ตอนที่ 23: สตอร์มก็อดเดส
ตอนที่ 23: สตอร์มก็อดเดส
ณ เรือสตอร์มก็อดเดสในมหาสมุทรแอตแลนติก
“เซี่ยเฟยเดี๋ยวฉันจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับสมาชิกในกลุ่มสำรวจคนอื่น ๆ” อันเดร์กล่าว
“ไม่ใช่ว่าลูกเรือมีจำนวนนับร้อยคนเลยหรอ? คุณคงไม่คิดที่จะแนะนำพวกเขาทั้งหมดให้กับผมใช่ไหมครับ” เซี่ยเฟยกล่าว
เมื่อได้ยินคำถามมันก็ทำให้อันเดร์ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างร่าเริงก่อนที่เขาจะได้กล่าวออกไปว่า
“การสำรวจแอตแลนติสเป็นความฝันของฉันมาโดยตลอดและมันก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมฉันถึงค่อนข้างที่จะรู้สึกตื่นเต้นมากจนเกินไปสักหน่อย”
“ผมได้ยินจากพี่หลงมาว่าระบบรักษาความปลอดภัยของเรือนี้ไม่ค่อยดีนัก ผมคิดว่าพวกเราควรจะระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้หน่อยนะครับ” เซี่ยเฟยกล่าวออกไปอย่างสงบ
การเคลื่อนไหวของแก๊งอสรพิษดำแปลกประหลาดมาก เพราะหลังจากที่เซี่ยเฟยได้ทำการสังหารแมดแมนและไวลด์โรสลงไปแล้วแก๊งอสรพิษดำก็ไม่ได้ไล่ตามเขาอีกเลย นอกจากนี้พวกแก๊งอสรพิษดำยังได้ถอดชื่อของพวกเขาออกจากบัญชี มันจึงทำให้พวกเขาเตรียมการสำหรับโครงการสำรวจในครั้งนี้ได้อย่างราบรื่น
เมื่อไหร่ก็ตามที่อะไรมันดูราบรื่นมากกว่าปกติมันก็จะต้องมีความผิดปกติอะไรบางอย่างเกิดขึ้นมาอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นตามหลักการและเหตุผลแล้วไรนอร์ผู้เป็นหัวหน้าแก๊งอสรพิษดำยังเป็นคนที่มีความเคียดแค้นมากและการที่เขายอมอดทนรอมาจนถึงวินาทีนี้มันก็จะต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนเร้นอยู่แน่ ๆ
หากอู่หลงที่ปกติไม่ค่อยได้คิดอะไรยังตรวจพบถึงความวุ่นวายเบื้องหลังความสงบนี้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เซี่ยเฟยจะยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป
เมื่อเซี่ยเฟยเริ่มพูดถึงเรื่องที่จริงจังอันเดร์ก็ส่งสายตามาให้กับเขาเพื่อบ่งบอกว่าชาร์ลียังอยู่ที่นี่และมันยังไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องนี้
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ แล้วเย็นนี้พวกเรา 3 คนมาทานอาหารด้วยกันหน่อยดีไหม ถึงยังไงพวกเราก็ไม่ได้เจอกันนานแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับมองไปยังพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน
“ได้เลย ฉันจะขอให้พ่อครัวเตรียมอาหารดี ๆ เอาไว้ให้เอง คุณอาศัยอยู่ภายในหุบเขามาเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน ฉันคิดว่าคุณคงจะเบื่ออาหารกระป๋องแล้วใช่ไหม” อันเดร์กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“มันไม่สำคัญหรอกว่าผมจะกินอะไรเข้าไป สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือปริมาณของพวกมันต่างหากล่ะครับ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
ปริมาณพลังงานที่เขาต้องการได้รับในปัจจุบันสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก มันจึงทำให้อาหารที่เขาต้องกินในแต่ละมื้อเป็นอาหารในปริมาณของคนถึงหกคน
“ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวฉันจะให้พ่อครัวเตรียมอาหารสำหรับคน 20 คนเอาไว้ให้เอง ไม่ใช่สิ..เอาอาหารสำหรับคน 30 คนไปเลย!”
