บทที่ 613: ฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน
หลงโม่ขมวดคิ้วพลางขยับตัวลุกขึ้นเพื่อที่จะไปอุ้มหูเจียวเจียวมาไว้บนที่นอน แต่ใครจะคิดว่าการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยของเขาจะส่งผลให้ปากแผลเปิดออก ใบหน้าเคร่งขรึมจึงยับย่นเพราะความเจ็บปวดในทันที
เนื่องจากการเคลื่อนไหวของเขาทำให้จิ้งจอกสาวที่นอนหลับไม่สนิทนักสะดุ้งตื่นขึ้น
“หลงโม่ เจ้าตื่นแล้ว” เมื่อหญิงสาวเห็นผู้เป็นสามีฟื้นแล้วก็ดีใจมาก เธอรีบเข้าไปพยุงชายหนุ่มให้นอนลงพร้อมกับเอ่ยเตือนว่า “เจ้าอย่าเพิ่งขยับ บาดแผลของเจ้ายังไม่หายดี ถ้าเจ้าต้องการอะไรก็แค่บอกข้า”
ถึงแม้ว่าบางครั้งการบอกเธอจะไม่มีประโยชน์อะไรก็ตาม
“ข้าไม่เป็นไร เจียวเจียว แสงสีแดงเมื่อคืนนี้ไม่ได้ทำร้ายเจ้าใช่หรือไม่?” หลงโม่ถามพลางมองสำรวจไปทั่วร่างกายของคนรักด้วยความประหม่า
เมื่อวานเขาอยู่ในอาการหมดสติ เขาจึงไม่รู้ว่าตัวเองกลับบ้านมาได้อย่างไร แล้วเจ้าแสงสีแดงนั้นได้ทำร้ายหูเจียวเจียวหลังจากที่เขาหมดสติไปหรือไม่
“ข้าสบายดี ข้าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย ส่วนแสงสีแดงนั่นก็หายไปแล้วด้วย จากนี้เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันอีก สิ่งที่เจ้าต้องทำในตอนนี้คือรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเองให้หายโดยเร็ว” จิ้งจอกสาวอธิบายด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าเธอจะบอกกับเขาแบบนั้น แต่มังกรหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะตรวจดูร่างของหญิงสาวซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้แน่ใจว่าอีกคนไม่มีบาดแผลบนร่างกาย เมื่อดูจนพอใจแล้วเขาจึงผ่อนคลายลง
“แสงสีแดงนั่นคือ…” ชายหนุ่มสงสัยว่ามันหายไปได้อย่างไร?
หลงโม่กำลังจะเปิดปากถามเกี่ยวกับสถานการณ์หลังจากที่ตนหมดสติไป แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาที่หรี่ลงของหูเจียวเจียวซึ่งดูมีท่าทีเหมือนว่ากำลังสงสัยอะไรบางอย่าง มันก็ทำให้เขารู้สึกลังเลที่จะถามออกไป
“เลิกพูดถึงเรื่องแสงสีแดงนั่นก่อนเถอะ” จิ้งจอกสาวไม่ให้โอกาสเขาได้ซักถามอะไรอีก เธอขยับเก้าอี้ไม้ที่อยู่ข้างเตียงถอยออกไปเล็กน้อย จากนั้นจึงนั่งตัวตรงแล้วยกแขนขึ้นมากอดอกก่อนจะมองไปที่มังกรหนุ่มด้วยสีหน้าจริงจัง
หลงโม่ที่เห็นท่าทางของภรรยาสาวก็ขมวดคิ้วพร้อมกับรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
ในวินาทีต่อมา เขาได้ยินหูเจียวเจียวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า
“หลงโม่ เจ้ากำลังปิดบังเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า?”
ชายหนุ่มได้ยินคำถามดังกล่าวจึงเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวทันที ดวงตาที่ดูสดใสคู่นั้นราวกับว่าสามารถมองทะลุผ่านทุกสิ่งในหัวใจของเขาได้ และนางกำลังมองเขานิ่งประหนึ่งว่านางรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว
พอคิดได้ดังนี้หัวใจของเขาก็เต้นผิดจังหวะ
เจียวเจียวรู้เรื่องแล้วงั้นหรือ?
