ตอนที่ 267 ความถี่ชนิดที่ 2
ตอนที่ 267 ความถี่ชนิดที่ 2
การแข่งขันภายในฐานอัลฟ่ายังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น ขณะที่เหล่าบรรดานักฆ่าเดนตายที่เซี่ยเฟยร้องขอมาได้เดินทางกลับไปยังสำนักเงาสังหารหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจของตัวเองแล้ว
มูรติถูกพบเป็นศพอยู่ภายในบ้าน ซึ่งตำรวจได้สันนิษฐานว่าเขาฆ่าตัวตายเนื่องจากความเครียด ส่วนบริษัทซัมซุงก็ได้ถูกควบรวมเข้ามากลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทควอนตัมเรียบร้อยแล้ว ขณะที่แคมเปญของอู่หลงก็ดำเนินต่อไปในทิศทางที่ดี
เมื่อข่าวทุกอย่างมีแต่เรื่องดี ๆ มันจึงทำให้เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
หลังจากอาบน้ำชำระคราบไคล ชายหนุ่มก็สวมเสื้อกาวน์ก่อนจะเดินมุ่งหน้าตรงไปยังชั้นใต้ดินชั้นที่ 18
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับบริษัทในตอนนี้คือพวกเขาจะต้องทำการศึกษาและทำความเข้าใจวงจรภายในกระดิ่งนรกให้ได้โดยเร็วที่สุด
จากการศึกษาเบื้องต้นเซี่ยเฟยกับแฮร์ริสก็ได้ข้อสรุปว่า เครื่องสื่อสารชนิดนี้ใช้วิธีการสื่อสารโดยการปล่อยคลื่นลักษณะพิเศษที่มีทิศทางการเคลื่อนที่เป็นเส้นตรง
เดิมทีสัญญาณของเครื่องสื่อสารจะทำการปล่อยสัญญาณออกไปทุกทิศทุกทางพร้อม ๆ กัน แต่สัญญาณที่ถูกปล่อยออกไปจากกระดิ่งนรกเปรียบเสมือนกับกระสุนที่พุ่งตรงไปยังเป้าหมาย แต่น่าเสียดายที่พวกเขายังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่า เครื่องสื่อสารชนิดนี้สามารถหาตำแหน่งของเครื่องรับสัญญาณเป้าหมายได้อย่างไร
ระหว่างทางเซี่ยเฟยได้พบกับนักวิทยาศาสตร์หลายคนที่กำลังเร่งรีบ ซึ่งหลังจากที่เขาได้ทักทายชายหนุ่มแล้วพวกเขาก็รีบมุ่งหน้าตรงไปยังห้องวิจัยของตนเอง
เซี่ยเฟยเหลือบสายตามองไปยังนาฬิกาก่อนจะพบว่าตอนนี้เป็นเวลากว่า 5 โมงเย็นแล้ว แต่เหล่าบรรดานักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์กลับยังไม่ยอมเลิกงาน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังใช้ความพยายามในงานของตัวเองมากแค่ไหน
หลังจากที่ชายหนุ่มได้เปิดประตูห้องทดลองเขาก็ได้พบว่าแฮร์ริสยังคงอยู่ในห้องนี้โดยไม่ออกไปไหน เขาจึงพยายามเกลี้ยกล่อมชายชราที่ดื้อรั้นให้กลับไปพักผ่อน เพราะตลอดเวลาเซี่ยเฟยยังมีการแอบมาพักผ่อนบ้างแต่แฮร์ริสแทบที่จะไม่ได้พักผ่อนเลย
อย่างไรก็ตามในตอนที่แฮร์ริสได้หันมาดวงตาของเขากลับเป็นสีแดงก่ำ และภายในแววตาของเขาก็กำลังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“คุณมาทันเวลาพอดีเลย ผมเพิ่งได้ค้นพบสิ่งที่น่าทึ่งมาก” แฮร์ริสกล่าวขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น
“ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ พูดไม่ต้องรีบร้อน” เซี่ยเฟยถามขณะเดินไปรินน้ำชาให้ตัวเอง
แฮร์ริสพยักหน้าก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปเปิดเครื่องเล่นเสียงคลื่นความถี่ที่ถูกปล่อยออกมาจากกระดิ่งนรก
ชายหนุ่มเคยได้ยินเสียงนี้มาเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็ยังพยายามตั้งใจฟังอย่างอดทน
“มันมีอะไรผิดปกติเหรอ?” เซี่ยเฟยถามด้วยความสงสัย
