ตอนที่ 105: สนามรบโบราณ
ตอนที่ 105: สนามรบโบราณ
สงครามระหว่างพันธมิตรมนุษย์กับพวกเซิร์กเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว ส่วนสาเหตุของสงครามก็ค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่ไร้สาระ
โดยเรื่องได้เกิดขึ้นจากขุนนางแมลงผู้หนึ่งได้ทำการซื้อทาสมนุษย์สาวสวยมาคอยปรนเปรอ แต่หลังจากอยู่ด้วยกันไปสักพักพวกเขาทั้งสองกลับตกลงปลงใจที่จะครองรักกัน
ในวันนั้นขุนนางแมลงได้พาคู่รักเดินทางผ่านเขตดาววิลเดอร์เนสเพื่อเดินทางไปเยี่ยมพ่อแม่ในบ้านเกิดของเธอ
แต่น่าเสียดายที่การเดินทางของพวกเขาต้องสิ้นสุดลง เพราะความจริงที่พวกเขาต้องเผชิญกลายเป็นเรื่องที่โหดร้าย
เผ่าพันธุ์มนุษย์และแมลงได้ต่อสู้เพื่อแย่งชิงทรัพยากรในจักรวาลมาอย่างยาวนาน พวกเขาจึงเตรียมกองกำลังเอาไว้ในบริเวณชายแดนอย่างหนาแน่น รอคอยเพียงแค่ว่าสงครามจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่และใครจะเป็นฝ่ายเริ่มสงครามก่อน
แมลงที่น่าสงสารได้เดินทางมาจนถึงชายแดนและถูกจับตัวโดยพันธมิตรมนุษย์ จากนั้นเขาก็ถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหาจารกรรม ส่วนหญิงสาวก็ถูกส่งกลับไปยังบ้านเกิดของเธอ
เดิมทีเรื่องนี้ถือว่าเป็นความขัดแย้งกันเพียงแค่เล็กน้อยและยังไม่พอที่จะกระตุ้นให้สงครามได้เริ่มต้นขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อสายลับของพวกเซิร์กที่อยู่ในพันธมิตรได้ยินคำแถลงการณ์จากหญิงสาว พวกเขาก็ไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไปและเริ่มเปิดสงครามขึ้นในเวลาต่อมา
หญิงสาวได้กล่าวอ้างในรายการทีวีว่าเธอได้ถูกลักพาตัวไปและถูกขุนนางแมลงทำร้ายตลอดทั้งวันทั้งคืน ส่วนในเรื่องของความรักเป็นเพียงแค่กลอุบายที่เธอใช้เพื่อหลบหนีกลับมายังพันธมิตรเท่านั้น โดยระหว่างบทสัมภาษณ์เธอได้เล่าถึงความโหดร้ายของแมลงต่าง ๆ นานารวมถึงวิธีการที่เธอใช้เพื่อหลบหนีกลับมายังพันธมิตร
เหล่าบรรดาผู้คนที่ไม่รู้ความจริงต่างก็รู้สึกโกรธการกระทำของพวกเซิร์กมาก และเรียกร้องให้พันธมิตรส่งกองกำลังไปกวาดล้างพวกแมลงที่โหดร้ายออกไปจากแผนที่ดวงดาว
ผู้ที่มีความสุขที่สุดสำหรับเรื่องนี้คือจอมพลของพันธมิตรมนุษย์ในช่วงเวลานั้น เพราะเรื่องทั้งหมดที่หญิงสาวกล่าวขึ้นมาเป็นเรื่องที่ถูกแต่งตามคำสั่งของพวกเขา
จุดประสงค์ของจอมพลเป็นเรื่องที่เรียบง่ายมาก เพราะท้ายที่สุดสงครามก็ใกล้เข้ามาทุกที ดังนั้นเรื่องราวของหญิงสาวผู้อ่อนแอที่ถูกพวกแมลงรังแกย่อมสามารถกระตุ้นความโกรธของทหารได้เป็นอย่างดี
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่จอมพลไม่ได้คิดนั่นก็คือเรื่องนี้ได้กลายเป็นตัวกระตุ้นพวกเซิร์กด้วยเช่นกันและทำให้พวกแมลงเกลียดชังเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่อไปอีกหลายร้อยปี
นับตั้งแต่การเปิดฉากสู้รบในครั้งแรก สงครามก็ครั้งนี้กินระยะเวลาถึง 327 ปี 5 เดือน 11 วัน นอกจากนี้มันยังมีจำนวนของทหารและยานรบตกเป็นเหยื่อในสงครามเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนแล้วยังคงมีเศษซากของสงครามหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน
