รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่5 ตายล่ะ! หมอนี่มีไข้ด้วย!
รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ
ตอนที่5
“นี่! นาย!”
ปริมาตกใจดึงมือตนเองหลบไม่ทันเมื่อเพื่อนพี่ชายคว้ามือของเธอไปแปะไว้บนหน้าผากของตัวเองมือของชายหนุ่มนั้นร้อนมาก ไม่ต่างจากหน้าผากของเขาเลย ‘ตายล่ะ! หมอนี่มีไข้ด้วย!! ซวยล่ะสิ!’
“เชื่อรึยัง?” ใบหน้าอันซีดเซียวจากความอ่อนเพลียของปฏิการ หันไปสบตากับเธอ ก่อนจะลดมือลงจากหน้าผากตนเอง ปล่อยมือเล็ก ๆ นั้นคืนเจ้าของ สายตาเขาเหลือบเห็นรีโมทวางอยู่ข้างตัวน้องสาวเพื่อน ชายหนุ่มรีบหันไปหาเพื่อนซี้ทันที
“ปรามข้าขอดูรายการวอยซ์ออฟเดอะสตาร์หน่อยนะ ข้าไปประกวดร้องเพลง วันนี้เขาจะเอามาออกอากาศ” แล้วหันไปทางน้องสาวเพื่อนเอื้อมมือคว้ารีโมท แต่อีกฝ่ายนั้นไวกว่า เขาจึงคว้ามือเธอที่จับรีโมทไว้มาด้วย
“ป่วยก็ไปนอนสิ!” ปริมายื้อรีโมทเข้าหาตัวเอง พยายามดึงให้หลุดจากฝ่ามือใหญ่โตของอีกฝ่ายให้ได้!
“ส่งรีโมทมานี่!” เสียงปรามดุทั้งคู่ “แย่งกันเป็นเด็ก ๆ ไปได้”
ปริมาจึงยอมปล่อยมือจากรีโมทอย่างเสียไม่ได้ยอมให้หนุ่มผมยาวเอารีโมทส่งต่อให้พี่ชาย
“เอางี้นะดูสลับกัน เดี๋ยวดูของการก่อน พอโฆษณาค่อยดูของปริมโอเคนะ” คำตัดสินของปรามถือเป็นที่สิ้นสุด เขาพูดแล้วชี้รีโมทไปยังช่องที่มีรายการประกวดร้องเพลง
น้องสาวเจ้าของบ้านได้แต่ทำหน้าเซ็ง โกรธ! พี่ชายตัวดีเข้าข้างเพื่อนอีกแล้ว! เพราะนายปฏิการคนเดียวทำให้เธออดดูพระเอกคนโปรดเลย ทำไมต้องมาแย่งเธอดูด้วย ทำยังกับอยู่บ้านตัวเองอย่างนั้นแหละ! คำว่าเกรงใจน่ะมีมั้ย? ได้แต่บ่นอยู่ในใจคนเดียว เธอจำใจนั่งดูรายการประกวดร้องเพลงไปพลาง ๆ เพื่อรอโฆษณา แต่ยิ่งโกรธหนักเข้าไปอีกเมื่อหนุ่มหน้าซีดหันมาส่งยิ้มกวนบาทา ยักคิ้วกวนประสาทให้กับเธอ ประมาณว่า ‘เสียใจด้วยนะจ๊ะ’
ภาพบนจอทีวีในรายการวอยซ์ออฟเดอะสตาร์ฉายไปบนเวทีขณะนักร้องกำลังร้องเพลง แต่เสียงเพลงนั้นผิดคีย์ไปค่อนข้างมาก ไฟสีแดงเป็นรูปกากบาทปรากฏขึ้นบนหน้าแท่นของกรรมการทั้งสี่คน พร้อมกับเสียงไซเรนเหมือนรถพยาบาล เป็นอันรู้กันว่า นักร้องต้องหยุดร้องทันทีเมื่อกรรมการตัดสินไม่ให้ผ่าน
