ตอนที่ 375 โจมตี!

ในห้องบัญชาการเบโอเนท

เซี่ยเฟยกำลังถือถ้วยน้ำชาและมองไปยังยานรบนับหมื่นที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

แต่ทันใดนั้นมือขวาของเขาก็สั่นขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่จะปล่อยให้ถ้วยชาหล่นลงไปจนเลอะกางเกง

“นายกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย ผู้ใช้ความเร็วที่ไหนทำน้ำชาเลอะกางเกงตัวเองแบบนี้” อันธกล่าวอย่างหยอกล้อ

“จู่ ๆ เมื่อกี้ฉันก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดกางเกงที่เปียกชา

“มันเป็นสัญชาตญาณของผู้ที่เปิดพื้นที่สมองส่วนที่ 7 อย่างสมบูรณ์อีกแล้วสินะ” อันธกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ

เซี่ยเฟยยักไหล่โดยไม่เถียงอะไรกลับไป แต่ภายในใจของเขากลับรู้สึกหวิว ๆ อย่างอธิบายไม่ถูกราวกับว่าสิ่งที่เขาห่วงใยมันกำลังจะหายจากเขาไป

ชายหนุ่มเงยหน้ามองนาฬิกาซึ่งแสดงเวลาประมาณ 6 โมงเช้า เวลานี้แอวริลคงจะยังนอนอยู่บนเตียง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเธอจะฝันร้ายไหม, เธอจะเตะผ้าห่มลงจากเตียงหรือไม่ หรือว่าจะมีน้ำลายเล็ก ๆ ไหลหยดมาจากมุมปากหรือเปล่า

‘ภาพที่แอวริลนอนน้ำลายไหลมันจะต้องเป็นภาพที่น่ารักมาก ๆ เลยใช่ไหม?’ เซี่ยเฟยคิดภายในใจพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

แต่ทันใดนั้นภาพหน้าจอก็ปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติ ซึ่งมันเป็นการเชื่อมต่อฉุกเฉินที่กรมทหารบังคับทำการเชื่อมต่อกับยานทุกลำในกองยานการค้า!!

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึง และเขาก็เดินเข้าไปใกล้หน้าจอมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อจะมองไปยังสีหน้าของวิลเลียมที่จริงจังมากกว่าปกติ

เซี่ยเฟยรู้จักกับวิลเลียมมาสักพักแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยเห็นชายชราแสดงความตึงเครียดออกมามากเท่านี้มาก่อน!

“เมื่อ 3 นาทีที่แล้วมีกองยานของเซิร์กปรากฏตัวขึ้นห่างจากนครหลวงประมาณ 4.9 ล้านปีแสง และพวกมันยังทำลายยานสอดแนมของพวกเรา 1 ลำ จากนั้น 15 นาทีต่อมาประธานาธิบดีของพันธมิตรจึงได้ประกาศเข้าสู่สภาวะสงครามกับเซิร์กอย่างเป็นทางการ”

ลูกเรือในกองยานการค้าทุกคนต่างก็อ้าปากค้าง เพราะมันไม่มีใครเคยคาดคิดว่าจู่ ๆ มันจะมีกองยานของเซิร์กไปปรากฏตัวใกล้กับนครหลวงของพันธมิตรได้มากขนาดนั้น

ระยะห่าง 4.9 ล้านปีแสงคล้ายกับเป็นระยะทางที่ห่างกันอย่างยาวนาน แต่ความเป็นจริงมันกลับใช้ระบบวาร์ปมุ่งหน้าเข้าสู่นครหลวงในเวลาเพียงแค่ 4 วันเท่านั้น

อย่างไรก็ตามกองยานส่วนใหญ่ของพันธมิตรได้มากระจุกตัวกันอยู่ตรงบริเวณริมชายแดน มันจึงแทบจะไม่เหลือกองกำลังป้องกันอยู่บริเวณใกล้ ๆ กับนครหลวงของพันธมิตรเลย

กลอุบายนี้เป็นกลอุบายที่แยบยลมาก เพราะพวกเซิร์กได้สร้างแผนการเข้าจู่โจมพื้นที่ใจกลางพันธมิตร โดยหลอกล่อกองกำลังป้องกันเกือบทั้งหมดออกไป

“พวกเราถูกหลอก หลังจากนี้ทางกรมทหารต้องจัดประชุมรับมือการจู่โจมของพวกเซิร์กอย่างกะทันหัน มันจึงไม่มีใครคอยดูแลพวกคุณอีกแล้ว”

“ตอนนี้กองกำลังเซิร์กด้านหน้าพวกคุณน่าจะยังไม่รู้เรื่องการประกาศสงคราม ถ้าพวกคุณหนีได้ก็ให้รีบหนีเลย หลังจากนี้ผมคงพูดได้แค่ว่าขอให้พวกคุณโชคดี” วิลเลียมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

วิลเลียมได้ประกาศออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าทางพันธมิตรไม่พร้อมที่จะสนับสนุนกองยานการค้าอีกต่อไป คำถามเดียวคือพวกเขาจะสามารถหลบหนีไปภายใต้กองยานเซิร์กนับร้อยได้จริง ๆ เหรอ?

