บทที่ 631: ย้อนกลับไปในคืนนั้น
แก้มของเสี่ยวหลงโม่แดงเล็กน้อย เขาเหลือบมองเด็กหญิงที่เตี้ยกว่าตัวเขาเองก่อนจะเสมองไปทางอื่น
เจ้านั่นแหละที่ต้องกินให้มาก ๆ หน่อย จะได้สูงกับเขาบ้าง!
“เจ้ายังไม่ได้กินอะไรเลย” หลังจากนั้นไม่นาน เด็กชายก็หันกลับมามองนางอีกครั้งด้วยสีหน้าค่อนข้างรู้สึกผิด
“ข้าไม่หิว” หูเจียวเจียวตอบพลางตบท้องกลม ๆ ของตัวเองไปด้วย
เธอไม่รู้ว่าร่างกายนี้เป็นของใคร แต่เด็กคนนี้ถูกขุนจนอ้วนเลยทีเดียว
หากจะเรียกนางว่าเป็นซาลาเปาก้อนเล็ก ๆ ก็ย่อมได้
แต่เสี่ยวหลงโม่ก็ยังทำหน้าไม่เชื่อในคำพูดของเด็กผู้หญิงตัวเล็กอยู่ดี
“เจ้ารีบไปนอนซะ พรุ่งนี้ข้าจะไปหาอาหารมาให้เจ้ากิน” จิ้งจอกสาวพูดจบแล้วก็ปิดปากหาว เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับไปได้เมื่อไหร่ ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่พักผ่อนให้เพียงพอ
เวลาต่อมา หูเจียวเจียวเดินตรงไปที่ผนังถ้ำเย็นเฉียบพลางทำตาปรือ ก่อนจะเอนตัวพิงผนังและก็ผล็อยหลับไป
เสี่ยวหลงโม่เองก็รู้สึกง่วงมากเหมือนกัน แต่กลายเป็นว่าเขานอนไม่หลับเลยทั้งคืน
นั่นเป็นเพราะเขากลัวว่าในยามที่ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาจะพบว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นแค่ความฝัน
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงความฝัน แต่เขาก็อยากให้มันคงอยู่นานขึ้นอีกสักหน่อย แล้วหลังจากนั้นเขาค่อยใช้ชีวิตในโลกแห่งความจริงอันโหดร้ายต่อไป…
…
หูเจียวเจียวนอนหลับลึกมาก
พอเธอตื่นมาในวันรุ่งขึ้น เธอก็เห็นเสี่ยวหลงโม่กำลังเฝ้าดูอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่าง
จิ้งจอกสาวรู้สึกว่าแก้มของตัวเองเปียกชื้น เธอจึงยกมือขึ้นเช็ดมันแล้วก็พบว่าตนนอนน้ำลายไหลเปื้อนแก้มตัวเอง
“อะแฮ่ม… น่าอายชะมัด” เธอพึมพำพร้อมกับรีบเช็ดน้ำลายออกจากใบหน้า
จากนั้นหูเจียวเจียวก็เข้าไปตรวจสอบบาดแผลของเด็กชายที่หน้าตาเหมือนหลงโม่อีกครั้งเพื่อเป็นการหันเหความสนใจของเขาไปในตัว
โชคดีที่เธอช่วยทำแผลได้ทันเวลาทำให้บาดแผลของอีกคนไม่อักเสบ
“ช่วงนี้เจ้าอย่าให้แผลโดนน้ำนะ” หญิงสาวเอ่ยเตือน
ขณะนั้นเสี่ยวหลงโม่ยังคงนั่งจ้องหน้าเธอโดยไม่พูดอะไรเหมือนเดิม
ครู่ต่อมา หูเจียวเจียวก็ตั้งท่าจะไปหาอาหารกลับมาให้เด็กชายได้กิน แต่จู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอกก่อน
ทันใดนั้นสีหน้าของเสี่ยวหลงโม่ก็เปลี่ยนไปทันที เขารีบผุดลุกขึ้นตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ได้ทุกเมื่อ
จิ้งจอกสาวเองก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าหลงโม่ถูกรังแกมาตั้งแต่ยังเด็กและเขาไม่เป็นที่ต้อนรับในเผ่า นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาหลีกเลี่ยงไม่ไปสุงสิงกับคนอื่นมาโดยตลอด
“เจียวเจียว!”