ปฏิการเอนตัวพิงกับพนักโซฟา ยกมือมาประสานกันไว้ที่หน้าท้องของตนเอง ท้องของเขายังไม่ปกติเหมือนกำลังมีคลื่นวนอยู่ในลำไส้ เขาตบท้องตัวเองเบา ๆ อย่างขอร้อง! อย่าเพิ่งปวดถ่ายตอนนี้ เย็นไว้... นั่งมองหน้าจอด้วยใจจดจ่อเพราะนักร้องคนต่อไป ที่ก้าวขึ้นมาบนเวทีคือ ตัวเขาเอง
“เท่ไม่เบาเลยว่ะ!” ปรามหันไปยกหมัดกระแทกต้นแขนเพื่อนเบา ๆ เมื่อมองเห็นชายหนุ่มผมยาวหวีผมเรียบแปล้ สวมสูทสีขาวทั้งชุดเดินออกมาบนเวที แสงสปอร์ตไลท์สาดมาจับใบหน้าขาวละมุนของเพื่อนซี้ ทำให้เขาดูมีออร่าสว่างไปทั้งเวทีราวกับดาวฤกษ์กำลังส่องแสง
“ยืมเขามา” ปฏิการรู้สึกเขินเมื่อมองเห็นตัวเอง พลางยกมือข้างหนึ่งขึ้นมากัดเล็บเบา ๆ อย่างตื่นเต้นที่จะได้เห็นตัวเองร้องเพลง
“แนะนำตัวเลยค่ะ” เสียงกรรมการบอกและส่งรอยยิ้มให้
หนุ่มชุดขาวบนเวทีส่งยิ้มอย่างรู้สึกเขิน ก่อนจะรวบรวมความกล้าพูดแนะนำตัว
“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปฏิการ ปฏิภาคทวีกานต์ วันนี้ผมจะมาร้องเพลง คิดถึงเหลือเกินขอมอบเพลงนี้ให้กับผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผมมาตลอด คอยดูแลและคอยเป็นกำลังใจ สนับสนุนให้ผมได้ทำสิ่งที่ผมรัก คือการร้องเพลง แม้ว่าวันนี้ เราไม่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันอีกแล้ว ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ขอบคุณเวทีแห่งนี้ ที่จะเป็นสื่อกลาง ส่งผ่านความคิดถึงที่ผมมี...ไปยังผู้หญิงคนนั้น หวังว่าเธอคงได้ยินและรับรู้...ว่าผม...คิดถึงเธอมากแค่ไหน” เขาหยุดพูดลงไปชั่วอึดใจก่อนจะพูดต่อไป
“ผู้หญิงคนนั้นคือ...แม่...ของผมครับ”
อินโทรของเพลงคิดถึงเหลือเกินบรรเลงขึ้นมาเมื่อเขาพูดจบลง
ไกล.............
อาจจะไกล..........แสนไกล............อาจจะไกล....จนสุดสายตา....
เขาทอดเสียงผ่านไมโครโฟนที่ค่อย ๆ ยกขึ้นสูง และดึงห่างออกไป ส่งผ่านความรู้สึก.... ช่างห่างไกลเหลือเกิน....ส่งผ่านความคิดถึงไปยังคนที่เขารัก ที่ไม่เคยรู้ว่า ตอนนี้...เธออยู่ที่ไหน และอยู่ไกลเกินกว่าสายตาของเขาจะค้นหาได้
เสียงปรบมือดังขึ้นลั่นหอประชุมใหญ่และตกตะลึงในน้ำเสียงที่แฝงด้วยพลังราวกับกำลังอยู่ใต้มนต์สะกดแห่งความคิดถึงของผู้เข้าประกวด
เราห่างกัน....อาจจะไกล...สุดฟ้า........