อย่างไรก็ตามมันก็ยังเป็นเรื่องโชคดีที่เซี่ยเฟยได้ทำการติดตั้งระบบเรดาร์แบล็คแบทให้กับยานทุกลำในกองยานนี้ มันจึงทำให้พวกเขารู้ข่าวคราวการเคลื่อนไหวก่อนพวกเซิร์กอยู่เล็กน้อย ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาพอจะมีเวลาเพื่อวางแผนหลบหนีออกไปจากสถานการณ์อันเลวร้าย

แต่น่าเสียดายที่มนุษย์มักจะตื่นตระหนกก่อนตั้งสติ ดังนั้นทันทีที่ทุกคนได้ยินว่ากองทัพจะไม่ทำการสนับสนุนพวกเขาอีกต่อไปแล้ว ลูกเรือทั่วทั้งกองยานต่างก็ตกอยู่ในอาการสติแตกอย่างรวดเร็ว

โชคดีที่เซี่ยเฟยซ่อนความลับบนยานเอาไว้มากเกินไป เขาจึงปฏิเสธที่จะให้มีลูกเรือขึ้นมาอยู่บนยานลำเดียวกับเขา ดังนั้นมันจึงไม่มีใครเข้ามารบกวนความคิดของชายหนุ่มโดยปริยาย แต่สิ่งที่อยู่ในความคิดของเซี่ยเฟยในขณะนี้กลับไม่ใช่วิธีการหลบหนี เพราะเขากำลังเป็นห่วงความปลอดภัยของแอวริล

ดูเหมือนว่าหญิงสาวคนนี้จะกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเขาไปแล้ว ดังนั้นถึงแม้ว่าทั้งสองจะอยู่ห่างกันคนละฟากฝั่งของชายแดน แต่พวกเขากลับรู้สึกเป็นห่วงกันและกันอยู่เสมอ

กองยานเซิร์กอยู่ห่างจากพันธมิตรเพียงแค่ 4 วัน มันจึงทำให้สถานการณ์ของแอวริลกำลังตกอยู่ในอันตราย แล้วมันก็เป็นเหตุผลให้เซี่ยเฟยรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก

“ที่นครหลวงเหลือกองยานป้องกันอยู่กี่กอง? แบบนี้พวกคุณจะสามารถป้องกันการรุกรานจากเซิร์กได้หรือเปล่าครับ?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับใช้มือกุมหน้าอกอย่างกังวลใจ

วิลเลียมผงะไปชั่วครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะส่ายหัวอย่างหมดหนทาง ซึ่งตามปกติแล้วจอมพลแห่งกรมทหารไม่ควรที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ง่าย ๆ แบบนี้ แต่เซี่ยเฟยฉลาดหลักแหลมมากเกินไปมันจึงทำให้วิลเลียมทำได้เพียงแต่ส่ายหัวยอมรับตามตรง

แต่เดิมเขาก็รู้สึกผิดกับทุกคนที่เดินทางไปพร้อมกับกองยานการค้าอยู่แล้ว เขาจึงไม่สามารถที่จะทำใจหลอกลวงเซี่ยเฟยอีกครั้งได้จริง ๆ

“ผมฝากคุณดูแลแอวริลด้วย” เซี่ยเฟยตะโกนเสียงดัง แต่น่าเสียดายที่ก่อนเขาจะพูดจบมันก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

เมื่อได้รู้ว่าพวกเขาถูกกรมทหารทอดทิ้ง ยานอวกาศหลายลำก็เริ่มเปิดระบบวาร์ปโดยไม่ฟังคำสั่ง และการกระทำของพวกเขาก็ได้กระตุ้นให้พวกเซิร์กทำการเคลื่อนไหว

เมื่อยานมนุษย์ลำแรกเปิดระบบวาร์ปผู้บัญชาการเซิร์กก็ออกคำสั่งโจมตีทันที มันจึงได้มีเสียงระบบ AI แจ้งเตือนขึ้นมาจากระบบของตัวยาน

“คำเตือน! ยานรบของศัตรูกำลังพยายามล็อกเป้าหมายมาที่ยานของคุณ ระบบอาวุธของข้าศึกเริ่มทำการชาร์จพลังแล้ว มันอาจจะมีการจู่โจมเข้ามาได้ทุกเมื่อ”

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้เซี่ยเฟยไม่สนใจที่จะสนทนากับวิลเลียมอีกต่อไป เขาจึงรีบหันไปสั่งการระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม

“เปิดใช้งานระบบล่องหนเดี๋ยวนี้! แล้วรีบเคลื่อนที่ออกห่างจากกองยานทั้งหมด”

แว๊บ!

