ตอนที่ 881 1 ล้านเมตรต่อวินาที
ตอนที่ 881 1 ล้านเมตรต่อวินาที
ในระหว่างชายหนุ่มกำลังจะออกเดินทางอีกครั้ง จู่ ๆ เขาก็ได้เห็นชายชรา 2 คนกำลังเดินเข้ามาจากระยะไกล ซึ่งเมื่อมองจากเสื้อผ้ามันก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคือเจ้าหน้าที่ของโถงยุติธรรม
เซี่ยเฟยอยากจะหลบหนีไปในทันที เพราะท้ายที่สุดเขาก็เพิ่งสังหารนักรบไปสองคน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้ใช้เขตอาคมของเผ่ามาร ถ้าหากว่ามันจะต้องมีการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ของโถงยุติธรรมในตอนนี้ มันก็คงจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากแน่ ๆ
อย่างไรก็ตามจู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนใจเลือกที่จะอยู่นิ่ง ๆ เพื่อรอชายชราทั้งสองคนเดินเข้ามา
ฟุบ!
“นายเป็นใคร? แล้วที่นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ชายชราทั้งสองเคลื่อนที่เข้ามาจับชายหนุ่มเอาไว้อย่างฉับพลัน
“ผมชื่อหยิงเฟยเป็นนักวิจัยจากฟิกส์สตาร์อะคาเดมี่ ผมแค่บังเอิญเดินผ่านมาทางนี้เฉย ๆ” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างเสแสร้ง
พื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขาถูกปิดกั้นด้วยหยดน้ำจากชิ้นส่วนอาร์ค ทำให้ไม่มีใครสามารถตรวจสอบพลังที่แท้จริงของเขาได้ หากคนนอกมองเข้ามาตัวเขาก็ไม่ต่างไปจากคนธรรมดา ซึ่งมันก็ยิ่งช่วยให้ตัวตนในฐานะนักวิจัยดูมีความสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น
“นักวิจัยของฟิกส์สตาร์อะคาเดมี่งั้นเหรอ? ไหนเอาบัตรมาให้ดูหน่อยสิ” ชายชรากล่าวถามขณะรู้สึกตกใจอยู่เล็กน้อย
โดยปกตินักรบจะให้ความเคารพเฉพาะนักรบด้วยกัน แต่ในกรณีของนักวิจัยจากบริษัทฟิกส์ถือว่าเป็นข้อยกเว้นอย่างสิ้นเชิง เพราะบริษัทฟิกส์คือผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในจักรวาล และมันก็คงจะไม่มีใครอยากเป็นศัตรูกับบริษัทแห่งนี้อย่างแน่นอน
เซี่ยเฟยพยักหน้าช้า ๆ ก่อนที่เขาจะล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อเพื่อหยิบบัตรใบใหม่ขึ้นมาให้อีกฝ่ายทำการตรวจสอบ
นี่คือจุดประสงค์ที่เขายังคงยืนรออยู่ในปัจจุบัน เพราะไม่ว่าสรรพคุณของเครื่องปลอมแปลงบัตรจะดีแค่ไหน แต่เขาก็จำเป็นจะต้องทำการตรวจสอบว่ามันสามารถใช้การได้จริง ๆ
ไม่ว่ายังไงพื้นที่บริเวณนี้ก็เป็นที่โล่ง ดังนั้นถ้าหากชายชราทั้งสองสังเกตเห็นความผิดปกติจริง ๆ เขาก็สามารถใช้ความเร็วสูงหลบหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ แต่ถ้าหากว่าความผิดปกติถูกตรวจพบบริเวณทางเข้าบริษัทฟิกส์ ในตอนนั้นเขาก็คงจะต้องเผชิญกับอันตรายมากยิ่งกว่า
“เขามาจากวิทยาลัยฟิกส์สตาร์อะคาเดมี่จริง ๆ” ชายชราทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความตกใจ
ว่ากันว่าวิทยาลัยแห่งนี้เป็นสถานที่ส่งออกผู้เชี่ยวชาญระดับสูงไปยังบริษัทฟิกส์ ดังนั้นเมื่อชายชราทั้งสองได้ยินชื่อนี้มันยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกตกใจราวกับเจอคนดัง
เซี่ยเฟยแอบถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ เพราะถึงแม้ชายชราทั้งสองจะใช้เครื่องตรวจสอบตรวจบัตรของเขาแล้ว แต่มันก็ไม่มีสัญญาณผิดปกติใด ๆ ออกมา ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าบัตรปลอมของเขาสามารถนำมาใช้งานได้จริง
“ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ไม่อยู่ที่บริษัท แล้วภูเขาห้ายอดมันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?” ชายชราเริ่มถามขึ้นมาด้วยความเคารพมากขึ้นกว่าเดิม
“ผมบังเอิญเดินผ่านมาและได้ยินเสียงการต่อสู้ ผมจึงรีบมาแอบดูก่อนที่จะเห็นภูเขาทั้งลูกถูกทำลาย โชคร้ายที่รถผมถูกระเบิดไปด้วยแต่มันก็โชคดีที่ผมหนีรอดมาได้” เซี่ยเฟยกล่าว
ชายชราทั้งสองไม่ได้คิดว่าเซี่ยเฟยหลอกลวงพวกเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเด็กที่ต้องเรียนรู้อยู่ในวิทยาลัยเป็นเวลานานกว่า 13 ปีย่อมอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวของโลกภายนอกเป็นเรื่องปกติ
“แล้วคนที่สู้กันไปไหนแล้ว?” ชายชราถาม
“ผมเห็นพวกเขาวิ่งไปทางโน้น แต่พวกเขาวิ่งเร็วมากผมมองตามพวกเขาไม่ทัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปทางทิศตะวันออก
“ฉันว่ามันน่าจะเป็นการต่อสู้ระหว่างราชันย์ พวกเราควรจะตามพวกมันไปดีหรือเปล่า?” ชายชราคนหนึ่งกระซิบขึ้นมาเบา ๆ
“เราจะตามพวกมันไปทำไม? ตอนนี้ทุกอย่างวุ่นวายไปหมดแล้ว พวกเราแค่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นแล้วกลับกันเถอะ” ชายชราอีกคนกระซิบตอบ
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะพวกเขากลัวเซี่ยเฟยจะดูถูกหลังจากที่ได้ยินประโยคพวกนี้ แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นชายหนุ่มยังคงมองตรงมาไร้เดียงสา พวกเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
แน่นอนว่าชายชราทั้งสองคนไม่มีทางรู้เลยว่าชายหนุ่มที่ทำตัวเป็นเด็กไร้เดียงสา แท้ที่จริงแล้วคือนักรบผู้ที่เพิ่งสังหารราชันย์กฎไปถึงสองคน
—
เมื่อได้รับตัวตนใหม่เซี่ยเฟยก็เร่งความเร็วในการเดินทางเพื่อพยายามเดินทางไปยังบริษัทฟิกส์โดยเร็วที่สุด
ตอนนี้เขาไม่จำเป็นจะต้องกังวลกับการถูกนักฆ่าไล่ล่าอีกต่อไปแล้ว มันจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการฝึกฝน และการฝึกฝนที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้นั้นก็คือการฝึกฝนกฎแห่งความเร็วของสกายวิง เพราะมันสามารถฝึกฝนในระหว่างที่เขาออกวิ่งไปด้านหน้าได้
ช่วงเย็นของวันถัดมาเซี่ยเฟยก็เดินทางมาถึงเขต 11 และกำลังจะเข้าสู่พื้นที่เขต 10 ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นบนของเผ่าเทพ
พื้นที่เขต 11 เป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่เหมาะสมสำหรับการฝึกฝนกฎแห่งความเร็วมาก ระหว่างการเดินทางชายหนุ่มก็ยังคงถักทออักขระภายในสมอง และความเร็วของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปตามอักขระกฎภายในสมองของเขาด้วยเช่นกัน
กฎแห่งความเร็วไม่เพียงแต่จะทำให้เขาออกวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงเท่านั้น แต่พลังของกฎยังทำให้เขาก้าวเท้ายึดติดอยู่กับพื้นอีกด้วย ที่สำคัญกว่านั้นคือมันจะก่อให้เกิดพลังที่ป้องกันไม่ให้ร่างกายถูกฉีกกระชากแยกออกจากกัน เนื่องจากแรงต้านอากาศที่เกิดขึ้นในระหว่างการออกวิ่ง
