บทที่ 211: แม่ทัพหลี่รู้สึกอับอาย

-A A +A

บทที่ 211: แม่ทัพหลี่รู้สึกอับอาย

คำพูดของแม่ทัพหลี่ทำให้มู่ไป๋ไป่แสร้งทำเป็นหวาดกลัว เธอไปหยุดยืนที่ด้านข้างอีกฝ่ายพร้อมกับมองเขาอย่างลังเลไม่กล้าขี่

จากนั้นก็มีเสียงของฮ่องเต้แห่งแคว้นหนานซวนดังขึ้นมาว่า “เด็กน้อย เจ้ามัวแต่ยืนลังเลอะไรอยู่? รีบขึ้นไปเร็วเข้า”

สิ่งที่เด็กหนุ่มพูดทำให้เด็กหญิงรู้สึกขบขันมากยิ่งขึ้น เมื่อประกอบกับสีหน้าไม่พอใจของชายชรา เธอก็รู้สึกว่าตนได้แก้แค้นที่เขาลักพาตัวเธอมา

หลังจากที่แม่ทัพหลี่ได้ยินคำพูดของนายเหนือหัว เขาก็หันไปพูดกับมู่ไป๋ไป่ด้วยรอยยิ้มแข็งทื่อ “องค์หญิงน้อย พระองค์รีบขึ้นมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

 แต่มู่ไป๋ไป่ก็ยังจงใจแสดงท่าทีไม่มั่นใจ เธอหันไปมองฮ่องเต้แล้วถามว่า “แม่ทัพหลี่ก็อายุเยอะมากแล้ว แบบนี้มันจะไม่เป็นการเสียมารยาทกับท่านแม่ทัพหลี่เพคะ?”

ในเวลานี้ผู้เป็นฮ่องเต้ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก พอเขาได้ยินคำถามของเด็กน้อย เขาก็ตอบออกไปว่า “แม่ทัพหลี่ผ่านสนามรบมานาน เขายังแข็งแรงมาก นอกจากนี้ แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เราจะรับเอาไว้เอง”

ตอนนี้ความปลอดภัยของแม่ทัพหลี่นั้นไม่สำคัญเท่ากับความสุขของเขา

สิ้นเสียงบิดาของแผ่นดิน มู่ไป๋ไป่ก็เหลือบมองสีหน้าผิดหวังของชายชรา และรู้ว่าในขณะนี้อีกฝ่ายหรือคงอารมณ์ไม่ดีมากแล้ว

แต่ไม่ว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายมากเพียงใด บางสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดชีวิตนี้ก็คือฮ่องเต้ที่เขายินยอมสวามิภักดิ์ทั้งกายใจมองตนอย่างไร้ค่า 

“ขึ้นมา!” แม่ทัพหลี่ตะโกนพร้อมกับเก็บกดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้เต็มที่

ตอนนี้ในฐานะตัวประกัน มู่ไป๋ไป่กลับมองเขาด้วยความเห็นใจ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมากยิ่งขึ้น

แต่สิ่งนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยการฝืนทน ซึ่งทำให้ผู้คนมองว่ามันเป็นเรื่องตลก

“แม่ทัพหลี่ เช่นนั้นข้าก็คงต้องเสียมารยาทแล้ว” ร่างเล็ก ๆ ของมู่ไป๋ไป่มีความยืดหยุ่นมาก เธอปีนขึ้นไปบนหลังของอีกฝ่ายโดยตรง

เมื่อเด็กหญิงนั่งอยู่บนหลังของชายสูงวัยเรียบร้อย เธอก็จับคอเสื้อของเขาไว้แน่น แต่นั่นกลับทำให้คนที่แสดงเป็นม้าหายใจไม่ออก

 ถึงกระนั้นมู่ไป๋ไป่ก็ยังถามด้วยใบหน้าใสซื่อว่า “แม่ทัพหลี่ ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”

ขณะนี้ฮ่องเต้หนานซวนยังคงจับตามองทั้ง 2 คนตาไม่กะพริบ โดยที่เขาเฝ้ารอให้แม่ทัพหลี่ตอบอย่างใจจดใจจ่อ แต่กลับกลายเป็นว่าชายสูงวัยเชื่องช้าไม่ทันใจเขา ทำให้ความสนุกสนานที่เขาได้รับต้องลดลงไปบ้าง

ทางด้านแม่ทัพหลี่รู้สึกว่าสีหน้าของฮ่องเต้ดูจะไม่พอใจมากยิ่งขึ้น และนั่นก็ทำให้คนตัวเล็กเหยียดยิ้ม