ที่นางถามข้าเป็นเพราะว่านางกำลังโกรธมากใช่หรือไม่?
ก่อนที่หลงโม่จะทันได้ตอบอะไรไป หูเจียวเจียวก็พูดต่อว่า
“หลงโม่ ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้าเปิดเผยทุกอย่างเกี่ยวกับอดีตของเจ้าให้ข้าฟังหรอกนะ เพียงแต่ว่าเรื่องที่เจ้ากำลังปกปิดอยู่นั้นเกี่ยวข้องกับร่างกายและชีวิตของเจ้า ดังนั้นข้าจึงหวังว่าเจ้าจะบอกความจริงกับข้า”
“เราเป็นสามีภรรยากัน เราควรแบกรับปัญหาทุกอย่างร่วมกันสิ”
เธอไม่ได้คิดว่าคู่รักจะต้องเปิดเผยทุกอย่างแบบหมดเปลือกให้กับอีกฝ่ายได้รับรู้ ตรงกันข้าม เธอเชื่อว่าแม้แต่คู่รักก็ควรจะมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเองบ้าง เธอจึงไม่เคยคิดที่จะถามคำถามนี้กับมังกรหนุ่มเลยสักครั้ง
แต่ปัจจุบันปัญหาที่ว่าได้คุกคามความปลอดภัยของหลงโม่และครอบครัวของเธอแล้ว
ถึงเวลานี้มันไม่ใช่แค่ปัญหาของเขาเพียงคนเดียวอีกต่อไป
เมื่อชายหนุ่มได้ยินคำพูดของคนรัก เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาในใจ
เขารู้แล้วว่าตนไม่ควรซ่อนอะไรจากหญิงสาวอีก
“ข้ามีบางอย่างที่ปิดบังเจ้าไว้จริง ๆ” หลงโม่พยุงร่างกายของเขาให้ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง แล้วมองตรงไปที่หูเจียวเจียว
“เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นภูตมังกรที่แปลงร่างไม่สมบูรณ์”
หูเจียวเจียวพยักหน้าเป็นการตอบรับ เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับ ทุกคนในเผ่าเฟิงโชวต่างก็รู้เรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี ซึ่งเธอก็ไม่ทราบว่าพวกเขารู้ได้อย่างไร เธอคิดเพียงแค่ว่าบางทีภูตอาจจะมีวิธีพิเศษจึงทำให้รับรู้ถึงประเด็นนี้ได้
“หลังจากที่ภูตมังกรล้มเหลวจากการแปลงร่างให้สมบูรณ์ ร่างกายของพวกเขาจะอ่อนแอลง และความสามารถในการรักษาตนเองของภูตคนนั้นก็จะย่ำแย่มาก”
หญิงสาวผงกหัวรับอีกครั้งเพราะเธอก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน
พอมังกรหนุ่มมองดูใบหน้าที่ไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธของจิ้งจอกสาว เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะพูดต่อไปว่า
“อีกประเด็นหนึ่งก็คือ เมื่อภูตมังกรเหล่านั้นโตขึ้น ความสามารถในการรักษาตัวเองจะแย่ลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งร่างกายของพวกเขารักษาตัวเองไม่ได้อีกต่อไป”
นี่คือคำพูดที่นิ่มนวลที่สุดขณะอธิบายสถานการณ์ที่ชายหนุ่มเป็นอยู่
จากสิ่งที่หูเจียวเจียวเห็นเมื่อวาน ไม่เพียงแค่ร่างกายของหลงโม่จะไม่สามารถรักษาตัวเองได้เท่านั้น แต่การให้หมอรักษาก็ทำไม่ได้เช่นกัน รวมถึงไม่มียาอะไรที่จะช่วยรักษาเขาให้หายขาดได้เลย แม้แต่ความสามารถของหมอผีก็ยังช่วยเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ
ยามนี้จิ้งจอกสาวขมวดคิ้วมุ่น
นี่มันเหมือนกับอาการป่วยของโรคร้ายแรงชนิดหนึ่งที่ไม่มีหนทางรักษาเลยไม่ใช่หรือ?
การบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยก็อาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิต แต่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายของโลกภูต เขาจะหลีกเลี่ยงจากการได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?
“แล้ว…สุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้น?” หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วถามด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“บาดแผลจะไม่หาย มีแต่จะแย่ลงเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ป่วยตาย” ชายหนุ่มตอบ
ทั้งหมดที่หลงโม่กล่าวมาคือชะตากรรมของภูตมังกรที่แปลงร่างไม่สมบูรณ์
ด้วยเหตุนี้เมื่อตอนที่เขาเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่อ่อนแอ เขาจึงยังคงสามารถอาศัยอยู่ในเผ่าของตัวเองได้ แต่หลังจากที่การแปลงร่างของเขาล้มเหลว เขาก็ถูกไล่ออกจากเผ่าทันที
เพราะสิ่งเดียวที่รอเขาอยู่ในอนาคตคือความตาย
พอหูเจียวเจียวได้ยินคำบอกเล่าของสามีหนุ่ม หัวใจของเธอก็จมดิ่งลงเหวลึก ในตอนที่เธอได้อ่านนิยายกลับไม่มีการกล่าวถึงเรื่องที่เขาว่าเลยแม้แต่น้อย
เวลานี้เธอไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมหลงโม่ที่มีความแข็งแกร่งมากถึงถูกอิงหยวนเอาชนะได้ ปรากฏว่านอกจากร่างเดิมของเธอที่ฉุดเขาให้ตกต่ำจนเข้าสู่ด้านมืดแล้ว ยังมีเหตุผลสำคัญอีกอย่างหนึ่งนั่นเอง
ถึงแม้ว่าจะไม่มีเจ้าของร่างเดิมอยู่ใกล้ ๆ เขา แต่มังกรหนุ่มก็ยังไม่อาจมีชีวิตยืนยาวอยู่ดี
จะมีทางเป็นไปได้ไหมที่ชะตากรรมของตัวละครแต่ละตัวจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ หรือตอนจบของนิยายจะยังคงเป็นแบบเดิม?
เมื่อหลงโม่เห็นว่าหูเจียวเจียวเงียบไป เขาก็คิดว่าอีกฝ่ายกำลังโกรธ เขาจึงอธิบายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าด้วยความสามารถของข้า วันนั้นคงจะมาไม่ถึงเร็วมากนัก แล้วข้าก็คงสามารถอยู่รอดได้จนกว่าลูก ๆ โตพอที่จะพึ่งพาตัวเองได้ แต่ข้าไม่คิดว่า...”
วิญญาณของกู่สือเป็นตัวเร่งเวลาให้ผลที่ตามมาจากการแปลงร่างที่ไม่สมบูรณ์ของเขาเกิดเร็วขึ้นกว่าเดิม
“แล้วหลังจากนั้นล่ะ?” จิ้งจอกสาวขมวดคิ้วพลางจ้องหน้าสามีหนุ่มเขม็ง
ความหมายของเขาก็คือเมื่อเด็ก ๆ โตขึ้น เขาจะจากไปใช่ไหม?
ทันใดนั้นกำแพงป้องกันที่แข็งแกร่งของหลงโม่ก็พังทลายลงทันทีสบสายตาตัดพ้อของหูเจียวเจียว เขาหลุบตาลงต่ำก่อนจะเอ่ยปากขอโทษภรรยาสาวเสียงเบา “เจียวเจียว ข้าขอโทษ ข้าไม่ควรเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับต่อเจ้า”
“บอกข้าทีว่าหลังจากที่เด็ก ๆ โตขึ้นแล้ว และร่างกายของเจ้าก็ไม่สามารถรักษาตัวเองได้อีกต่อไป…” หญิงสาวถามเขาอย่างใจเย็น พอเห็นว่าชายหนุ่มไม่พูดขัดอะไรขึ้นมา เธอจึงพูดต่อไปช้า ๆ
“เจ้าจะทิ้งข้ากับลูก ๆ ไปงั้นหรือ?”