“เจียวเจียว…”
แต่แล้วก็มีเสียงคุ้นเคยดังมาจากข้างนอกถ้ำ
วินาทีนั้นหูเจียวเจียวกะพริบตาปริบ ๆ พลางคิดกับตัวเองว่า
เป็นไปได้ไหมว่าฉันอยู่ในร่างของเจียวเจียวสมัยเด็กเหมือนกัน?
ถัดมา เธอหันไปบอกเด็กชายว่า “ข้าจะออกไปดูข้างนอกสักหน่อย เจ้ารออยู่ที่นี่ก่อนนะ พวกเขาคงไม่เข้ามาข้างในหรอก”
ทว่าเสี่ยวหลงโม่ดึงชายเสื้อของเด็กหญิงตรงหน้าเอาไว้ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก
“เอ่อคือ… เจ้าชื่อว่าอะไร?”
ฝ่ายที่ถูกรั้งหันกลับไปมองอีกคนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มสดใส
“ข้าชื่อหูเจียวเจียว เจ้าไม่ต้องกลัว ในอนาคตเราจะได้พบกันอีก”
เธอไม่สนว่าร่างนี้เป็นของใครกันแน่!
อย่างน้อยเธอก็ยังช่วยสามีในอนาคตของตัวเองได้ ดังนั้นเธอจึงไม่ยอมให้ใครมารับความดีความชอบนี้ไปแทนอย่างแน่นอน
จิ้งจอกสาวพูดจบแล้วก็วิ่งออกจากถ้ำไป ก่อนจะเห็นหูหมินกับหูเฉียงในวัยหนุ่มสาวกำลังตามหาตนแบบหน้าตาตื่น
เป็นไปได้ไหมว่าเทพอสูรได้มอบโอกาสให้เธอกลับไปตอนที่ยังเป็นเด็กอีกครั้ง?
ถ้าเช่นนั้นเธอก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงวัยเด็กที่มืดมนของหลงโม่ได้ใช่หรือไม่?
“ท่านพ่อ ท่านแม่!” หูเจียวเจียววิ่งไปอีกฟากหนึ่งของถ้ำพร้อมกับตะโกนเรียกทั้ง 2 คน
ในระหว่างที่เธอกำลังมีความสุขสุดขีด จู่ ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณถูกกระชากออกจากร่าง จากนั้นภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนไปทันที แล้วเธอก็กลับมาที่บ้านไม้อีกครั้ง
ตามด้วยกลิ่นฉุน ๆ ปนชื้นทิ่มเข้ามาในจมูกของหญิงสาว
สิ่งที่เกิดขึ้นแบบกะทันหันทำให้หูเจียวเจียวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง วินาทีต่อมาเธอก็ต้องเบิกตากว้าง
เบื้องหน้าของเธอคือใบหน้าหล่อเหลาที่ขยายใหญ่ขึ้นของหลงโม่ ในขณะที่ร่างของเธอถูกกดทับด้วยร่างหนา โดยที่เขากำลังใช้แขนทั้ง 2 ข้างคร่อมตัวเธอเอาไว้
ยามนี้เม็ดเหงื่อโต ๆ กำลังไหลลงมาจากหน้าผากของชายหนุ่ม พร้อมกับมีเส้นเลือดปูดขึ้นมาบนขมับอย่างชัดเจน
ท่าทางของมังกรหนุ่มตอนนี้ราวกับว่าเขาพยายามยับยั้งตัวเองเอาไว้
“หลงโม่...” หูเจียวเจียวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
นี่เธอย้อนเวลากลับมาอีกแล้วหรือ?