—
ห้องพักของเซี่ยเฟยอยู่ใต้ดาดฟ้าชั้นที่ 1 ซึ่งมันเป็นห้องเดียวที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนักแต่มันก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกถูกติดตั้งอยู่อย่างครบครัน
หลังจากที่เซี่ยเฟยอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็เปิดโน๊ตบุ๊กเพื่อเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง
กล่องอีเมลของเขายังคงกระพริบอยู่ตลอดเวลาโดยมันมีตัวเลขได้กำกับว่าเขายังมีอีเมลที่ยังไม่ได้อ่านถึง 342 ฉบับ
“ทำไมมันถึงมีอีเมลมากขนาดนี้ ใครเป็นคนส่งพวกมันมา?” เซี่ยเฟยกล่าวพึมพำกับตัวเอง
หลังจากที่เซี่ยเฟยได้เปิดกล่องอีเมลขึ้นมาแล้วเขาก็ได้พบกับอีเมลเชิญชวนเป็นแถวยาว โดยอีเมลเหล่านี้ต่างก็ถูกส่งมาจากบริษัทขนาดใหญ่ต่าง ๆ หลังจากที่ข้อมูลของเขาได้ถูกแพร่กระจายออกไปนั่นเอง
เซี่ยเฟยทำเพียงแค่เผยรอยยิ้มให้กับอีเมลเหล่านี้เท่านั้น เนื่องมาจากว่าในปัจจุบันเขามีความร่ำรวยมากกว่าบริษัทขนาดใหญ่เหล่านี้ไปไกล แล้วทำไมเขาจะต้องทำงานให้กับบริษัทพวกนี้ด้วย?
ในบรรดาอีเมลทั้งหมดมันได้มีอีเมลแสดงความยินดีที่ถูกส่งมาจากรัฐบาลกลาง 2-3 ฉบับแล้วมันก็มีคำเชิญให้เขาไปทำงานกับรัฐบาลกลางอีกด้วย แต่ถึงกระนั้นเซี่ยเฟยก็ทิ้งอีเมลเหล่านี้ลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเล
สมาพันธ์จัสทิสสาขาโลก
อีเมลฉบับนี้สามารถดึงดูดความสนใจของเซี่ยเฟยได้อย่างรวดเร็วและเขาก็รีบทำการเปิดมันขึ้นมาในทันที
สมาพันธ์จัสทิสสาขาโลกกำลังเตรียมจัดการประเมินเพื่อคัดสรรจัสทิสฝึกหัดจำนวน 3 คนในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ โดยผู้ลงทะเบียนจะต้องมีระดับความสามารถอยู่ในระดับสตาร์เบสขึ้นไปแต่ไม่เกินระดับสตาร์ฟิลด์ ส่วนผู้มีพลังสายพิเศษไม่ถูกจำกัดระดับ
ผู้ใช้ความสามารถพิเศษเป็นตัวตนที่หาได้ยากมากและพวกเขาก็ไม่ได้มีการจัดระดับความสามารถเหมือนกับผู้มีพลังพิเศษโดยทั่วไป ดังนั้นถึงแม้ว่าผู้มีความสามารถพิเศษเหล่านี้อาจจะดูเหมือนมีพลังเพียงแค่เล็กน้อยแต่ความสามารถของพวกเขาก็อาจจะสามารถสังหารผู้มีพลังพิเศษสายความแข็งแกร่งและความเร็วได้ในทันที
ในตอนที่เซี่ยเฟยได้พบกับไวลด์โรสในก่อนหน้านี้ความสามารถพิเศษของเธอถือว่าเป็นความสามารถที่ท้าทายสวรรค์ แต่โชคยังดีที่พลังในการควบคุมของเธอยังคงอ่อนแอ ไม่อย่างนั้นถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะแทงขาของตัวเองซ้ำ ๆ เป็นพันครั้งแต่เขาก็คงจะไม่สามารถหลุดออกมาจากการควบคุมของไวลด์โรสได้
หากคุณต้องการที่จะเข้าร่วมการประเมินคุณจะต้องทำการลงทะเบียนภายในเวลา 3 วัน
หลังจากได้อ่านอีเมลจนจบเซี่ยเฟยก็ไตร่ตรองสถานการณ์เล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวถามอันธออกไปว่า
“นายรู้เรื่องอาชีพจัสทิสหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินคำถามอันธก็ลอยออกมาจากหินมัวร์ก่อนที่เขาจะได้ถามกลับไปว่า
“จัสทิสเป็นอาชีพที่ค่อนข้างดี ว่าแต่นายถามทำไม?”
