บทที่ 116: อย่าสนใจพวกเขา

-A A +A

บทที่ 116: อย่าสนใจพวกเขา

“ข้าฟังพี่เสิ่น ข้าจะไม่เถียงกับพวกเขา” เสี่ยวฮวาแลบลิ้นใส่เด็กพวกนั้นก่อนจะกลับไปกอดเข่าอยู่เงียบ ๆ ที่มุมห้อง

เด็กกลุ่มนั้นทำเพียงแค่ส่งเสียงเยาะเย้ยก่อนจะหันไปดื่มด่ำกับอาหารต่อไป บางคนถึงกับจงใจเคี้ยวเสียงดัง โดยคิดว่ามันจะทำให้เสิ่นจวินเฉากับเสี่ยวฮวารู้สึกอิจฉา

เด็กชายทำเพียงแค่หลับตาลงเลิกสนใจเด็กกลุ่มนั้น เขาคิดเพียงว่าจะมีทางไหนที่เขาสามารถติดต่อกับองครักษ์ลับของเขาและให้คนของเขามาพาตนออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร

ปัจจุบันเขาถูกจับตัวมาเป็นเวลา 2 วันแล้ว เขาไม่รู้ว่ายามนี้กิจการของเขาจะวุ่นวายมากเพียงใด

อีกทั้งเขาไม่รู้ว่าองครักษ์ลับได้ส่งรายงานการหายตัวไปของเขากลับไปแล้วหรือยัง

พอคิดถึงเรื่องนี้ เสิ่นจวินเฉาก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา

แอ๊ด!

ไม่นานก็มีเสียงประตูเปิดออก ชายร่างกายกำยำปรากฏตัวที่ประตู จากนั้นกลุ่มเด็กที่เคยกินเสียงดังก็เงียบลงทันทีเมื่อเห็นผู้มาเยือน

“พวกเจ้ากินอิ่มแล้วหรือ?” ดวงตาของชายคนนั้นกวาดมองไปรอบห้อง

ขณะนั้นพวกเด็ก ๆ พยักหน้าพร้อมเพรียงกัน

“ถ้ากินเสร็จแล้วก็ตามข้ามา” ชายร่างใหญ่เปิดประตูกว้างขึ้นและปรบมือให้ทุกคนออกไป “ยกเว้น 2 คนนั้น”

ซึ่ง 2 คนที่ว่าก็คือเสิ่นจวินเฉากับเสี่ยวฮวา

เหล่าเด็กน้อยไม่กล้าขัดขืนจึงเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วพลางก้มหัวนิ่ง หลังจากนั้นไม่นานในห้องก็เหลือเพียงเสิ่นจวินเฉากับเสี่ยวฮวาเท่านั้น

“พี่เสิ่น…” ยามนี้เด็กหญิงทั้งหิวและหวาดกลัว นางจึงโน้มตัวเข้าหาเด็กชายมากยิ่งขึ้น “เราจะยังได้ออกไปจากที่นี่หรือไม่?”

เสิ่นจวินเฉาขมวดคิ้ว ขณะที่เขาขยับเข้าไปปลอบโยนอีกฝ่ายเบา ๆ “แน่นอน”

เสี่ยวฮวาเม้มปากแน่น และเนื่องจากความวิตกกังวลจึงทำให้เธอยกนิ้วขึ้นมากัดพร้อมกับเงียบไป

จากนั้นก็มีเสียงดังมาจากด้านนอกเบา ๆ ในตอนแรกเสิ่นจวินเฉาไม่ได้สนใจมัน จนกระทั่งเสียงนั้นขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ

“เมี้ยว…”

“เมี้ยว เมี้ยว!”

เด็กชายขมวดคิ้วพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองไปที่หลังคาเพื่อดูแมวที่กำลังวิ่งอยู่ที่ไหนสักแห่ง

“แมวหรือ?” เสี่ยวฮวาเองก็เงยหน้ามองบนเพดาน ก่อนจะถามขึ้นอย่างสงสัย “พี่เสิ่น นั่นเป็นเสียงแมวหรือ?”

“น่าจะเป็นเช่นนั้น” เสิ่นจวินเฉาพยักหน้านิ่ง ๆ ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไร เขาก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยตามมาติด ๆ

“นั่น! เจ้าส้มอยู่ตรงนั้น อวี้เซิ่งรีบอุ้มข้าขึ้นไปเร็วเข้า”

เด็กชายรู้สึกสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้น “ไป๋ไป่?”

