บทที่ 632: ให้กำเนิดลูกครั้งที่ 2 (ตอนจบ)

-A A +A

บทที่ 632: ให้กำเนิดลูกครั้งที่ 2 (ตอนจบ)

หลังจากผ่านค่ำคืนที่เร่าร้อน หูเจียวเจียวก็รู้สึกว่าภาพเบื้องหน้าของเธอสว่างขึ้น

 

หากไม่มีอะไรผิดไปจากที่คาด เธอคงจะออกจากร่างนี้อีกครั้ง

 

ระหว่างนั้นจิ้งจอกสาวมองดูดวงหน้าของหลงโม่ด้วยสายตารักใคร่ซึ่งเต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แล้วในพริบตาภาพตรงหน้าเธอก็เปลี่ยนไป 

 

แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้อยู่ในเผ่า   

 

ทัศนียภาพที่เข้ามาในสายตาของหญิงสาวกลายเป็นป่าที่ดูแปลกตา

 

ปัจจุบันความรู้สึกเบาหวิวในร่างกายของเธอก็ยังคงอยู่ ไม่นานเธอก็รู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้กลับมาเป็นปกติ

 

“เจ้ามาแล้ว” เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังเธอ

 

นั่นทำให้หูเจียวเจียวตกใจรีบหันกลับไปมองทางต้นเสียง 

 

“เจ้าเป็นใคร?” จิ้งจอกสาวมองดู ‘ร่าง’ ที่ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังตนแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

 

ร่างนั้นเป็นเพียงหมอกสีดำจาง ๆ ที่ลอยไปลอยมาในรูปร่างของคน ยิ่งหญิงสาวมองมันนานเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งมีความรู้สึกแปลก ๆ มากขึ้นเท่านั้น

 

ทันทีที่เธอพูดจบ ชายคนนั้นก็ดูเหมือนจะได้ยินเสียงในหัวของเธอ วินาทีถัดมา หมอกสีดำก็สลายไปกลายเป็นใบหน้าที่งดงามโดดเด่น

 

“ข้าเป็นคนพาเจ้ามาที่นี่ อืม… เจ้ามนุษย์” เสียงอันไพเราะของคนตรงหน้าชะงักไปชั่วครู่ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนที่เขาจะเอ่ยเผ่าพันธุ์ของหญิงสาว

 

หูเจียวเจียวขมวดคิ้วมุ่น แต่เธอก็ยังไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไป 

 

“ที่นี่ที่ไหน?” เธอถามขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ต่อจากนี้ไปเจ้าจะต้องอยู่ที่นี่”

 

“...” 

 

ใครสั่งใครสอนให้เจ้าพูดกับคนที่เพิ่งเคยพบหน้าแบบนี้?

 

เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไป เขาก็หัวเราะเบา ๆ และหยุดแกล้งผู้หญิงตรงหน้าทันที

 

“ข้าคือราชาของเหล่าจิงหลิง และนี่คือป่าวิญญาณ”

 

พอจิ้งจอกสาวได้ยินคำตอบจากปากของเขา เธอก็รีบถอยหลังหนีจากชายรูปงามในทันใด

 

ราชาจิงหลิง นั่นไม่ใช่ราชาผีหรอกเรอะ?

 

“นะ-นี่ นี่! เจ้าพาข้ามาที่นี่ได้ยังไง เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเจ้างั้นหรือ?”

 

หูเจียวเจียวมองราชาจิงหลิงด้วยสีหน้าหวาดกลัว

 

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอจะคิดว่าเขางดงามเกินกว่าจะเป็นมนุษย์

 

ที่แท้เขาไม่ใช่ ‘คน’ จริง ๆ นี่เอง!

 

“ทั้งใช่… และไม่ใช่” ชายหนุ่มยังคงยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี ซึ่งรอยยิ้มนั้นทำให้ใบหน้าหล่อเหลาเกินมนุษย์มนาของเขายิ่งส่งผลให้เจ้าตัวมีเสน่ห์มากขึ้น หากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกหล้าได้เห็น พวกเขาอาจจะรู้สึกหลงใหลในตัวเขาได้เลยทีเดียว

 

แต่สำหรับสำหรับหูเจียวเจียวที่มีภูมิคุ้มกันจากการที่ได้เห็นหนุ่มหล่อมากมายในโลกก่อน มันจึงทำให้เธอไม่รู้สึกสะทกสะท้านใด ๆ

 

“วิญญาณสามารถไปได้ทุกที่ ทุกเวลา วิญญาณของเจ้าจะออกจากร่างไปที่ไหนมันก็ถูกกำหนดไว้แล้ว” 

 

“ข้าเพิ่งพาเจ้ามาที่นี่ ก่อนหน้านี้ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเดินทางไปที่ไหนมาบ้าง”

 

จิ้งจอกสาวยืนตะลึงงันพร้อมกับเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น

 

นี่หมายความว่าเธอถูกกำหนดให้เป็นคู่ของหลงโม่มาตั้งแต่แรกใช่ไหม?

