บทที่ 555: ฝันที่เป็นลางบอกเหตุ

-A A +A

บทที่ 555: ฝันที่เป็นลางบอกเหตุ

ภาพที่ปรากฏหลังจากหมอกหนาจางหายไปทำให้หูเจียวเจียวตกใจมาก

 

หญิงสาวเพิ่งรู้ว่าหมอกที่บดบังอยู่รอบ ๆ ไม่ใช่หมอกจริง ๆ แต่มันเป็นควันที่เกิดจากไฟพวกนี้ต่างหาก

 

ทว่าในตอนนั้นเธอไม่ได้กลิ่นควันหรือไม่รู้สึกหายใจไม่ออกเลย

 

วินาทีต่อมา เธอรีบวิ่งไปข้างหน้าด้วยความตื่นตระหนก ระหว่างทางเธอเห็นแต่ภาพนองเลือดอันน่าสลดใจอยู่เต็มท้องถนน 

 

“หลงโม่! หลิงเอ๋อ! อวี้เอ๋อ! ทุกคน…”

 

“พวกเจ้าอยู่ที่ไหน!?”

 

จิ้งจอกสาวเร่งฝีเท้าของตัวเองให้เร็วขึ้น เธอวิ่งไปข้างหน้าไม่หยุดในขณะที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงไม่มองศพที่อยู่ข้างทางเพราะเธอเริ่มรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ

 

ทันใดนั้นเธอก็สะดุดอะไรบางอย่างที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า มันทำให้เธอล้มลงกับพื้น

 

ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าซีดเซียวไร้ชีวิตก็ปรากฏสู่สายตาของหูเจียวเจียว ดวงตาที่เบิกโพลงของคนคนนั้นแดงก่ำ ปากเปิดกว้าง พร้อมกับมือทั้ง 2 ข้างที่ยังคงจับคอตัวเองเอาไว้แน่นราวกับว่าเจ้าตัวถูกบีบคอจนตาย

 

ภาพเบื้องหน้าส่งผลให้หัวใจของหญิงสาวหยุดเต้นกะทันหัน แล้วเธอก็อุทานออกมาเสียงดัง

 

“หลิงเอ๋อ!!” 

 

“เจียวเจียว เจ้าเป็นอะไรไป!?” 

 

“เฮือก!” หูเจียวเจียวลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืดมิด พร้อมกับเสียงที่คุ้นเคยของหลงโม่ถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง

 

ในไม่ช้าจิ้งจอกสาวก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นทันที

 

ตอนนั้นเองที่เธอตระหนักได้ว่าร่างของตนเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ มือและเท้าของเธอเย็นเหมือนนอนอยู่ในห้องเก็บน้ำแข็งใต้ดินทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เป็นฤดูร้อน

 

พอหญิงสาวเงยหน้าขึ้นก็สบเข้ากับดวงตาเป็นกังวลของคนรัก 

 

“หลงโม่...” เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าคนตรงหน้าคือใคร สติของเธอก็กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว แล้วเธอก็หวนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ที่ตนเห็นเมื่อสักครู่ ซึ่งมันทำให้เธอต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่

 

“เจ้าฝันร้ายหรือ? เมื่อกี้ข้าปลุกเจ้า แต่เจ้าก็ไม่ยอมตื่นขึ้นมา” คิ้วของหลงโม่ขมวดแน่น ในขณะที่เขาถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด 

 

ระหว่างนั้นมังกรหนุ่มเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าของจิ้งจอกสาวอย่างอ่อนโยน

 

ทางด้านหูเจียวเจียวส่ายหัวเบา ๆ หลังจากเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็ตัดสินใจพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า

 

“ข้าฝันว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเผ่าเยว่หูและหลิงเอ๋อด้วย...”