“พี่เสิ่น ใครคือไป๋ไป่หรือ?” นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวฮวาเห็นเสิ่นจวินเฉาไม่สามารถรักษาท่าทีสงบนิ่งของตัวเองได้อีกต่อไป นางจึงอดไม่ได้ที่จะคว้าแขนเสื้อของเขามากำไว้แน่น

“นางเป็นสหายของข้า” เด็กชายไม่สนใจที่จะอธิบายให้อีกฝ่ายฟังมากนัก เขาเดินวนไปรอบ ๆ ห้องเพื่อมองหาอะไรก็ตามที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือให้เขาเข้าใกล้หลังคามากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในห้องนั้นไม่มีอะไรนอกจากโต๊ะที่เต็มไปด้วยเศษอาหาร

เสิ่นจวินเฉาเหลือบมองสิ่งที่เหลืออยู่บนโต๊ะ ก่อนจะขมวดคิ้วแต่ก็พยายามทำเป็นไม่สนใจสิ่งสกปรกบนโต๊ะแล้วก้าวขึ้นไป

ในเวลาเดียวกัน บนหลังคา มู่ไป๋ไป่แสร้งทำเป็นไล่ตามเจ้าแมวอ้วนและถามมันเบา ๆ ว่า “เจ้าแน่ใจนะว่าเป็นที่นี่ เจ้าไม่ได้พาข้ามาผิดที่ใช่หรือไม่?”

“มู่ไป๋ไป่ เจ้าคิดว่าแมวตัวนี้เป็นใครกัน” เจ้าส้มเหลือบมองเด็กหญิงด้วยสายตาดูถูก มันรู้สึกเหนื่อยมากที่วิ่งมาจนถึงที่นี่ ดังนั้นมันจึงทิ้งตัวนั่งลงบนหลังคาเพื่อพักผ่อน “เจ้าดำบอกเมื่อกี้ว่าเห็นเด็กพวกนั้นอยู่ที่นี่”

“มันจำได้แม่นเลย”

“ถึงแม้ว่ามันจะมองผิดไป หรือพามาผิดที่ เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้า”

ปากมู่ไป๋ไป่กระตุกทันทีที่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย “ข้าไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอ่ยปากสาบานว่าเจ้าดำมองไม่ผิดแน่นอน แต่ตอนนี้กลับพลิกลิ้นไปเสียแล้ว”

“เจ้าส้ม เจ้ากลายเป็นแมวนิสัยไม่ดีตั้งแต่เมื่อไหร่”

แมวที่ถูกต่อว่าถึงกับสำลัก ในขณะที่มันกำลังจะพูดโต้ตอบ มันก็รู้สึกว่ากระเบื้องที่อยู่ใต้ก้นของมันเอียงไปอีกด้าน มันจึงเอียงคอด้วยความรู้สึกสับสน “แปลก ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าใต้ก้นของข้ามีอะไรบางอย่าง…” 

ก่อนที่มันจะทันได้พูดจบ แผ่นกระเบื้องใต้ก้นของมันก็ถูกผลักเปิดออกทันที

“แง้วววว!” เจ้าส้มส่งเสียงร้องด้วยความตกใจและรีบกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของมู่ไป๋ไป่ “อะไรน่ะ? เมื่อกี้มีอะไรกัดก้นข้าหรือไม่?!”

“ไป๋ไป่ นั่นเจ้าหรือ?” เสิ่นจวินเฉายกมือขึ้นอย่างยากลำบาก ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งถอดขาเก้าอี้ออกมาใช้เป็นเครื่องมือ ในที่สุดเขาก็สามารถเปิดกระเบื้องหลังคาออกได้เล็กน้อย

“พี่จวินเฉา!” ดวงตาของมู่ไป๋ไป่เป็นประกาย แล้วเธอก็รีบวิ่งเข้าไปหาอีกฝ่าย “ข้าเอง! ท่านอยู่ที่นี่จริง ๆ ด้วย!”

“เจ้ามาที่นี่เพื่อตามหาข้าหรือ?” เด็กชายเข้าใจความหมายในคำพูดของคนตัวเล็กทันที พร้อมกับมีความสุขเกิดขึ้นในใจ

มู่ไป๋ไป่ไม่สนใจที่จะตอบคำถามของเขา เธอเพียงแค่ถามเขาว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จากนั้นเธอก็หันไปบอกให้อวี้เซิ่งไปช่วยเขา

นักฆ่าหนุ่มไม่คาดคิดว่าองค์หญิงหกจะตามหาคนพบหลังจากวิ่งไล่ตามจับแมว ซึ่งมันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากจริง ๆ

จากนั้นเขาก็ได้เข้าไปในเรือนที่อยู่ด้านหลังเงียบ ๆ และเห็นเด็กชายหน้าตามอมแมมกับเด็กหญิงที่อายุประมาณมู่ไป๋ไป่ยืนอยู่ที่ประตู

“เสิ่นจวินเฉา คุณชายเสิ่น?” อวี้เซิ่งจ้องมองเด็กชายแล้วถามว่า “ท่านเป็นสหายของคุณหนูของข้าหรือ?”