หลังจากมังกรหนุ่มได้ยินภรรยาสาวเอ่ยคำตอบที่ติดอยู่ในใจตนออกมาตามตรง เขาก็ไม่หลบเลี่ยงคำถามของนางอีกต่อไป เขาพยักหน้าและตอบด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “เดิมทีข้าอยากกลับไปที่เผ่ามังกรเพื่อที่จะหาวิธีแปลงร่างครั้งที่ 2 หลังจากที่ลูก ๆ สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว”
หากเขาต้องการแปลงร่างอีกครั้งเขาต้องกลับไปยังเผ่ามังกร
และการกลับไปหมายถึงการที่เขาต้องจากหูเจียวเจียว
เขาไม่ต้องการให้ภรรยาสาวรู้สึกผิดหวังซ้ำ ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตั้งใจที่จะบอกนางเกี่ยวกับเรื่องนี้
มังกรหนุ่มคิดคำนวณทุกอย่างไว้ล่วงหน้า แม้กระทั่งความเป็นไปได้ที่จะไม่ได้กลับมาอีกก็ถูกวางแผนไว้แล้วเช่นกัน
เมื่อจิ้งจอกสาวได้ยินว่ายังพอมีวิธีที่จะทำให้การแปลงร่างของคนรักสมบูรณ์ นัยน์ตาคู่สวยก็พลันสว่างขึ้น
นั่นหมายความว่าเรายังคงมีความหวัง!
“เจ้าบอกว่าเจ้าหาวิธีแปลงร่างครั้งที่ 2 ได้หากกลับไปยังเผ่ามังกรใช่ไหม? งั้นข้าจะกลับไปกับเจ้าด้วย!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ใช่ แต่เผ่ามังกรอาจจะไม่ต้อนรับข้า” ดวงตาของหลงโม่มืดลงเล็กน้อย และเสียงทุ้มของเขาก็เย็นชาขึ้นด้วยเช่นกัน
ในตอนที่คนพวกนั้นโยนเขาออกจากเผ่าราวกับว่าเขาเป็นขยะชิ้นหนึ่ง พวกมันเคยคิดบ้างไหมว่าวันหนึ่งเขาจะกลับไปที่นั่น
“แต่เจ้ายังเจ็บอยู่ หากเจ้าได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง เจ้าอาจจะ…” หูเจียวเจียวรู้สึกเป็นกังวลมาก
“เจียวเจียว เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะไม่เป็นอะไร” เจ้าของดวงตาสีทองค่อย ๆ จับมือของภรรยาสาวแล้ววางมืออันบอบบางของอีกคนลงที่ตำแหน่งหัวใจของตัวเอง “เอาไว้เราค่อยพูดถึงเรื่องการเดินทางไปยังเผ่ามังกรในภายหลัง”
“ตกลง” จิ้งจอกสาวพยักหน้า ก่อนที่เธอจะมองลึกเข้าไปในดวงตาของมังกรหนุ่มพร้อมกับพูดอย่างหนักแน่นว่า “ข้าเป็นคู่ชีวิตของเจ้า ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะร่วมฝ่าฟันไปกับเจ้า”
พอหลงโม่ได้ยินในสิ่งที่หญิงสาวกล่าวคำที่เป็นดั่งคำมั่นสัญญากับตนเอง เขาก็มองหูเจียวเจียวด้วยสายตาอ่อนโยนมากขึ้นไปอีก
“ใช่ พวกเราคือคู่ชีวิตกัน” ดังนั้นเขาจะไม่มีทางทำให้นางต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ในที่สุดพ่อก็ยอมพูดกับแม่ตรง ๆ สักที พ่อจะมาทิ้งแม่กับลูก ๆ ไปแบบนี้ไม่ได้นะ ; - ;
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 311
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น