 

พอหญิงสาวมาคิดดูให้ดี ๆ อีกครั้ง หากไม่ใช่เพราะว่าเธอถูกกำหนดโชคชะตาไว้แล้ว เธอจะเดินทางข้ามมิติเวลามายังโลกภูตเช่นนี้ได้อย่างไร?

 

ต่อมา หูเจียวเจียวมองไปที่ราชาจิงหลิงอีกครั้ง จากนั้นจึงขมวดคิ้วถามว่า “แล้วเจ้าพาข้ามาที่นี่ทำไมล่ะ?”

 

หรือว่าเขาอยากจะกินวิญญาณของเธอ?

 

หญิงสาวได้ยินพวกภูตในเผ่าพูดกันตลอดว่าจิงหลิงชอบกินวิญญาณ

 

“เจ้าเป็นคนที่น่าสนใจมาก เจ้าไม่ใช่คนในโลกนี้ ข้าอยากจะให้เจ้ามาอยู่ที่นี่กับข้า” ผู้เป็นราชาไม่ได้คิดที่จะปิดบังเจตนารมณ์ของเขาไว้สักนิด

 

ทันทีที่จิ้งจอกสาวได้ยินคำตอบ คิ้วเรียวสวยก็ขมวดแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

“ข้าไม่อยู่!!” เธอปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด

 

ทว่าราชาจิงหลิงเหยียดยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะโดยไม่ได้ใส่ใจอารมณ์ของอีกฝ่าย “เจ้าไม่มีสิทธิ์เลือก เจ้าจะต้องอยู่ที่นี่เท่านั้น” 

 

เขาไม่ได้สนใจว่านางต้องการอะไรหรือไม่ และเขาก็ไม่สนใจว่านางจะเต็มใจหรือไม่ด้วย

 

ทางด้านหูเจียวเจียวกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ 

 

ไอ้บ้านี่!

 

มันคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?

 

ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ทุกคนก็จะต้องทำตามอย่างนั้นหรือ? เธอเองก็มีความคิดเป็นของตัวเอง ดังนั้นเธอควรจะมีสิทธิ์เลือก!

 

จิ้งจอกสาวไม่อยากเสียเวลาเสวนากับคนพรรค์นี้อีก เธอจึงหันหลังเลือกทิศทางหนึ่งก่อนจะเดินออกไปทันที

 

ในเมื่อตอนนี้เธอกลายเป็นวิญญาณแล้ว เธอจะไม่รู้สึกเจ็บหรือเหนื่อยอะไร เธอจึงไม่เชื่อว่าตัวเองจะกลับไปยังที่ที่จากมาไม่ได้อีก

 

ขณะเดียวกัน ราชาจิงหลิงยกนิ้วชี้ขึ้น

 

ก่อนที่จิ้งจอกสาวจะทันได้ก้าวขาออกไปเกิน 2 ก้าว ร่างโปร่งแสงของเธอก็ลอยขึ้นแล้วพุ่งกลับไปหาชายหนุ่ม 

 

“เอาล่ะ ข้าจะพูดกับเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายว่าเจ้าจะต้องอยู่กับข้าที่นี่!”

 

ยามนี้ราชาจิงหลิงทำตัวเป็นเหมือนเด็กไร้เหตุผลคนหนึ่ง

 

“!!?” หญิงสาวตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

 

เมื่อกี้มันอะไรกัน! เขาทำแบบนั้นกับเธอได้ด้วยหรือ!?

 

“ข้ามีคู่และลูก ๆ รอให้ข้ากลับไป ถ้าข้าอยู่ที่นี่กับเจ้า แล้วพวกเขาจะทำยังไงล่ะ?” หูเจียวเจียวพูดพร้อมกับจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง

 

“นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลย” ผู้ชายหนุ่มตอบแบบไม่แยแส 

 

“...”

 

หญิงสาวรู้สึกโมโหกับคำพูดของชายตรงหน้าจนเส้นเลือดตรงขมับเต้นตุบ ๆ

 

นี่ไม่ใช่ราชาจิงหลิงแล้ว นี่มันไอ้เด็กเปรตต่างหาก!