ในไม่ช้าเด็กหนุ่มก็เข้าร่วมการละเล่นของพวกเธอ โดยมีมู่ไป๋ไป่ขี่แม่ทัพหลี่กำลังวิ่งไล่จับฮ่องเต้

ถ้ามีใครผ่านมาเห็นภาพนี้ พวกเขาคงรู้สึกว่ามันช่างดูไร้สาระยิ่งนัก แต่ฮ่องเต้ของแคว้นหนานซวนรู้สึกสนุกกับมันมากจริง ๆ เด็กหญิงแทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย แต่อีกฝ่ายกลับเข้าร่วมกับเธอตั้งแต่ต้นจนจบ

ตอนนี้ขอเพียงแค่ฮ่องเต้มีความสุข แม้ว่าแม่ทัพหลี่จะอายุเยอะหรือเหนื่อยมากเพียงใด เขาก็ยังคงต้องพยายามเพื่อสร้างความสุขให้แก่คนผู้นี้ต่อไป

แต่เขาก็ไม่ได้ออกแรงวิ่งเร็วมากเกินไป เพราะหากเขาสามารถจับนายเหนือหัวเอาไว้ได้จริง ๆ เขาก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะโกรธขึ้นมาอีก

“แม่ทัพหลี่ ร่างกายของท่านไม่เหมือนตอนวัยหนุ่มแล้วจริง ๆ” หลังจากฮ่องเต้หนานซวนเล่นสนุกพอแล้ว เขาก็พูดพร้อมชี้ไปที่ชายชรา

ท่าทางนี้ทำให้มู่ไป๋ไป่รู้สึกขบขัน เธอมองไปที่แม่ทัพหลี่ที่กำลังพยายามปรับลมหายใจจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้

สภาพน่าอนาถของเขายิ่งทำให้เด็กหญิงแทบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่

“แม่ทัพหลี่ ขอบคุณท่านมาก ลำบากท่านแล้ว” เธอตีขาของอีกฝ่ายพลางยิ้มอย่างไร้เดียงสาให้เขา

ชายแก่ที่ถูกตีได้แต่มองดูรอยยิ้มใสซื่อขององค์หญิงตัวน้อยด้วยความรู้สึกไม่พอใจ

สิ่งที่เด็กตัวเล็ก ๆ คนนี้กำลังทำคือการประกาศสงครามกับเขาอยู่ชัด ๆ แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรกับนางได้นอกจากต้องกล้ำกลืนความแค้นนี้เอาไว้

มู่ไป๋ไป่มองไปที่ฮ่องเต้ก่อนจะพูดว่า “พรุ่งนี้หม่อมฉันจะยังมาเล่นกับพระองค์ได้อีกหรือไม่เพคะ?”

บัดนี้เด็กหนุ่มเพิ่งค้นพบว่าการเล่นกับเด็กผู้หญิงคนนี้มีความสุขมากกว่าการเป็นฮ่องเต้มาก อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องรักษาท่าทีหรือตัดสินใจอะไรยาก ๆ ทำให้เขาพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว

จากนั้นเขาก็ตอบนางไปว่า “แน่นอน”

“ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท” มู่ไป๋ไป่รีบขอบคุณอีกฝ่ายแล้วก็ขยิบตาให้กับแม่ทัพหลี่

ทางด้านชายสูงวัยมองท่าทางของเจ้าเด็กแสบและเข้าใจจุดประสงค์ของการกระทำของนางแล้ว

ขณะนี้แววตาที่เขากำลังมองมู่ไป๋ไป่ยิ่งมืดลง เด็กผู้หญิงคนนี้เก่งกาจยิ่งนัก นางรู้ว่าฮ่องเต้จะต้องรับปากนางอย่างแน่นอน หลังจากที่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ นางก็จะหาทางหนีทีไล่ให้กับตัวเอง

ในระหว่างที่แม่ทัพหลี่ตกอยู่ในภวังค์ จู่ ๆ เสียงของฮ่องเต้หนานซวนก็ดังขึ้นมาว่า “ท่านพาตัวนางออกไปก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยพานางมาพบเรา”

คำสั่งของฮ่องเต้ทำให้ใบหน้าของชายชรายิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้น

“พ่ะย่ะค่ะ” ต่อให้แม่ทัพหลี่จะไม่เต็มใจยอมรับการตัดสินใจของอีกฝ่าย แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี 

