บทที่ 597: การโกหกสีขาว

-A A +A

บทที่ 597: การโกหกสีขาว

กว่าที่ทุกคนจะพูดคุยตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว

 

หูเจียวเจียวไม่ต้องกังวลเรื่องการตามหาผู้หญิงที่มีดวงตาสีชมพูอีก ดังนั้นเธอกับหลงโม่จึงพาลูก ๆ กลับบ้านไปพักผ่อนหลังจากเจอเรื่องที่ทำให้เหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวัน

 

ขณะนี้แม่จิ้งจอกจับมือหลงหลิงเอ๋อเดินเคียงข้างพ่อมังกรไปตามทางโดยมีพวกลูกชายเดินตามมาข้างหลัง

 

ในระหว่างที่เดินกันอยู่นั้นก็มีเสียงหาวสลับกันไปมาไม่หยุด

 

อย่างไรก็ตาม ในหัวของหลงหลิงเอ๋อยังคงคิดวนเวียนถึงเหตุการณ์แปลกประหลาดที่ตนได้เห็นในที่พักอาศัยของภูตเผ่าไป๋ผี

 

สุดท้ายนางก็อดใจไม่ได้ที่จะเงยหน้าถามแม่ของตัวเองว่า

 

“ท่านแม่ จู่ ๆ ท่านกับหยินชางหายไปในอากาศได้ยังไง?” 

 

สาเหตุที่จิ้งจอกสาวตัดสินใจทำแบบนั้นต่อหน้าคนอื่นเป็นเพราะว่าเธอคิดว่าลูกยังเป็นเด็กซึ่งเธอยังสามารถหาข้ออ้างมาหลอกพวกเขาได้ง่าย

 

แต่ในทางกลับกัน สำหรับหลงโม่ที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เธอคงไม่สามารถแต่งเรื่องมาหลอกเขาได้ง่าย ๆ เหมือนกับเด็ก 

 

ตอนที่หูเจียวเจียวตัดสินใจจะเปิดเผยเรื่องมิติ เธอก็คิดเอาไว้แล้วว่าตนไม่สามารถปิดบังอะไรกับสามีหนุ่มได้อีก

 

“หลิงเอ๋อ อันที่จริง เมื่อตอนนั้น...” 

 

ขณะที่หญิงสาวกำลังคิดว่าจะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ลูกสาวฟังอย่างไรดี หลงโม่ก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนด้วยเสียงเรียบเฉย

 

“นั่นเป็นเพราะท่านเทพอสูรช่วยปกป้องพวกเรา ท่านบังตาทุกคนไม่ให้เห็นแม่ของเจ้ากับหยินชาง ทำให้พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนเลย” 

 

“จริงหรือ?” หลงหลิงเอ๋อกะพริบตากลมโตพลางถามด้วยความประหลาดใจ  ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วพูดต่อว่า “ท่านเทพอสูรเมตตาท่านแม่มากเลย ท่านถึงขั้นมาปกป้องนางด้วยตัวเอง ช่างเป็นพลังที่เยี่ยมยอดจริง ๆ!” 

 

“เพราะแม่ของเจ้าเป็นคนดีมาก” พ่อมังกรพยักหน้าตอบอย่างจริงจัง 

 

หากมองจากมุมของคนนอกที่ไม่รู้เรื่องราว พวกเขาคงคิดว่าเทพอสูรเป็นคนบอกเขาเองกับปาก 

 

สิ่งที่หลงโม่พูดทำให้หูเจียวเจียวคิดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง  

 

เธอมองดูลูกสาวที่ทำหน้าตื่นตาตื่นใจ จากนั้นก็หันไปมองสามีตัวเองที่กำลังพูดเรื่องหลอกเด็กด้วยท่าทางจริงจัง  

 

“…” 

 

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่จำเป็นต้องบอกความจริงตอนนี้

 

นี่เป็นการโกหกสีขาวเหมือนที่คนเขาพูดกันหรือเปล่า? ในเมื่อหลิงเอ๋อเชื่ออย่างนั้นไปแล้ว เธอก็ควรจะทำให้มันมีน้ำหนักมากขึ้น