 

ในระหว่างที่จิ้งจอกสาวกำลังเป็นกังวลอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีแสงสีทองโผล่ออกมาจากหน้าผากของเธอ

 

แล้วแสงที่ว่านั้นก็โจมตีเข้าใส่ราชาจิงหลิงโดยตรง

 

ขณะเดียวกัน สีหน้าของชายหนุ่มรูปงามเปลี่ยนไป และเขาก็ถูกบางอย่างกระแทกออกไปก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนอง

 

ทางด้านหูเจียวเจียวตกตะลึง ในไม่ช้าเสียงสดใสของเหยียนหุนก็ดังก้องอยู่ในหูของเธอ

 

“เจ้าเป็นราชาจิงหลิงแบบไหนกัน เจ้ามันก็แค่ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่ชอบขโมยคู่ของคนอื่นมาเป็นของตัวเองเท่านั้นแหละ ไอ้เด็กเวร คิดว่าเจ้าจะได้ครอบครองตัวนางงั้นรึ ฝันไปเถอะ!”

 

คำด่าทอของเจ้าก้อนหินอ้วนทำให้สีหน้าของชายหนุ่มมืดครึ้ม ต่อมา เขาปล่อยหมอกสีดำออกมาจากร่างกายของตัวเอง ก่อนที่หมอกนั้นจะทันได้สัมผัสตัวจิ้งจอกสาว แสงสีทองก็เข้ามาคลุมทั่วทั้งร่างของเธอและพาหายเข้าไปในป่าวิญญาณ

 

“บัดซบ!” ที่แท้มันก็คือเหยียนหุน ศัตรูตัวฉกาจของจิงหลิงอย่างพวกเขานี่เอง!

 

พอราชาจิงหลิงสัมผัสได้ว่ากลิ่นอายของหูเจียวเจียวจางหายไปจนหมด ใบหน้าของเขาก็ยิ่งบิดเบี้ยวดูน่าเกลียด และเส้นผมบนฝ่ามือเขาก็กลายเป็นขี้เถ้า

 

ในเมื่อไม่มีสิ่งของที่เป็นดั่งตัวแทนของหูเจียวเจียวแล้ว นั่นหมายความว่าเขาจะไม่สามารถนำตัวนางมาที่นี่ได้อีกต่อไป

 

...

 

ณ ห้องในบ้านของตระกูลหลง

 

ปัจจุบันหลงโม่จ้องไปยังคนที่นอนหมดสติบนเตียงโดยไม่กล้าที่จะผ่อนคลายแม้เพียงครู่หนึ่ง

 

หลังจากนั้นไม่นาน แสงสีทองก็โผล่ออกมาจากหน้าผากของหูเจียวเจียว

 

“โอ๊ย บิดาเหนื่อยมาก...”

 

เหยียนหุนกลิ้งตัวไปในอากาศหลายครั้งก่อนที่จะลุกขึ้นมา

 

ส่วนจิ้งจอกสาวเองก็เปิดเปลือกตาขึ้นในเวลาเดียวกัน

 

ภาพนั้นทำให้ลมหายใจของมังกรหนุ่มหยุดนิ่งก่อนที่เขาจะตะโกนเสียงต่ำ “เจียวเจียว!”

 

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นสีหน้าวิตกกังวลของสามีหนุ่ม สติของเธอก็กระจ่างชัด เธอรู้สึกเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ตนติดอยู่ในฝันร้าย พลันดวงตาคู่สวยก็พร่ามัวเพราะน้ำตาที่คลอหน่วย

 

หญิงสาวคิดว่าตนเองจะไม่ได้กลับมาอยู่เคียงข้างหลงโม่และลูก ๆ อีกแล้ว

 

“ข้าหมดสติไปนานแค่ไหนแล้ว?” 

 

“เจ้าหมดสติไป 2 วันกับอีก 1 คืน” ดวงตาของมังกรหนุ่มแดงก่ำ เขาที่แทบจะนับเวลาที่ภรรยาสาวหมดสติไปแบบวินาทีต่อวินาทีตอบออกมาโดยไม่ต้องคิด

 

หูเจียวเจียวได้ยินเช่นนั้นก็ทำการคำนวณและพบว่ามันตรงกับเวลาที่เธอหายไปในสถานที่อื่น ๆ ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่ตัวเองหมดสติไปเธอได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตจริง ๆ

 

“ข้าทำให้เจ้าต้องเป็นห่วงอีกแล้ว” จิ้งจอกสาวยกมือขึ้นแตะหนวดที่อยู่รอบคางของสามีหนุ่ม

 

“อันที่จริงข้า…” เธอนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จึงเปิดปากอยากจะอธิบายบางอย่างให้เขาฟัง

 

แต่หลงโม่คว้าจับมือของเธอเอาไว้แล้วพูดขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน

 

เขาแค่ถามว่า “เจ้าจะไม่หายไปไหนอีกใช่ไหม?”

