ตอนที่ 48: เสือซุ่มทางทิศตะวันตก
ตอนที่ 48: เสือซุ่มทางทิศตะวันตก
ช่วงเวลากลางวันและกลางคืนของพื้นที่เงาฝนมีอุณหภูมิที่แตกต่างกันมาก โดยในตอนกลางวันพื้นที่บริเวณนี้ให้ความรู้สึกร้อนเหมือนกับโดนเผา แต่ตอนกลางคืนกลับมีความรู้สึกหนาวจนรู้สึกปวดเข้าไปจนถึงกระดูก
ปัจจุบันเซียวรั่วหยูได้สวมใส่เสื้อคลุมและซุกขาของเซี่ยเฟยขณะที่เธอนอนหลับสนิท แต่ถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากเพียงใดเขาก็จำเป็นที่จะต้องอดทนเอาไว้ เพราะตราบใดก็ตามที่เขายังคงตกอยู่ในอันตรายเขาก็ไม่สามารถที่จะนอนหลับพักผ่อนได้จริง ๆ
ท่ามกลางความมืดมิดเซี่ยเฟยได้หยิบขวดยาออกมาจากแหวนมิติก่อนที่เขาจะเทน้ำยาลงไปในปาก จากนั้นเขาก็ล้างปากด้วยการดื่มน้ำอีกรอบหนึ่ง
ไม่กี่นาทีต่อมาดวงตาของเซี่ยเฟยก็กลับมาเปล่งประกายอีกครั้งราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ป่าที่คอยออกล่าเหยื่อในช่วงค่ำคืน
ยานี้มีชื่อว่า ‘ชิดขอบผา’ ซึ่งเป็นยาที่ส่งผลต่อระบบประสาทอย่างเฉียบพลัน ผลของน้ำยาไม่เพียงแต่จะสามารถระงับอาการง่วงนอนได้เท่านั้น แต่คนที่ดื่มมันเข้าไปยังสามารถอดนอนได้นานกว่าสามวันอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เองยาชิดขอบผาจึงเป็นยาสำคัญสำหรับนักรบเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องทำสงครามซึ่งแม้แต่กองทัพของหลาย ๆ ประเทศก็ยังต้องสั่งน้ำยานี้เอาไว้ให้กับทหารของพวกเขา
นับตั้งแต่การประเมินได้เริ่มต้นขึ้นวันเวลาก็ผ่านพ้นมาถึง 4 วันแล้ว ซึ่งในตลอดการประเมินนี้เซี่ยเฟยยังไม่ได้นอนหลับพักผ่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียวและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาต้องกินยาเพื่อให้ร่างกายตื่นตัว
นักรบทุกคนต่างก็จำเป็นที่จะต้องมีความอดทนอยู่เสมอและการที่เซี่ยเฟยสามารถตื่นตัวอยู่ได้ตลอดสี่วันที่ผ่านมาก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม
อันที่จริงเขาเชื่อว่าเขาสามารถที่จะอดนอนไปได้อีกสองวัน แต่เมื่อร่างกายมนุษย์รู้สึกอ่อนเพลียสมองของพวกเขาจะลดประสิทธิภาพในการทำงานลงโดยอัตโนมัติ ซึ่งมันก็จะส่งผลกระทบต่อจังหวะการตัดสินใจ
ด้วยเหตุนี้เองชายหนุ่มจึงต้องการที่จะตัดความเสี่ยงและดื่มน้ำยาชิดขอบผาเพื่อให้ร่างกายของเขายังคงตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะท้ายที่สุดการประเมินในครั้งนี้ก็ไม่ใช่การประเมินธรรมดา เขาจึงไม่สามารถที่จะตัดสินใจชักช้าได้แม้แต่วินาทีเดียว
ทันใดนั้นเองเครื่องตรวจจับในกระเป๋าของเขาก็สั่นขึ้นมาเป็นชุด ซึ่งมันเป็นสัญญาณเตือนว่าเหยื่อที่เขารอคอยได้เดินทางมาถึงแล้ว
เซี่ยเฟยวางเซียวรั่วหยูลงบนพื้นเบา ๆ ก่อนที่จะใช้วิชาพลางจิตเคลื่อนที่ไปซุ่มดูในพุ่มไม้และรอคอยอย่างอดทน
เมื่อชายหนุ่มเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าเขาก็พบว่าสายฝนที่เขารอคอยยังไม่ตกลงมา แต่ก็เริ่มมีสัญญาณฟ้าครึ้มให้เห็นบ้างแล้ว
ไม่กี่นาทีต่อมาเซี่ยเฟยก็เห็นว่าร่างของเหยื่อที่กำลังใกล้เข้ามาในครั้งนี้เป็นชายหนุ่มที่ค่อย ๆ เดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง แต่ถึงแม้ว่าชายคนนั้นจะได้เดินเข้าไปในพื้นที่กับดักของเซี่ยเฟยแล้วแต่เขาก็ยังไม่ได้ค้นพบสิ่งผิดปกติใด ๆ
ขณะเดียวกันเซี่ยเฟยก็กดปุ่มตัวควบคุมในมือของเขาอย่างเบามือ ก่อนที่มันจะได้มีงูจักรกลเป็นจำนวนมากโผล่ออกมาจากพุ่มไม้!