 

“ท่านแม่ ท่านเทพอสูรรู้ได้ยังไงว่าท่านตกอยู่ในอันตราย หรือว่าท่านจับตาดูท่านแม่ไว้ตลอดเวลา?” ดวงตากลมโตของหมอผีตัวน้อยเต็มไปด้วยความสงสัย

 

“นั่น—”

 

จิ้งจอกสาวกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่มังกรหนุ่มที่เดินอยู่ด้านข้างก็เป็นฝ่ายตอบคำถามของลูกสาวอีกครั้ง

 

“ท่านเทพอสูรมีพลังที่เราไม่อาจจินตนาการได้ มันคงจะไม่แปลกที่ท่านจะสามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ บนโลกนี้ได้โดยไม่ต้องจับตาดู” หลงโม่ตอบอย่างสงบ

 

จากนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันถึงประเด็นต่าง ๆ อีกมากมาย

 

ไม่ว่าหลงหลิงเอ๋อจะถามคำถามแปลก ๆ แบบไหนออกมา ผู้เป็นพ่อก็ยังสามารถหาคำอธิบายที่ฟังดูมีเหตุผลมาตอบได้เสมอ

 

ถ้าไม่ใช่เพราะหูเจียวเจียวโตเป็นผู้ใหญ่แล้วได้รู้อะไรมากมาย เธอคงเกือบจะเผลอไปเชื่อคำพูดของหลงโม่แล้วเหมือนกัน

 

ระหว่างนั้นจิ้งจอกสาวเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าด้านข้างของมังกรหนุ่ม และอดที่จะบ่นในใจไม่ได้ว่า

 

ผู้ชายคนนี้ฉลาดชะมัด

 

แต่ปัจจุบันเธอมักจะคิดว่าตัวเองลืมอะไรบางอย่างไปอยู่ตลอดเวลา

 

แปลก ฉันลืมอะไรกันนะ...

 

หูเจียวเจียวก้มหน้าครุ่นคิดโดยไม่ได้สังเกตเห็นดวงตาสีทองของหลงโม่ที่กำลังจ้องมองมาทางเธอ

 

...

 

อีกไม่กี่วันต่อมา ในที่สุดเผ่าก็ทำความสะอาดครั้งใหญ่ได้สำเร็จภายใต้คำสั่งของหูหลิน

 

สิ่งของทั้งหมดที่สัมผัสกับโรคระบาดถูกโยนเข้ากองไฟ พอคนในเผ่าได้เห็นแบบนี้ก็รู้สึกโล่งใจมาก การจัดการของผู้เป็นหัวหน้าเผ่ามันช่วยทำให้สถานการณ์ภายในเผ่าสงบขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

 

ส่วนภูตเผ่าไป๋ผีที่เหลือก็ยอมรับความจริงที่ว่าหยินซางและคนในเผ่าของพวกเขาต้องจบชีวิตลงแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

เพราะการยืนยันความบริสุทธิ์ของหยินซื่อ ตั้งแต่นี้ไปพวกเขาจะได้รับอิสระรวมถึงใช้ชีวิตอย่างสุขสงบในเผ่าได้เหมือนกับคนอื่น ๆ

 

ด้วยเหตุนี้ หยินซื่อจึงได้พาคู่ของเขาและภูตเผ่าไป๋ผีที่เหลือมาขอบคุณครอบครัวของหูเจียวเจียวโดยเฉพาะ

 

“หูเจียวเจียว ขอบคุณที่ให้เราอยู่ในเผ่า นี่เป็นของตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเรา…”

 

จิ้งจอกสาวมองดูสิ่งที่อีกฝ่ายส่งมาด้วยสีหน้าสงสัย

 

“นี่คือ…?”

