บทที่ 85: เจียวเจียวเป็นคนมีเหตุผลแล้ว
ในตอนนี้มีผู้ชาย 4 คนแหวกฝูงชนออกมาจากตรงกลางซึ่งมีภูตวัยกลางคนทั้ง 2 ตามชายหนุ่มเหล่านั้นออกมาด้วย
ครู่ต่อมา ภูตทั้ง 6 ก็วิ่งไปหาหูเจียวเจียวแล้วขวางทุกคนเอาไว้
ใบหน้าของหูเฉียงเคร่งเครียดและเสียงที่ดังกังวานของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ “ใครที่มันกล้าแตะต้องลูกของข้า ข้าจะไม่เอาพวกเจ้าไว้แน่!”
บัดนี้ชายหนุ่มทั้ง 4 ยืนขวางทุกคนไว้ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตพลางจ้องมองภูตที่อยู่รายรอบด้วยสายตาดุดันพร้อมกับปกป้องหูเจียวเจียวที่อยู่ตรงกลางเอาไว้
ขณะที่ข้างในมีหูหมินกำลังร้องไห้กอดลูกสาวโดยใช้ร่างกายของตนปกป้องเธอไว้อีกที “เจียวเจียว ไม่ต้องกลัวนะ แม่จะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอะไร ถ้าพวกเขาอยากจะพาตัวเจ้าไป พวกเขาต้องก้าวข้ามศพของแม่ไปก่อน!”
“ท่านพ่อ! ท่านแม่! พี่ชาย...”
เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นคนกลุ่มนี้ เธอก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ความรู้สึกร้อนผ่าวที่ปลายจมูกทำให้เสียงของเธอสั่นโดยไม่รู้ตัว
เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นครอบครัวของเจ้าของร่างเดิมที่ลุกขึ้นมาปกป้องตนเองในช่วงเวลาที่สำคัญ
“น้องเล็ก เจ้าไม่ต้องกลัว เราอยู่ที่นี่แล้ว เราจะไม่ปล่อยให้เจ้าตกอยู่ในอันตราย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่จะช่วยเจ้าเอง!”
หูชิงซาน พี่ชายคนโตของหูเจียวเจียวเป็นคนพูดขึ้นมา เขามีร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกำยำ และคำพูดของเขาก็ทรงพลังมาก
ทันทีที่เขาพูดจบ ชายหนุ่มอีก 3 คนที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็พยักหน้ารับพร้อมเพรียงกันด้วยท่าทางที่ไม่ยอมแพ้ “พี่ใหญ่พูดถูก เราจะปกป้องเจ้าเอง จะไม่มีใครหน้าไหนมารังแกน้องสาวของเราได้!”
คนทั้ง 6 ในครอบครัวจิ้งจอกตามใจหูเจียวเจียวแบบไม่มีเงื่อนไข พวกเขาเชื่อใจหญิงสาวอย่างหมดใจมาตลอด
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกสะเทือนใจ ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไร ภูตชาย 2 คนที่ถูกพวกเขาผลักออกไปก็กัดฟันด้วยความโกรธ
“หูเฉียง นางอยากจะฆ่าพวกเราทั้งหมด ถ้าพวกเจ้าเข้ามาขัดขวาง นางจะถูกขับไล่ออกจากเผ่า!”
ทันใดนั้น หูเจียวเจียวก็ตาสว่างขึ้นมาทันที
ใช่แล้ว! ในหนังสือบรรยายว่าครอบครัวนี้ประสบกับชะตากรรมที่น่าสลดใจเพราะเจ้าของร่างเดิม แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คล้าย ๆ แบบนี้ ปัจจุบันเส้นเรื่องเปลี่ยนไปแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าผลลัพธ์ต่อไปจะทำให้ตอนจบของพวกเขาแย่ลงกว่าเดิมหรือไม่
คราวนี้เธอต้องเป็นฝ่ายปกป้องพวกเขา!
“ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไร แค่ข้าต้องอยู่คนเดียวไม่กี่วันเท่านั้น ท่านไม่เชื่อหรือว่าข้าบริสุทธิ์? ข้าจะกลับมาเมื่อพวกอิงหยวนกำจัดภูตเร่ร่อนได้สำเร็จ”
หูเจียวเจียวดึงมือหญิงวัยกลางคนที่กอดตัวเธอไว้ออกไปและพูดด้วยสายตาจริงจัง
“แน่นอน เราเชื่อเจ้า แต่...”
“พอแล้ว ท่านรีบพาท่านพ่อและพี่ ๆ กลับไปก่อน ข้าจะไม่เป็นไร หัวหน้าเผ่ายังอยากให้ข้าพรวนดินปลูกต้นกล้าผลไม้ดินอยู่ ท่านไม่ต้องห่วง”
จิ้งจอกสาวโน้มตัวเข้าไปใกล้ ๆ หูของผู้เป็นแม่แล้วกระซิบเสียงเบาว่า “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับท่านเพราะข้าเป็นต้นเหตุ ข้าจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”
หลังจากที่หูหมินได้ยินประโยคหลัง ในที่สุดนางก็สงบลง
ถัดมา แม่จิ้งจอกจับมือลูกสาวอีกครั้งเป็นการสั่งลา ในที่สุดนางก็ล่าถอยออกไปพร้อมกับสามีและลูกชายทั้ง 4 คน
ระหว่างนั้นภูตชายทั้ง 2 คนจ้องมองครอบครัวนี้อย่างไม่พอใจ ก่อนจะรีบพาตัวหูเจียวเจียวออกไป
จนกระทั่งแผ่นหลังของทั้ง 3 คนหายไปจากสายตา น้ำสีใสที่หูหมินกลั้นเอาไว้ก็ร่วงหล่นลงมาทีละหยด
หูเฉียงที่อยู่ข้าง ๆ จึงตื่นตระหนก เขารีบช่วยผู้เป็นภรรยาเช็ดน้ำตาพลางพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
“อย่าร้องไห้เลย คนขวางไม่ให้ข้าพาเจียวเจียวกลับมาก็คือเจ้า แต่พอเห็นนางไปแล้วเจ้ายังจะมาร้องไห้อีก ไม่อย่างนั้นข้าจะไปฉกตัวเจียวเจียวกลับมาดีไหม!”
เมื่อหูมินได้ยินแบบนั้นก็รีบคว้าตัวสามีและตบหลังเขา “หยุดนะ เจ้าห้ามไป ข้าแค่สงสารเจียวเจียว ฮือ... เจียวเจียวเป็นคนมีเหตุผลแล้ว ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้สร้างปัญหาให้นางอีก!”
“ตกลง ๆ ข้าฟังเจ้า” ชายวัยกลางคนพยักหน้าซ้ำ ๆ ให้กับภรรยาที่เข้มงวดของตน
อีกด้านหนึ่ง หลงอู่เดินไปที่ด้านข้างของหลงโม่และมองเขาอย่างเย้ยหยัน
“หลงโม่ เจ้าช่างไร้ประโยชน์เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด เจ้าไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องคู่ของเจ้าได้ แล้วปล่อยให้พวกเขาเอานางไปขังไว้ ขยะก็คือขยะวันยันค่ำ ไม่ว่าเจ้าจะไปอยู่ที่ไหน เจ้าก็เป็นขยะ...”
