บทที่ 614: หยินชางดูเหมือนจะค่อนข้างดื้อรั้น
เนื่องจากหลงโม่เพิ่งฟื้นขึ้นมา และอาการบาดเจ็บของเขายังไม่หายดี ดังนั้นหูเจียวเจียวเลยบอกให้เขาพักผ่อนต่ออีกสักหน่อย
ก่อนหน้านี้เธองีบหลับอยู่ข้างเตียงไปบ้างแล้ว อีกทั้งเธอยังได้ยินเรื่องราวต่าง ๆ จากปากสามีหนุ่ม ทำให้ปัจจุบันจิ้งจอกสาวไม่รู้สึกง่วงนอนเลยสักนิด เธอจึงลุกขึ้นไปล้างหน้า แล้วตั้งใจที่จะไปเตรียมอาหารเช้า
แต่ก่อนอื่นหญิงสาวเดินไปยังห้องของหลงหลิงเอ๋อที่อยู่ชั้นบนเพื่อดูลูก ๆ อีกครั้ง ในไม่ช้าเธอก็พบว่าพวกหลงอวี้กำลังนอนหลับอยู่บนพื้นโดยมีผ้าห่มคลุมตัวไว้ มีเพียงหยินชางเท่านั้นที่ยังคงนั่งก้มหน้าลงพิงเตียง ราวกับว่าเขากำลังนั่งรอให้เด็กหญิงตื่น
จู่ ๆ ความคิดแปลก ๆ ก็แล่นเข้ามาในหัวของแม่จิ้งจอก เธอมีความรู้สึกว่าหยินชางดูเป็นคนค่อนข้างดื้อรั้น หรือไม่เธอก็อาจจะคิดมากไปเอง?
ในขณะที่หูเจียวเจียวกำลังยืนคิดอยู่นั้น เธอก็สัมผัสได้ว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณชั้นล่างของบ้าน เธอจึงหลุดออกจากภวังค์ก่อนจะเดินลงไปยังด้านล่างโดยทิ้งความคิดก่อนหน้านี้ไว้เบื้องหลัง
ปัจจุบันเตี๋ยฉ่ายกำลังเดินวนไปวนมาอยู่หน้าประตูใหญ่ เมื่อเห็นว่าประตูตรงหน้าเปิดแง้มอยู่เล็กน้อย นางก็ยกมือขึ้นอย่างลังเลพลางคิดว่าตัวเองควรจะผลักประตูให้เปิดออกดีหรือไม่
แต่พอหญิงสาวสังเกตเห็นว่าเจ้าของบ้านได้เดินลงมาถึงชั้นล่างแล้ว นางก็ดึงมือของตนกลับไปก่อนจะยิ้มให้กับอีกฝ่าย
“เจียวเจียว”
ทางด้านหูเจียวเจียวที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังมีผู้หญิงอีกคนอาศัยอยู่ที่บ้าน เธอจึงรีบเดินไปเปิดประตูให้กับนาง
เมื่อวานเตี๋ยฉ่ายช่วยเธอไว้มากมาย ถ้าหากนางไม่กลับมาเรียกหูหลินให้ตน ลำพังแค่ตัวของเธอเองก็คงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก
ขณะนั้นหญิงสาวมองผู้หญิงนัยน์ตาสีชมพูที่ยังคงสวมเสื้อผ้าชุดเก่าตัวเดิมอยู่ เป็นเพราะไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เธอยุ่งอยู่กับเรื่องอาการบาดเจ็บของหลงโม่ เธอเลยลืมเรื่องของภูตผีเสื้อไปเสียสนิท
พอจิ้งจอกสาวเห็นเตี๋ยฉ่ายอีกครั้ง เธอก็เผยรอยยิ้มที่แสดงถึงความละอายใจออกมา
“เตี๋ยฉ่าย ข้าขอโทษ 2-3 วันนี้ข้าไม่ได้ดูแลเจ้าเลย”
“ไม่เป็นไร ๆ” เตี๋ยฉ่ายรีบโบกมือกลางอากาศเพื่อแสดงให้เห็นว่าตนไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วยิ้มให้กับอีกฝ่ายอย่างอบอุ่น “ข้าแค่มาถามอาการของหลิงเอ๋อกับหลงโม่น่ะ ตอนนี้เขา 2 คนดีขึ้นหรือยัง?”