 

จิ้งจอกสาวเว้นจังหวะไปพักหนึ่ง จากนั้นเธอก็ไม่คิดที่จะปิดบังอะไรอีก เธอเล่าทุกอย่างที่ตัวเองเห็นในฝันให้กับผู้เป็นสามีฟังอย่างละเอียดโดยไม่พลาดแม้แต่จุดเดียว

 

ภาพในฝันยังคงสะท้อนอยู่ในใจของเธอไม่หยุด มันเหมือนกับมีมือปริศนาที่มองไม่เห็นกำลังบีบคอเธอเอาไว้จนทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก

 

หลงโม่เองก็สังเกตเห็นว่าหูเจียวเจียวทำตัวผิดปกติไปจากเดิม เขาจึงดึงอีกฝ่ายเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของตัวเองเพื่อปลอบโยนนาง

 

“ไม่เป็นไร ข้าจะปกป้องทั้งเจ้า หลิงเอ๋อ และลูก ๆ เอง ทุกคนจะต้องไม่เป็นอะไร” 

 

มังกรหนุ่มกล่าวเสียงหนักแน่น ทำให้คนที่ได้ฟังรู้สึกปลอดภัย

 

ต่อมา หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วผ่อนลมหายใจหนัก ๆ เพื่อระบายความอัดอั้นในใจออกมา

 

ในตอนนั้นเองที่เธอรู้สึกว่าภาพในฝันไม่ได้ตามมาหลอกหลอนเธออีกต่อไป

 

“เจียวเจียว เสื้อผ้าของเจ้าเปียกหมดแล้ว เจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ” เมื่อหลงโม่เห็นว่าหูเจียวเจียวหน้าซีด แถมเนื้อตัวก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาจึงเอ่ยเตือนอีกฝ่าย

 

ขณะนั้นหญิงสาวทำเพียงแค่พยักหน้าตอบ

 

ปัจจุบันร่างกายของเธอเปียกเหงื่อ นอกจากจะทำให้เธอรู้สึกอึดอัดแล้ว มันยังส่งผลให้เธอหวนนึกถึงภาพศพและรอยเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่วพื้นในฝัน

 

หูเจียวเจียวบอกไม่ได้ว่าเธอฝันร้ายเช่นนี้เป็นเพราะเธอมองภาพศพในป่าเมื่อตอนกลางวันจนกลายเป็นภาพติดตา หรือว่ามันเป็นความฝันที่เตือนเธอล่วงหน้าเหมือนทุกที

 

นี่เป็นความฝันที่เตือนเธอว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นอีกหรือเปล่า?

 

ในความฝันคนในเผ่าและหลิงเอ๋อเสียชีวิต ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาตายด้วยโรคร้ายแรง และสภาพการตายนั้นน่ากลัวมากเพราะศพของพวกเขามันบ่งบอกว่าทุกคนได้รับความเจ็บปวดทรมานก่อนที่จะสิ้นลมหายใจ 

 

ขณะที่จิ้งจอกสาวกำลังคิด มังกรหนุ่มก็นำเสื้อผ้าสะอาดมามอบให้เธอ

 

จากนั้นเขาก็ออกไปหยิบกะละมังใส่น้ำมาให้ด้วย

 

หูเจียวเจียวได้แต่รับมันมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ จนในที่สุดเธอก็รู้สึกสบายตัวขึ้น แต่ความกลัวในหัวใจของหญิงสาวยังคงไม่ลดลง 

 

ดังนั้นเธอจึงบอกหลงโม่เกี่ยวกับการคาดเดาในตอนนี้

 

หญิงสาวกังวลว่าจะเกิดโรคระบาดขึ้นในเผ่า

 

เมื่อเธอนึกถึงสภาพของหลิงเอ๋อในฝัน เธอก็รู้สึกใจสั่นขึ้นมาอีกครั้ง

 

“เจ้าไม่ต้องกังวล ในเมื่อความฝันได้เตือนพวกเราล่วงหน้าแล้ว พรุ่งนี้เช้าข้าจะไปหารือกับหัวหน้าหลิน พวกเราจะได้เสริมการป้องกันในเผ่าให้มากขึ้น” 

 