“ฟังดี ๆ นะ” แฮร์ริสกล่าวก่อนที่เขาจะกดปุ่มอีก 2-3 ปุ่มด้วยความรวดเร็ว
ทันใดนั้นมันก็มีเสียงเหมือนผึ้งกระพือปีกเป็นจังหวะดังแทรกขึ้นมา แต่มันเป็นเสียงที่แตกต่างจากเสียงคลื่นปกติที่มีเสียงคล้ายการรัวกลอง
“นี่มันเสียงของกระดิ่งนรกงั้นเหรอ? ทำไมเราถึงไม่เคยได้ยินเสียงแบบนี้มาก่อน” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึงหลังจากได้ยินเสียงที่แปลกหูไป
แฮร์ริสเอื้อมมือไปเปิดเครื่องขยายเสียงจนทำให้เสียงของคลื่นที่ถูกปล่อยออกมามีความชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม และทำให้พวกเขารู้สึกราวกับกำลังมีผึ้งนับล้านบินอยู่ในอากาศ
“ในระบบส่งคลื่นความถี่ของกระดิ่งนรกมีหน่วยการนำไฟฟ้าแบบพิเศษ ที่พวกเราเชื่อมาโดยตลอดว่ามันมีหน้าที่ในการขยายคลื่นความถี่ แต่ความจริงคือพวกเราคิดผิด เพราะความจริงแล้วมันเป็นเครื่องกำเนิดคลื่นความถี่ชนิดที่ 2 ที่แตกต่างจากคลื่นความถี่ชนิดแรกต่างหาก และเสียงปกติที่พวกเราได้ยินมันคือเสียงของคลื่นความถี่ทั้งสองชนิดนี้ที่ถูกผสมเข้าด้วยกัน” แฮร์ริสพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
ช็อก!
โคตรช็อก!
ที่แท้ระบบภายในกระดิ่งนรกมีเครื่องส่งสัญญาณ 2 ชนิดที่มีความแตกต่างกันอย่างสมบูรณ์ โดยสัญญาณชุดหนึ่งใช้สำหรับการสื่อสารไปยังกระดิ่งนรกเครื่องอื่น ๆ ขณะที่สัญญาณชุดที่ 2 ได้ส่งสัญญาณไปยังพื้นที่ที่พวกเขาไม่รู้จัก
“นายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?” เซี่ยเฟยถาม
“ผมค้นพบเรื่องนี้โดยบังเอิญ เพราะเมื่อเช้าผมลืมเปิดระบบตัวกรองเพื่อขจัดคลื่นรบกวนออกไป หลังจากที่ผมทำการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำอีกหลาย ๆ ครั้ง ผมก็สามารถยืนยันได้ว่าคลื่นความถี่ที่เพิ่งถูกค้นพบนี้ไม่เพียงแต่จะมีหน้าที่ส่งสัญญาณออกไปเท่านั้น แต่มันยังทำหน้าที่เป็นเครื่องรับสัญญาณได้อีกด้วย”
หลังจากพูดจบแฮร์ริสก็เปิดจอมอนิเตอร์อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะปรับแผงควบคุมจนเซี่ยเฟยได้ยินเสียงคลื่นที่คล้ายกันดังมาจากอวกาศที่มืดมิด
การค้นพบนี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่กระดิ่งนรกจะสื่อสารระหว่างกันเท่านั้น แต่พวกมันยังสื่อสารกับเครื่องสื่อสารปริศนาในจักรวาลอย่างเงียบ ๆ อีกด้วย
อย่าลืมว่ากระดิ่งนรกมีขนาดเพียงแค่ประมาณนิ้วหัวแม่มือ แต่มันกลับมีฟังก์ชั่นที่ซ่อนอยู่อย่างมากมาย และระบบภายในของอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็มีความซับซ้อนเกินกว่าจินตนาการของพวกเขาไปไกล
“ดีมาก! พวกเรามาหากันเถอะว่าคลื่นความถี่ชนิดที่ 2 นี้มันเชื่อมต่อกับอะไรกันแน่” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
—
นับตั้งแต่ที่เซี่ยเฟยกับแฮร์ริสค้นพบคลื่นความถี่ชนิดที่ 2 พวกเขาก็ทำงานอย่างบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จนพวกเขาแทบที่จะไม่มีเวลาออกมารับประทานอาหารเลย
กู่เฟิงจู่กังวลเกี่ยวกับสุขภาพของพวกเขาทั้งสอง เธอจึงเดินไปเตือนให้พวกเขาพักผ่อนบ้าง แต่คำตอบที่เธอได้รับกลับมาคือคำที่เซี่ยเฟยได้กล่าวว่า
“การพักผ่อนไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก แต่ถ้าไม่ได้ทำงานผมอาจจะบ้าตาย!”