เนื่องจากเรื่องของกู่สือเมื่อวานทำให้นางรู้สึกกลัวมาก คืนที่ผ่านมานางก็มีอาการกระสับกระส่ายจนนอนไม่หลับ นางจึงมาหาหูเจียวเจียวแต่เช้าเพื่อถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของมังกรหนุ่มกับหมอผีตัวน้อย
“ตอนนี้พวกเขาไม่เป็นอะไรแล้ว หลิงเอ๋อยังคงหลับอยู่ ส่วนหลงโม่ฟื้นแล้ว เจ้าไม่ต้องห่วง” จิ้งจอกสาวอธิบายให้คนตรงหน้าฟัง ก่อนที่จะดึงเตี๋ยฉ่ายให้เข้าไปรอในห้องนั่งเล่น
“เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้สักครู่”
หลังจากหูเจียวเจียวบอกภูตสาว เธอก็เดินหายเข้าไปในโกดังชั่วขณะ ในเวลาไม่นานเธอก็เดินออกมาโดยมีชุดผ้าป่านผืนใหม่ติดมือมาด้วย
“เจ้าสูงพอ ๆ กับข้า ดังนั้นเจ้าน่าจะใส่เสื้อผ้าของข้าได้ แต่ไม่ต้องกลัวนะ มันเป็นของใหม่ ข้ายังไม่เคยใส่มัน เจ้าเอาไปใส่ก่อน ไว้ผ้าผืนใหม่ส่งมาถึงเมื่อไหร่ข้าจะเอาไปให้เจ้าตัดเสื้อผ้า”
ในเมื่อจิ้งจอกสาวตอบตกลงให้นางอาศัยอยู่ด้วย เธอจึงไม่อาจปล่อยให้นางสวมใส่เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งแบบนี้ได้
“ไม่ ๆ ข้าไม่ได้ต้องการสิ่งนี้ ข้าใส่อะไรก็ได้ แถมเสื้อผ้าพวกนี้ดูล้ำค่ามากด้วย” เตี๋ยฉ่ายโบกมือปฏิเสธแล้วรีบคืนชุดผ้าป่านให้กับหูเจียวเจียวก่อนจะก้าวถอยหลังออกไปเล็กน้อย
สิ่งของที่หัวหน้าหูหลินมอบให้กับนางนั้น นอกจากเสบียงอาหารแล้ว ยังรวมถึงหนังสัตว์ด้วย แต่ปัจจุบันอากาศร้อนมาก นางจึงขี้เกียจเกินกว่าจะตัดชุดหนังสัตว์ใหม่ นางเพียงแค่รอให้ฤดูร้อนผ่านไปแล้วเก็บหนังสัตว์เหล่านั้นเอาไว้ทำเสื้อผ้าที่อบอุ่นเพื่อสวมใส่ในยามฤดูหนาว
อีกอย่างนางก็คิดว่าหนังสัตว์ที่ตนสวมใส่อยู่ในตอนนี้ก็ยังสามารถใช้ได้ดี
พอหูเจียวเจียวเห็นว่าอีกฝ่ายปฏิเสธ เธอจึงเดินเข้าไปหาคนตรงหน้าอีกครั้งแล้วยัดเสื้อผ้าใส่ในอ้อมแขนของนาง
“เอาไปใส่ซะ หลังบ้านมีห้องน้ำอยู่ เจ้าไปล้างตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ส่วนข้าจะไปทำอาหารเช้า หลังจากเจ้าล้างเนื้อล้างตัวเสร็จ ข้าก็น่าจะทำกับข้าวเสร็จพอดี แล้วเราค่อยมากินข้าวด้วยกัน”
เมื่อพูดจบจิ้งจอกสาวก็พาเตี๋ยฉ่ายไปห้องน้ำที่สวนหลังบ้าน ส่วนภูตสาวที่เห็นดังนั้นจึงรีบเดินตามหลังอีกคนไปในทันทีโดยมีชุดผ้าป่านเนื้อนุ่มอยู่ในอ้อมแขนขณะที่ในใจของนางก็รู้สึกซาบซึ้งใจมากที่หูเจียวเจียวดูแลตนเป็นอย่างดี
“เจียวเจียว ขอบคุณเจ้ามาก”
ดวงตาสีชมพูมองไปที่แผ่นหลังอันบอบบางของหญิงสาวก่อนจะกระซิบขึ้นมาเสียงเบา แต่มันก็เพียงพอที่จะให้เจ้าตัวได้ยิน
หูเจียวเจียวจึงหันมายิ้มเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยว่า “ข้าควรจะเป็นคนที่ต้องพูดขอบคุณมากกว่า หากเจ้าไม่ได้บอกเราเกี่ยวกับกู่สือ เราก็อาจจะแก้ไขปัญหานั้นไม่ได้ แล้วเราก็คงไม่สามารถพาเหยาเอ๋อกลับมาได้เร็วขนาดนี้”
เธอไม่ใช่คนที่จะละเลยบุญคุณของคนที่ช่วยเหลือตัวเอง ไม่ว่ามันจะเล็กน้อยแค่ไหน ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ในครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกชายคนเล็กของเธอ ดังนั้นเธอย่อมต้องตอบแทนความช่วยเหลือจากนางให้เต็มที่