“ฝ่าบาท ไว้กันพรุ่งนี้นะเพคะ” มู่ไป๋ไป่จงใจกล่าวคำลาด้วยน้ำเสียงร่าเริง

ทางด้านเด็กหนุ่มไม่รู้ว่าทำไม แต่การได้พูดคุยกับเด็กหญิงนั้นทำให้เขารู้สึกมีความสุขอย่างอธิบายไม่ถูก

พอได้ยินเช่นนั้นเขาก็โบกมือลาอีกฝ่ายอย่างอารมณ์ดี

จากนั้นแม่ทัพหลี่ก็พามู่ไป๋ไป่ออกมาแล้วเดินไปยังบริเวณที่ห่างไกลจากกระโจมของฮ่องเต้หนานซวน

คราวนี้เขาไม่ได้กักเก็บอารมณ์ของตัวเองอีกต่อไป แล้วมองเจ้าตัวเล็กด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ

“แม่ทัพหลี่ ทำไมท่านถึงมองข้าเช่นนั้น?”

มู่ไป๋ไป่มองชายสูงวัยขณะทำหน้าไร้เดียงสา

นั่นยิ่งทำให้แม่ทัพหลี่พูดไม่ออก

นางยังมีหน้ามาถามเขาอีกว่าทำไมเขาถึงมองนางเช่นนี้?!

เขาถลึงตาพูดกับคนตัวเล็กว่า “กระหม่อมไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมแคว้นเป่ยหลงของพระองค์ถึงได้แข็งแกร่งยิ่งนัก แม้แต่เด็กน้อยเช่นพระองค์ก็ยังมีแผนการที่น่ากลัว”

หลังจากแม่ทัพหลี่สังเกตมู่ไป๋ไป่มาสักพัก นี่เป็นความเข้าใจเดียวของเขา นั่นก็คือเขารู้สึกว่าองค์หญิงของแคว้นศัตรูเป็นคนที่รับมือได้ยากมากจริง ๆ

ท้ายที่สุดแล้ว เด็กน้อยคนนี้ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการวางแผน แผนการของนางล้ำลึกมากจนเขาไม่ควรมองข้ามเลย

“แม่ทัพหลี่ เมื่อสักครู่ท่านรู้สึกเหนื่อยหรือไม่?” มู่ไป๋ไป่จงใจถามขึ้นมา

ชายชราสบตากับคนถาม เขาอยากรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะพูดอะไรกันแน่

“นี่เป็นของขวัญตอบแทนที่ข้ามอบให้ท่าน ในอนาคตหากท่านกล้าหยาบคายกับข้า ข้าก็จะทำมากกว่านี้อีก”

พอแม่ทัพหลี่ได้ยินคำพูดข่มขู่ของมู่ไป๋ไป่ เขาก็ตกตะลึง ก่อนหน้านี้เขาคิดแค่ว่านางเป็นเพียงเด็กเจ้าเล่ห์ แต่ยามนี้เด็กหญิงตรงหน้ากลับทำให้เขาหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น

ทั้งการกระทำและดวงตาของเด็กคนนี้ดูไม่เหมือนเด็กอายุ 4 ขวบครึ่งเลย นางน่ากลัวมากจริง ๆ

มู่ไป๋ไป่มองลึกเข้าไปในดวงตาของแม่ทัพหลี่ แล้วกล่าวเสริมอีกประโยคหนึ่งว่า

“ท่านอย่ามองข้าเช่นนี้สิ ข้าแค่อยากให้ท่านเข้าใจว่าการกระทำทุกอย่างย่อมมีผลตอบแทน”

ตัวอย่างเช่น หากเขากล้ายั่วโมโหเธอ เธอก็จะเอาคืนเป็นร้อยเท่า!

เนื่องจากแม่ทัพหลี่มีอายุมากกว่ามู่ไป๋ไป่หลายปี ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วเขาย่อมไม่มีวันยอมให้เด็กตัวเล็ก ๆ ควบคุมเขาได้โดยง่าย 

คนเราไม่มีวันโชคดีเสมอไป ในวันนี้นางอาจจะเอาตัวรอดไปได้ แต่พรุ่งนี้ล่ะ?

แม่ทัพหลี่มองเตือนมู่ไป๋ไป่ด้วยแววตาคมดุ แล้วเขาก็พูดออกไปว่า “ในเมื่อองค์หญิงน้อยจงใจก่อเรื่องเช่นนี้ พระองค์ก็อย่าได้ถือสาที่กระหม่อมหยาบคาย”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Rights Reserved.