สุสานธนบัตรกับหัวใจร้อยกะรัต
เสียงหวีดหวิวยามเมื่อลมพัดผ่านใบไม้ ไม่ต่างไปจากเสียงกรีดร้องของชายผู้หนึ่งยามเมื่อผิวหนังถูกกรีดลึกด้วยธนบัตรคมๆ
ใบไม้แห้งต่างจงใจสละจากต้นร่วงหล่นในลำแสงอุ่นที่ลอดผ่านมวลมหากิ่งไม้ ในขณะที่มันกำลังฉายแสงสีนวลลงบนหลุมดินขนาดใหญ่ ร่างกายไร้ชีวิตสภาพน่าอดสูนอนแผ่หราอยู่ในหลุมดิน
ใบไม้แห้งถูกเปลี่ยนเป็นธนบัตรใบเก่ายามเมื่อกระทบกับพื้นดิน อดีตดวงตากร้านโลกถูกปิดสนิท ริมฝีบางตอนนี้เริ่มเขียวคล้ำฉ่ำไปด้วยน้ำหนอง
พวกเขาต่างต้องการสิ่งนี้ สิ่งที่เป็นสาเหตุที่ร่างไร้วิญญาณน่าสงสารถูกขุดขึ้นมา แก้วแหวน เงินทอง เครื่องประดับที่อยู่บนเรือนร่างตอนนี้มันกลับหายไป เหมือนว่าการมีอยู่ของมันในสองสามนาทีที่แล้วเป็นเรื่องโกหก
ร่างไร้ชีวิตในหลุมดิน ไม่ได้รู้สึก (ถ้าเขายังสามารถรู้สึกได้) โกรธเคืองหรือหวงแหนสิ่งเหล่านั้น ในทางกลับกันรอยยิ้มเล็กๆ (ถ้าเขาสามารถยิ้มได้) ปรากฏขึ้นอย่างเข้าใจ เพราะครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วการใช้ชีวิตของเขาก็ไม่ต่างจากโจรพวกนี้…วิ่งไล่ล่าแสงระยิบระยับ
นั่นใช่เสียงเหรียญจำนวนมหาศาลกระทบกับพื้นกระเบื้องใช่หรือไม่? ใช่เสียงเครื่องคิดเงินในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่กำลังทำงานใช่หรือเปล่า? เจ้าของร่างกายไร้ชีวิตพิจารณาถึงเสียงที่กำลังได้ยิน
เขาหวนคิดถึงอดีต (ที่ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นอนาคต) ดวงตาไร้เดียงสาลืมตาดูโลก ลิ้นนุ่มสัมผัสกับน้ำนมอุ่นที่ค่อยๆ ไหลลงคอดั่งลำธารที่พัดดอกไม้สีขาวไปตามกระแส…เขามีความสุข
มือนุ่มสัมผัสกับพื้นผิวเรียบเป็นมันของสีเทียนครั้งแรก ในขณะที่ถูกขีดเขียนลงบนผนังห้องครัว หัวใจของเขาพองโตเหมือนเห็นสวรรค์อยู่เบื้องหน้า…เขาลุ่มหลง
ทุกหยาดเหงื่อ ทุกแรงกาย มันต่างไหลรินอาบชโลมไปทั่วใบหน้าคล้ายอัญมณีที่เปล่งแสงได้ในที่มืด เพียงเพื่อให้ได้รับความรู้สึกใกล้เคียงกับบ่ายวันนั้น วันที่มีสีเทียนอยู่ในมือโดยมีภาพพื้นหลังเป็นห้องครัวตอนบ่ายแก่ๆ…เขาอ่อนล้า
กระเป๋าตังที่ว่างเปล่าเบาหวิวดุจขนนก ธนบัตรกลายเป็นของหายากพอๆ กับสถานที่สุดปลายสายรุ้ง สองเท้ายังคงเดินต่อไปบนถนนกับเฟรมผ้าใบที่อยู่ในอ้อมแขน เดินไปอย่างไร้จุดหมาย เดินไปให้อย่างน้อยลืมความหิวที่กำลังกัดกินกระเพราะ…เขาหิวกระหาย
ตั้งแต่เย็นวันนั้นที่เฟรมผ้าใบถูกทิ้งอยู่ในถังขยะพร้อมความทรงจำสีเทียนในห้องครัว กระเป๋าสตางค์ของเขาก็เริ่มหนักขึ้น เช่นเดียวกับน้ำหนักตัวเขาที่เพิ่มอย่างก้าวกระโดด เขานั่งอยู่ที่หน้าเครื่องมือสี่เหลี่ยมตลอดทั้งวัน เพียงเพื่อหวังให้มันช่วยผลิตธนบัตรออกมา ท้องอิ่มแต่ภายในว่างเปล่า เขาเผลอทอดสายตามองหลอดไฟที่เริ่มกระพริบ