“ถูกต้อง” เมื่อเสิ่นจวินเฉาเห็นชายหนุ่มตรงหน้า เขาก็รู้สึกคุ้นหน้าอีกฝ่าย แต่เขาจำไม่ได้ว่าตนเคยเห็นชายผู้นี้ที่ไหนมาก่อน เขาจึงทักทายอวี้เซิ่งอย่างสุภาพ

ในตอนที่เขากำลังจะบอกว่าตนถูกจับตัวมาอย่างไร เขาก็เห็นชายหนุ่มเปิดประตูอีกครั้งและหันมาพูดกับเขาว่า “เรารีบออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ”

นั่นทำให้เด็กชายตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “ออกไปทั้งแบบนี้เลยหรือ?”

“แล้วจะให้ออกไปเช่นไรล่ะ?” อวี้เซิ่งมองอีกฝ่ายแปลก ๆ “หรือว่าคุณชายเสิ่นมีงานอดิเรกแปลก ๆ”

“...”

ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าฝีปากของผู้ชายคนนี้ดูจะคมคายยิ่งนัก?

“พี่เสิ่น คนผู้นี้เป็นใคร?” เสี่ยวฮวาเบี่ยงตัวหลบอยู่ที่ด้านหลังของเด็กชายแล้วถามขึ้นด้วยเสียงกระซิบ “เสี่ยวฮวากลัว”

“เขาคือคนที่จะมาช่วยพวกเรา” เสิ่นจวินเฉาอธิบายให้เด็กหญิงฟังสั้น ๆ พร้อมกับดึงนางมาข้างหน้า “...ผู้มีพระคุณคนนี้ ท่านคงยังไม่รู้อะไร สถานที่แห่งนี้ถูกปกป้องอย่างแน่นหนา พวกเขามีคนคอยลาดตระเวนทั้งด้านนอกและด้านใน ถ้าเราเดินออกไปโดยตรง….”

ก่อนที่เขาจะทันพูดจบ จู่ ๆ ก็มีคนแปลกหน้าปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา

ชายคนนั้นสวมหน้ากากสีเงินขณะที่เขาปัดมือตัวเองเบา ๆ “ข้าจัดการทุกคนเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เด็กที่ถูกลักพาตัวออกไปรอข้างนอกหมดแล้ว ยังเหลืออีกคนหนึ่ง…”

“อ้อ อยู่นี่เอง”

เสิ่นจวินเฉายืนนิ่งอึ้งจ้องผู้มาเยือนอยู่ครู่หนึ่ง

เซียวถังอี้สังเกตเห็นสายตาที่มองมาของเด็กชาย เขาจึงเลิกคิ้วมองกลับไป “เจ้ารู้จักข้าหรือ?”

เสิ่นจวินเฉาอยากบอกว่าเขาจะไม่รู้จักอีกฝ่ายได้อย่างไร?

เขาได้ยินชื่อคนผู้นี้มาตั้งแต่เด็ก

“นี่ ทำไมพวกท่านยังอยู่ที่เดิม?” มู่ไป๋ไป่ที่รออยู่บนหลังคาเป็นเวลานานก้มหัวมาถาม “พี่จวินเฉา รีบออกมาก่อน…”

“คุณหนู ท่านเองก็ลงมาเถอะ” อวี้เซิ่งเงยหน้าขึ้นเรียกเด็กหญิง “คุณชายเซียวจัดการศัตรูเรียบร้อยแล้ว”

“หา?!” คนตัวเล็กเพิ่งตระหนักได้ว่าเซียวถังอี้ติดตามมาด้วย

“คุณหนูรีบลงมาเร็วเข้า” หลัวเซียวเซียวกับจื่อเฟิงซึ่งมาถึงทีหลังก็เดินเข้ามาในลานบ้านด้วยเช่นกัน “คนข้างนอกถูกจัดการไปหมดแล้วจริง ๆ เจ้าค่ะ”

ก่อนหน้านี้พวกเขาเดินทางมาได้เพียงครึ่งทาง แล้วทั้งคู่ก็เห็นเซียวถังอี้ที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันมุ่งตรงเข้าไปในจวนโดยจัดการกับศัตรูจนล้มลงไปหมด ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในจวน

ทันทีที่ทั้ง 2 เดินเข้ามา พวกเขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งนอนอยู่ในลานบ้าน และมีเด็กกลุ่มหนึ่งที่สวมเสื้อคล้ายกันนั่งอยู่ข้าง ๆ

“อืม...” มู่ไป๋ไป่เม้มปากพลางบ่นพึมพำเบา ๆ “ชิ ขี้อวดชะมัด”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.