บทที่ 8 การต่อสู้เกินระดับ

เซี่ยหยูเว่ยพยักหน้าและกล่าวว่า “เขาคนนี้ดูไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ กลิ่นอายของเขาเหมือนดาบที่ยังไม่ถูกชักออกมาจากฝัก วันหนึ่งเขาต้องเป็นยอดฝีมืออย่างแน่นอน ว่าแต่เขาบอกวิธีหาเนื้อปลาไหลกับเธอมาแล้วหรือยัง?”

หลานอวี่พยักหน้าเป็นคำตอบ

“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นพวกเรารีบกลับเข้าเมืองกันก่อนเถอะ หลังจากสลัดคนที่ติดตามออกไปจนหมดแล้วพวกเราค่อยกลับไปรวมตัวกันใต้ต้นไม้ใหญ่ทางตอนใต้ของหมู่บ้าน จากนั้นพวกเราค่อยไปทำภารกิจนี้พร้อมกันและดูว่าวิธีการที่เขาให้มามันใช้ได้จริงหรือเปล่า” เซี่ยหยู่เว่ยส่งข้อความให้สมาชิกภายในทีมเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นคนอื่นได้ยินสิ่งที่พวกเธอพูดคุยกัน

ทุกคนพยักหน้าตกลงยกเว้นเจิ้งหยวนที่กำลังกล่าวขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

“ฉันว่าเขาไม่มีทางบอกวิธีผ่านภารกิจจริง ๆ ให้กับเราหรอก ต่อให้พวกเราไปตามที่เขาบอกมันก็ไม่มีความหมาย”

ผู้เล่นหลายคนที่กำลังจะดำเนินตามแผนหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของเจิ้งหยวน และผู้เล่นหลายคนก็กำลังมองไปยังเจิ้งหยวนและเซี่ยหยู่เว่ยอย่างลำบากใจ เพราะไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะต้องฟังคำสั่งจากใครกันแน่

เซี่ยหยู่เว่ยขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะกล่าวกับเจิ้งหยวนว่า “ตกลงนายจะไปไหม?”

เมื่อเห็นว่าเซี่ยหยู่เว่ยกำลังโกรธ เจิ้งหยวนจึงไม่กล้าก่อเรื่องอีกต่อไป เขาจึงเผยรอยยิ้มออกมาและกล่าวว่า

“ไปสิ ฉันไปด้วยก็ได้”

—

ลู่หยางกลับเข้าไปภายในเมืองและพยายามซ่อนตัวจากฝูงชน จากนั้นเขาก็ออกเดินทางไปทางประตูทางทิศเหนือของหมู่บ้านยักษ์เพื่อมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ของมอนสเตอร์เลเวล 5 

ตอนนี้เขามีปลาไหลทอดกรอบแล้ว มันจึงทำให้เขามีความสามารถในการสังหารมอนสเตอร์เลเวล 5 แล้วด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่าชายหนุ่มย่อมไม่ไปต่อสู้กับมอนสเตอร์เลเวล 5 ตรง ๆ เพราะในเกมเซคคัลเวิลด์เมื่อมอนสเตอร์มีเลเวลสูงขึ้น ค่าสถานะของมันก็จะเพิ่มสูงขึ้นไปด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้โดยปกติเมื่อผู้เล่นเลเวล 0 ต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์เลเวล 3 มันก็ทำให้พวกเขาแทบจะไม่สามารถจัดการกับมอนสเตอร์ในระดับนี้ได้แล้ว 

มันจึงไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงการที่ผู้เล่นเลเวล 0 พยายามจะไปท้าทายมอนสเตอร์เลเวล 5 ที่มีความเก่งกาจกว่ามอนสเตอร์เลเวล 3 เลย

แต่ลู่หยางมีวิธีการพิเศษของตัวเอง เขาจึงวิ่งตามเส้นทางไปมากกว่า 1 ชั่วโมงจนมาถึงทุ่งราบอันเงียบสงบ ซึ่งเป็นเขตเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ของมอนสเตอร์เลเวล 2 และเลเวล 3 แล้วในขณะนี้มันก็มีกลุ่มผู้เล่นรวมตัวกันมาแถวนี้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