“สมาพันธ์จัสทิสสาขาโลกกำลังรับสมัครจัสทิสฝึกหัด 3 คน นายคิดว่ามันเร็วเกินไปสำหรับฉันหรือเปล่า?”
“ตลกละ! จัสทิสฝึกหัดจะต้องมีระดับความสามารถขั้นต่ำอยู่ที่ระดับสตาร์ฟิลด์แต่นายเพิ่งมีระดับความสามารถอยู่ที่ระดับสตาร์เบสเท่านั้น ถึงแม้ว่านายจะลงทะเบียนแต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมรับนายอยู่ดี” อันธกล่าวพร้อมกับส่ายหัวซ้ำ ๆ
เซี่ยเฟยเหลือบสายตามองไปยังอีเมลอีกครั้งก่อนที่เขาจะได้กล่าวออกมาว่า
“แต่มันเขียนว่าผู้มีระดับความสามารถอยู่ในระดับสตาร์เบสก็สามารถลงทะเบียนได้นะ”
“จริงดิ? ถ้าอย่างนั้นก็ลงทะเบียนไปเลย นายจะรออะไร!” อันธกล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“แต่นี่มันเป็นแค่ตำแหน่งจัสทิสฝึกหัดเท่านั้นนะ มันยังไม่ใช่ตำแหน่งจัสทิสอย่างเป็นทางการ”
“นายอย่าพึ่งดูถูกจัสทิสฝึกหัด นายรู้ไหมว่าโดยปกติอัตราการรับจัสทิสฝึกหัดอยู่ที่เท่าไหร่?” อันธกล่าวออกมาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย ส่วนทางด้านของเซี่ยเฟยก็ส่ายหัวให้เป็นคำตอบ
“ในบรรดาผู้สมัครทุก ๆ 10,000 คนมันจะมีผู้ที่สามารถผ่านการประเมินกลายเป็นจัสทิสฝึกหัดได้เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น!!”
“ถ้าการเป็นจัสทิสฝึกหัดมันยังยากขนาดนั้นแล้วการเป็นจัสทิสอย่างเป็นทางการมันจะไม่ยากไปกว่านี้อีกหรอ” เซี่ยเฟยอุทานออกมาพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง
“จัสทิสไม่เพียงแต่จะได้รับสิทธิพิเศษที่น่าเหลือเชื่อเท่านั้นแต่พวกเขายังจะได้รับระบบการฝึกฝนที่ดีที่สุดและครอบคลุมที่สุดในจักรวาลอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังสามารถเข้าถึงทรัพยากรเป็นจำนวนมากที่คนโดยส่วนใหญ่ไม่สามารถจะเข้าถึงได้”
“สำหรับสวัสดิการของสมาพันธ์จัสทิสก็น่าสนใจ นอกจากนี้เมื่อนายมีระดับความสามารถที่สูงขึ้นนายก็จำเป็นที่จะต้องหาวัตถุดิบระดับสูงมาปรุงน้ำยาเช่นเดียวกัน แต่วัตถุดิบพวกนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะหาซื้อได้ง่าย ๆ แม้ว่านายจะมีเงินก็ตาม แต่ถ้าหากว่านายได้อยู่ในสมาพันธ์จัสทิสนายจะสามารถสรรหาวัตถุดิบปรุงยาพวกนั้นได้อย่างง่ายดาย”
“สมาพันธ์จัสทิสได้ควบคุมอารยธรรมชั้นสูงของจักรวาลเอาไว้มากกว่า 20% ถ้าหากว่านายได้มีโอกาสเข้าไปในอารยธรรมพวกนั้นแม้แต่เพียงครั้งเดียวและสามารถเก็บเกี่ยวอะไรบางอย่างกลับมาได้ นายก็จะร่ำรวยไปตลอดชีวิต!!”