 

หยินซื่อก้าวไปข้างหน้าก่อนจะเปิดห่อหนังสัตว์ในมือซึ่งเผยให้เห็นสิ่งที่มีสีเขียวอ่อนอยู่ข้างใน

 

จากนั้นเขาก็รีบอธิบายด้วยรอยยิ้ม

 

“นี่คืออาหารโปรดของภูตเผ่าไป๋ผี เราไม่มีสิ่งของล้ำค่าอะไรติดตัวมาด้วย ข้าได้แต่หวังว่าท่านจะชอบมัน”

 

หูเจียวเจียวขยับเข้าไปมองของที่อยู่ในห่อหนังสัตว์ใกล้ ๆ ก่อนจะพบว่าสิ่งที่อยู่ในนั้นคือหน่อไม้ 

 

เมื่อหญิงสาวคิดถึงร่างสัตว์ของหยินชาง เธอก็แทบจะร้องอ๋อออกมาเสียงดัง

 

จริงสินะ แพนด้าชอบกินไผ่นี่นา

 

แต่ในฤดูร้อนที่แห้งแล้งแบบนี้ พวกเขาไปเอาหน่อไม้สดมาจากที่ไหน?

 

ทางด้านหยินซื่อที่เห็นท่าทางงุนงงของหูเจียวเจียวจึงรีบอธิบายว่า

 

“ไผ่เนื้อนุ่มแบบนี้กินได้ และหยินชางก็น่าจะชอบเหมือนกัน...”

 

ชายหนุ่มคิดว่าจิ้งจอกสาวไม่ชอบสิ่งที่พวกตนมอบให้ ซึ่งมันไม่ใช่เนื้อสัตว์แต่เป็นต้นไผ่ที่หาเก็บมาได้จากในป่า

 

ในสายตาของพวกเขา นี่คืออาหารที่อร่อยยิ่งกว่าเนื้อสัตว์เสียอีก

 

แถมปัจจุบันพวกเขาหาเนื้อสัตว์มาเลี้ยงปากท้องตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่พวกเขาก็ตั้งใจเดินทางขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเก็บต้นไผ่มา

 

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นหยินซื่อกับกลุ่มภูตที่อยู่ข้างหลังทำตัวประหม่า เธอก็ไม่ได้ถามคำถามอะไรเพิ่มเติม และรับมันมาพร้อมกับยิ้มอ่อนโยน

 

“ขอบคุณ ข้าจะเอาของพวกนี้ไปให้หยินชางในภายหลัง”

 

หญิงสาวรู้ดีว่าอีกฝ่ายเอาหน่อไม้มามอบให้หยินชางโดยเฉพาะ

 

ภูตเหล่านี้แตกต่างจากหยินซางตรงที่ไม่มีความโลภหรือความปรารถนาในสายตาของพวกเขา

 

ส่วนบางคนก็แค่ระมัดระวังไม่ให้คนอื่นรู้สึกขุ่นเคืองใจกับการกระทำของตน 

 

สำหรับหยินชาง พวกเขารู้สึกผิดและขอบคุณอยู่ในใจ

 

หลังจากลุ่มภูตเผ่าไป๋ผีทั้งหลายเห็นว่าหูเจียวเจียวยอมรับหน่อไม้ไป พวกเขาต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ต่อมา หยินซื่อยิ้มก่อนจะเดินอ้อมไปด้านหลังเพื่อช่วยพยุงผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาหาจิ้งจอกสาวอย่างระมัดระวัง

 

“นี่คือหยินสุ่ย คู่ของข้า เรามาที่นี่วันนี้เป็นเพราะเราอยากจะขอบคุณแม่หมอดี ๆ สักครั้ง” ชายหนุ่มอธิบายด้วยท่าทางขัดเขิน

 

ขณะที่หูเจียวเจียวมองดูคู่ของหยินซื่อ เธอเห็นว่าอีกฝ่ายท้องใหญ่เหมือนแบกลูกแตงโมไว้ที่ท้อง แม้ว่าครอบครัวของนางจะไม่ได้มีกินเหลือเฟือ แต่นางก็ยังดูมีน้ำมีนวลกว่าผู้หญิงคนอื่นมาก ใบหน้าขาวเหลืองของนางเต็มอิ่ม ดวงตากลมโต เนื้อตัวดูสะอาดสะอ้าน พอทุกอย่างประกอบเข้าด้วยกันแล้ว ผู้หญิงคนนี้มีหน้าตาน่ารักมาก 