เมื่อได้รับคำตอบแบบนี้กู่เฟิงจู่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสั่งการให้พนักงานนำอาหารไปเสิร์ฟเป็นประจำทุกวัน แต่อาหารเหล่านี้ก็มักที่จะไม่ได้รับการแตะต้อง ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังหมกมุ่นอยู่กับงานวิจัยของตัวเองมากแค่ไหน
—
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยในตอนนี้เซี่ยเฟยกับแฮร์ริสไม่ได้ออกมาจากห้องทดลองเป็นเวลากว่าครึ่งเดือนแล้ว ซึ่งในช่วงเวลานี้เป็นช่วงการเลือกตั้งของประธานาธิบดีคนใหม่ และคะแนนของอู่หลงก็นำโด่งมาแต่ไกลจึงทำให้ตำแหน่งประธานาธิบดีอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่เอื้อมมือ
การเลือกตั้งในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันมากเกินไป ทำให้ผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่งไม่แม้แต่จะมีโอกาสได้เตรียมตัว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถต่อต้านอู่หลงที่เตรียมการมาเป็นอย่างดีได้ ยิ่งไปกว่านั้นชายคนนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากบริษัทควอนตัม ทำให้การหาเสียงไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับอู่หลงเลย
ที่สำคัญคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับมูรติทำให้ประชาชนรู้สึกสูญเสียความเชื่อมั่นในนักการเมืองคนเดิม ๆ และพวกเขาก็เชื่ออย่างหมดใจว่าอู่หลงซึ่งเคยเป็นผู้บริหารของบริษัทควอนตัม สามารถที่จะนำโลกไปสู่ความรุ่งโรจน์ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ได้
ในช่วงเวลานี้แอวริลก็พยายามติดต่อมาหาเซี่ยเฟยเช่นเดียวกัน แต่เมื่อเธอได้เห็นว่าชายหนุ่มกำลังยุ่งเธอจึงทำได้เพียงแค่ทักทายก่อนที่จะรีบตัดระบบสื่อสารไป
เซี่ยเฟยไม่คิดที่จะละเลยแฟนสาวของเขาเลยสักนิด เพียงแต่เขามีงานให้ต้องจัดการอย่างมากมาย นอกจากนี้คลื่นความถี่ชนิดที่ 2 ยังดึงดูดความสนใจของเขามาก เขาจึงพยายามทำงานอย่างหนักและให้สัญญากับแอวริลว่าเขาจะไปหาเธอในระหว่างไปแข่งขันโกลเดนฟิงเกอร์
ทันทีที่แอวริลได้ยินว่าเซี่ยเฟยจะเดินทางมาหา หญิงสาวก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจก่อนที่จะวางสายไปอย่างมีความสุข
1 สัปดาห์ต่อมา อู่หลงก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหพันธ์โลกด้วยคะแนนโหวตมากถึง 76% และทำให้แผนการเปลี่ยนระบบการปกครองของสหพันธ์ที่เซี่ยเฟยได้วางเอาไว้จบลงอย่างสมบูรณ์
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกอู่หลงสามารถกล่าวสุนทรพจน์ได้อย่างเร่าร้อน โดยการประกาศว่าเขาจะทำการแก้ไขปัญหาทุจริตและลดช่องว่างอารยธรรมระหว่างดาวโลกกับดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ในพันธมิตรให้ได้โดยเร็วที่สุด
สิ่งที่ทำให้เซี่ยเฟยประหลาดใจก็คืออู่หลงเป็นคนเขียนคำสุนทรพจน์พวกนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งมันก็หมายความว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาก็พยายามที่จะพัฒนาเพื่อที่จะเป็นประธานาธิบดีที่ดีเช่นกัน
หลังจากกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกจนจบอู่หลงก็โทรหาเซี่ยเฟยเป็นคนแรก ซึ่งชายหนุ่มก็ให้กำลังใจพี่ชายของเขาไปเล็กน้อย แล้วให้ข้อแนะนำว่าให้ทำทุกอย่างอย่างใจเย็นและบริษัทจะคอยช่วยให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี
ในที่สุดเวลาก็ผ่านพ้นไปอีก 1 สัปดาห์เหล่าบรรดานักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ภายในฐานอัลฟ่าจึงกำลังตั้งตารอเซี่ยเฟยกับแฮร์ริสอย่างใจจดใจจ่อ เพื่อรอคอยว่าใครจะได้รับเลือกให้กลายเป็นลูกศิษย์ชุดแรกของแฮร์ริส
เมื่อเวลาเดินมาถึง 6 โมงเช้า กู่เฟิงจู่ก็เดินทางมายังโรงอาหารตามปกติก่อนที่จะเริ่มทำงานของตัวเอง และถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้อำนวยการแต่เธอก็มีงานวิจัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเองเช่นเดียวกัน ท้ายที่สุดตำแหน่งลูกศิษย์ของแฮร์ริสก็น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะชายชราคนนี้มีความรู้เหนือกว่านักวิทยาศาสตร์คนใดภายในโลก
อย่างไรก็ตามเมื่อหญิงสาวได้เปิดประตูโรงอาหาร เธอก็ต้องรู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นเซี่ยเฟยกับแฮร์ริสกำลังรับประทานอาหารบนโต๊ะอย่างมีความสุข ยิ่งไปกว่านั้นอาหารบนโต๊ะยังมีอยู่อย่างมากมายที่ถึงแม้ว่าเธอจะกินอาหารพวกนั้นทั้งสัปดาห์ แต่เธอก็ไม่มั่นใจว่าเธอจะสามารถกินพวกมันได้หมดอยู่ดี
เซี่ยเฟยบอกให้หญิงสาวมานั่งรับประทานอาหารด้วยกัน กู่เฟิงจู่จึงรู้สึกลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนที่เธอจะสั่งขนมปังกับนมมานั่งกินข้าง ๆ ทั้งสองอย่างช้า ๆ
“งานวิจัยของพวกคุณสำเร็จแล้วเหรอ?” กู่เฟิงจู่ถามด้วยความสงสัย
“ยังไม่เสร็จ แต่ก็ถือว่ามีการคืบหน้าไปมากแล้วและมันก็มีประโยชน์สำหรับงานในอนาคต” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอแสดงความยินดีกับพวกคุณทั้งสองล่วงหน้าด้วย ว่าแต่พวกคุณไม่ลืมใช่ไหมว่าการประชุมครั้งล่าสุดพวกคุณได้สัญญาว่า นักวิจัยที่สามารถทำผลงานได้โดดเด่นมากที่สุดจะมีสิทธิ์ได้เป็นลูกศิษย์ของแฮร์ริส ตอนนี้เวลาได้ผ่านไป 1 เดือนตามที่คุณสัญญาเอาไว้แล้ว ไม่ทราบว่าคุณจะประกาศรายชื่อผู้ชนะตอนไหน?” กู่เฟิงจู่กล่าวถาม
“ช่วงนี้ผมยุ่งมาก ผมเลยลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลย ว่าแต่แฮร์ริสเกณฑ์ในการคัดเลือกศิษย์ของนายคืออะไร?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเกาหัวอย่างเขินอาย
“ผมไม่มีเกณฑ์อะไรหรอก ขอแค่เขาคนนั้นฉลาดสักหน่อยก็พอ แต่ผมได้คัดเลือก 10 ชุดแรกเอาไว้แล้ว เดี๋ยวผมค่อยประกาศรายชื่อผู้ชนะในภายหลัง” แฮร์ริสกล่าว
หลังจากนั้นไม่นานเซี่ยเฟยกับแฮร์ริสก็เดินกลับไปยังห้องทดลองจนทำให้กู่เฟิงจู่รู้สึกตกตะลึง เพราะท้ายที่สุดทั้งสองก็ไม่ได้นอนมาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือนจนทำให้ดวงตาของพวกเขากลายเป็นสีแดงก่ำ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังเดินกลับไปเพื่อทำงานต่อ
“พวกเขากำลังวิจัยอะไรอยู่กันแน่? มันถึงสามารถดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้มากขนาดนี้?”
***************
ไม่ได้นอนมาเดือนหนึ่ง บ้าไปแล้วววว!!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 272
ความคิดเห็น
แบบนี้ทีมแปลต้องเลียนแบบบ้างแล้ว 555 จะได้ช่วยให้คนอ่านตาดำๆ มีนิยายอ่านเยอะๆ
ขอหาน้ำยาปรับสภาพยีนมาลองดื่มก่อนได้ไหม 5555
แสดงความคิดเห็น