งูจักรกลเหล่านี้เคลื่อนที่ออกไปอย่างบ้าคลั่งและเมื่อพวกมันได้เคลื่อนที่ท่ามกลางความมืดมิดจึงทำให้ไม่มีใครสามารถแยกแยะได้ว่าพวกมันคืองูจักรกลหรืองูของจริง
ในเวลาเดียวกันฝูงผึ้งจักรกลก็เริ่มเคลื่อนไหว โดยเข็มเหล็กในของผึ้งจักรกลทุกตัวต่างก็ถูกแต่งแต้มเอาไว้ด้วยพิษสีเขียว ซึ่งแน่นอนว่าพิษเหล่านี้ก็ไม่ใช่พิษอื่นใดเลยนอกเสียจากพิษของงูจีนหัวแดงที่เซี่ยเฟยขอมาจากเซียวรั่วหยูนั่นเอง
ทันทีที่ผู้ทดสอบที่หลงเข้ามาได้พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาก็รีบเคลื่อนที่หนีออกไปด้วยความเร็วมากกว่า 1,000 เมตรต่อวินาที
“ชิ้!” เซี่ยเฟยอุทานพร้อมกับเบ้ปากเล็กน้อย เพราะท้ายที่สุดเป้าหมายในครั้งนี้กลับกลายเป็นผู้ใช้พลังสายความเร็วที่มีระดับความสามารถที่สูงมาก ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้คือปล่อยให้เหยื่อหลบหนีไปในความมืด
หลังจากที่ชายหนุ่มได้กดปุ่มในมืออีกครั้งทั้งงูจักรกลและผึ้งจักรกลก็เคลื่อนที่กลับไปหลบซุ่มในพุ่มไม้เพื่อรอคอยเหยื่อรายต่อไป
“วันนี้มันเป็นวันที่ 4 แล้วใช่ไหม?” อันธกล่าวถาม
ในช่วงเวลานี้เซี่ยเฟยได้พบเหยื่อทั้งหมด 4 คนแต่เขากลับได้รับแผ่นป้ายมาเพียงแค่แผ่นเดียวเท่านั้นและเหยื่อที่ติดกับล่าสุดก็มีความแข็งแกร่งมากจนเกินไป
“อืม” เซี่ยเฟยตอบกลับพร้อมกับจ้องมองไปยังจุดที่เหยื่อเคยยืนอยู่เป็นครั้งสุดท้าย
ด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้มันก็ทำให้เขารู้สึกต้องการที่จะสูบบุหรี่มาก แต่เขาก็ต้องหักห้ามใจตัวเองเอาไว้ เพราะแหล่งกำเนิดแสงใด ๆ ในช่วงเวลาค่ำคืนจะเป็นตัวระบุตำแหน่งของเขาในทันที
“ความเร็วของชายคนนั้นสูงมาก ฉันคิดว่าเขาน่าจะมีระดับความสามารถถึงระดับสตาร์ฟิลด์แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวออกมาเบา ๆ
“ใช่ ชายคนนั้นมีความเร็วอยู่ในระดับสตาร์ฟิลด์ขั้นต้น ถ้าหากก่อนหน้านี้นายเลือกที่จะทำการเคลื่อนไหวนายก็คงจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ”
“ของเล่นที่นายเตรียมเอาไว้มีประโยชน์มาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกมันจะช่วยให้นายสามารถตรวจสอบความสามารถพิเศษและความแข็งแกร่งของศัตรูได้ แบบนี้นายก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงต่อสู้กับศัตรูที่ไม่รู้จัก” อันธกล่าว
งูจักรกลและผึ้งจักรกลเป็นของเล่นสำหรับเด็กในต่างดาว ซึ่งโดยปกติแล้วเด็ก ๆ มักจะใช้ของเล่นพวกนี้ในการแกล้งเพื่อน ๆ เซี่ยเฟยจึงซื้อพวกมันเก็บเอาไว้เล่น ๆ และเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพวกมันจะมีประโยชน์ในการประเมิน
“ผู้สมัครที่ได้รับแผ่นป้ายและสามารถหลบหนีมาจนได้ถึงวันนี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่แข็งแกร่ง ฉันคิดว่าใน 3 วันข้างหน้าจะมีคนมาที่นี่มากขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่การต่อสู้ตลอด 4 วันที่ผ่านมาพวกเขาจะไม่สูญเสียอะไรไปเลย ฉันจะรอจนกว่าโอกาสจะมาถึง เมื่อถึงเวลานั้นฉันจะไม่ปล่อยแผ่นป้ายไปอย่างเด็ดขาด!” เซี่ยเฟยกล่าวขณะที่เขาเดินกลับไปอยู่กับเซียวรั่วหยูอีกครั้ง