วิธีการฝึกด้วยการเปลี่ยนแปลงความเร็วตามอักขระกฎเป็นสิ่งที่เซี่ยเฟยเพิ่งจะได้ข้อสรุปในวันนี้ ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้พบกับช่วงถักทออันซับซ้อน เขาก็จะค่อย ๆ ลดความเร็วของตัวเองลง และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาสามารถถักทออักขระกฎได้อย่างลื่นไหล ในเวลานั้นเขาก็จะเร่งความเร็วของตัวเองขึ้น
ในที่สุดตอนนี้เขาก็ได้เผชิญหน้ากับอุปสรรคครั้งสำคัญแล้ว และมันก็เป็นตัวบ่งชี้ว่าเขาจะสามารถบรรลุพลังกฎแห่งความเร็วขั้นที่ 3 ไปได้หรือไม่
กฎแห่งความเร็วถือว่าเป็นหนึ่งในกฎที่ฝึกได้ยากที่สุดในบรรดากฎทั้งหมด ว่ากันว่าทั่วทั้งจักรวาลมีผู้ที่สามารถฝึกฝนกฎแห่งความเร็วได้จนถึงขั้นที่ 9 อยู่เพียงแค่ไม่เกิน 5 คนเท่านั้น
แน่นอนว่าหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญความเร็วสูงนั้นย่อมมีเซี่ยกู่เฉิงบรรพบุรุษของสกายวิงรวมอยู่ด้วย เพราะชายชราผู้นี้คือผู้ที่สามารถฝึกพลังพิเศษได้จนถึงขีดสูงสุด และฝึกกฎแห่งความเร็วได้จนถึงขีดสุด จนทำให้เขากลายเป็นผู้ที่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วมากที่สุดในจักรวาล
ขณะเดียวกันถึงแม้เขาจะถูกยกย่องว่าเป็นอีวิลวิงของตระกูล แต่การเป็นนักรบที่มีศักยภาพสูงสุดย่อมจะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคที่ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน อุปสรรคที่เขาเจอในระหว่างการฝึกกฎแห่งความเร็วขั้นที่ 3 นั้นจึงอาจเทียบได้กับกฎแห่งความเร็วขั้นที่ 4 หรือขั้นที่ 5 ของนักรบสกายวิงคนอื่น ๆ
ถึงแม้ว่าการเรียนรู้กฎแห่งความเร็วจะยากลำบาก แต่อย่างน้อยเขาก็เคยฝึกกฎแห่งความโกลาหลที่มีความยากลำบากไม่แตกต่างกัน
ดวงจันทร์ค่อย ๆ ลอยขึ้นมาบนฟากฟ้า ขณะที่ท้องฟ้าก็ค่อย ๆ มืดลงอย่างต่อเนื่อง ระหว่างนั้นเซี่ยเฟยยังคงออกวิ่งไม่มีหยุด ท้ายที่สุดพื้นที่ชั้นสูงของเผ่าเทพก็มีความเข้มงวดกว่าพื้นที่ชั้นล่างอย่างที่นี่มาก เมื่อเขาก้าวเท้าไปข้างในแล้วเขาย่อมไม่สามารถทำการฝึกฝนแบบนี้ได้ เขาจึงพยายามฝึกกฎแห่งความเร็วขั้นที่ 3 ให้สำเร็จก่อนที่จะเข้าสู่พื้นที่ชั้นบนของเผ่าเทพ
ในเวลาเดียวกันชายชราทั้งสองจากตระกูลสกายวิงก็เดินทางมายังพื้นที่บริเวณนี้อย่างเงียบ ๆ ก่อนที่พวกเขาจะจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยที่กำลังฝึกฝนในระยะไกล
“คืนนี้เขาก็น่าจะก้าวข้ามความเร็วระดับ 1 ล้านเมตรต่อวินาทีไปได้แล้ว” เซี่ยเค่อกล่าวอย่างตื่นเต้น
“นายจะด่วนสรุปมากเกินไปแล้ว บางคนติดอยู่กับอุปสรรคขั้นสุดท้ายไปเป็นเวลานานกว่า 100 ปีเลยด้วยซ้ำ เขาจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคนี้ไปได้หรือไม่มันขึ้นอยู่กับตัวของเขาเอง เรื่องนี้พวกเราไม่สามารถหยิบยื่นความช่วยเหลือไปให้กับเขาได้จริง ๆ” เซี่ยเหลียนหนิงกล่าว
“ฉันหวังว่าเขาจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ก่อนที่ข่าวอาวุธมายาชิ้นที่ 4 จะมาถึงนะ” เซี่ยเค่อกล่าว
เซี่ยกวงไห่ร้องขอกำลังเสริมมาที่ตระกูลแล้ว ทางสกายวิงจึงได้ทำการส่งราชันย์กฎไปช่วยทีมค้นหาอีกเป็นจำนวนถึง 5 คน