ในเวลาไม่ถึง 2 วินาทีเบโอเนทก็หายไปจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ซึ่งมันก็ทำให้ยานรบของเซิร์กไม่สามารถจะล็อกเป้ามายังยานรบของเขาได้

น่าเสียดายที่ยานอวกาศลำอื่น ๆ โชคไม่ดีนัก เสียงคอมพิวเตอร์ AI จึงยังคงรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากว่ามันมียานรบล็อกเป้าไปที่ยานของพวกเขามากเกินไป มันจึงทำให้แม้แต่คอมพิวเตอร์ AI ก็ยังรายงานสถานการณ์ขึ้นมาไม่ทัน

โชคดีที่เซี่ยเฟยยอมทุ่มเงินซื้อเครื่องล่องหนของเอสทาเมลมาจนได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่สามารถหลบหนีออกไปจากสถานการณ์อันตรายครั้งนี้ได้จริง ๆ

แต่การล่องหนอย่างเดียวมันคงยังไม่พอ เพราะมันมียานรบล้อมรอบบริเวณนี้อยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน

ยานรบเซิร์กค่อย ๆ รุกคืบเข้ามาอย่างช้า ๆ ขณะที่ยานอวกาศของมนุษย์กำลังพยายามกระจัดกระจายกันหลบหนีอย่างสิ้นหวัง ซึ่งถ้าหากว่ามันมียานลำใดเผลอหลบหนีมาชนเบโอเนทหรือหากเบโอเนทถูกลูกหลงจากการจู่โจมของพวกเซิร์ก คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นก็จะทำให้ระบบล่องหนหยุดทำงานทันที และในเวลานั้นชายหนุ่มก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไม่ต่างไปจากยานมนุษย์ลำอื่น ๆ เลย

“เปิดระบบวาร์ปฉุกเฉินเดี๋ยวนี้!” เซี่ยเฟยตะโกนออกคำสั่งอย่างสิ้นหวัง

ในสถานการณ์ปัจจุบันเขาไม่มีเวลาที่จะให้ยานรบทำการคำนวณตำแหน่งเป้าหมายในการวาร์ปแล้ว เขาจึงออกคำสั่งให้เปิดระบบวาร์ปฉุกเฉินเพื่อพยายามหลบหนีออกไปจากตรงนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด จากนั้นเขาค่อยพยายามหาทางกลับไปยังพันธมิตร ส่วนเรื่องอื่นเขาค่อยกลับมาคิดในภายหลัง

ทันใดนั้นรูหนอนล่องหนก็ค่อย ๆ ถูกสร้างขึ้นตามคำสั่ง แต่การพยายามเคลื่อนที่เข้ารูหนอนนี้กลับเป็นเรื่องอันตรายอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ผลลัพธ์ที่จะตามมา

ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์เอสทาเมลได้ใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่ได้รับการทดสอบเพื่อสร้างระบบวาร์ปแบบล่องหนขึ้นมา มันจึงทำให้รูหนอนที่ถูกสร้างมีความเสถียรน้อยกว่ารูหนอนโดยทั่วไป และมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงการพยายามสร้างรูหนอนโดยไม่คำนวณจุดหมายปลายทางเลย

สิ่งที่เซี่ยเฟยกำลังทำคือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มนุษย์ได้ใช้ระบบวาร์ปฉุกเฉินในสภาวะล่องหน มันจึงทำให้ไม่มีใครสามารถคาดเดาสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้โดยสิ้นเชิง!

ปิ้ว! ปิ้ว! ปิ้ว! …

ยานรบหลายหมื่นลำจู่โจมออกมาพร้อมกันจนก่อให้เกิดกลุ่มลำแสงเลเซอร์อันเปล่งประกาย และทำให้พื้นที่บริเวณนี้สว่างไสวไปด้วยแสงที่เกิดขึ้นจากการระเบิด

น่ากลัว!

สิ้นหวัง!

มันคงไม่มีภาษาใดสามารถอธิบายความพินาศย่อยยับที่เกิดขึ้นกับกองยานการค้าของมนุษย์ได้ และยิ่งเวลาได้ผ่านพ้นไปมันกลับได้มีแสงระเบิดของยานรบเพิ่มขึ้นมามากขึ้นเรื่อย ๆ

ตูม! 