ภาพซ้ำถูกฉายวนเหมือนโรงหนังควบสมัยก่อน ที่วันๆ ฉายแต่หนังเรื่องเดิม รกร้างไร้ผู้คน เปลี่ยวเหงา เขาฝืนดูภาพเคลื่อนไหวที่อยู่ตรงหน้า ในขณะที่ภาพสะท้อนในกระจกบ่งบอกว่าเวลาได้ไหลผ่านไป เช่นเดียวกับสายน้ำเย็นที่ออกมาจากฝักบัวไหลไปตามส่วนโค้งของร่างกายลงสู่ท่อระบายน้ำอย่างไร้ค่า
สายตาว่างเปล่ามองออกไปยังภาพเมืองหลวงที่อยู่ตรงหน้า สอดประสานกับร่างกายที่ทำมาจากหินแกรนิตนั่งอยู่บนม้านั่งในสวน ทำไมทุกอย่างมันดูเล็กน้อยไปหมด เขาเกิดคำถามแปลกๆ คงอาจเพราะข้าวเที่ยงที่เขาเผลอกินเยอะมากเกินไป
ทุกอย่างดูคล้ายฟันเฟืองเล็กๆ ที่ประกอบสร้างเป็นหุ่นยนต์ยักษ์ที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้างมันขึ้นมา หรือประกอบสร้างด้วยจุดประสงค์ใด รู้เพียงว่าทั้งหมดมันไม่ได้ประกอบสร้างขึ้นเพื่อชีวิตของเขา
‘โคตรจอมปลอม!’
เสียงหัวเราะดังลั่นออกมาจากลำคอ เขาตะเบงมันออกมาอย่างสุดเสียง จนรู้สึกได้ถึงปอดที่กำลังสั่นไหว น้ำตาอุ่นคลออยู่ที่ดวงตา เขายังคงหัวเราะต่อไป หัวเราะเหมือนเด็กคนเก่าในห้องครัวบ่ายแก่วันนั้น
สีเทียนสีน้ำเงินกลิ้งอยู่ที่พื้นห้องครัวในขณะที่แสงแดดอ่อนส่องเข้ามา ร่างของเด็กน้อยค่อยๆ คลานด้วยเข่าบอบบางสอดประสานกับฝ่ามือเล็กจิ๋วตรงไปยังสีน้ำเงินนั่น
เด็กน้อยหยิบมันขึ้นมาพิจารณา ความเป็นมันเงาเป็นผิวสัมผัสใหม่ที่เขาเพิ่งเคยสัมผัส เขาชอบมันมากจนอยากจะหยิบมันเข้าปากให้มันเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของเขา แต่เด็กน้อยก็ถูกรบกวนความคิดนั้นด้วยสีน้ำเงินที่เปื้อนอยู่บนฝ่ามือ
รู้ตัวอีกทีเด็กน้อยก็นำสีเทียนผิวสัมผัสเงาถูไปกับกำแพงแล้ว แล้วหลังจากนั้นทุกประสาทสัมผัสของเขาก็เหมือนหลุดลอยออกไปในที่เกินที่จะหยั่งถึง เขาเพียงปล่อยทุกเอย่างให้เป็นไป อย่างที่มันควรจะเป็น…มือเล็ก…สีเทียน และผนังห้องครัว
ร่างไร้วิญญาณยังคงนอนสงบนิ่งอยู่ในหลุมดินอย่างที่มันควรจะเป็น อยู่ๆ ที่กลางอกของเขาก็ค่อยๆ ปริออกอย่างน่าอัศจรรย์ แสงสว่างยิ่งกว่าแสงใดในโลกระยิบลอดผ่านรอยปริแตกนั้น
เพชรก้อนโตลักษณะคล้ายก้อนเนื้อโผล่พ้นน้ำเลือดน้ำหนอง ใบไม้แห้งที่ล่วงหล่นกลายเป็นธนบัตรเมื่อต้องกับแสงของก้อนเนื้อเพชรนั้นต่างต้องแตกสลายหายไปกับตา ไม่มีสิ่งใดที่จะมีค่าเทียบเคียงกับก้อนเนื้อก้อนนั้น
มันยังคงสวยงามเหมือนเคย และก็คงไม่มีสิ่งใดที่จะมาลดค่ามันลงได้
- 👁️ ยอดวิว 748
แสดงความคิดเห็น