ท่ามกลางทุ่งราบมีกระโจมแห่งหนึ่งตั้งอยู่ ซึ่งลู่หยางก็ได้พบกับ NPC ที่มีชื่อว่าเฟร็คกำลังบ่นตัดพ้อกับความรู้สึกผิดของตัวเองอย่างต่อเนื่อง 

“ทำไมฉันถึงไม่ผูกมันเอาไว้ให้ดี ๆ นะ โอ้พระเจ้าถ้าไม่มีมันแล้วฉันจะทำยังไง…” เฟร็คกล่าวด้วยความเสียใจ

ลู่หยางเดินเข้าไปใกล้ ๆ และถามว่า “ดูเหมือนว่าคุณกำลังมีปัญหานะครับ ไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”

“แม่ม้าของฉันถูกม้าป่าพาตัวไป ใครก็ได้ช่วยเอาแม่ม้าของฉันกลับมาที นั่นคือม้าตัวเดียวของฉัน” เฟร็คกล่าวอย่างท้อใจ

“ถึงผมอยากจะช่วยแต่ว่าผมไม่มีเครื่องมืออะไรเลย” ลู่หยางพูดอย่างเสียดาย

เฟร็ครีบหยิบเชือกยาวสำหรับจับม้าจากเอวให้ลู่หยาง “ท่านนักผจญภัย ฉันขอร้องล่ะช่วยฉันด้วย เชิญคุณเอาเชือกสำหรับจับม้าเส้นนี้ไปได้เลย”

“ไม่ต้องห่วง ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของฉันเอง”

ระบบ: คุณได้รับภารกิจจากคนเลี้ยงม้าให้ไปหาม้าตัวเมียที่หายไป          

ระบบ: คุณได้รับเชือกจับม้า

ลู่หยางมองเชือกภายในมือด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่คือตัวช่วยในการทำภารกิจที่เขากำลังตามหาอยู่นั่นเอง

บริเวณเขตเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่มอนสเตอร์เลเวล 2 กับเลเวล 3 มีภูเขาสูงชันที่โดยปกติแล้วผู้เล่นไม่สามารถปีนขึ้นไปได้

ในชาติก่อนของเขามีผู้เล่นคนหนึ่งทำภารกิจตามหาม้าไปจนถึงใต้หน้าผา และบ่วงจับม้าก็เผอิญไปผูกติดกับเนินหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผาพอดิบพอดี ผู้เล่นคนนั้นไม่คาดคิดว่ามันจะมีเหตุการณ์อะไรแบบนี้และด้วยความเบื่อหน่ายเขาจึงทดลองดึงเชือกเพื่อปีนขึ้นไป

เมื่อเขาไปจนถึงยอดเขาได้ เขาก็ได้พบว่าอีกด้านหนึ่งเป็นพื้นที่ของมอนสเตอร์เลเวล 5 และที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้นคือเมื่อเขายืนอยู่บนยอดเขา ผู้เล่นคนนั้นก็สามารถจู่โจมมอนสเตอร์เลเวล 5 ที่อยู่ด้านล่างได้ฟรี ๆ

ผู้เล่นที่ค้นพบความลับรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากและเริ่มใช้บัคนี้ในการเก็บเลเวลอย่างรวดเร็ว 

แม้ว่าผู้เล่นคนนี้จะเข้ามาในเกมช้ากว่าผู้เล่นกลุ่มแรกถึง 3 วัน แต่ด้วยบัคที่ทำให้เขาสามารถจู่โจมมอนสเตอร์เลเวล 5 ได้อย่างปลอดภัย มันจึงทำให้เขาเพิ่มเลเวลขึ้นไปสู่ 10 อันดับแรกของตารางจัดอันดับได้สำเร็จ

ลู่หยางถือเชือกวิ่งผ่านเขตของมอนสเตอร์เลเวล 2 ไปอย่างระมัดระวัง และเมื่อเขาได้ไปถึงเชิงเขา ชายหนุ่มก็โยนเชือกไปผูกกับหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผา

เมื่อลู่หยางปีนขึ้นไปจนถึงยอดเขาแล้ว เขาก็ได้พบกับพื้นที่ราบรูปตัวยูที่มีวัวป่าเลเวล 5 อยู่เต็มไปหมด

วัวป่าเป็นมอนสเตอร์ที่มีพลังโจมตีทางกายภาพที่สูงมาก และพวกมันก็สามารถสังหารผู้เล่นได้ในทันที ทำให้โดยปกติแล้วไม่มีใครอยากจะมาต่อสู้กับพวกมัน เว้นแต่ว่าจะมีนักรบที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทงค์อยู่ภายในทีม

วัวป่ามีพฤติกรรมชอบอยู่เป็นฝูง กลุ่มละประมาณ 3-5 ตัว เมื่อพวกมันเจอศัตรูพวกมันก็จะวิ่งเข้าไปชนศัตรูพร้อม ๆ กัน นักเวทที่ถูกมันโจมตีสามารถตายได้ในการโจมตีครั้งเดียว แต่ด้วยประโยชน์จากบัคที่เขาปีนขึ้นมาบนหน้าผา มันจึงทำให้เขาสามารถเผชิญหน้ากับพวกวัวป่าได้โดยไม่มีอันตราย

แน่นอนว่าอัตราการสังหารมอนสเตอร์เลเวลสูงย่อมช้ากว่าการสังหารมอนสเตอร์เลเวล 1 แต่การต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่าตัวเองก็จะทำให้ผู้เล่นได้รับโบนัสค่าประสบการณ์ด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นการเก็บเลเวลโดยไม่มีใครมาแย่งมันย่อมเร็วกว่าการเก็บเลเวลที่ต้องไปแย่งมอนสเตอร์กับผู้เล่นคนอื่น ๆ มาก

ลู่หยางเล็งไปที่วัวป่าตัวหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเริ่มร่ายเวทไฟร์บอล

ไฟร์บอล 

ประเภท เวทมนตร์ธาตุไฟ

มานาที่ต้องใช้ 12 

เวลาร่าย 3 วินาที

ระยะ 30 เมตร

รายละเอียด ยิงลูกไฟไปยังเป้าหมายเพื่อสร้างความเสียหายธาตุไฟ 14-22 หน่วย

ในเกมนี้ค่าสติปัญญา 1 หน่วยมีค่าเท่ากับพลังโจมตีเวท 1 หน่วย ลู่หยางมีค่าสติปัญญาจากตัวละคร 10 หน่วยจากหัวใจแห่งเทพอสูร 10 หน่วยและจากปลาไหลทอดกรอบ 5 หน่วย เท่ากับเขามีพลังโจมตีเวท 25 หน่วย ดังนั้นการสร้างความเสียหายด้วยไฟร์บอล 1 ครั้งจะสร้างความเสียหายได้ประมาณ 39-47 หน่วย

ในที่สุดลูกไฟก็ก่อตัวภายในมือของลู่หยาง ก่อนที่มันจะยิงไปยังวัวป่าที่ใกล้ที่สุดและทำให้มันสูญเสียพลังชีวิตไป 42 หน่วย

วัวป่าที่กำลังเล็มหญ้าส่งเสียงกรีดร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด จากนั้นมันก็หันหน้าไปมองลู่หยางด้วยความโกรธ ขณะที่วัวป่าตัวอื่นก็มองไปยังชายหนุ่มอย่างไม่พอใจด้วยเช่นกัน ต่อมาวัวป่ากว่า 7 ตัวก็ได้พุ่งเข้าไปหาลู่หยางอย่างพร้อมเพรียงกัน

หากผู้เล่นอยู่ในที่ราบการพยายามหลบหลีกฝูงวัวคลั่งเป็นอะไรที่ยากมาก แต่สำหรับลู่หยางแล้วเขาไม่จำเป็นจะต้องกังวลเกี่ยวกับความบ้าคลั่งของวัวพวกนี้เลย