ฝ่ายที่ถูกเหน็บแนมเงยหน้าขึ้นจ้องมองคนพูดด้วยแววตาที่น่ากลัว ดวงตาสีทองคู่นั้นมีเพียงความมืดมิดที่ไม่มีที่สิ้นสุดราวกับปากเหวลึก
“อะไรกัน ดูเจ้าสิ ข้าพูดอะไรผิดไปงั้นรึ?” ดวงตาของหลงอู่เบิกกว้าง ก่อนที่เขาจะยกมือผลักไหล่ของหลงโม่
ขณะนั้นภูตมังกรตัวโตผู้หลงตัวเองจงใจออกแรง 10 ส่วน แต่มันไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายขยับเลย เมื่อได้เห็นอย่างนั้น เขาก็ขมวดคิ้วสงสัย ทั้ง ๆ ที่ไอ้สวะคนนี้ดูไร้ประโยชน์เหมือนเมื่อก่อนเลยไม่ใช่หรือ?
พลันใบหน้าของชายหนุ่มก็สว่างขึ้น
เขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงคิดแบบเหยียดหยามอีกครั้ง
ไอ้ขยะไร้ค่าคนนี้คงกำลังกัดฟันทนอยู่สินะ มันคงกลัวที่จะเสียหน้าต่อหน้าลูก ๆ ของตัวเอง
พอเขาคิดจบแล้วก็ยื่นมือออกไปตบบ่าหลงโม่พร้อมกับยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“แต่ไม่เป็นไร ผู้หญิงตัวเล็กที่ขาวเนียนคนนี้ข้าจะทะนุถนอมเป็นอย่างดีเอง ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ข้าจะช่วยนางสุดความสามารถและช่วยรักนางให้มากกว่าเจ้า ฮ่าๆๆ”
จังหวะนั้นดวงตาของมังกรหนุ่มเปลี่ยนเป็นเย็นชา และนิ้วทั้ง 5 ที่ถูกกำจนแน่นขยับไปคว้าข้อมือของหลงอู่
“ปล่อย”
เสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ชายร่างบึกบึนชะงักค้างไปครู่หนึ่ง พอตั้งสติกลับมาเขาก็พยายามดึงมือออก ก่อนจะพบว่าตนขยับมือไม่ได้ เขาจึงชำเลืองมองชายกระหายเลือดตรงหน้าในขณะที่หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ
ในวินาทีถัดมา หลงโม่สะบัดมืออีกฝ่ายออกแล้วหันกลับมาจับมือหลงหลิงเอ๋อ
“เราไปกันเถอะ กลับบ้านกัน”
จากนั้นหลงอู่ก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาผ่อนคลายลง และยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าของตนที่ปกคลุมไปด้วยเหงื่อเย็นเบา ๆ
เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?
ไอ้ขยะนั่นมีพลังขนาดนี้ได้อย่างไร?
หรือเขามองพลาดไป...
ใช่! ต้องผิดแน่ ๆ!
ถึงยังไงสวะก็คือสวะวันยังค่ำ มันไม่มีทางเอาชนะเขาได้หรอก ตอนนี้มันก็แค่เสแสร้งทำเป็นแข็งแกร่งเวลาอยู่ต่อหน้าลูก ๆ เท่านั้น
ในเวลาเดียวกัน หลงหลิงเอ๋อสลัดมือของพ่อมังกรออกแล้วรีบวิ่งตามหลงอวี้ไปเดินเคียงข้างกับพี่น้องของตน
“ฮึ่ม! ท่านพ่อนิสัยไม่ดี แม้แต่ท่านแม่ก็ไม่สนใจ ข้าไม่อยากให้ท่านพ่อมาจับ”
คำพูดของลูกสาวทำให้สีหน้าของหลงโม่หม่นหมองลง ก่อนที่เขาจะหันไปมองลูกคนอื่น ๆ
แต่เด็กพวกนั้นพากันหันหน้าหนีไปคนละทางโดยที่ไม่มีใครอยากจะมองหน้าเขาเลยสักคน
ในขณะนี้พี่น้องตระกูลหลงจับมือกันพร้อมกับช่วยพยุงหลงเซียวให้เดินไปข้างหน้า
ไม่มีลูกคนไหนอยากจะเดินใกล้ผู้เป็นพ่อเลยสักนิด
มังกรหนุ่มอดที่จะขมวดคิ้วกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก เขาก็ยังคงก้าวตามเหล่าลูกน้อยไปห่าง ๆ
ในอดีต หูเจียวเจียวและภูตในเผ่าแค่ไม่ชอบเขา แต่ชายหนุ่มไม่เคยคาดคิดว่าลูกที่สนิทสนมกับเขามาตลอดจะปฏิเสธตนมากขนาดนี้...