ไม่สิ! แต่บ้านไม้หลังนี้ไม่ใช่บ้านของเธอสักหน่อย
ทว่าบรรยากาศมันค่อนข้างเหมือนกับ... บ้านไม้ทรุดโทรมหลังเล็กที่ตนเคยอาศัยอยู่ตอนที่มาถึงโลกภูตเป็นครั้งแรก
“หู-เจียว-เจียว!”
ชายหนุ่มกัดฟันพร้อมกับชกไปที่ผนังข้างศีรษะของหญิงสาวเสียงดังจนทำให้มันกลายเป็นรู
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ได้ทำร้ายผู้หญิงตรงหน้าแม้แต่ปลายผม
ท่าทางเกรี้ยวกราดของหลงโม่ทำให้หูเจียวเจียวรู้สึกตกใจมาก เธอเห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายแดงก่ำและการแสดงออกของเขาก็ผิดไปจากปกติ
“หลงโม่ เจ้าเป็นอะไรไป?”
จิ้งจอกสาวถามพลางยกมือขึ้นแตะหน้าผากที่ร้อนผ่าวของมังกรหนุ่ม
ทว่าการกระทำของหญิงสาวทำให้สีหน้าของหลงโม่ขุ่นมัว
“ถ้าเจ้าไม่อยากตกลงปลงใจกับข้า เจ้าก็อย่าขยับอีก” ชายหนุ่มพูดข่มขู่เสียงแหบห้าว
หูเจียวเจียวตกตะลึง
เอ๊ะ! หรือว่าตอนนี้ฉันย้อนกลับมาในคืนที่หูเจียวเจียวคนเก่ากับหลงโม่ได้เสียกัน?
จากเส้นเรื่องเดิม หูเจียวเจียวถูกใครสักคนโยนเข้าไปในบ้านของหลงโม่ แต่จากที่หญิงสาวเคยอ่านนิยายมา เธอก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่ลงเอยกันได้อย่างไร
ตอนนี้ดูเหมือนว่ามังกรหนุ่มจะโดน... ยาปลุกอะไรสักอย่างมา
หากพิจารณาจากท่าทางของหลงโม่แล้ว เขาน่าจะยังคงควบคุมสติของตัวเองได้อยู่บ้าง แม้ว่าจะถูกวางยาแต่เขาก็ยังพยายามยับยั้งไม่ให้ตัวเองกระโจนเข้ามาขย้ำเธอ
จิ้งจอกสาวจำได้ว่าถ้าคนที่กินยาพิษชนิดนี้เข้าไปไม่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ออกมา คนคนนั้นจะต้องตาย
“เจ้าไม่ใช่นาง ออกไป!” ชายหนุ่มพยายามขัดขืนเต็มกำลัง ก่อนจะพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วหันหลังพูดกับหญิงสาวเสียงเย็น
สติที่ยังหลงเหลืออยู่บอกเขาว่าไม่ควรมีอะไรกับผู้หญิงคนนี้
หูเจียวเจียวที่ได้ยินคนรักพูดแบบนั้นก็รู้สึกใจหาย
เห็นได้ชัดว่า ‘นาง’ ที่มังกรหนุ่มพูดถึงไม่ได้หมายถึงเจ้าของร่างเดิม
“หลงโม่” หญิงสาวเรียกอีกฝ่ายอย่างไม่แน่ใจ “ข้าเอง ข้าคือหูเจียวเจียว”
ทันใดนั้นหลงโม่ก็เบิกตาสีทองที่แทบจะเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำของเขาแล้วหันมามองดูผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า
“เจ้าคือหูเจียวเจียว…”
เสียงแหบห้าวกระซิบแผ่วเบาประหนึ่งว่าเขากลัวที่จะทำให้หญิงสาวคนนี้หวาดกลัว
ดวงตาสุขสกาวคู่นั้นกำลังมองมาที่เขาเหมือนกับเมื่อหลายปีก่อนทุกประการ มันไม่ได้เจือไปด้วยความรู้สึกรังเกียจหรือความรู้สึกเชิงลบอื่น ๆ ที่เขาเคยได้สัมผัสจากก่อนหน้านี้
เป็นนางจริง ๆ!
