บทที่ 37 กำจัดโทรลล์ให้หมด
บทที่ 37 กำจัดโทรลล์ให้หมด
ลู่หยางรับม้วนหนังสือมาจากมือของบีเซลด้วยหัวใจที่เต้นรัว เพราะเขาจำได้อย่างชัดเจนว่าในชาติก่อนมีผู้เล่นติดอยู่ในดันเจียนไวเปอร์วัลเลย์เป็นจำนวนมากแค่ไหน
ด้วยความยากของดันเจียน หากผู้เล่นไม่ได้มีอุปกรณ์เลเวล 5-8 ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะเอาชนะมอนสเตอร์ภายในดันเจียนเลเวล 10 ได้
ในตอนที่ผู้เล่นทั่วทั้งเซิร์ฟเวอร์กำลังร้อนรนอย่างอับจนหนทางอยู่นั่นเอง จู่ ๆ มันก็ได้มีผู้เล่นปริศนานำยาต้านพิษมาลงขายภายในร้านประมูล
เหล่าบรรดาผู้เล่นต่างก็แห่กันไปซื้อน้ำยาต้านพิษอย่างคับคั่ง ทำให้ราคาของมันพุ่งขึ้นไปสูงถึงขวดละ 5 เหรียญเงิน แต่ถึงกระนั้นจำนวนของน้ำยาก็ยังมีไม่มากพอต่อความต้องการของตลาดอยู่ดี
“น้องชาย คราวนี้คุณมอบของขวัญชิ้นใหญ่มาให้กับฉันจริง ๆ” ลู่หยางกล่าว
“นี่เป็นแค่ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ และเมื่อมันเทียบกับชีวิตของฉัน มันก็ไม่มีค่าอะไรเลย” บีเซลพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“พวกเราไม่เพียงอยากจะมอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับคุณเท่านั้น แต่พวกเรายังมีเรื่องอยากจะขอให้คุณช่วยพวกเราด้วย” ทาเซลกล่าว
“เรื่องอะไรครับ?” ลู่หยางถาม
ทาเซลไม่ตอบคำถามแต่ผายมือไปทางบีเซล
บีเซลรับใบคำสั่งมาจากก็อบลินที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง ก่อนที่เขาจะพูดกับลู่หยางด้วยน้ำเสียงที่เดือดร้อน
“พวกโทรลล์มันกล้าดียังไงถึงมาโจมตีบริษัทของเราแถมยังเกือบจะฆ่าฉันตายอีก ฉันจะให้พวกมันได้ชดใช้ หวังว่าคุณจะยอมรับภารกิจจากฉันไปเพื่อกำจัดไอ้พวกสารเลวนั่นให้หมด”
ลู่หยางรับใบคำสั่ง ก่อนที่เขาจะได้เห็นข้อความที่ถูกเขียนอยู่ในนั้น
ใบคำสั่งภารกิจจากบริษัทก็อบลิน: พวกโทรลล์มันกล้าดียังไงถึงมาบุกโจมตีกองคาราวานของบริษัทก็อบลิน เพื่อเป็นการสั่งสอนพวกมันและเตือนภัยเผ่าพันธุ์อื่น ทางบริษัทจึงขอให้ท่านลู่หยางเดินทางไปยังค่ายโทรลล์เพื่อกำจัดพวกโทรลล์ที่เหลือให้หมดสิ้น ทางบริษัทจะนับสร้อยกระดูกที่คอของโทรลล์เป็นหลักฐานและยินดีที่จะจ่ายเงินรางวัล 20 เหรียญทองแดงต่อสร้อย 1 เส้น
ลู่หยางลองคำนวณดูภายในใจว่าโดยทั่วไปภายในค่ายจะมีโทรลล์เกิดทั้งหมดครั้งละ 100 ตัว หากเขาสังหารพวกมันจนหมดค่าย เขาก็จะได้รับเงินรางวัล 2,000 เหรียญทองแดงหรือ 20 เหรียญเงิน ซึ่งการหาเงินด้วยวิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีที่ดีมากและเขายังสามารถนำเงินก้อนนี้ไปซื้อวัตถุดิบสำหรับการปรุงยาต้านพิษได้อีกด้วย