หลังจากที่สงครามได้ดำเนินอย่างต่อเนื่องมายาวนานกว่า 300 ปี มันก็ทำให้ทั้งเศรษฐกิจ และขวัญกำลังใจของทั้งสองฝ่ายย่ำแย่ไปจนถึงจุดต่ำสุดจนไม่มีใครต้องการที่จะทำสงครามอีกต่อไป มันจึงนำไปสู่การเจรจาสร้างสันติภาพขึ้นมาอีกครั้ง
เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระสำหรับเซี่ยเฟยจริง ๆ เพราะถึงแม้ว่ามนุษย์กับแมลงจะทำสงครามกันมาเป็นเวลานานกว่า 300 ปี แต่ไม่มีใครได้รับดินแดนของอีกฝ่ายเลยแม้แต่ตารางเมตรเดียว ในทางกลับกันพื้นที่ชายแดนในเขตดาววิลเดอร์เนสได้ถูกเปลี่ยนเป็นกันชนและทำให้เขตดาวในบริเวณนี้ได้กลายเป็นสวรรค์สำหรับพวกใต้ดิน
ปัจจุบันเซี่ยเฟยกำลังขึ้นยานฟริเกตรุ่นเอ็กคิวชั่นเนอร์ขณะที่นึกถึงเรื่องราวเกี่ยวกับสงคราม โดยยานลำนี้เขาได้ทำการเช่ามันมาจากแอนดี้ในราคาหัวใจจักรวาล 5 กรัมต่อวัน
เขาตั้งใจว่าเขาจะขับยานลำนี้ไปยังสนามรบโบราณ โดยหวังที่จะเก็บกู้อุปกรณ์ที่จำเป็นกลับมาจากซากยานรบ
เซี่ยเฟยต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าที่เขาจะได้รับลูน่ามาไว้ในครอบครอง ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการจะทิ้งมันเอาไว้และสนามรบโบราณคือทางเลือกเดียวที่มันจะทำให้เขาสามารถซ่อมลูน่ากลับคืนมาได้
“นายไม่อยากให้ฉันไปด้วยจริง ๆ หรอ? ฉันสามารถหาคนมารับงานแทนฉันได้นะ” ซาร่ากล่าวขณะเดินไปส่งเซี่ยเฟยที่ประตูยาน
“แค่เก็บกู้ซากยานเองฉันทำคนเดียวได้น่า เธอไปทำงานของเธอเถอะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
เมื่อได้รับคำยืนยันซาร่าก็พยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไรกลับไปอีก
ขณะเดียวกันการพูดคุยระหว่างเซี่ยเฟยและซาร่าก็ทำให้ดวงตาที่เคยขุ่นมัวของเอเลนสดใสขึ้นอีกครั้ง จากนั้นรอยย่นบนหน้าผากของเขาก็ค่อย ๆ คลายออกราวกับว่าเขากำลังมีความสุข
เซี่ยเฟยโบกมือลาเอเลนกับซาร่าและเตรียมมุ่งหน้าตรงไปยังสนามรบโบราณ
ยานเอ็กคิวชั่นเนอร์เป็นหนึ่งในยานฟริเกตที่มีขนาดเล็กที่สุดในจักรวาลทำให้มันเป็นยานที่มีความคล่องตัวอย่างยอดเยี่ยม แต่น่าเสียดายที่เกราะป้องกันของมันค่อนข้างที่จะอ่อนแอไปซักหน่อย
ก่อนออกเดินทางแอนดี้ได้ทำการติดตั้งเครื่องตรวจจับและอุปกรณ์กอบกู้ซากยานเอาไว้ให้ตามความต้องการของเซี่ยเฟยแล้ว ชายหนุ่มจึงสามารถใช้ยานอวกาศลำนี้ในการสแกนหาซากยานรบและทำการกอบกู้พวกมันได้
ในเขตดาววิลเดอร์เนสมีสนามรบอยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน โดยสถานที่ที่เซี่ยเฟยกำลังมุ่งหน้าไปในคราวนี้อยู่ห่างจากฐานไปประมาณ 740 ปีแสง ซึ่งครั้งหนึ่งกองยานขนาดเล็กของพันธมิตรเคยถูกกองยานของเซิร์กซุ่มโจมตี ทำให้ซากยานลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศมาจนถึงปัจจุบัน
ระยะทาง 740 ปีแสงถือว่าเป็นระยะทางสั้น ๆ ในจักรวาลและเซี่ยเฟยก็ใช้ยานเอ็กคิวชั่นเนอร์ทำการวาร์ปมาเพียงแค่ครั้งเดียว