“นายห้ามดูถูกตำแหน่งจัสทิสฝึกหัดเป็นอันขาด เพราะแม้แต่จัสทิสฝึกหัดก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับผลประโยชน์ของสมาพันธ์จัสทิสได้ หากนายต้องการที่จะเลื่อนระดับความสามารถไปจนถึงระดับสตาร์ฟิลด์ อย่างน้อยที่สุดนายก็จะต้องใช้เวลาไปอีกหนึ่งปีและต้องใช้สตาร์คอยน์อีกเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ถ้าหากว่านายได้เข้าร่วมกับสมาพันธ์จัสทิส ฉันก็เชื่อว่านายจะสามารถเลื่อนระดับความสามารถไปจนถึงระดับสตาร์ฟิลด์ได้ในเวลาเพียงแค่ครึ่งปี”
“โดยสรุปแล้วมันก็มีเพียงแต่คนโง่เท่านั้นที่ไม่อยากจะเป็นจัสทิสแม้ว่าตำแหน่งนั้นจะเป็นเพียงแค่ตำแหน่งจัสทิสฝึกหัดก็ตาม”
หลังจากได้ฟังคำอธิบายของอันธเซี่ยเฟยก็รีบตอบกลับอีเมลของสมาพันธ์จัสทิสไปอย่างว่องไว
ข้อมูลของคุณถูกป้อนเข้าสู่ระบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากได้เวลาและสถานที่ในการประเมินที่แน่นอน พวกเราจะรีบส่งอีเมลไปให้คุณทันที
—
อาหารเย็นบนเรือครั้งนี้ถูกจัดขึ้นที่ห้องของอันเดร์ ซึ่งบนโต๊ะอาหารได้ถูกเติมเต็มไปด้วยอาหารเลิศรสอย่างมากมายที่เซี่ยเฟยสามารถที่จะกินเข้าไปได้อย่างพอใจ
หลังจากที่เซี่ยเฟยได้รับประทานอาหารจนอิ่มหนำสำราญ เขาก็ใช้ผ้าเช็ดปากก่อนที่จะจุดบุหรี่ของเขาขึ้นมา
“คุณอันเดร์ผมอยากจะถามเพื่อความแน่ใจว่าพ่อครัวบนเรือได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วใช่ไหมครับ? ถ้าหากว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของแก๊งอสรพิษดำ พวกเราก็อาจถูกวางยาพิษได้ทุกเวลา”
เมื่อได้ยินความกังวลของเซี่ยเฟยอันเดร์ที่กำลังดื่มน้ำอยู่ก็เกือบที่จะสำลักน้ำออกมา
“นี่คุณจะระแวงมากเกินไปหน่อยหรือเปล่า? พ่อครัวพวกนั้นทำงานภายในคฤหาสน์ของฉันมาเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี พวกเขาเป็นคนที่เชื่อใจได้แน่นอน”
“ลูกเรือทุกคนต่างก็ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ถ้าหากว่าใครมีข้อสงสัยแม้แต่เพียงเล็กน้อยพวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์เหยียบเท้าขึ้นมาบนเรือสตอร์มก็อดเดสได้ด้วยซ้ำ”
เมื่อได้ยินคำยืนยันเซี่ยเฟยก็พ่นควันสีขาวออกมาจากปากก่อนที่จะกล่าวว่า
“สำหรับชาวจีนอย่างพวกผมมีสุภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า ‘ผู้ที่ระมัดระวังสามารถที่จะนำทางเรือได้เป็นเวลานานนับหมื่นปี’ ผมคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องเสียหายหากเราจะระมัดระวังตัวเอาไว้ก่อน”
“ผมเห็นด้วยกับคำพูดของน้องเฟย การรับมือกับพวกแก๊งอสรพิษดำไม่ใช่เรื่องที่ประมาทได้” อู่หลงกล่าวพร้อมกับพยักหน้าซ้ำ ๆ
เซี่ยเฟยเงียบเสียงไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินไปรอบ ๆ ห้อง
“อย่าลืมว่าสาเหตุที่พวกเราได้พบกันนั่นก็เพราะว่าพวกแก๊งอสรพิษดำต้องการโกลเดนสทิงเกอร์ แต่ถ้าสมมติว่าพวกแก๊งอสรพิษดำไม่ได้สนใจโกลเดนสทิงเกอร์จริง ๆ แต่พวกเขาให้ความสนใจแอตแลนติสล่ะ คุณคิดว่าพวกเขาจะเดินหมากยังไง”
“ถ้าฉันเป็นพวกเขา ฉันจะติดตามสตอร์มก็อดเดสและรอจนกว่าแอตแลนติสจะถูกค้นพบ แต่ดูทะเลอันกว้างใหญ่แห่งนี้สิ นอกจากพวกเราแล้วมันก็ไม่มีเรือลำอื่นในระยะสายตาเลย ส่วนลูกเรือของพวกเราทั้งหมดต่างก็ได้รับการตรวจสอบมาเป็นอย่างดี ฉันคิดว่าคุณกังวลเรื่องนี้มากจนเกินไป” อันเดร์กล่าว
‘ฉันระวังตัวมากเกินไปจริง ๆ หรอ?’ เซี่ยเฟยคิดเงียบ ๆ ภายในใจ
ระหว่างนั้นอันเดร์ก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าตู้หนังสือ จากนั้นเขาก็กดปุ่มที่ซ่อนอยู่ทำให้ตู้หนังสือถูกแยกออกจากกันและเผยให้เห็นตู้นิรภัยที่ซุกซ่อนอยู่
“ฉันจะให้พวกคุณทั้งสองดูสมบัติอีกชิ้นหนึ่งจากแอตแลนติส” อันเดร์กล่าวออกมาอย่างลึกลับก่อนที่เขาจะทำการกดรหัสและหยิบโซ่ที่มีกุญแจออกมาจากกระเป๋า
เมื่อได้ยินเรื่องสมบัติทั้งเซี่ยเฟยและอู่หลงต่างก็เข้ามาใกล้ตู้เซฟด้วยความสนใจ ส่วนทางด้านของอันเดร์ก็หยิบสิ่งของที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมจตุรัสที่ถูกปกคลุมไปด้วยผ้าสีขาวออกมาอย่างระมัดระวัง
หลังจากนั้นอันเดร์ก็ได้นำของสิ่งนี้มาวางไว้บนโต๊ะก่อนที่เขาจะได้แกะกล่องของมันออกมา โดยภายในกล่องนี้ได้บรรจุกระดานสี่เหลี่ยมทองคำที่แต่ละด้านมีความยาวประมาณ 40 เซนติเมตร
ที่จุดศูนย์กลางของกระดานทองคำมีลวดลายวงกลมที่ถูกล้อมรอบเอาไว้ด้วยลวดลายอันแปลกประหลาดและตรงบริเวณมุมของกระดานได้ถูกแกะสลักเอาไว้ด้วยตัวอักษรที่ไม่รู้จัก
ในทันใดนั้นเองไมโครชิพแปลภาษาในสมองของเซี่ยเฟยก็เริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว!
“เมื่อใดก็ตามที่เทพธิดาแห่งดวงจันทร์เผยรอยยิ้ม ประตูที่แตกสลายจะถูกเปิดออก เส้นทางสู่ดินแดนลับจะได้รับการชี้นำจากเทพแห่งการสังหาร” เซี่ยเฟยอ่านข้อความขึ้นมาอย่างฉับพลัน
“เซี่ยเฟยนี่คุณสามารถอ่านภาษาแอตแลนติสได้อย่างนั้นหรอ?!” อันเดร์อุทานออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อโดยในปัจจุบันเสียงของเขากำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
***************
อะไรคือเทพธิดาแห่งดวงจันทร์? แล้วอะไรคือการชี้นำจากเทพแห่งการสังหารหว่า เราอ่านแล้วงง 555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 281
แสดงความคิดเห็น