เสียงกระแทกดังกึกก้องเมื่อวัวป่าได้ชนเข้ากับหน้าผาเข้าอย่างจัง และเนื่องจากพวกมันเป็นมอนสเตอร์ที่มีสติปัญญาต่ำ หลังจากที่ได้เห็นว่าตัวเองไม่สามารถพุ่งชนลู่หยางได้ พวกมันจึงเดินไปมาในบริเวณนั้นด้วยความโกรธ

วัวป่าเลเวล 5 มีพลังชีวิตอยู่ที่ 580 หน่วย เมื่อลู่หยางได้ปาไฟร์บอลออกไป 15 ครั้ง ในที่สุดวัวตัวหนึ่งก็ได้เสียชีวิตอยู่ในหุบเขา

ระบบ: คุณสังหารวัวป่าได้สำเร็จได้รับค่าประสบการณ์ 75 หน่วย(โบนัสค่าประสบการณ์ 25 หน่วยจากการต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่มีระดับสูงกว่า)

การเพิ่มเลเวลจากเลเวล 0 เป็นเลเวล 1 จำเป็นจะต้องใช้ค่าประสบการณ์ 5,000 หน่วย ลู่หยางคำนวณแล้วว่าการสังหารวัวป่าตัวหนึ่งใช้เวลาประมาณ 45 วินาที เมื่อคำนวณรวมกับระยะเวลาสำหรับการฟื้นฟู เขาก็สมควรจะเพิ่มเลเวลได้ภายใน 2 ชั่วโมง ซึ่งมันก็เร็วกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่ต้องใช้เวลาเก็บเลเวลจากเลเวล 0 ไปเลเวล 1 มากกว่า 4 ชั่วโมง

ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงเวลานี้ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังคงแย่งชิงมอนสเตอร์หน้าหมู่บ้านเริ่มต้นอยู่เลย ขณะที่เขาสามารถเก็บเลเวลที่นี่คนเดียวได้อย่างปลอดภัย มันจึงเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ

—

ระหว่างที่ลู่หยางกำลังเก็บเลเวลอย่างรวดเร็วอยู่นั้น หลานอวี่ก็ได้พาเซี่ยหยู่เว่ยและสมาชิกของสตูดิโอหนานปิงไปยังใต้สะพานตรงตำแหน่งที่ลู่หยางบอก

“ที่นี่แหละ” หลานอวี่กล่าว

เซี่ยหยู่เว่ยโบกมือและสั่งการว่า “ใครก็ได้ 2 คนลงไปดูซิว่ามันมีปลาไหลอยู่จริง ๆ หรือเปล่า?”

สมาชิกภายในทีมพยักหน้า ก่อนที่จะมีผู้เล่น 2 คนอาสากระโดดลงไปในแม่น้ำ

ขณะเดียวกันเจิ้งหยวนที่กำลังยืนรออยู่อย่างเบื่อหน่ายก็ได้กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเหยียดหยามว่า

“ฉันพนันได้เลยว่ามันไม่มีปลาไหลอะไรนั่นหรอก ไอ้หมอนั่นมันจะต้องโกหกเราแน่ ๆ พวกเธอคอยดูนะ ครั้งหน้าถ้าฉันเจอมันอีกฉันจะสั่งสอนให้มันได้รู้ว่ามันกำลังเล่นอยู่กับใคร”

เซี่ยหยู่เว่ยและหลานอวี่ไม่ได้ให้ความสนใจเจิ้งหยวนเลย และในขณะที่คุณชายเจ้าสำราญกำลังพูดพร่ำอยู่นั้น สมาชิกภายในทีมคนหนึ่งก็โผล่หัวขึ้นมาและชูปลาไหลในมือด้วยความตื่นเต้น

“เจอแล้ว! ใต้น้ำมันมีปลาไหลอยู่จริง ๆ”

เบื่อคนอย่างเจิ้งหยวนจริง ๆ ปากดีไปวัน ๆ แต่ไม่ทำประโยชน์อะไรเลย เห้อ!!