“ฉันยอมรับภารกิจนี้” ลู่หยางเซ็นชื่อลงบนใบคำสั่ง ก่อนที่จะยื่นมันคืนให้กับบีเซล
“ฉันคิดอยู่แล้วว่าคุณจะต้องยอมรับงานนี้แน่ ๆ” บีเซลพูดอย่างร่าเริง
ลู่หยางมองดูเวลาและได้พบว่าเขาเสียเวลาอยู่ในบริษัทก็อบลินมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งจู่ ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องของลิ่วเจียขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ และมันก็กระตุ้นให้ชายหนุ่มได้นึกถึงความเร่งด่วนของเวลา
“เดี๋ยวฉันจะรีบไปที่ค่ายโทรลล์เดี๋ยวนี้เลย คุณรอฟังข่าวดีก็แล้วกัน” ลู่หยางกล่าว
“ได้ ตอนนี้ทางบริษัทยังไม่มีขบวนคาราวานออกไปที่ไหน ถ้าคุณกลับมาให้คุณไปที่อาคารสมาคมการค้าทางทิศตะวันออกของค่ายได้เลย ฉันจะรอคุณอยู่ที่นั่น” บีเซลกล่าว
ลู่หยางพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะโบกมือลา จากนั้นเขาก็มาที่บริเวณริมแม่น้ำเพื่อเตรียมปลาไหลทอดกรอบ 200 ชิ้น
ในที่สุดชายหนุ่มก็ได้กลับมาที่ค่ายโทรลล์ เขาจึงเริ่มท่องคาถาเพื่อเรียกลูกไฟขนาดใหญ่ยิงไปที่หัวของโทรลล์ตัวหนึ่งในทันที
โทรลล์เป็นมอนสเตอร์ที่จะเกิดใหม่ทุก ๆ 15 นาทีและมอนสเตอร์ชนิดนี้ก็เป็นมอนสเตอร์ที่รับมือได้อย่างยากลำบากมากพอสมควร ทุก ๆ ครั้งที่ลู่หยางทำการโจมตี เขาก็จำเป็นจะต้องระมัดระวังหอกที่อีกฝ่ายจะขว้างสวนมา เพราะถ้าหากเขาพลาดท่าแม้แต่เพียงครั้งเดียว มันก็มากเพียงพอที่จะทำให้เขาเสียชีวิตลงไปได้เลย
ความจริงแล้วการเก็บเลเวลในค่ายโทรลล์ยังช้ากว่าการเก็บเลเวลกับเสี่ยวเหลียงด้วยซ้ำ ซึ่งความเป็นจริงเขาสามารถรอจนถึงเลเวล 10 แล้วค่อยมาทำภารกิจนี้ทีหลังก็ได้
ในตอนนั้นอุปกรณ์ของชายหนุ่มคงจะเพียบพร้อมกว่านี้ และถ้าหากว่าเขาชวนผู้เล่นมาอีกสักหนึ่งปาร์ตี้ เขาก็จะได้รับสร้อยกระดูกของโทรลล์ฟรี ๆ เพราะสำหรับผู้เล่นคนอื่นแล้วสร้อยกระดูกพวกนั้นไม่ได้มีค่าอะไรเลย
“โอ้โห! ไม่คิดเลยว่าเสี่ยวเหลียงจะทำได้ดีมากขนาดนี้” ลู่หยางกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกายและหลังจากที่เขาทำการตรวจสอบกระดานจัดอันดับ
ความเร็วในการเก็บเลเวลของเสี่ยวเหลียงไม่ใช่ความเร็วโดยทั่วไป แต่มันคือความเร็วที่ทำให้โลกภายนอกกำลังวุ่นวายกันไปหมด เพราะจู่ ๆ ผู้เล่นที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งกลับปรากฏขึ้นมาในท็อปเท็นของกระดานจัดอันดับอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นเขาก็ฝ่าฟันหัวหน้ากิลด์ขนาดใหญ่อย่างแบล็คบลัด, ฉือมู่และฉงป้าขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 2 ภายในเวลาเพียงแค่วันเดียว