แต่ทางด้านเตี๋ยฉ่ายเมื่อได้ยินจิ้งจอกสาวพูดเช่นนั้น นางก็รู้สึกละอายใจมากยิ่งขึ้น
นางเพียงแค่ให้ข้อมูลบางอย่างเท่านั้น หากแต่เป็นหูเจียวเจียวที่คิดวิธีแก้ไขปัญหาและหลงโม่ที่เป็นคนไปปราบกู่สือ นางเลยรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
ในตอนนี้ผีเสื้อสาวรับรู้ได้ว่าหูเจียวเจียวใจดีกับนางมาก ซึ่งมันทำให้นางรู้สึกกระดากใจเล็กน้อยเมื่อนางอาศัยอยู่ที่บ้านของอีกฝ่าย
“ห้องน้ำอยู่ตรงนั้น ไปล้างตัวให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่เด็ก ๆ จะลงมาเถอะ” น้ำเสียงแกมบังคับของผู้เป็นเจ้าบ้านขัดจังหวะความคิดของหญิงสาว
ขณะนี้มีเพียงแค่เธอ 2 คนเท่านั้น แถมเป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นมันคงสะดวกใจกว่าที่จะให้นางล้างตัวในเวลานี้ เพราะอีกไม่นานเด็ก ๆ ก็คงจะลงมากันแล้ว หูเจียวเจียวเกรงว่าหากขืนยังชักช้าอยู่เตี๋ยฉ่ายจะยิ่งรู้สึกเขินอายจนไม่กล้าที่จะล้างตัว
พอภูตสาวได้ยินเช่นนี้ นางจึงเข้าห้องน้ำไปโดยไม่มีข้ออ้างใด ๆ อีก ส่วนจิ้งจอกสาวก็เข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารเช้าด้วยเช่นกัน
หลังจากเธอทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว เธอก็เดินออกมาจากครัวเพื่อเตรียมจัดโต๊ะกินข้าวให้พร้อมสำหรับเด็ก ๆ ในขณะที่เดินออกมาจากครัว เธอก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงรูปร่างผอมเพรียวกำลังยืนรออยู่ที่ประตูหลังบ้าน
ในเวลาเดียวกัน เตี๋ยฉ่ายมองไปทางหูเจียวเจียวด้วยสายตาที่มีประกายแสงของการเทิดทูนอยู่ภายใน
“เจียวเจียว ขอบคุณสำหรับเสื้อผ้านะ มันดีมากจริง ๆ”
นางผอมกว่าหูเจียวเจียวจึงทำให้เสื้อผ้าส่วนบนของนางดูหลวมเล็กน้อย แต่มันก็ยังให้ความรู้สึกว่าชุดที่นางใส่นั้นเหมาะกับนางมาก
ใบหน้าที่ดูหมองคล้ำก่อนหน้านี้เมื่อถูกทำความสะอาดก็เผยให้เห็นถึงผิวขาวใส แม้กระทั่งผมที่เคยจับตัวกันเป็นก้อนและมีสภาพเหมือนเปื้อนโคลน พอล้างคราบสกปรกออกก็ทำให้เห็นเส้นผมสีดำชมพูซึ่งเป็นสีเดียวกับม่านตาของเจ้าตัว
จิ้งจอกสาวคาดเดาในใจว่าร่างสัตว์ของนางก็น่าจะเป็นสีชมพูด้วยเช่นกัน
ใบหน้าอันบอบบางของผีเสื้อสาวนั้นดูอ่อนเยาว์แต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าไร้เดียงสาจนเกินไป ทว่ามันกลับดูน่ารักสดใส
“ชุดนี้ดูเข้ากับเจ้านะ” หูเจียวเจียวยิ้ม “มากินข้าวก่อนสิ เมื่อคืนข้ายุ่งมากจนลืมทำอาหารให้เจ้า ตอนนี้เจ้าน่าจะหิวมากแล้ว”
เตี๋ยฉ่ายพยักหน้าให้กับผู้เป็นเจ้าบ้านด้วยความเขินอายก่อนจะเดินตามไปที่ครัว
หลังจากที่หญิงสาวทั้ง 2 คนช่วยกันยกอาหารในครัวมาวางไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เหล่าเด็ก ๆ ก็พากันตื่น ก่อนจะทยอยกันลงมาที่ชั้นล่าง
“ท่านแม่ ท่านป้าคนสวยคนนี้คือใคร?” หลงเหยาที่เห็นผู้หญิงที่ไม่คุ้นหน้าอยู่ในบ้านก็เดินเข้าไปหาแม่จิ้งจอกด้วยสีหน้างงงวยพร้อมกับขยี้ตาที่ง่วงนอนของตัวเองไปด้วย
