ตอนที่ 12 ข้าคือปีศาจจริง ๆ

ผูกรักด้ายแดง
คุณกำลังอ่าน: ผูกรักด้ายแดง

-A A +A

ตอนที่ 12 ข้าคือปีศาจจริง ๆ

บทที่ 12

ตอน ข้าคือปีศาจจริง ๆ

        เมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้าสิ้นแสงตะวัน องครักทั้งสองรู้ดีว่าจะต้องพาองค์ชายไปยังที่ใด ลู่เหลียนดูหน้าขององค์ชายที่มีเหงื่อออก สีหน้าเขาบ่งบอกถึงความเจ็บปวด เขากำหมัดไว้แน่นเพื่อที่จะทนกับความเจ็บปวดนั้น

               “องค์ชาย ท่านเป็นอะไร”

               รถมาจอดประตูลับของจวน

               “พระชายาเราต้องนำองค์ชายกลับห้อง” องครักษ์เลี่ยงหรงพูด

               นางพยุงร่างขององค์ชายออกจากเกี้ยว องครักษ์หลิ่งหวินพยุงร่างขององค์ชายทันที ลู่เหลียนเดินตามไปติด ๆ เธอมองภายในจวนที่ไร้ผู้คนในเวลาราตรี แสงไฟที่สลัวเหมือนเมื่อคืน เธอคิด ชีวิตท่านต้องเจอกับอะไรกัน แม้ถอนคำสาปได้ แต่ก็ยังต้องเจอกับความทรมานทุก ๆ สิบห้าวันอีก เขาจะพบเจอสิ่งใด ทำไมกัน

               เมื่อมาถึงห้อง องครักษ์วางเขานอนบนเตียง

               “พวกเจ้าออกไปเถอะ” พระชายาพูด

               “ดื่มเลือดหม่อนฉันซิ”

               “ข้าต้องกลายร่างให้เสร็จก่อน” เขากอดตัวเองด้วยความเจ็บปวด

               ลู่เหลียนเดินเข้าไปพยุงร่างของเขาขึ้นแล้วกอดเขาไว้

               “เฮนรี่ นายต้องอดทนนะ”

               เขาได้ยินชื่อนี้อีกแล้ว เฮนรี่ ข้าคงเหมือนคนที่นางรักเป็นแน่ ทำไมเจ้าถึงยอมแต่งงานกับข้า เขาคิด เหงื่อโชกไปทั้งตัวแล้วอาการเจ็บปวดก็ค่อย ๆ ทุเลา เมื่อร่างกายเปลี่ยนแปลงจนเสร็จสิ้น ลู่เหลียนที่กอดเขาอยู่นั้น เธอได้ถอยตัวเองออก แล้วมองเขาด้วยสายตาที่ห่วงใย

               “องค์ชายท่านต้องเจ็บปวดแบบนี้ทุก ๆ คืนอย่างนั้นหรือ”

               เขาหลบหน้านางลุกออกจากเตียงทันที แต่ลู่เหลียนดึงมือเขาไว้ เธอเดินมายืนตรงหน้าเขาส่งมือให้เขาอย่างไม่ลังเล

               “ข้าจะไม่ดื่มเลือดเจ้าอีก”

               “ทำไม”

               “เจ้ากอดข้าแต่เรียกชื่อผู้อื่น ข้าบอกเจ้าแล้วหากเจ้า....”

               ไม่ทันพูดจบ ลู่เหลียนยกตัวเองขึ้น มือทั้งสองข้างจับไหล่ของเขา เธอจูบเขาเพื่อหยุดการพูดของเขาทันที องค์ชายสี่ยืนนิ่งด้วยความตกใจ  ดวงตาที่แดงกล่ำเบิกกว้าง ร่างกายเขาร้อนไปทั้งตัว ลู่เหลียนยิ้ม (เธอคิดถ้าอยู่โลกปัจจุบันที่เรามาคงทำอย่างนี้กับเฮนรี่ไม่ได้แน่มีหวังแฟนคลับเอาตาย หรือไม่ก็ถูกฟ้องจนแน่) เธออมยิ้มก่อนที่จะส่งมือให้เขา สายตาของเขามองเธอด้วยความสงสัยและสับสน

               “หรือต้องให้หม่อนฉันจูบท่านอีก”