กรรมการทุกคนกดปุ่มเครื่องหมายผ่านพร้อมกันทั้งสี่คนด้วยความประหลาดใจอย่างมากที่เขาขึ้นเสียงสูงได้ดีและน่าฟังมาก ไฟสีเขียวเป็นเครื่องหมายถูกปรากฏขึ้นหน้าแท่นของกรรมการแต่ละท่าน
อาจจะเกิน...ที่จะพบกัน
แต่ความห่างไกล...ไม่เคย...ห้ามใจ
ที่ยังคิดถึง...ส่งไปให้ถึง....ใจเธอ
.....อยากจะบอก....เธอ..... คิดถึงเธอ.....เหลือเกิน.......
ยังไม่ลืม...ที่ได้เคย...ใกล้กัน
ไม่ลืมวัน...และคืน...นั้นเลย
ยังไม่ลืม...ที่เราคุ้นเคย
ที่เราผูกพัน ก่อนจากกัน
จนไกลแสนไกล
แต่ความห่างไกล...ไม่เคยห้ามใจ
ที่ยังคิดถึง....ส่งไปให้ถึงใจเธอ…
.....อยากจะบอก....เธอ..... คิดถึงเธอ.....เหลือเกิน.......
เสียงดนตรีเงียบลงไปชั่วอึดใจเดียว แล้วบรรเลงขึ้นมาใหม่
คิดถึงเธอ.....เหลือเกิน.......
คิดถึงเธอ.....เหลือเกิน.......
คิดถึงเธอ.....เหลือเกิน.......
เขาร้องขึ้นเสียงสูงมากซ้ำ ๆ ประโยคเดียวกัน ปลดปล่อยพลังเสียงแห่งความคิดถึงจนสุดเสียงในประโยคสุดท้ายกระจายออกไปจนทั่วหอประชุม ทุกคนในที่นั้นสัมผัสถึงความคิดถึงของเขาที่กระแทกเข้าไปข้างในของหัวใจ
.....อยากจะบอก...เธอ..... คิดถึงเธอ.....เหลือเกิน.......
เสียงดนตรีหยุดลงเงียบสนิท สองมือจับไมค์แน่นก่อนจะถ่ายทอดเสียงออกไป พร้อมกับหลับตาลง
.....อยากจะบอกเธอ.....
คิดถึงเธอ.....
เหลือ............เกิน.......
สิ้นเสียงร้องของเขาที่หายไปในลำคอนั้น ทุกคนในหอประชุมขึ้นลุกขึ้นยืนตบมือจนดังสนั่นด้วยความซาบซึ้งกับบทเพลงนี้
ปรามยกมือบีบไหล่เพื่อนหนุ่มเบา ๆ เพลงที่เพื่อนร้องออกมาจากหัวใจ ทำให้เขาสัมผัสความรู้สึกของความคิดถึงที่มีมากมายเหลือเกิน และมันทำให้เขาคิดถึงแม่ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับเช่นกัน
“แกร้องดีมาก” เขามองหน้าเพื่อนที่กำลังยิ้มและมีน้ำตาคลออยู่
ปริมานิ่งอึ้งกับพลังเสียงของหนุ่มผมยาวที่กลั่นความคิดถึงผ่านบทเพลงแทรกเข้าไปอยู่ในหัวใจของเธอ ไม่รู้เลยผู้ชายมาดกวนอย่างเขาจะร้องเพลงได้ดีและเต็มเปี่ยมด้วยพลังขนาดนี้
ปฏิการหยิบรีโมทส่งให้น้องสาวเพื่อน
เธอมองเขาอย่างงุนงงขณะรับรีโมทย์คืนมา
“ข้าไปก่อนนะข้าศึกบุกอีกแล้ว” เขารู้สึกปวดท้องถ่ายอีกแล้ว หัวหนักอึ้งไปหมดด้วยฤทธิ์ไข้ ชักไม่แน่ใจตัวเอง ว่ามันคุ้มรึเปล่าที่ยอมทำแบบนี้ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ ปรามคงไม่ให้อยู่ที่นี่ต่อ ต้องไล่กลับบ้านแน่นอน เขาจำนนต่อเหตุผลและความหวังดีของเพื่อนคนนี้เสมอ