หลงโม่เฝ้ามองแผ่นหลังบอบบางของเด็ก ๆ ที่ร่วมมือกันต่อต้านเขาด้วยสายตาที่ซับซ้อน และเขารู้สึกว่าลูกทั้ง 5 ดูแตกต่างจากเมื่อก่อน
...
ณ สถานที่ที่หูเจียวเจียวถูกขัง
มันเป็นถ้ำที่ลู่หลีเคยพาตัวหลงหลิงเอ๋อมาทิ้งไว้ แต่ดูเหมือนว่าที่นี่จะแตกต่างจากก่อนหน้านี้มาก บางทีหัวหน้าเผ่าอาจจะสั่งให้คนเข้ามาขับไล่งูและแมลงพิษทั้งหมดออกไปก่อนที่จะปล่อยให้ตนเข้ามาข้างใน
สถานที่คุมขังแห่งนี้จะมีชาย 2 คนคอยยืนเฝ้าอยู่ที่ปากถ้ำตลอดเวลา
ต่อมา จิ้งจอกสาวจุดไฟในถ้ำ ทำให้ถ้ำสว่างไสวด้วยแสงจากไฟ จากนั้นเธอก็ทำความสะอาดพื้นที่ เสร็จแล้วก็หยิบเบาะจากมิติมาปูบนพื้นเพื่อนั่งลง
“เฮ้อ...” ในที่สุดเธอก็ได้สัมผัสถึงความสงบสักที
ตอนนี้เธอไม่จำเป็นจะต้องเล่นบทพ่อแม่ลูก ไม่ต้องดูแลลูก ๆ ไม่ต้องทำงานบ้าน แล้วไม่ต้องฝืนยิ้มในยามที่เผชิญหน้ากับเจ้าจอมวายร้ายที่ต้องการจะฆ่าตัวเอง
ในฐานะคนที่ผ่านโลกมาในระดับหนึ่ง หูเจียวเจียวไม่รู้สึกว่าการถูกกักขังนี้เป็นการทรมานเลยสักนิด ในทางกลับกัน เธอรู้สึกว่าปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขและมีอิสระมากกว่าเดิมเป็นไหน ๆ
แต่หญิงสาวก็ไม่อยากจะแสดงความสุขออกนอกหน้ามากนัก
เนื่องจากผู้ชาย 2 คนที่เฝ้าปากทางเข้าถ้ำเกลียดเธอมากจนแม้แต่การหายใจร่วมกับเธอก็ยังน่าขยะแขยง
เวลาถัดมา จิ้งจอกสาวหยิบขวดไวน์แดงจากมิติ จุดเทียนบนหิน วางแก้วไวน์ทรงสวยข้าง ๆ ฟัวกราส์ที่เสิร์ฟพร้อมเชอร์รี่เพื่อเพิ่มสีสัน
บัดนี้อาหารระดับมิชลินไกด์ก็เตรียมพร้อมให้เธอได้เฉลิมฉลองกับอิสรภาพที่ได้รับแล้ว
ขณะที่หญิงสาวกำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์อยู่นั้น เสียงฝีเท้าและเสียงเรียกแผ่วเบาก็ดังมาจากนอกถ้ำ
“เจียวเจียว...”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: พอจะได้เสพสุขอยู่คนเดียวเงียบ ๆ ก็โดนขัดจังหวะไปอี๊กกกก
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 342
แสดงความคิดเห็น