               องค์ชายมีท่าที่ร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด

               “หม่อนฉันจะไม่อธิบายว่าทำไม ถึงเรียกพระองค์ว่าเฮนรี่ เมื่อถึงเวลาหม่อนฉันจะบอกว่าเพราะอะไร  แต่ตอนนี้ท่านต้องดื่มมันเพื่อถอนคำสาปนั้นซะ”

               เขาจึงจับแขนเธอขึ้นกัดลงที่รอยแผลเก่า เขาดื่มเลือดไประยะหนึ่งดวงตาที่แดงกล่ำก็กลับเป็นปกติ

               “ดวงตาท่าน”เธอยิ้มดีใจ

               องค์ชายยิ้มเล็กน้อย เขายืนมองเธอที่ดูมีความสุขที่เห็นเขาหาย เขาคว้าร่างของเธอเข้ามากอด ลู่เหลียนตกใจ เธอคิด เกิดอะไรขึ้นกัน ทำไมเขาถึงได้อ่อนโยนเช่นนี้

               “องค์ชาย ท่านเป็นอะไร”

               “ข้าหรือเปล่าต้องถามเจ้า เมื่อกี่ใครกันที่จูบข้า”หน้าข้ามีแต่แผลเจ้าดูไม่รังเกลียดมันเลย

               ลู่เหลียนพยายามดันตัวออกแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย

               “ก็ท่านเอาแต่พูดอะไรของท่าน”

               เขาปล่อยตัวเธอออก จับเธอนั่งพันแผลให้ พร้อมกับพูด

 “ข้าแค่ไม่เข้าใจ ทำไมความรู้สึกที่มีต่อชื่อที่เจ้าเรียกมันถึงทำให้ข้าเจ็บปวดได้ เจ้ารู้หรือไม่ ทุก ๆ คืนข้าต้องทนต่อความเจ็บปวดของคำสาป แม้แต่ในเวลาที่ข้าหลับ ข้ากลับต้องตื่นจากฝันร้ายทุกครั้ง”

               “ฝันร้าย......ฝันว่าอะไร”

               “แสงสีเหลืองสว่างจ้า เสียงของตกน้ำ ถูกขังในตู้กระจกน้ำที่หนาวเย็นไหลทะลักเข้ามาข้าหายใจไม่ออก เห็นหญิงสาวร้องเรียก แต่ข้ากลับไม่ได้ยินแล้วทุกอย่างก็มืดดับลง ทุก ๆ คืนข้าต้องเจอกับสิ่งที่ข้าไม่เข้าใจ ภายใต้แสงจันทร์นี้ข้าคือปีศาจจริง ๆ”

               ลู่เหลียนจับมือของเขา “หม่อมฉันจะถอนคำสาปนี้ เมื่อถอนคำสาปเสร็จหม่อมฉันเล่าบางอย่างให้ท่านฟัง สิ่งที่ท่านไม่เข้าใจมันอาจเกี่ยวข้องกับหมอเทวดาผู้นั้น”

               องค์ชายมองหน้าเธอ เขารู้สึกหลงรักหญิงสาวผู้นี้ซะแล้ว มือทั้งสองของเขาจับที่หน้าของเธอ สายตาจ้องมองซึ่งกันและกัน ลู่เหลียนรู้สึกถึงการจูบขึ้นมา เธอจึงดันตัวออกจากเขาด้วยความอาย ก้มหน้าหนี เธอมีทีท่ากระวนกระวาย

               “องค์ชายท่านพักผ่อนเถอะ คืนนี้ข้าจะไปนอนกับหว่านเอ่อร์ ไม่เจอนางมาทั้งวันคิดถึงจะแย่” แล้วเธอก็หมุนตัวกำลังจะเดิน แต่ทว่า องค์ชายคว้าร่างของเธออุ้มขึ้น เขาพาเธอวางบนเตียงนอน ลู่เหลียนตกใจ

               “องค์ชายท่านจะทำอะไร” เขาดึงผ้าห่มมาห่มให้เธอแล้วปูผ้านอนหน้าเตียงดังเดิม แสงเทียนก็ถูกดับลงบางส่วน องค์ชายไม่พูดอะไรเลยเขาล้มตัวลงนอนแล้วหลับตา ลู่เหลียนหันมองชายที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความสุข เธอคิด ฉันรักนายเข้าแล้ว เธอพลิกตัวกอดหมอนข้างด้วยความเขินอาย ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมฉันถึงกล้าจูบเขานะ บ้าจริง ๆ เจพี

 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.