ส่วนเด็กคนอื่น ๆ ก็มองเตี๋ยฉ่ายที่ตอนนี้กลายเป็นคนแปลกหน้าอย่างสงสัยด้วยเช่นกัน
เนื่องจากภูตผีเสื้อเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจึงทำให้พวกเขาจำนางไม่ได้
“เจ้าโง่เสี่ยวเหยา นั่นคือป้าเตี๋ยยังไงล่ะ” หลงหลิงเอ๋อที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ่ยขึ้น เนื่องจากนางเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดของคนรอบข้างมากกว่าพี่น้องคนอื่นมาก อีกทั้งตัวของนางเองก็เป็นผู้หญิง จึงทำให้นางจำเตี๋ยฉ่ายได้ในทันทีที่เจอ
เมื่อเหล่าเด็กตระกูลหลงได้ยินดังนั้นก็มองไปยังหญิงสาวผมชมพูด้วยท่าทางประหลาดใจ
“นางคือป้าเตี๋ยงั้นหรือ?” หลงจงอุทานขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก ๆ
หลงอวี้ยิ้มแล้วพูดว่า “เมื่อก่อนหลิงเอ๋อก็เป็นแบบนี้ หลังจากที่ท่านแม่อาบน้ำให้หลิงเอ๋อเป็นครั้งแรก พวกเราก็เกือบจะจำนางไม่ได้เหมือนกัน”
หลงจงนึกถึงเหตุการณ์ในสมัยก่อนก็เข้าใจได้ทันที “ที่แท้ทั่วตัวของป้าเตี๋ยก็เปื้อนโคลนมาตลอด ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมตอนนั้นนางถึงดูคล้ำมาก”
“จงเอ๋อ อย่าทำตัวหยาบคาย” หูเจียวเจียวที่ได้ยินคำพูดของลูกชายคนที่ 3 ก็รีบเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยตักเตือนเขาทันที
เตี๋ยฉ่ายรู้สึกเขินอายต่อสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของเหล่าเด็กน้อย พอเห็นว่าหลงจงโดนแม่จิ้งจอกดุ นางก็พูดขึ้นเพื่อไกล่เกลี่ยสถานการณ์ “ไม่เป็นไร เด็ก ๆ ก็แค่อยากรู้อยากเห็นเพียงเท่านั้น”
นางรู้ว่าเด็กบ้านนี้ฉลาดมากและพวกเขาก็เป็นเด็กดีมาโดยตลอด ดังนั้นนางจึงไม่ได้รู้สึกโกรธพวกเขาเลย
“หลิงเอ๋อ เจ้าเป็นยังไงบ้าง รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่?” หูเจียวเจียวมองไปที่ลูกสาวพลางกวาดสายตาสำรวจทั่วร่างของนาง
นอกเหนือจากใบหน้าที่ซีดเซียวของเด็กหญิงแล้วก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติอีก แต่เพื่อความสบายใจของตัวเอง แม่จิ้งจอกจึงสอบถามคนตัวเล็กด้วยความเป็นห่วง
“ท่านแม่ ข้าสบายดี” หลงหลิงเอ๋อตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง
เมื่อผู้เป็นแม่เห็นว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอมีสภาพจิตใจที่ดีและกลับมาร่าเริงอีกครั้ง เธอก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น
…
ในวันต่อ ๆ มา หลงหลิงเอ๋อก็เข้าไปรักษาพ่อมังกรแบบวันเว้นวัน
อาการบาดเจ็บของหลงโม่ในตอนนี้ฟื้นตัวได้ช้ามาก
หากหูเจียวเจียวไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเอง เธอคงจะไม่มีวันเชื่อแน่นอนว่าบาดแผลที่เกือบจะหายของมังกรหนุ่มกลับแย่ลงอีกครั้ง เมื่อเห็นดังนั้นเธอก็ยิ่งอยากให้เขารีบกลับเผ่ามังกรให้เร็วที่สุด
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 185
แสดงความคิดเห็น