วินาทีนี้หลงโม่รู้สึกมั่นใจเกือบจะในทันที
ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่พอเขาได้สบตานางอีกครั้งหลังจากที่นางออกไปจากถ้ำวันนั้น หูเจียวเจียวที่เขาพบก็ทำเหมือนกับว่าไม่เคยเจอเขามาก่อน นางเกลียดเขามาก แถมยังทำท่ารังเกียจเขาเหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ
เดิมทีเขาคิดว่านางอาจจะแค่ลืมเฉย ๆ แต่พอวันเวลาผ่านไปนาน เขาก็ไม่รู้สึกถึงตัวตนของเด็กผู้หญิงที่เขาเจอในคืนนั้นจากตัวของอีกฝ่ายเลย
ก่อนที่จิ้งจอกสาวจะทันได้พูดอะไรต่อ ลมหายใจร้อนแรงก็ขยับมาอยู่เหนือร่างของเธอ
“หูเจียวเจียว” หลงโม่มองคนที่อยู่ใต้ร่างตัวเองด้วยดวงตาที่แดงก่ำและพูดเสียงแหบพร่า
เมื่อหญิงสาวมองลึกเข้าไปในดวงตาสีทอง เธอก็ลอบกลืนน้ำลาย แต่เป็นเพราะด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง เธอรู้สึกว่าชายหนุ่มกำลังเรียกตัวเธอเอง ไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม
“เจ้ารู้หรือว่าข้าเป็นใคร?” หูเจียวเจียวถามคำถามที่คลุมเครือ
ต่อมา มือหยาบกร้านของมังกรหนุ่มลูบไล้ติ่งหูของจิ้งจอกสาว
“ถ้ำ ผลไม้” เขาสูดหายใจเข้าแรง ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เจ้าคือหูเจียวเจียว”
หูเจียวเจียวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครในโลกนี้
เขาแค่อยากจะใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงคนนี้ตลอดไป
คำพูดของชายหนุ่มทำให้หัวใจของหญิงสาวสั่นสะท้านอย่างอธิบายไม่ได้ เมื่อทบทวนถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เธอก็เข้าใจในทันที
ที่แท้คนที่เป็นคู่ของหลงโม่ก็คือตัวเธอเองมาตั้งแต่ต้น!
“ใช่ ข้าเอง” หูเจียวเจียวยกยิ้มแล้วโอบแขนรอบคอของชายที่อยู่เหนือร่างตน
สัมผัสที่ร้อนผ่าวนั้นแล่นผ่านแขนของเธอราวกับคลื่นความร้อน
“หลงโม่ เรามาอยู่ด้วยกันตลอดไปเถอะ” จิ้งจอกสาวกระซิบพูดข้างหูเขาเบา ๆ
ปัจจุบันพวกเธอทั้งคู่อยู่ที่นี่แล้ว ดังนั้นเธอก็ควรปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปตามเส้นทางที่ถูกลิขิตเอาไว้
พอหลงโม่ได้ยินคำพูดของคนที่เขาเฝ้าถวิลหาก็ไม่รั้งตัวเองเอาไว้อีกต่อไป การเคลื่อนไหวที่งุ่มง่ามและระมัดระวังทำให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ชายหนุ่มกระซิบชื่อของหญิงสาวที่ข้างหูไม่หยุด ในขณะที่หูเจียวเจียวเองก็ตอบสนองเขาแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
และแล้วในบ้านก็มีแต่เสียงของชายหญิงทั้ง 2 ดังสอดประสานกันพร้อมกับเสียงลมหายใจที่ไม่เป็นจังหวะ แล้วมันก็ดังขับขานอยู่นานเปรียบเสมือนเสียงดนตรีใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืน
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: น้ำตาซึมเลย คือเธอคนนี้คนเดียวมาโดยตลอด T_T ตอนหน้าเป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะ อยู่ด้วยกันจนจบไปเลยนะ!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 293
แสดงความคิดเห็น