ใบหน้าที่ปกติมักจะเรียบเฉยของชายหนุ่มแสดงออกถึงความตึงเครียด พอเห็นว่าภรรยาสาวยังคงรู้สึกกังวล เขาจึงปลอบนางด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม

 

“ตกลง พรุ่งนี้เช้าเรารีบไปหาพ่อรองกัน” หูเจียวเจียวพยักหน้ารับโดยง่าย เพราะนั่นคือทั้งหมดที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้

 

ทั้งที่ปัจจุบันยังเป็นเวลากลางดึกอยู่ แต่จิ้งจอกสาวก็ไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด เธอนอนไม่หลับจนกระทั่งรุ่งสาง

 

หลงโม่เองก็คอยอยู่เป็นเพื่อนเธอตลอดทั้งคืน และในรุ่งเช้าของวันถัดไป เขาก็ลุกขึ้นจากเตียงออกจากบ้านไปพร้อมกับหูเจียวเจียว

 

ทั้งคู่เดินทางไปพบหูหลินแล้วพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด

 

อย่างไรก็ตาม หูเจียวเจียวไม่ได้บอกพ่อรองเกี่ยวกับเรื่องฝันที่เป็นลางบอกเหตุของเธอโดยตรง สาเหตุที่เธอทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่เชื่อใจเขา แต่เป็นเพราะเธอไม่อยากสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนอื่นโดยไม่จำเป็นมากกว่า

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตด้วยความหวัง ต่อให้มันจะมีเพียงน้อยนิดก็ตาม

 

หากทุกคนรู้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายของเผ่าคือทุกคนจะต้องตาย แล้วใครจะไปมีกำลังใจที่อยากจะลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดอีก? ในตอนนั้นใจของพวกเขาคงสลายและไม่มีกะจิตกะใจอยากทำอะไรทั้งสิ้น 

 

แบบนี้มันจะไม่เป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าความตายอีกหรือ?

 

หลังจากปรึกษาหารือกับหูหลินแล้ว หูเจียวเจียวกับหลงโม่ก็ตัดสินใจใช้ข้ออ้างว่าเทพอสูรมอบนิมิตให้กับเธอ โดยการบอกว่าเทพอสูรมาเตือนจิ้งจอกสาวว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นในเผ่าเยว่หู แล้วให้พวกเขาระวังตัวเอาไว้

 

ทางด้านพ่อจิ้งจอกวัยกลางคนไม่รู้สึกสงสัยเลยแม้แต่น้อย หลังจากได้ยินสิ่งที่ลูกสาวบอก สีหน้าของเขาก็จริงจังขึ้นมาทันที

 

“เจียวเจียว ถ้าในเผ่านี้เกิดโรคระบาด เราจะทำยังไงกันดี ไม่งั้นเอาแบบนี้ดีไหม เราจะไม่รับคนอื่นเข้ามาร่วมเผ่าอีก!” ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นกับเผ่าเยว่หู เพราะถึงอย่างไรเผ่านี้ก็เป็นเผ่าที่เขาก่อตั้งขึ้นมาด้วยตัวเอง

 

นี่เป็นบ้านใหม่ที่เขาสร้างขึ้นเพื่อหมินหมิ่น มันถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาพบกันอีกครั้งของพวกเขาทั้ง 2

 

ทว่าหูเจียวเจียวส่ายหัว “เราไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น พวกภูตอาจจะไม่ใช่ตัวกลางที่นำโรคเข้ามา เรายังสามารถรับพวกเขาเข้าร่วมเผ่าได้ ไม่อย่างนั้นข้างนอกก็จะมีคนนอนตายมากยิ่งขึ้น แล้วพวกเขาก็จะขวางกั้นอยู่ที่ประตูของเผ่าและยังทำให้เกิดความตื่นตระหนก สุดท้ายแล้วเผ่าก็จะตกอยู่ในอันตรายอยู่ดี”

 

ในเวลานั้นภูตของเผ่าจะไม่สามารถออกไปล่าสัตว์ได้อีก นี่มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาวเลย 