น่าเสียดายที่มัดดี้มีขนาดใหญ่มากเกินไปและโครงสร้างในพื้นที่ก็มีความวุ่นวายมาก การพยายามค้นหาอาวุธมายาในพื้นที่วุ่นวายแบบนี้จึงไม่ต่างไปจากการพยายามงมเข็มในมหาสมุทร ดังนั้นถึงแม้กำลังเสริมจะออกเดินทางไป 4 วันแล้วแต่มันก็ยังไม่มีข่าวคราวใด ๆ อัปเดตเพิ่มเติม
เซี่ยเหลียนหนิงกับเซี่ยเค่อรออยู่ที่คฤหาสน์อย่างกังวลจนทำให้พวกเขานอนไม่หลับ ทั้งคู่จึงตัดสินใจออกเดินทางมาสังเกตเซี่ยเฟยอีกครั้ง ก่อนที่จะได้พบว่าชายหนุ่มใกล้ที่จะทำลายความเร็วในระดับ 1 ล้านเมตรต่อวินาทีแล้ว
—
กฎแห่งความเร็วไม่เพียงแต่จะฝึกฝนอย่างยากลำบากเท่านั้น แต่มันยังจำเป็นจะต้องใช้พลังงานปริมาณมหาศาลอีกด้วย เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องใช้แหวนมังกรหยกขาวทำการกลั่นพลังงานจากคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 6 เพื่อฟื้นฟูพลังงานให้กับตัวเองอย่างต่อเนื่อง
กรณีของเม็ดพลังงานหลากสีภายในสมองของเขา ชายหนุ่มก็ตัดสินใจว่าจะไม่ใช้พลังงานพวกนั้นเว้นแต่ว่าเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นจริง ๆ
พลังงานภายในสมองมีความสำคัญมากโดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาทำการระเบิดพลังงานทั้งหมดออกมา ในเวลานั้นมันก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ให้กับเขาอย่างฉับพลัน
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาก็ใกล้ที่จะบรรลุผ่านอุปสรรคไปได้เต็มทีแล้ว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจปล่อยพลังงานภายในสมองออกมาเพื่อพยายามจะทะลวงผ่านอุปสรรคทั้งหมดไปให้ได้ในคราวเดียว
‘ฉันจะต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้!’ เซี่ยเฟยกัดฟันตะโกนภายในใจ
ขณะนี้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงอดทนพยายามควบแน่นอักขระกฎอย่างต่อเนื่อง
“ทนต่อไป!” เซี่ยเฟยตะโกนปลุกขวัญกำลังใจขณะที่ออกวิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 500,000 เมตรต่อวินาที
ตูม!
ในที่สุดชายหนุ่มก็สามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคไปได้สำเร็จ ทำให้ความเร็วของเขาในตอนนี้ไม่ใช่ 500,000 เมตรต่อวินาทีอีกต่อไปแล้ว แต่มันเพิ่มสูงขึ้นมาเกินกว่า 1 ล้านเมตรต่อวินาที
ร่างกายของเขาค่อย ๆ ผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่เขาจะพยายามปรับตัวเข้ากับความเร็วสูงสุดที่เพิ่มขึ้นมาใหม่
ทุกครั้งที่มีการเลื่อนระดับความเร็วของเขาจะเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 2 เท่า ซึ่งความรู้สึกในวินาทีที่ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันนี้คือวินาทีที่ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงอิสระมากที่สุด
วันที่ 2 ในเผ่าเทพเขาได้พัฒนากลายเป็นจักรพรรดิขั้นที่ 2
วันที่ 4 ในเผ่าเทพเขาก็สามารถพัฒนากฎแห่งความเร็วขึ้นมาเป็นขั้นที่ 3 และทำให้ความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 500,000 เมตรต่อวินาทีกลายเป็น 1 ล้านเมตรต่อวินาที
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 369
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น