ปรามขยับตัวเข้ามานั่งข้างน้องสาวที่นั่งนิ่งเงียบจนผิดปกติ และรู้ว่าเธอกำลังคิดถึงแม่เช่นกัน เขาวางมือลงบนหลังมือของน้องคนเล็กอย่างปลอบโยน
ปริมาเงยหน้าขึ้นมาทั้งน้ำตา โผกอดพี่ชายไว้
“ปริม...คิดถึง...แม่...จังเลยค่ะ”
“ปริมเก่งมาก แม่ต้องภูมิใจในตัวปริมแน่นอน” เขาสวมกอดน้องสาวไว้ เธอเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวเหมือนแม่ไม่มีผิดเมื่อแม่รู้ว่าพ่อทำผู้หญิงคนหนึ่งท้อง แม่ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากพ่อเลยแม้แต่น้อยและเป็นฝ่ายจากมา เขากับน้องเลือกที่จะอยู่กับแม่มากกว่าที่จะไปอยู่กับพ่อ
***********
ชามโจ๊กร้อน ๆ ขวดยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรขวดน้ำดื่ม น้ำมันมะพร้าวและอุปกรณ์ทำแผลอยู่ในถาดสี่เหลี่ยม ถูกวางลงที่โต๊ะข้างเตียงคนป่วย ใบหน้าของปริมาบอกอาการเบื่อหน่ายสุด ๆ เมื่อพี่ชายสั่งให้ไปดูแลคนป่วยและทำแผลให้เขา ก่อนจะออกไปต้อนรับลูกค้าที่รีสอร์ต เพราะวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้มักจะมีทัวร์ใหญ่มาลง
หญิงสาวมองใบหน้าอันซีดเซียวของคนป่วยบนเตียง เวลานี้เขาเหมือนเด็กน้อยกำลังหลับสนิท ผมยาวบางส่วนที่ระมาด้านหน้าข้างแก้มของชายหนุ่มนั้น ทำให้ใบหน้าของเขาเหมือนภาพวาดจีนโบราณไม่มีผิด ร่างนั้นนอนตะแคงซ้ายและขดตัวเหมือนกุ้ง สองแขนของเขากอดผ้าห่มลายโดราเอมอนเอาไว้ มือขวาที่วางอยู่บนผ้าห่มนั้นเรียวสวย ตรงนิ้วชี้สวมแหวนเงินที่มีลวดลายเป็นรูปกากบาท อดค่อนแคะคนป่วยไม่ได้ ผู้ชายอะไรมือสวยขนาดนี้ ที่สำคัญเขาเป็นคนผิวขาวใสมาก
เธอค่อย ๆ ยื่นมือไปแตะที่หน้าผากของหนุ่มบนเตียง แต่ยังไม่ทันแตะก็ลดมือลงอย่างรำคาญใจ ทำไมเธอต้องมาดูแลเขาด้วยนะ! นึกโกรธพี่ชายจริงๆ เอะอะ! อะไรก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เธอทำลงไป ก็เขากินเข้าไปเยอะเองจะมาโทษเธอได้อย่างไรเล่า....? เธอคิดพลางถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก เกิดมาไม่เคยต้องดูแลผู้ชายคนไหนนอกจากพี่ชายและพ่อเลย ให้ตายสิ! ทำใจไม่ได้จริง ๆ
อยู่ ๆ มือของเขาก็คว้ามือเธอเอาไว้
กรี๊ด.................................................
เธอตกใจอยากจะร้องกรี๊ด แล้วพยายามดึงมือตัวเองออกมา
“แม่....” เขาจับมือเธอไว้
“แม่...อย่าไป...”