 

มิหนำซ้ำ ผู้คนก็จะมายืนรวมตัวกันอยู่ที่ทางเข้าของเผ่ามากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด หากเป็นเช่นนี้โรคระบาดก็จะยิ่งแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น

 

สำหรับแผนการปัจจุบัน เผ่าทำได้เพียงใช้มาตรการป้องกันได้เท่านั้นโดยที่พวกเขาจะต้องดำเนินการทีละขั้นตอนอย่างระมัดระวัง

 

นอกจากนี้หูเจียวเจียวยังได้บอกวิธีป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคให้กับหูหลิน รวมถึงเพิ่มรายละเอียดอีกมากมายจากข้อมูลที่เธอบอกเมื่อหลายวันก่อน ไม่นานผู้เป็นหัวหน้าเผ่าเยว่หูก็ส่งคนไปสอนความรู้ดังกล่าวให้แก่คนในเผ่าแล้วตั้งข้อกำหนดเพิ่มเติมขึ้นมาให้ทุกคนทำตามอย่างเคร่งครัด   

 

เนื่องจากเหล่าภูตรู้สึกซาบซึ้งที่เผ่ารับตนเข้ามา ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิบัติตามกฎที่ถูกกำหนดใหม่โดยไม่มีข้อกังขา

 

หลังจากทั้งคู่ออกมาจากที่พักของพ่อรองแล้ว จิ้งจอกสาวก็เข้าไปในมิติตามลำพังในขณะที่มังกรหนุ่มออกไปล่าสัตว์ ในที่สุดเธอก็มาหยุดยืนอยู่ตรงชั้นวางที่มีหนังสือทางด้านการแพทย์

 

เธออ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดทั้งหมด รวมถึงค้นหายาปฏิชีวนะและยารักษาโรคต่าง ๆ

 

แม้ว่าตอนนี้โรคระบาดจะยังไม่เกิดขึ้น แต่เธอก็ควรเตรียมความพร้อมเอาไว้ล่วงหน้าดีกว่าไม่ลงมือทำอะไรเลย

 

ยิ่งไปกว่านั้น หูเจียวเจียวยังได้นำยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันออกมามากมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย 

 

เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยของคนในครอบครัว เธอจึงคิดหาวิธีที่จะมอบของบำรุงพวกนี้ให้กับพวกลูก ๆ หูหมิน หูเฉียงและหูหลิน 

 

หากเกิดโรคระบาดขึ้นมาจริง ๆ คนที่อ่อนแอที่สุดแล้วไวต่อโรคมากที่สุดก็คือเด็กกับผู้สูงวัย

 

หลังจากจิ้งจอกสาวจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ในที่สุดหัวใจที่หนักอึ้งเหมือนมีหินก้อนใหญ่มาถ่วงเอาไว้ของเธอก็เริ่มเบาลง

 

แล้วช่วงเวลานั้นก็ผ่านไปในพริบตา

 

ทุกอย่างในเผ่ายังคงดำเนินไปตามปกติ ซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะเกิดเรื่องใหญ่อะไรเลยราวกับว่าความฝันของหญิงสาวก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ฝันร้ายธรรมดา

 

แต่หูเจียวเจียวก็ยังไม่กล้าผ่อนคลายความระมัดระวังลง เธอได้ส่งจดหมายไปถึงเผ่าเฟิงโชวโดยบอกให้ท่านผู้เฒ่าเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังในแบบเดียวกับเผ่าเยว่หู

 

ขณะเดียวกัน 

 

ในที่สุดหยินซางก็จับเหยื่อมาได้ตามที่หยินเสวี่ยบอกแล้วเอามันส่งไปให้นาง

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ไม่น้าาาา ฝันน่ากลัวมาก รู้สึกว่าเจียวเจียวจะไม่ได้ฝันร้ายเกี่ยวกับครอบครัวแบบนี้มานานแล้ว ; - ;

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.