เมื่อได้ยินคำอธิบายอันธก็พยักหน้ารับซึ่งในความเป็นจริงแล้วการวิเคราะห์ของเซี่ยเฟยเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมาก เพราะท้ายที่สุดหากใครหนีจากสนามรบมายังสถานที่แห่งนี้ พวกเขาก็ต้องเดินทางออกมามากกว่า 500 กิโลเมตร ซึ่งตลอดเวลานั้นอาการเหนื่อยล้าจากการเดินทางเพียงอย่างเดียวก็ส่งผลกระทบต่อการต่อสู้มากแล้ว
ในทำนองเดียวกันยิ่งผู้สมัครอยู่ในสนามรบเป็นเวลานานเท่าไหร่พวกเขาก็จะยิ่งเหนื่อยล้ามากยิ่งขึ้นเท่านั้น หรือบางทีกว่าที่พวกเขาจะเดินทางมาจนถึงที่นี่พวกเขาก็อาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้วก็ได้ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ก็เป็นสิ่งที่เซี่ยเฟยกำลังรอคอยอย่างอดทน
หากเซี่ยเฟยไม่มั่นใจจริง ๆ ว่าเขาจะได้รับชัยชนะ เขาจะไม่มีวันลงมือจู่โจมอย่างเด็ดขาดและเขาก็ยินดีที่จะพลาดโอกาสมากกว่าจะปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย
“พรุ่งนี้ฉันจะลองให้เซียวรั่วหยูมาประสานงานกับฉันด้วย ดังนั้นคืนนี้ควรจะปล่อยให้เธอนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ไปก่อน ไม่ว่ายังไงพัฒนาการของเด็กก็จะได้รับผลกระทบถ้าหากว่าเธอนอนหลับไม่เพียงพอ” เซี่ยเฟยกล่าว
—
ปัจจุบันเซียวไห่ลี่กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานพร้อมกับจ้องมองไปยังหน้าจอด้วยความเคร่งเครียด
การประเมินได้ผ่านพ้นมาเป็นเวลากว่า 4 วันแล้วแต่เซี่ยเฟยยังคงมีชีวิตอยู่ มันจึงทำให้เขายังไม่สามารถระบายความคับแค้นที่เย่เสี่ยวหานทำกับเซี่ยเฟยในคืนนั้นได้
หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะเห็นเซี่ยเฟยตายให้เร็วที่สุด!
อย่างไรก็ตามลึก ๆ แล้วเขาก็รู้ว่าเขาไม่สามารถที่จะจัดการกับเซี่ยเฟยได้ด้วยตัวเอง เพราะการประเมินของสมาพันธ์มีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวดมาก ดังนั้นถ้าหากว่าเขาผลีผลามทำอะไรลงไปมันก็คงจะทำให้เขาได้พบกับปัญหาใหญ่ในอนาคต
เมื่อความเกลียดชังที่มีต่อเซี่ยเฟยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เซียวไห่ลี่ก็ตัดสินใจกัดฟันหยิบอุปกรณ์สื่อสารไร้สายออกมาและกดนิ้วลงไปอย่างรวดเร็ว
อุปกรณ์สื่อสารอันล้าสมัยได้ส่งคลื่นวิทยุเข้ารหัสออกไปอย่างรวดเร็วและถึงแม้ว่าระบบการตรวจสอบของการประเมินจะสามารถดักจับอุปกรณ์สื่อสารรุ่นใหม่ได้ แต่ระบบการตรวจสอบรุ่นใหม่กลับไม่สามารถตรวจจับคลื่นวิทยุรุ่นเก่าได้เลย
เนื่องมาจากว่าเซียวไห่ลี่เป็นหัวหน้าคณะกรรมการการประเมินในครั้งนี้ เขาจึงรู้ช่องโหว่ของระบบการตรวจสอบเป็นอย่างดี
ปลายทางการส่งคลื่นวิทยุเป็นคนที่เซียวไห่ลี่รู้สึกรังเกียจมาก แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเกลียดชังชายคนนี้เท่ากับเซี่ยเฟย
“มีเสือซุ่มอยู่ทางทิศตะวันตก”
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ข้อความสั้น ๆ แต่มันกลับระบุใจความสำคัญเอาไว้อย่างครบถ้วน