 

บ่งบอกได้เลยว่านางยังอยู่ในวัยสาวสะพรั่ง

 

ส่วนหยินซื่อก็ดูแลนางเป็นอย่างดี ตัวเขาเองมีรูปร่างสูงและผอมจนเหลือเพียงหนังแนบติดกระดูก แต่เขาก็ยังเลี้ยงดูคู่ของตัวเองจนร่างกายอุดมสมบูรณ์ดี 

 

ในช่วงฤดูแล้งที่รุนแรง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะดูแลนางให้ดีเช่นนี้ได้

 

หลังจากที่หยินซื่อพูดจบ หยินสุ่ยที่กำลังตั้งครรภ์ก็ยิ้มหวานให้หูเจียวเจียว “ข้าขอขอบคุณที่แม่หมอช่วยตรวจสุขภาพของข้า ไม่อย่างนั้นลูกของข้าและตัวข้าคงจะตกอยู่ในอันตราย เป็นเพราะแม่หมอช่วยข้าเอาไว้ ครอบครัวของเราเป็นหนี้บุญคุณแม่หมอและท่านแล้ว”

 

หลิงเอ๋อได้ไปตรวจสุขภาพนางด้วยหรือ?

 

จิ้งจอกสาวไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา

 

“ท้องเจ้าโตมากแล้ว เจ้าไม่จำเป็นจะต้องมาที่นี่ด้วยตัวเองหรอก ส่งคนมาบอกหลิงเอ๋อแทนก็ได้ พวกเราเข้าใจ” หูเจียวเจียวจับมือของนางพร้อมกับยิ้มอ่อนโยน

 

“ไม่เป็นไร ลูกในท้องของข้าเชื่อฟังมาก เขาไม่ค่อยดื้อเท่าไหร่” หยินสุ่ยไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น นางจึงพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา

 

หลังจากหญิงสาวได้รับน้ำใจจากใครสักคนแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางก็ต้องมาขอบคุณหมอผีกับหูเจียวเจียวด้วยตนเองให้ได้

 

จากนั้นภูตเผ่าไป๋ผีที่เหลือก็เข้ามาขอบคุณทีละคนแล้วก็พากันแยกย้ายกลับไป

 

ตั้งแต่ที่หยินซื่อพาภรรยาของตนมาแนะนำให้จิ้งจอกสาวรู้จัก เขาก็ไม่เคยละสายตาจากนางเลย

 

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นชายหนุ่มที่เฝ้ารออยู่ด้านข้างเริ่มมีท่าทางประหม่า เธอก็อดยิ้มไม่ได้

 

คู่หนุ่มสาว 2 คนนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกันจริง ๆ

 

หลังจากจิ้งจอกสาวได้เห็นฉากดังกล่าว ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมหยินซื่อจึงสามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด

 

 

“นี่หลิงเอ๋อ! นั่นไม่ใช่ยารักษาบาดแผล แต่มันเป็นยาสำหรับบำรุงผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เจ้าอย่าได้เข้าใจผิดเชียว!”

 

ในถ้ำของหมอ หมอจิ้งจอกวัยชราที่เห็นเด็กหญิงตัวน้อยวิ่งออกไปพร้อมกับสมุนไพรในอ้อมแขน เขาจึงรีบตามไปจับตัวนางเอาไว้

 

หยินชางซึ่งติดตามหลงหลิงเอ๋อไปก็ชะลอตัวลง ก่อนจะหันกลับไปหาหมอเฒ่าแล้วพูดว่า

 

“นางไม่ได้เข้าใจผิด”

 

“ไอ้หนู!” หมอชราวิ่งตามเด็กทั้ง 2 ไปจนหมดแรงจึงหยุดพักหายใจเพื่อกอบโกยอากาศเข้าปอด

 

เมื่อเขามองดูเด็กน้อย 2 คนที่วิ่งหนีไปแบบไร้ร่องรอย เขาก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: พ่อตอบฉลาดมาก แต่พ่อน่าจะได้กลิ่นอะไรทะแม่ง ๆ จากแม่หรือเปล่านะ?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.