เมื่อมองออกไปในระยะไกลชายหนุ่มได้เห็นซากยานรบและเศษซากโลหะล่องลอยอยู่ในอวกาศเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับได้มาโผล่ยังคนละโลก
เซี่ยเฟยได้นำยานรบเข้าไปในสนามรบโบราณพร้อมกับทำการเปิดเครื่องตรวจจับ 2 เครื่องพร้อมกันเพื่อสแกนซากยานอวกาศทีละลำ
ชายหนุ่มได้ทำการป้อนรายการอุปกรณ์ที่เขาต้องการไว้ในคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นตราบใดก็ตามที่เครื่องตรวจจับตรวจพบเจออุปกรณ์ที่เขาระบุเอาไว้ คอมพิวเตอร์อัจฉริยะก็จะทำการส่งข้อความแจ้งเตือนเขาในทันที
น่าเสียดายที่สนามรบแห่งนี้อยู่ใกล้กับฐานทัพมากเกินไป มันจึงทำให้มีผู้คนเคยมาสำรวจสนามรบแห่งนี้แล้วเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ดังนั้นถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะใช้เวลาตรวจสอบสนามรบมานานกว่า 1 ชั่วโมง แต่เขาก็สามารถกอบกู้อุปกรณ์ที่ไม่สำคัญกลับมาได้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
อันที่จริงอุปกรณ์ที่เขาหาได้สามารถหาซื้อได้จากร้านของแอนดี้ แต่การที่เขาเก็บกู้อุปกรณ์จากซากยานรบมามันก็ทำให้เขาสามารถประหยัดเงินไปได้เล็กน้อย
ชายหนุ่มหยิบปากกาขึ้นมาขีดรายการภายในมืออย่างยิ้มแย้ม เพราะท้ายที่สุดเขาก็เพิ่งเจอของฟรีที่ล่องลอยอยู่ในจักรวาล เขาจึงค่อนข้างรู้สึกกระตือรือร้นในการทำงานต่อไป
“ทำไมพวกเราไม่ซื้อยานลำอื่นแล้วทิ้งลูน่าไว้ที่นี่ล่ะ?” อันธออกมาจากหินมัวร์พร้อมกับกล่าวขึ้นมาอย่างเบื่อหน่าย
“ทิ้งลูน่า? ฉันถามหน่อยว่าถ้าฉันทิ้งลูน่าไปฉันจะหายานรบดี ๆ แบบนี้ได้อีกที่ไหน อีกอย่างนายลืมไปแล้วหรือไงว่าลูน่ามีราคารวม ๆ กันมากกว่า 700 ล้านสตาร์คอยน์ ฉันทำใจทิ้งมันไปไม่ได้จริง ๆ” เซี่ยเฟยตอบกลับพร้อมกับกรอกตา
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญนายเก็บกู้ซากยานให้สนุกแล้วกัน ถ้านายโชคดีนายอาจจะใช้เวลาซัก 10 ปีถึงจะเก็บกู้อุปกรณ์ได้ครบ” อันธกล่าวพร้อมกับถอนหายใจก่อนที่เขาจะกลับไปในโลกของตัวเอง
เซี่ยเฟยกัดริมฝีปากเป็นคำตอบให้กับวิญญาณนักฆ่า จากนั้นเขาก็นำยานมุ่งหน้าตรงไปยังสนามรบอีกแห่ง โดยสนามรบแห่งนี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากนัก เพราะถึงแม้ว่าเขาจะใช้เวลาในการเก็บกู้นานกว่า 2 ชั่วโมงแต่เขาก็สามารถเก็บกู้อุปกรณ์กลับมาได้เพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น
เมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไปความแปลกใหม่ในเรื่องการกอบกู้ซากยานก็ค่อย ๆ ลดลง ชายหนุ่มจึงรู้สึกเบื่อหน่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาจึงทำการเปิดแผนที่สนามรบที่แอนดี้ให้มาแล้วทำการพิจารณาแผนที่อย่างระมัดระวัง
พื้นที่สีเขียวในแผนที่ค่อนข้างปลอดภัย เพราะมันเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับฐานทัพ แต่อย่างไรก็ตามพื้นที่เหล่านี้ก็เคยถูกสำรวจจากผู้คนเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน มันจึงยังเหลือเศษซากอะไหล่ให้เขาได้ทำการเก็บกู้อยู่น้อยมาก