หลังจากส่งข้อความเสร็จแล้ว เซียวไห่ลี่ก็ลุกขึ้นมุ่งหน้าตรงไปยังพื้นที่จัดการขยะของยานและเนื่องจากว่าเวลานี้เป็นช่วงเวลากลางคืน เหล่าคนงานจัดการขยะต่างก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนจนหมดแล้ว
เมื่อเซียวไห่ลี่เปิดเตาเผาขยะ เขาก็โยนเครื่องสื่อสารแบบเก่าเข้าไปอย่างรวดเร็วและด้วยอุณหภูมิที่มากกว่า 10,000 องศาเซลเซียส มันจึงทำให้เครื่องสื่อสารนี้โดนเผากลายเป็นซากโดยไม่เหลือไว้แม้แต่เถ้าถ่าน
“เสี่ยวหานเป็นของฉัน! หากใครมาขวางตาย!!” เซียวไห่ลี่พึมพำพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
—
ณ เชิงเขาทางทิศตะวันออก
สถานการณ์ในบริเวณนี้เป็นไปเหมือนกับที่เซี่ยเฟยได้คาดการณ์เอาไว้ โดยทั่วทั้งสนามรบต่างก็เต็มไปด้วยซากศพกระจัดกระจายทุกพื้นที่และถึงแม้ว่าการประเมินจะผ่านพ้นมาเพียงแค่ 4 วัน แต่จำนวนยอดผู้เสียชีวิตก็มีอยู่มากกว่า 20,000 คนแล้ว
หากสถานการณ์ยังคงดำเนินเช่นนี้ต่อไปมันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อเส้นตายของการประเมินในรอบแรกได้ใกล้เข้ามาจำนวนของผู้เสียชีวิตก็คงจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ณ บริเวณหุบเขาแคบ ๆ แห่งหนึ่งมีผู้สมัครได้ซ่อนตัวอยู่ประมาณ 7-8 คน โดยผู้สมัครทุกคนต่างก็มีรอยแผลที่ได้รับมาจากการสู้รบโดยมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป
ผู้นำของผู้สมัครกลุ่มนี้คือชายหนุ่มอายุประมาณ 20 กว่าปีที่สวมใส่ชุดต่อสู้ที่มีราคาค่อนข้างแพง แต่ในปัจจุบันทั่วทั้งร่างของเขากลับถูกปกคลุมไปด้วยดินโคลนและถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุด แต่สภาพในปัจจุบันของเขาก็พิสูจน์แล้วว่าก่อนหน้านี้เขาได้ผ่านความยากลำบากมาไม่น้อย
เขาคนนี้กับเซียวไห่ลี่ต่างก็เป็นคนจากตระกูลเดียวกันหรือจะเรียกสั้น ๆ ว่าเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเซียวไห่ลี่ก็ไม่เกินกว่าความเป็นจริง
ความแตกต่างก็คือเซียวไห่ลี่เป็นสมาชิกรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่น ในขณะที่ชายหนุ่มคนนี้เป็นเหมือนกับนายน้อยที่ใช้ชีวิตสุขสบายไปวัน ๆ
‘เซียวหยง’ เป็นชื่อที่มักจะทำให้ผู้คนนึกถึงแม่ทัพอันดุร้าย แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาไม่ได้มีความกล้าหาญเลยแม้แต่น้อย เพราะท้ายที่สุดเขาก็ใช้เวลาทั้งวันไปกับการเล่นการพนันและวิ่งตามสาว ๆ ซึ่งความสามารถพิเศษเดียวที่เขาภาคภูมิใจนั่นก็คือการออดอ้อนขอเงินจากแม่ของเขา
ทันใดนั้นเองอุปกรณ์สื่อสารรุ่นเก่าที่เขาได้พกติดตัวเอาไว้อย่างระมัดระวังก็เริ่มสั่น โดยสัญญาณจากมันเป็นสิ่งที่เขาได้รอคอยมาโดยตลอด
เซียวหยงรีบนำอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมาแนบหูด้วยความระมัดระวังราวกับว่ามันเป็นอัญมณีที่ล้ำค่า
“มีเสือซุ่มอยู่ทางทิศตะวันตก?” เซียวหยงพึมพำก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มออกมาอย่างยินดี
***************
ความซวยมาละหนึ่ง..เอ๊ะหรือจะเป็นกล่องสมบัติเคลื่อนที่?
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 208
แสดงความคิดเห็น