ผู้เล่นในช่องแชทโลกต่างก็พูดคุยถึงเรื่องนี้กันอย่างคับคั่ง โดยหลายคนพูดคุยด้วยความอิจฉาและบางคนก็ถึงกับร้องเรียนไปทางบริษัทให้มาตรวจสอบบัคที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะท้ายที่สุดแม้แต่หัวหน้ากิลด์ขนาดใหญ่อย่างฉือมู่ก็เพิ่งจะเก็บเลเวลได้ถึงเลเวล 6 กับอีกประมาณ 50% เท่านั้น มันจึงไม่มีใครสามารถทำความเข้าใจได้เลยว่าผู้เล่นที่มีชื่อว่าเฮ่ยเจียสามารถเก็บเลเวลอย่างรวดเร็วขนาดนี้ได้ยังไง
“มันจะต้องใช้โปรแกรมโกงแน่ ๆ” เจิ้งหยวนพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ หลังจากที่เลเวลของเขาลดลงจากเลเวล 3 มาเหลือเลเวล 2 ได้เพียงแค่ไม่นาน
ก่อนหน้านี้พวกเขาท้าทายดันเจียนเลเวล 3 และเสียชีวิตต่อเนื่องกันถึงห้าครั้ง ทำให้เลเวลของสมาชิกภายในทีมลดลงมาเหลือที่ประมาณเลเวล 2 กับอีก 50%
“ไม่แน่นะ” จางจื่อโป๋กล่าว
“ไม่แน่อะไร?” เซี่ยหยู่เว่ยถามขณะที่ยังคงสังหารมอนสเตอร์ไปด้วย
“พวกเธอสังเกตไหมตอนที่เฮ่ยเจียอัปเลเวลอย่างรวดเร็ว ลู่หยางที่อยู่อันดับ 1 ก็กำลังเก็บเลเวลอย่างรวดเร็วเหมือนกัน ฉันกำลังสงสัยว่าบางทีทั้งคู่อาจจะไปเก็บเลเวลด้วยกันก็ได้” จางจื่อโป๋คาดเดา
“โธ่เว้ย! สมองของไอ้สองคนนี้มันยังมีอยู่หรือเปล่า ทำไมพวกมันทั้งคู่ถึงปิดฟังก์ชั่นเพิ่มเพื่อนเหมือน ๆ กัน พวกมันไม่รู้หรือไงว่าถ้าหากพวกมันขายวิธีอัปเลเวลพวกมันจะได้เงินเยอะขนาดไหน” เจิ้งหยวนสบถอย่างไม่พอใจ
“คนเก่ง ๆ ก็มักจะมีนิสัยแปลก ๆ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว พวกนายอย่ามาเสียอารมณ์กับเรื่องแบบนี้เลย พวกเราพยายามเก็บเลเวลกันเถอะ อย่างน้อยสถานที่เก็บเลเวลของพวกเราก็ไม่ได้แย่นะ” เซี่ยหยู่เว่ยพยายามพูดปลอบใจ
จางจื่อโป๋กับพรรคพวกพยักหน้ารับอย่างหมดหนทาง เพราะตอนนี้พวกเขาไม่มีอุปกรณ์ที่เพียงพอ และถ้าหากว่าพวกเขาไม่ลงดันเจียนบางทีตอนนี้พวกเขาอาจจะมีเลเวล 4 ไปแล้วก็ได้
หลานอวี่มองดูพรรคพวกที่กำลังพูดถึงลู่หยางพร้อมกับความรู้สึกแปลก ๆ ภายในใจ มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่พูดออกมาไม่ถูก โดยมันเป็นสิ่งที่ผสมผสานระหว่างความลึกลับและความตื่นเต้น ราวกับว่าเธอกำลังแอบทำเรื่องไม่ดีและกลัวว่าคนอื่นจะมาจับสิ่งที่เธอกำลังแอบทำอยู่ในตอนนี้อย่างลับ ๆ
“เขากำลังทำอะไรอยู่นะ?” เมื่อพูดถึงลู่หยาง หลานอวี่ก็อดนึกสงสัยขึ้นมาไม่ได้
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 29
แสดงความคิดเห็น