 

ชายหนุ่มรู้สึกทนไม่ได้ที่จะต้องอยู่ต่อไปโดยไม่มีจิ้งจอกสาวอยู่ข้างกายแม้เพียงนาทีเดียว

 

หูเจียวเจียวชะงักค้างไปก่อนจะส่ายหัวตอบ “ไม่ ข้าจะไม่มีวันทิ้งเจ้าไปไหนอีก”

 

หลงโม่ขมวดคิ้วพลางลูบแก้มของหญิงสาวเงียบ ๆ

 

ดีจริง ๆ!

 

แค่เจ้าให้คำมั่นสัญญา ข้าก็รู้สึกพอใจแล้ว

 

ทั้ง 2 คนแลกเปลี่ยนความอบอุ่นกันอยู่แบบนั้นสักพัก ไม่นานหลงโม่ก็ไปบอกหูหมินและลูก ๆ ว่าหูเจียวเจียวตื่นแล้ว

 

และตามคำขอของเหยียนหุน พวกเธอไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้กับใคร ทุกคนรู้เพียงว่าหญิงสาวเพียงแค่หมดสติไปเพราะผลข้างเคียงจากการตั้งครรภ์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก ดังนั้นทุกคนจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

...

 

5 วันต่อมา

 

ในที่สุดท้องของหูเจียวเจียวก็เริ่มมีปฏิกิริยาบางอย่าง

 

บางทีอาจเป็นเพราะเคยตั้งครรภ์มาก่อนแล้ว จิ้งจอกสาวจึงคลอดลูกครั้งที่ 2 ได้ราบรื่นมาก เธอให้กำเนิดเด็กออกมาโดยแทบไม่ต้องทรมานนานเลย

 

อย่างไรก็ตาม หญิงสาวที่เพิ่งคลอดบุตรยังคงมีเหงื่อโทรมกาย

 

เธอมองหลงโม่ที่ยืนอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า “หลงโม่ ลูกอยู่ไหน ข้าอยากเห็นหน้าลูก”

 

ทำไมเธอไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กเลยล่ะ?

 

ขณะนั้นมังกรหนุ่มมองภรรยาสาวด้วยสีหน้าทุกข์ใจ “เจ้าไม่ต้องกังวล ไข่ทั้งหมดยังแข็งแรงดี”

 

“ดีแล้ว” หูเจียวเจียวถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่แล้วจู่ ๆ เธอก็ยกศีรษะขึ้นมองหน้าสามีอีกครั้ง

 

ห้ะ!!!

 

ไข่!?

 

นี่เธอออกลูกเป็นไข่อย่างนั้นหรือ?

 

จิ้งจอกสาวมองไปทางด้านหลังร่างสูงซึ่งมีหูหมินกำลังวางไข่ไว้ในเปลที่ทำด้วยหนังสัตว์ที่อ่อนนุ่ม

 

ถ้าเธอนับดูให้ดี ๆ แล้ว ไข่มีอยู่ทั้งหมด 7 ฟอง!

 

วินาทีนั้นร่างของหูเจียวเจียวแข็งค้างกลายเป็นรูปปั้นทันที  เธอลืมไปได้อย่างไรว่ามังกรออกลูกเป็นไข่?

 

ใจจริงเธอยังอยากจะอุ้มลูกน้อยตัวนุ่มนิ่มหลังจากที่ตนเบ่งคลอดออกมาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่ดูเหมือนว่าความฝันดังกล่าวจะพังทลายลงแล้ว

 

และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ…

 

“ไข่… แล้วเราจะกกไข่ยังไง?” แน่นอนว่าเธอไม่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาก่อน!

 

“เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการฟักไข่หรอก ข้าจะเป็นคนทำมันเอง” หลงโม่มองไปที่หูเจียวเจียวด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วเขาก็อาสารับหน้าที่สำคัญในการกกไข่ไปทำเองโดยไม่ลังเลสักนิด

 

ห้ะ! แบบนี้ก็ได้เหรอ!?

 

จบบริบูรณ์

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: จบแล้วจ้าาาา… ซะเมื่อไหร่~~

ปล.ตอนพิเศษทั้ง 2 ตอนเจอกันพรุ่งนี้ตอนเที่ยงน้า ย้ำว่าอ่านฟรีนะจ๊ะ~

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.