พื้นที่สีเหลืองหมายถึงพื้นที่อันตราย ซึ่งมันอาจจะเป็นเพราะว่าสภาพแวดล้อมในบริเวณนั้นไม่เสถียรหรือมันเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับเขตโจรสลัด มันจึงเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างจะเสี่ยงอันตราย
ขณะเดียวกันพื้นที่สีแดงในแผนที่ก็หมายถึงพื้นที่เขตมรณะ ขณะที่พื้นที่สีดำหมายถึงพื้นที่ที่ยังไม่มีใครเข้าถึงได้
เซี่ยเฟยจุดบุหรี่พร้อมกับชั่งน้ำหนักความคิดอย่างระมัดระวัง โดยในตอนนี้เขาตัดสินใจไม่สำรวจพื้นที่ในเขตสีเขียวอีกต่อไปเพราะมันทำให้เขาค่อนข้างจะเสียเวลา
ในที่สุดยานรบก็ทำการวาร์ปอีกครั้ง ก่อนที่เซี่ยเฟยจะได้ไปปรากฏตัวยังพื้นที่ในเขตสีเหลืองที่อยู่ใกล้กับเขามากที่สุด
สนามรบโบราณแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งเมื่อพิจารณาจากจำนวนของซากยานและความเสียหายในการต่อสู้ สถานที่แห่งนี้ย่อมเป็นที่ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
หลังเดินทางมาถึงเครื่องตรวจจับบนตัวยานก็เริ่มทำงานในทันที มันจึงทำการปล่อยแสงเลเซอร์สีแดงออกไปจากพื้นที่ส่วนบนของยานรบเพื่อทำการสแกนเศษซากยานแต่ละลำและส่งข้อมูลกลับไปยังคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ
ในครั้งนี้เซี่ยเฟยเริ่มทำการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยการถอดรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่เขาสามารถหาซื้อจากร้านของแอนดี้ได้และเหลือเพียงอุปกรณ์หลัก ๆ ที่จำเป็นที่สุดเพียงแค่ 34 ชิ้นเท่านั้น
20 นาทีต่อมาหน้าจอแสงก็เริ่มกระพริบพร้อมกับข้อมูลที่ปรากฏขึ้นมาว่า ระบบสแกนได้ตรวจพบเครื่องระบบเรดาร์บนยานฟริเกตรุ่นคาลดารี่ที่สามารถนำมาใช้กับลูน่าได้
การพบเจอในครั้งนี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกมีความสุขมากและเขาก็ทำการกอบกู้อุปกรณ์จากซากยานในทันที
การกอบกู้ชิ้นส่วนจากซากยานแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน โดยขั้นตอนแรกคือการระบุตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นเครื่องกอบกู้จะทำการยิงแสงเลเซอร์เพื่อเปิดรูวงกลมบนยานเป้าหมาย ต่อมาเครื่องกอบกู้ยิงแสงเลเซอร์ลึกลงไปเพื่อตัดชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ต้องการ ก่อนที่แขนกลจะดึงอุปกรณ์นั้นกลับไปยังห้องโดยสารของยาน
ขั้นตอนทั้งหมดนี้ถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการกอบกู้อุปกรณ์แต่ละชิ้นจะใช้เวลาไปเพียงแค่ไม่กี่นาที
ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมาเซี่ยเฟยก็ได้พบกับอุปกรณ์ที่เขาต้องการอีกชิ้น ชายหนุ่มจึงทำการกอบกู้มันอย่างเร่งด่วนเพื่อที่เขาจะได้ออกตามหาชิ้นส่วนอื่น ๆ โดยเร็วที่สุด
ทุกครั้งที่เซี่ยเฟยกอบกู้อุปกรณ์กลับมาเขาก็เริ่มจะมีความหวังว่าจะสามารถซ่อมแซมลูน่ากลับมาได้ อย่างไรก็ตามชายหนุ่มกลับไม่รู้ตัวเลยว่าทุกครั้งที่เขาได้วาร์ปเข้าไปในพื้นที่สีเหลืองเหล่านี้ เขาก็ได้เข้าใกล้พื้นที่สีแดงมากขึ้นเรื่อย ๆ
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 171
แสดงความคิดเห็น