ยานรบลำหนึ่งถูกทำลายขณะที่มันกำลังเคลื่อนที่เข้าไปในรูหนอนได้เพียงแค่ครึ่งลำ แล้วมันก็ทำให้รูหนอนนั้นถูกบังคับให้ปิดตัวลงอย่างกะทันหัน และทำให้ห้วงอวกาศบริเวณนั้นเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง

ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทียานครุยเซอร์ 36 ลำ, ยานประจัญบาน 2 ลำและยานบรรทุกสินค้า 12 ลำก็ได้ถูกทำลายลงไปทั้งหมด ทำให้ห้วงอวกาศในบริเวณนี้เต็มไปด้วยเศษโลหะที่เคยเป็นยานอวกาศของทางฝั่งเผ่าพันธุ์มนุษย์มาก่อน

ขณะเดียวกันเบโอเนทก็กำลังเคลื่อนที่เข้าสู่รูหนอนล่องหน แต่เนื่องจากความผันผวนในอวกาศอย่างรุนแรง มันจึงทำให้เศษซากยานอวกาศนับไม่ถ้วนถูกพัดพามาให้ขวางทางการเคลื่อนที่ของเบโอเนท

ปัง ปัง ปัง!

เศษโลหะพุ่งเข้าใส่เบโอเนททีละนิดจนทำให้ระบบล่องหนถูกบังคับให้หยุดลงในที่สุด

เมื่อเซิร์กเห็นว่ายังมียานรบมนุษย์เหลือรอดอยู่หนึ่งลำ พวกมันจึงรีบทำการล็อกเป้าไปยังเบโอเนททันที

“เปิดระบบโอเวอร์โหลด ปิดรูหนอนลงเดี๋ยวนี้!” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการอย่างรวดเร็ว

“อย่า! การบังคับปิดรูหนอนมันจะทำให้ห้วงมิติเกิดความผันผวน” อันธตะโกนขึ้นมาด้วยดวงตาอันเบิกกว้าง

“ถ้าฉันไม่ทำพวกเราก็คงจะถูกทำลายอยู่ตรงนี้!!”

หากรูหนอนปิดตัวลงตามเวลาปกติเขาคงไม่สามารถหลบการโจมตีได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่อย่างน้อยหากเขาบังคับปิดรูหนอนลงเขาก็ยังพอเหลือความหวังที่จะรอดชีวิต!

คลื่นนน!

เบโอเนทเร่งความเร็วเข้าสู่รูหนอนอย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมจนทำให้ทั่วทั้งตัวยานตกอยู่ในอาการสั่นอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันรูหนอนก็ค่อย ๆ หดตัวลงอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กับยานของเซิร์กที่เริ่มเปิดการโจมตี

จิ้ว!

แม้ว่าการจู่โจมในครั้งนี้จะไม่กระทบกับเป้าหมาย แต่มันกลับทำให้ความผันผวนในรูหนอนเกิดอาการไม่เสถียรมากขึ้นกว่าเดิม!

ฟุบ!

รูหนอนปิดตัวลงแต่เซี่ยเฟยต้องจับเก้าอี้เอาไว้แน่นพร้อมกับจ้องมองไปด้านหน้าด้วยแววตาอันแน่วแน่ ขณะที่รูหนอนอันเปราะบางกำลังพังทลายตามหลังเบโอเนทอย่างรวดเร็ว จนทำให้ในครั้งนี้ชีวิตของชายหนุ่มกำลังถูกแขวนเอาไว้บนเส้นด้ายแล้วจริง ๆ

***************

จบแล้วสำหรับเนื้อหาของ E-Book เล่ม 6 หลังจากนี้จะเริ่มเข้าสงครามอย่างเต็มรูปแบบแล้วน๊า

เราขออนุญาตประกาศแจ้งข่าว E-Book เล่ม 6 จะวางขายวันที่ 16 ก.ค. 2566 นี้นะคะ สำหรับใครที่อยากอ่านแบบยาว ๆ หรือเก็บไว้สะสม เราก็ขอให้คิดพิจารณาพี่เฟยไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ และตอนนี้ E-Book เล่ม 2 กำลังลดราคากว่า 50% อยู่ก็สามารถซื้อกันได้น๊า ขอบคุณทุกคนมากจริงๆนะคะ (´▽｀).。ｏ♡

ช่องทาง MEB >> https://bit.ly/3NZ3Qca   ช่องทางปิ่นโต >> https://bit.ly/3M9vXUI