เขาดึงมือเธอไปแนบไว้ใต้แก้มขาวละมุนของตัวเอง ใบหน้านั้นอมยิ้มน้อย ๆ ดูมีความสุขมาก
ริมฝีปากของหญิงสาวเผยอเล็กน้อยด้วยความตกใจ ส่ายหน้าเลิกลั่กไปมา ทำอะไรไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่ง แล้วรีบดึงสติสตังค์กลับมา
“นี่! ฉันไม่ใช่แม่ของนาย” พลางจ้องหน้าคนป่วยเขม็ง พยายามดึงมือตัวเองออกมาจากแก้มของชายหนุ่ม
“อย่าคิดว่านายป่วยอยู่ฉันจะไม่กล้าทำอะไรนายนะ!” หากเขาไม่ยอมปล่อยมือเธอล่ะก็ จะหยิกให้เขียวเลย คอยดู! ในที่สุดก็ดึงมือตัวเองหลุดออกมาจากฝ่ามือใหญ่โตของเขาจนได้ เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก
คนบนเตียงขยับตัวบิดขี้เกียจก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา เสียงโวยวายของเธอปลุกให้เขาตื่น ปฏิการยกมือบังแสงแดดจ้าที่สาดเข้ามาทางหน้าต่าง มองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง ริมฝีปากบางนั้นโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก
‘บอกแล้วยัยตัวแสบต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เธอทำกับฉัน! อย่างไรปรามก็ต้องให้เธอมาดูแลอยู่แล้ว’
“นายไข้ลดหรือยัง?”
คนถูกถามไม่ตอบแต่กลับคว้ามือเธอไปแปะไว้ที่หน้าผากของตัวเอง แต่คราวนี้เธอไม่ยอมให้เขาทำแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง มือน้อย ๆ หยิกแขนของชายหนุ่มที่คว้ามือเธอไว้จนเขาต้องรีบปล่อยมือด้วยความเจ็บ
“อูย.....” เขาเจ็บจนต้องส่งเสียงลอดไรฟันออกมาพลางลูบแขนบริเวณที่ถูกหยิกไปมา คนอะไรโคตรดุเลย
“ขอเตือน! อย่าทำแบบนี้อีก” น้ำเสียงเธอนั้นเฉียบขาด
“ก็ไม่จับดูแล้วจะรู้ได้ไงเล่า...” แล้วค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง แล้วมองหน้าพยาบาลจำเป็น
“จับดูสิ!” แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอ
**************
สวัสดีค่า... ตอนที่แล้วมีคนคอมเม้นท์มาให้ กำลังใจมาเลย จัดตอนที่5 ไปเลยจ้า ขอบคุณมากๆ นะคะ ติชมได้ตลอดน้า...
มีเรื่องขำ เล่าให้ฟัง ตอนที่เขียนฉากนี้ เฟสไปปรึกษาเพื่อนว่า จะให้พระเอกละเมอคว้ามือนางเอกไว้ที่ใต้แก้มหรือบนแก้มของพระเอกดี มีหลายคนให้ความเห็นแตกต่างกันไป แต่เราเลือกอยู่ใต้แก้มของพระเอก ตอนที่เขียนว่านางเอกจะ ทำหน้าอึ้งทึ่งตะลึงยังไง ขณะที่กำลังจินตนาการไม่รู้เป็นอะไร ขำมาก กำลังเฟสไปถามเพื่อนบรรยายประมาณนี้ดีไหม กำลังพิมพ์ไปถาม เกิดอาการขำหนักมาก ยังพิมพ์ไม่จบ นั่งหัวเราะอยู่หน้าจอคนเดียว ขำหนักมาก...55555
พระเอกร้องเพลงนี้นะคะ เพราะมากค่ะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 705
ความคิดเห็น
ไมล์โครโฟน = ไมโครโฟน คร้าบ
ขอบคุณมากๆเลยค่า ช่วยตรวจคำผิดให้ด้วย จะรีบแก้ไขโดยด่วนค่า
แสดงความคิดเห็น