอยู่คนเดียว”

“เอ้อ อันนี้ผมก็ไม่รู้นะ ผมว่า ถ้าคุณเอาไอ้อคติของคุณลบออกจากใจไปได้ ผมว่า คุณก็คงจะรู้ได้เองด้วยตัวและตาของคุณเองแหละ เชื่อผมเถอะว่าลูกหนะ มันได้เลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวมันแล้ว” ตฤนกำลังอ่านข่าวธุรกิจอยู่ซึ่งหน้านั้นมีข่าวและรูปของกุ้งปรากฏอยู่ด้วย

“คิดได้ยังไง ว่าลูกหนีตามผู้ชาย เอาสมองส่วนไหนมาคิด” ตฤนบ่นเบาๆอยู่คนเดียวและลุกขึ้นเดินออกไปหน้าบ้าน สบายใจดี

>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<

โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 21 .. “ ใจไม่รักดี ”

 ตอนที่ 20 .. “ พึ่งรู้ว่าใช่ ”

Romance Fiction - นิยายรัก / รักโรแมนติก

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.